ช่วงเวลาที่ " เง่า " ซื้อหุ้น

กระทู้สนทนา
ทุกคนที่เล่นหุ้นมีปัญหา คือ "ซื้อช้าเกินไป(ซื้อหุ้นแพง)และ ขายเร็วเกินไป(ขายหมู)" นั่นเอง --สาเหตุหลักมาจาก"ความกลัว" คือ ใช้อารมณ์ตัดสินใจ แทนที่เหตุผลและข้อมูล ...การมองหุ้นเป็น 3 ช่วง จะทำให้คุณเห็นภาพรวมของราคาได้ดีขึ้น

ช่วงแรก (1) - ช่วงหุ้นตก เป็นจังหวะที่ธุรกิจมีปัญหา เราเรียกช่วงนี้ว่า "ช่วงหุ้นถูก" ซึ่งโอกาสที่จะสามารถซื้อหุ้นถูก ก็เมื่อ บริษัทประสบปัญหา หรือ ตลาดโดยรวมมีปัญหา เช่น "วิกฤตต้มยำกุ้ง", "วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์" ดังนั้น การที่จะสามารถซื้อช่วงนี้ได้ "คุณต้องวิเคราะห์ให้แน่ใจว่า วิกฤตนั้นๆจะผ่านไปได้ --ที่สำคัญ คุณ ต้อง"ใจถึง" ---(ปัญหาของคนที่ซื้อหุ้นในช่วงนี้ มักจะขายเร็ว คือ พอมีกำไรเล็กน้อยก็ขายไปแล้ว ถือเป็นการเสียโอกาสอย่างมาก)

ช่วงสอง(2) - ช่วงราคาหุ้น "ไม่ถูกไม่แพง" ช่วงนี้คือ วิกฤตต่างๆเริ่มคลี่คลาย ทำให้ราคาหุ้นเริ่มขึ้น มาจากจุดต่ำสุด (ช่วงนี้แหละ คือ "ช่วงขายหมู" (คนที่ซื้อในช่วงแรกมักขายไปในช่วงนี้ซึ่งเสียโอกาสมากๆ

ช่วงสาม(3) - ช่วงราคาหุ้น"หุ้นแพง"เป็นช่วงที่ วิกฤตต่างๆ ได้ผ่านไปหมดแล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ดูดี --สดใสไปหมด (ช่วงนี้เป็นช่วงที่ แมลงเม่า เข้าตลาด คือ "มองว่า ทุกอย่างดูดี ไม่น่าเสี่ยงจึงตัดสินใจซื้อหุ้น" ..ช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่ราคา "วิ่งขึ้นมาก" คือ "Bubble" ... ดังนั้น ช่วงนี้ควรเป็นช่วงที่น่าขายหุ้นมากที่สุด



" เง่า "  คำพูดเหยียด นลท. สาย โง่ บวก สายเม่า  กำลังฮิต บางคนก็นิยามว่า ใครซื้อช่วงนี้คือ เง่า ถามว่าจริงมั๊ย ใครว่าจริง ผมคิดว่า เง่า ยิ่งกว่า เพราะ plan of timing invesment  แต่ละคนไม่เหมือนกัน การเล่นสั้น การเล่นรอบ การถือลงทุนระยะยาว จึงเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้  ใครลงทุนสายไหนก็ลงทุนไปครับ ดูกราฟเหมือนกัน ยังคุยกันคนละเรื่องเพราะต่าง timefame กัน  อ่านจากบทความก็ต้องมาเดากันว่า ตอนนี้เรากำลังมองตลาดยังงัย และเรากำลังลงทุนในช่วงไหน
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่