เมื่อโรครุมเร้า....เริ่มเศร้า...แต่สุ้ๆ

ในวันที่ฉันเริ่มมีความผิดปกติทางสายตา
ฉันได้ไปตรวจสายตา จนพบว่า ฉันเป็นต้อหินที่เสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็น

ฉันทำทุกขั้นตอนตามที่หมอบอก
ไปทุกครั้งที่หมอนัด
เดินทางออกจากบ้านไปโรงพยาบาล ตั้งแต่ตีสี่เพื่อจองคิว ทำทุกทุกอย่างเพื่อคาดหวังว่าฉันจะดีขึ้น ฉันผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ ฉันผ่าต้อกระจก ฉันทำเลเซอร์ ทุกครั้งทั้งเจ็บปวดทรมาน  ทนต่อสภาพแวดล้อมของคนไข้ การรอคิว หรือแม้แต่ การต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่และบุคคลากรที่เกี่ยวข้องในโรงพยาบาล เผชิญมาครบทุกรุปแบบ สิ่งเดียวเลยคือ...ฉันจะดีขึ้น  

แต่วันนี้...ไม่มีหนทางแล้ว ตาข้างซ้ายของฉันสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร ตาข้างขวา เริ่มเลือนลาง ฉันกำลังจะเปลี่ยนสถานะ เป็นคนพิการประเภท 1 คือพิการทางสายตา

รุ้สึกเศร้าจัง แต่ขอมีความฮึด...สุ้ต่อไป
เพราะฉันมีคนที่รัก ทั้งลุก ทั้งสามี และแม่ที่แก่ชรา ส่วนลึกในหัวใจ น้ำตาไหลพรากเศร้าที่ต้องเป็นแบบนี้  แต่ภายนอกฉันต้องเข้มแข็ง ฉันต้องอยู่กับมัน ต้องเผชิญกับมันไปอีกนานน เพราะฉันยังมีลมหายใจ...และหน้าที่ ที่ฉันต้องดุแลคนที่ฉันรัก

จะมีสิ่งใด หรืออะไรที่จะเลวร้ายไปกว่านี้
ฉันกำลังจะตาบอด
วันนี้แค่เลือนลาง หยิบจับทำอะไร ช้าลงหกล้ม พลาดนิดหน่อยเป็นปกติ หยิบจับจ่ายเงินขาดๆ เกินๆ น่าขำ เวลาฉันหยิบเงินขาดพ่อค้า แม่ค้าทวง แต่เวลา ที่ฉันหยิบเงินเกิน เขาเงียบ หลังสุด ฉันหยิบจ่ายแบงค์ 500 เพราะคิดว่าเป็นเเบงค์ 100 จ่ายซื้อของ มารุ้เมื่อนับเงินว่ามันหายไป โทษใครไม่ได้ตัวเราไม่ดูให้ดี

สุ้! ฉันจะพยายามเพราะฉันนึกถึงหน้าของพวกเขา ที่ห่วงใยเเละเป้นกำลังใจสำคัญให้ฉัน

อยากบอกว่าฉันเศร้า...
ฉันกลัว...
ฉันกังวล...
ฉันเจ้บปวด ...
อยากระบายถึงความรุ้สึกแต่อีกใจคิดว่า...
อย่าเลย !!
เท่านี้ ก้แย่พอควรแล้ว...โอเคนะ...ฉันจะดำเนินชีวิตต่อไปในแบบที่ควรเป็น


สิ่งที่เลวร้ายกำลังมา...มันทำให้กำลังใจของฉันลดลง.... เมื่อฉันคลำเจอก้อนมี่เต้านม

มันปวด มันเเสบร้อนที่เต้านม ฉันรับไปตรวจ
มันคือไร?? เครียดละ

ฉันได้คิวเอกเรย์หน้าอก....เรียกไม่ถุกว่าศัพท์เฉพาะคือไร ตอนที่หมออธิบายว่า "เสี่ยง" คือ มันงง!! ได้คิวเอกเรย์ในสัปดาห์ ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของฉัน

ตอนที่คือรอ ด้วยความกังวลและเจ้บปวดแสบร้อนที่เต้านมเป็นระยะ

เครียดดด....😂😂
บางครั้งก้แอบร้องไห้ในสิ่งที่ต้องเผชิญ
พิมพ์อย่างช้า ลบๆ แก้ๆ เพราะแตะผิดบ่อย

นี่คือชีวิต...นี่คือความจริงที่ต้องเผชิญ
ฉันจะเข้มแข็ง...และอดทนสุ้ต่อไป

#แอบมาพิมพ์แก้ไข้คำผิด ผิดพลาดขออภัยเพิ่งเข้าพันทิป#


ปล. เข้ามาเพิ่มเติมค่ะ....23/11
ขอบคุณทุกๆกำลังใจ
ขอบคุณคำแนะนำดีๆ
ขอบคุณข้อมุลที่มีประโยชน์ที่ส่งมาให้นะคะ
มีแจ้งเตือนก้จะมาเปิดอ่านคอมเม้น...
อ่านไปร้องไห้ไป...แต่เรียกสติกลับคืนมาได้...ว่าในโลกที่กำลังจะมืดของฉัน
ฉันมีกำลังใจมากมายย ดังนั้น จะพยายามยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น มันคือการเปลี่ยนแปลงอีกขั้นหนึ่งของชีวิต เพราะยังมีดวงตาเหลืออีก 1 ข้าง แม้ว่าจะเลือนลาง แต่ก้ยังใช้งานได้
กับความกังวลเรื่องก้อนที่หน้าอก...ก้ยังต้องอดทนต่อความปวดจี๊ด เเสบร้อนเป็นระยะๆ ก้อนแข็งๆ ไม่โตขึ้น แค่เจ้บๆ กลัว...แต่ก้จะพยายามไม่คิดไปไกล...จะรอจนกว่าจะตรวจอาการละเอียด...จะทนไปถึงอาทตย์หน้า สุ้ๆๆ
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ🌷

สิ่งที่ทำให้ฉันมีความสุขในตอนนี้คือ...
ทุกเช้าที่ได้มีโอกาสลืมตาตื่นขึ้นมา
ได้มองเห้นใบหน้าของคนที่ฉันรัก
ได้อยุ่ใกล้ชิด...ได้ดุแล...ได้ทำหน้าที่ความเป้นแม่...หน้าที่ภรรยา...หน้าที่ลุก...สิ่งนี้คือสุดยอดของฉันแล้ว...หายใจลึกๆจะอดทน...จะสุ้ต่อไป✌✌

🌷27/11🌷
สวัสดีอีกครั้งนะคะ...เข้ามาเพิ่มเติม
วันนี้ไปพบแพทย์ตามนัด...
เพื่อทำเมมโมแกรม และทำอุลตร้าซาวด์
เบื้องต้น พบว่ามีก้อน 4 ก้อน ขนาดเท่าไรหมอยังไม่แจ้งรายละเอียด เพราะไม่ใช่เจ้าของเคส เพียงเป้นเเพทย์ที่ทำหน้าที่ตรวจอุลต้าซาวด์ รออีก 7 วันถึงจะได้พบเเพทย์เจ้าของเคส...วันนี้...มีผุ้หญิงที่มีอาการเดียวกับฉันถึง 4 เคส โอ้!! คือเข้าใจความรุ้สึกพวกเขาได้ ฉันได้แค่เพียงส่งรอยยิ้มเป้นกำลังใจให้ทุกคน...ทำได้เพียงแค่นี้

รอลุ้นต่อไปอย่างมีสติ...ในสิ่งที่กำลังเผชิญ
ใช้เวลากับวันนี้
อยุ่กับวันนี้
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด


ขออนุญาตแปะโพสใหม่ไว้เรื่องราวนี้😷

เคยคิดไหมว่า...คนที่ไปโรงพยาบาล
ไปเพื่อตรวจโรค...
เพื่อวินิจฉัยอาการของโรคต่างๆ
เพื่อรักษาอาการโรคต่างๆ
พวกเขาเหล่านั้น จะรุ้สึกอย่างไร???

สำหรับฉัน
ความรุ้สึกบอกไม่ถุกเกินจะบรรยาย

ขึ้นชื่อว่า "โรงพยาบาล"
เชื่อได้ว่าหลายๆคนไม่อยากไป
ไม่อยากเข้าใกล้
ไม่อยากเกี่ยวข้องสักนิด
แต่ไม่มีทางเลือก...เมื่อเจ้บป่วยไม่สบายก้ต้องไปเพื่อรักษาโรค

ฉันไปเพื่อทำเมมโมแกรม + อัลตร้าซาวด์เพื่อตรวจหาอย่างละอียด ว่าก้อนที่เต้านม คืออะไร
การทำอัลตร้าซาวด์อย่างเดียวไม่ละเอียดเท่าการตรวจด้วยเครื่องเมมโมแกรม
เครื่องนี้จะทำหน้าฉายรังสีเพื่อตรวจอย่างละเอียด โดยรังสีที่ฉายตรวจร่างกายนี้ไม่ก่ออันตรายต่อร่างกาย  

เมื่อไปถึงห้องฉายรังสี
คุณเจ้าหน้าที่จะให้เปลี่ยนชุดสำหรับคนไข้แล้วทำไมต้องเปลี่ยนชุด??
ก้เพื่อง่ายและสะดวกต่อการตรวจอาการ

เมื่อเปลี่ยนชุดเรียบร้อบ...ก้เก้บเสื้อ กระเป๋า ของมีค่าไว้ในล้อคเกอร์ ล้อกกุญแจให้เรียบร้อบ เเล้วเก้บกุญแจล้อคเกอร์ไว้กับตัวเอง

แต่ถ้าเลือกได้
ควรมีญาติคนไข้ไปด้วยจะได้ดุแลคนไข้และทรัพย์สินของคนไข้
หากไม่มีทางเลือก ควรนำของมีค่าไปให้น้อยที่สุด จะได้ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล จะตรวจเสร้จช้า รึเร้ว ก้ขึ้นอยุ่กับอาการของแต่ละโรค

กลับมา...เครื่องแมมโมแกรมต่อ...ฉันตรวจ เครื่องนี้ ข้างละ 2 รุป 2 ข้าง ก้ ฉาย 4 รุป เครื่องนี้ทำงานอย่างไร

ตามความคิดเห้นเเละประสบการณ์ส่วนตัว...
เครื่องนี้ทำงานเหมือน
การกด...บีบ...บี้...แบน แสกนหาก้อนที่เต้านม...โอ้!! ในใจฉันคิดอยากจะถามคุณเจ้าหน้าที่ว่า
"คุณเจ้าหน้าที่คะ นี่เต้านม ไม่ใช้กล้วยปิ้ง จะกด จะบีบ จะบี้ จะแบบ จะแสกนไรขนาดนี้" 😂
ได้แต่คิดขำๆ แต่ไม่กล้าถามหรอก
เมื่อตรวจฉายรังสีด้วยเครื่องนี้เสร้จ ใช่ว่าจะกลับบ้านได้ ต้องรอคิวอัลตร้าซาวด์ต่อ
การทำอัลตร้าซาวด์เด้านม
ก่อนทำต้องเตรียมพร้อมตั้งแต่ที่บ้าน...
งดทาครีม
งดทาโลชั่น
งดทาลุกกลิ้ง
เพราะเครื่องอัลต้าซาวด์จะมีนำยาบางอย่างทาบริเวณที่ตรวจ

ฉันทำอัลตร้าซาวด์โดยมีคุณหมอผู้หญิงเป้นผุ้ตรวจ รุ้สึกดีมี คิดในใจว่า...โรงพยาบาลนี้ช่างใส่ใจคนไข้ เข้าใจความรุ้สึกคนไข้
คนไข้ผุ้หญิง
ก้ตรวจโดยคุณหมอผุ้หญิง และเจ้าหน้าที่ผุ้หญิง
คนไข้ผุ้ชายก้ตรวจโดยคุณหมอชายเเละเจ้าหน้าที่ผุ้ชาย
รุ้สึกดีนะ...😊
ฉันทำอัลตร้าซาวด์เสร้จ
คุณหมอต้องการอ่านค่าอย่างละอียด จึงให้ฉันไปเข้าเครื่องกด  บีบ บี้ แบน...เเสกน อีก 4 รุป เฉพาะจุดที่ต้องการเน้นจุด...ที่เป้นก้อน

โอ้!! เจ้บอีกแล้วว😢

พอแสกนเสร้จ
คุณเจ้าหน้าทีบอกว่า "เสร้จแล้วค่ะ เปลี่ยนชุดเเละนำเอกสารไปยื่นที่ตระกร้า กลับบ้านได้เลยนะคะ"

ในใจก้คิดว่า "เสร้จแล้วรึ ฉันยังไม่รุ้เลยว่าไรคือไร"

สรุปคือฉันต้องรอผลตรวจอีก 7 วัน และรอให้คุณหมอเจ้าของเคสเป้นผุ้ follow คนไข้
เลยกลับบ้าน...รอลุ้นกับผลการตรวจว่าจะเป้นอย่างไร
ท้ายสุด...ขอบคุณกำลังใจจากลุก & สามี และกำลังใจดีๆ จากทุกท่านนะคะ
หายใจลึกๆ สุ้ต่อไป
ขอให้ปาฏิหาริย์มีจริง...สาธุ🙇


** ในวันที่อ่อนแอ...อย่ายอมเเพ้...นึกถึงพ่อเฒ่า แม่เฒ่า แม้ร่างกายจะไม่ไหว แม้จะไม่มีใครดุแลท่าน พ่อเฒ่าแม่เฒ่าหลายคนที่มารักษาที่โรงพยาบาล ยังมีความพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เห้นแล้ว ได้แง่คิด เป้นกำลังใจให้ฉันได้จริงๆ**

มาถึงจุดๆนี้ ทำให้รุ้เวลาไม่มีเวลามานั่งร้องไห้ ไม่มีเวลาเสียใจ
ฉันมีเเต่เวลาที่ต้องเตรียมพร้อมทั้งกาย ทั้งใจ เพื่อเดินหน้าต่อ✌

อยากรุ้จัง...ว่า
#ถ้าคุณต้องรอลุ้นแบบนี้ คุณจะรุ้สึกยังไง#
#คุณทำอย่างไรที่ต้องอยุ่ในภาวะเครียดๆแบบนี้#




เพียงอยากระบาย😂
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
เราเป็นคนตาบอดสนิททั้งสองข้างนะคะ และที่สำคัญ เราไม่ได้ตาบอดมาตั้งแต่กำเนิด เราเข้าใจความรู้สึกของคุณค่ะ
ขอมาแชร์วิธีที่เราใช้ตอนที่จู่ๆเราก็ต้องกลายเป็นคนตาบอดสนิทนะคะ
เราสูญเสียแค่การมองเห็น แต่เรายังมีประสาทสัมผัสอื่นอีกหลายช่องทางมากในการช่วยเหลือตนเองเพื่อใช้ชีวิต
อย่างเช่นในเรื่องการนับเงิน ขนาดของธนบัตรและเหรียญจะไม่เท่ากันค่ะ
ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าหยิบเงินแบงค์อะไรจ่ายไป ก็สามารถใช้นิ้วมือของเรานี่แหละค่ะเป็นที่วัดแบงค์ได้อย่างแม่นยำ
ถ้าสงสัยในวิธีการถามเพิ่มได้นะคะ

และในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าก็มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตาค่ะ
ในคอมพิวเตอร์ ในมือถือ มีโปรแกรมช่วยทำให้ผู้พิการทางสายตาสามารถใช้คอมและโทรศัพท์ได้เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ
และที่สำคัญ เราต้องไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้พิการเป็นภาระหรือเป็นคนที่แปลกแยกจากคนอื่น เราก็แค่เป็นคนปกติที่มองไม่เห็น เท่านั้นเองค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10
คงต้องให้สามีช่วยค่ะ
เรื่องเงิน
แยกช่องชนิดของแบงค์ จะได้ไม่พลาด

เราเป็นมะเร็งเต้านมทั้งสองข้าง ระยะ2
ตัดนมเหี้ยน2ข้าง
เป็นต้อลม ต้อกระจก เบาหวานขึ้นตา
ใช้ชีวิตปกติค่ะ อยู่กับปัจจุบัน ตายทุกคนค่ะ
คุณยังมีลูก เป็นกำลังใจ สู้ๆนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่