สรุปแล้ว
1 ถูกฟ้องวันสุดท้าย ไม่หมดอายุความ
2 ไกล่เกลี่ย รอหมายศาลแล้วไปไกล่เกลี่ย ได้ลดราคาเหมือนซื้อของ จาก4หมื่นกว่าเหลือ สามหมื่น
3 ถ้าไม่ผิด อย่าได้หลงยอมรับผิดตั้งแต่วันแรก สุดท้ายก็ต้องเสียเงิน
4 ความยุติธรรมคุณธรรมที่เคยคิด เป็นแค่แพ้ชนะตามกฎหมาย ใครรู้มากกว่าฉลาดมากกว่า
5 ทางเอกทางโท ทางเอกขับมาด้วยความเร็วเกิน60กิโลเมตรต่อชั่วโมงในที่คับขันไม่มีความหมาย ทางโทเสียเปรียบเสมอ ประมาทเองไม่ดูให้ดีๆเอง
6 ต้นทางของความยุติธรรมคือเจ้าหน้าที่ แพ้หรือชนะอยู่ที่ตรงนี้ (อย่ารับผิดถ้าไม่ผิด เอาตามตัวหนังสือเอกสารรับผิดเป็นหลัก)
7 อย่าได้กลัวไปศาล ไปศาลตามนัดเพื่อไกล่เกลี่ยด้วยตัวเองหรือให้ศาลตัดสินก็ได้ ไม่ให้เสียเปรียบ ไม่งั้น ศาลจะตัดสินตามที่โจทย์เรียกร้อง ตามจำนวนเต็ม แพ้แล้วหรือไกล่เกลี่ยแล้วไม่มีให้ไม่ต้องกลัว ถ้าไม่มีเงินเดือนเกินสองหมื่นบาทต่อเดือนยึดเงินเดือนไม่ได้ ไม่มีบ้านหรือที่ดินเป็นของตนเองหรือผ่อนธนาคารอยู่(ถ้าผ่อนอยู่ก็สามารถบังคับคดีขายทอดตลาดได้) รถเพื่อทำมาหากินยึดไม่ได้ ของหรือทรัพย์สินภายในบ้านเพื่อการดำรงชีวิตยึดไม่ได้ เพชรหรือทองยึดได้ถ้ารู้ว่ามี มีอายุความ10ปีในการตามหาทรัพย์ในการชดใช้ เกินสิบปีไม่มีให้ยึดทุกอย่างก็จบ ฟ้องไปได้แต่ชนะไม่ได้เงิน แต่ถ้ามีจ่ายๆไปเถอะจะได้จบๆ ทำมาหากินจะได้ไม่ต้องมากังวล มีแบบผ่อนได้ด้วยกับจ่ายทีเดียวก็ต่อรองมาได้สัก20-40% ถ้าเดือนไหนไม่มีจ่ายก็บอกเขาว่าไม่มีจ่ายอย่าได้เงียบ เขาไม่ได้อยากชนะคดีแต่เขาอยากได้เงิน