สารานุกรมปืนตอนที่ 237 ชีวิตการทำงานของ Eugen stoner

กระทู้สนทนา

อาวุธยุทโธปกรณ์ ประวัติศาสตร์ อาวุธปืน ชีวประวัติบุคคล สหรัฐอเมริกา

"ขอขอบคุณเพจ GUN in The World อย่างสูงครับ"

https://www.facebook.com/Supakorngimzaa/

Eugen Stoner ชื่อเต็ม Eugen Morison Stoner เป็นนักออกแบบอาวุธปืนชาวอเมริกันเกิดเมื่อ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1922 เสียชีวิตเมื่อ วันที่ 24 เมษายน ค.ศ.1997 เขาเป็นคนออกแบบปืนไรเฟิลในตระกูล AR-10 และ AR-15 ซึ่งภายหลังผลงานของเขาอย่าง AR-15 ก็ได้ถูกประจำการในกองทัพสหรัฐอเมริกา ในชื่อ M-16 เขาเป็นคนที่ได้รับการยกย่องจากผู้ศึกษาประวัติศาสตร์อาวุธปืน เหมือน John Browning และ Mikhail Kalashnikov Stoner นั้นเป็นหนึ่งในนักออกแบบอาวุธปืนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในศตวรรษที่ 20

ช่วงเวลาชีวิตของเขา
Eugen stoner ในช่วงวัยเรียนนั้น พ่อแม่ของเขาได้ส่งเขาเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมในเมือง ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากที่เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม Stoner ได้ใช้เวลาหางานอยู่พักนึง เขาได้สมัครเข้าทำงานกับบริษัท Vega aircraft Company ในช่วงปี 1930 ซึ่ง VGAเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนอากาศยานให้กับกองทัพสหรัฐ ซึ่งในช่วงนี้เองทำให้ Stoner เริ่มมีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุ หลังจากที่ทำงานให้ VGA ได้สักพัก ในช่วง ปี 1940 (ไม่มีการระบุแน่ชัดแต่อยู่ในช่วงเวลานี้) Stoner ได้สมัครเข้าหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาเป็นทหารสรรพาวุธในหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐ ปฏิบัติหน้าที่ในสมรภูมิ แปซิฟิกใต้ และ ทางตอนเหนือของประเทศจีน ซึ่งในช่วงเวลาที่อยู่ในหน่วยนาวิกโยธินเขาได้ทำการซ่อมอาวุธปืนหลายๆแบบที่มีใช้ในหน่วยนาวิกโยธินจุดนี้เองทำให้ Stoner นั้นได้มีความสนใจในอาวุธปืนมากขึ้น

ช่วงปลายปี ค.ศ.1945 หลังจากที่ Eugen stoner ได้ออกจากหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐ เขาได้เริ่มงานใหม่ที่บริษัทผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์สำหรับอากาศยาน บริษัท Whittaker ซึ่ง Stoner ก็ได้ทำงานอยู่ใน Whittaker มาประมาณ 10 กว่าปี จนในปี ค.ศ.1954 เขาได้เข้ามาทำงานในบริษัท Armlite ในตำแหน่งของหัวหน้าวิศวกรเต็มตัว (ในช่วงนั้น Armalite ยังเป็นส่วนนึงกับบริษัท Fairchild Engine & Airplane Corporation ซึ่งเป็นบริษัทอุปกรณ์สำหรับอากาศยานโดย Armalite เป็นแผนกอาวุธของบริษัทนี้) ในขณะที่เขาทำงานกับ Armalite เขาได้ผลิตปืนตัวต้นแบบเล็กๆไว้ 4 ตัวคือ AR-3 AR-9 AR-11 AR-12 ซึ่งทั้ง 4 ตัวนี้ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากผลงานของเขาในช่วงเวลานั้นที่ประสบความสำเร็จมีเพียงแบบเดียวคือ AR-5 Survived rifle ที่ได้รับความสนใจโดยกองทัพอากาศสหรัฐ

ในปี ค.ศ. 1955
Stoner ได้ทำการออกแบบผลงานชิ้นนึงของเขาสำเร็จคือ AR-10 (ภายหลังเป็นปืนที่ปฏิวัติวงการปืนอเมริกันเลย) เจ้า AR-10 มันใช้กระสุนขนาด 7.62x51mm Nato และจุดเด่นของมันคือน้ำหนักที่เบาพอสมควรน้ำหนักของมันอยู่ที่ 7.25 ปอนด์ (3.29 กิโลกรัม) ในช่วงปลายปี 1956 เจ้าAR-10 ได้ถูกส่งไปทดสอบที่ APG เพื่อเทียบกับคู่แข่งของมันใน ในการทดสอบกองทัพสหรัฐได้ให้ความเห็นว่าเจ้า AR-10 นั้นมีขนาดพอดีมือแต่มีปัญหาด้านการยิงโหมดอัตโนมัติแต่เจ้าหน้าที่ของกองทัพนั้นก็ชื่อชอบเจ้า AR-10 เรื่องนึงคือตัวปืนมีน้ำหนักเบาอย่างไรก็ตามทางกองทัพได้ปฏิเสธเจ้า AR-10 ไปแล้วประกาศให้ T-44 (ภายหลังเป็น M-14) จากบริษัท Springfield Armory เป็นฝ่ายชนะไป ในปี 1957 Armalite ได้ทำสัญญากับ Dutch company Artillerie Inrichtingen (A.I.) เเรกเริ่มบริษัทนี้ได้ผลิตชิ้นส่วนออกมาจำหน่ายก่อนที่จะกลายเป็นผู้ผลิตรุ่นเเยก AR-10 ออกมาอีกที

(โพสต์นี้จะพูดถึงประวัติของลุง Stoner เรื่องปืนไว้แยกอีกทีนะครับ)

ในช่วงปี 1952-1957 รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ได้มีโครงการวิจัยกระสุนหน้าตัดเล็กที่มีความเร็วสูงชื่อว่า Project Salvo โครงการพัฒนาเรื่อยๆมาจนถึง ช่วง เดือนกันยายน ปี ค.ศ.1963 จึงได้ กระสุน.223 Remington กลายเป็นที่ยอมรับและได้ ประจำการในชื่อว่า "Cartridge 5.56mm Ball, M193

Eugen Stoner และ Jin Sullivan ได้นำเจ้า AR-10 มาพัฒนาต่อด้วยกระสุนชนิดใหม่ตาม โครงการ Project Salvo โดยพัฒนาภายใต้ชื่อ XAR-15 ซึ่งทั้งสองคนนั้นได้ทำตามคำร้องของกองทัพสหรัฐที่ได้มอบหมายให้ทั้งสองพัฒนาปืนไรเฟิลเพื่อใช้กับกระสุนขนิดใหม่ จากนั้นทั้งสองก็ส่งตัวต้นแบบของ AR-15 ไปให้กองทัพสหรัฐพิจารณา

ในช่วงปี 1959
Armalite ได้ขายแบบ AR-10 และ AR-15 ให้กับทาง Colt สืบเนื่องมาจาก Armalite ประสบปัญหาด้านการเงิน ซึ่งภายหลัง Colt ก็รับ AR-15 ไปทำต่อ และได้เข้าประจำการในกองทัพสหรัฐในชื่อ M-16 แต่ Colt ยังใช้ชื่อของ AR-15 อยู่ (ตัวที่พูดอยู่คือColt modal 601 ประกับและพานท้ายเป็นสีเขียวแก่ๆ)

ภายหลังจาก Armalite ขายสิทธิบัตร AR-10 AR-15 ให้กับทาง Colt Stoner เลิกสนใจ AR-15 เพราะรู้ว่ามันไปอยู่ที่ดีแล้ว Stoner หันพัฒนาผลงานใหม่ของเขาคือ AR-16 โดยเจ้า AR-16 นั้นใช่กระสุนขนาด 7.62x51mm ใช้ระบบแก็สลูกสูบช่วงชักสั้น (short stroke gas-piston) เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนา ซึ่งภายหลังระบบ แก็สลูกสูบช่วงสั้นของ AR-16 ได้ถูก Armalite นำมาใช้ใน AR-18 ต่อ (ภายหลังระบบของ AR-18 ก็ถูกไปใช้ใน G-36 และ HK-416 อีกที) AR-16 อาจไม่ได้สำคัญอะไรมากนักกับ Stoner แต่ะระบบของมันก็เป็นรากฐานให้ไรเฟิลจู่โจมบางตัวในปัจจุบันนั้นดังเป็นพลุแตก

***เสริม AR-16 เป็นผลงานสุดท้ายของ Stoner ที่ทำให้กับทาง Armalite***

AR-18

ในปี ค.ศ. 1961 Stoner ได้ออกจากงานที่ Armalite แล้วได้รับเชิญมาทำงานกับบริษัท Colt ในตำแหน่งของที่ปรึกษา ภายหลังเขาก็ได้ไปทำงานกับ Cadillac Gage (ปัจจุบัน คือ Textron Marine & Land Systems) และได้ออกแบบ Stoner 63 ซึ่ง Stoner 63 นั้นจัดว่าเป็นปืนที่อเนกประสงค์มากๆ ระบบ Modular system เป็นได้ทั้ง Assault rifle และ Light machine gun ก็ได้

ภายหลัง Stoner ได้มาทำงานกับ TRW และได้ออกแบบ TRW 6465 25mm Bushmaster auto Cannon ซึ่งผลิตโดย Oerlikon

ในปี ค.ศ. 1972 เขาได้ร่วมก่อตั้งบริษัท Ares lncorporated Clinton แต่เขาก็ได้ทิ้งบริษัทไปในปี 1989 ผลงานของเขาที่ได้มอบให้ Ares คือ Ares light gun (Stoner 86) ซึ่งได้พัฒนาต่อมาจาก Stoner 63 อีกที และ ยังได้มอบแนวคิด ปืนไรเฟิลแห่งอนาคต (Future Assault Rifle Concept) FARC เอาไว้ให้ทาง ARES อีกที

ในปี ค.ศ. 1990 Stoner ได้มาร่วมงานกับกับ Kac (knight armament Company) ซึ่งเขาได้สร้าง kAC-SR-25 ไว้ในบริษัทนี้ นอกจากนี้ในขณะที่ทำงานอยู่ใน KAC เขายังได้ออกแบบปืนกลเบา Stoner 96 (KAC LMG)

ในส่วนของพลงานที่เขาออกแบบเอาไว้ก่อนสิ้นใจในปี 1997 มีด้วยกัน 2 แบบคือ

1.KAC SR-50

2.Colt 2000 ออกแบบร่วมกับคุณ Reed Knight

Eugen Stoner เสียชีวิตในวันที่ 24 เมษายน ปี ค.ศ.1997 แต่ผลงานของเขานั้นจะถูกจดจำไปอีกนานเท่านาน
***หมายเหตุ บทความนี้แอดต้องการทำเพื่อเล่าประวัติเรื่องราวชีวิตของเขาอาจไม่ได้เน้นไปที่ปืนที่เขาออกแบบซึ่งเดี๋ยวจะทำแยกอีกทีครับ