พระอรหันต์ ยังร้องไห้ด้วยหรือ ?

[๑๕๐] เมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพานแล้ว บรรดาภิกษุทั้งหลาย
นั้น ภิกษุเหล่าใด ยังมีราคะไม่ไปปราศแล้ว ภิกษุเหล่านั้น บางพวกประคอง
แขนทั้งสองคร่ำครวญอยู่ ล้มลงกลิ้งเกลือกไปมาดุจมีเท้าอันขาดแล้ว รำพันว่า
พระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพานเสียเร็วนัก พระสุคตเสด็จปรินิพพานเสียเร็วนัก
พระองค์ผู้มีพระจักษุในโลก อันตรธานเสียเร็วนัก

ส่วนภิกษุเหล่าใดที่มีราคะไปปราศแล้วภิกษุเหล่านั้นมีสติสัมปชัญญะอดกลั้นโดยธรรมสังเวชว่า
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ เพราะฉะนั้น เหล่าสัตว์จะพึงได้ในสังขารนี้แต่ที่ไหน ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=10&A=1888&Z=3915
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
สังโยชน์ ๑๐ คือ กิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์, ธรรมหรือสิ่งที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์, สิ่งที่ผูกมัด
ร้อยรัดสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ผูกติดอยู่กับความทุกข์ทําให้ไม่สามารถสลัดหลุดออกมาได้  อันมี ๑๐ ประการ คือ
๑. สักกายทิฏฐิ   ๒. วิจิกิจฉา   ๓. สีลัพพตปรามาส   ๔. กามราคะ   ๕. ปฏิฆะ
  ๖. รูปราคะ   ๗. อรูปราคะ   ๘. มานะ   ๙. อุทธัจจะ   ๑๐. อวิชชา

สังเกตข้อที่ 4 และ 6 ให้ดี
พระอนาคามีละกามราคะได้ พระอรหันต์ละรูปราคะได้

วีตะราโค วีตะโทโส วีตะโมโห
ผู้มีราคะไปปราศแล้ว, ผู้ปราศจากราคะแล้ว

พระอรหันต์คือผู้ปราศจากราคะแล้ว จะไม่ร้องไห้
ผู้ที่ยังร้องไห้อยู่ ไม่ใช่พระอรหันต์

http://www.watpamahachai.net/Sanook-24.htm
ความคิดเห็นที่ 1
[๑๕๑] ... ส่วนเทวดาที่ปราศจากราคะแล้ว มีสติสัมปชัญญะ
อดกลั้นโดยธรรมสังเวชว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เพราะฉะนั้น เหล่าสัตว์จะ
พึงได้ในสังขารนี้แต่ที่ไหน ฯ


แม้แต่เทวดาอนาคามี ก็ไม่ร้องไห้แล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่