มากันเร็วนิดนึงสำหรับประมาณการรายได้ในบ้านสุดสัปดาห์นี้ เพราะในสหรัฐอเมริกาเป็นช่วงสุดสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้าซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และจะเป็นสุดสัปดาห์ 5 วันเพราะบริษัท ห้างร้าน รวมทั้งสถานศึกษาจะทยอยปิดกันตั้งแต่วันพุธยาวไปจนถถึงวันอาทิตย์ ซึ่งหนังใหม่ในสัปดาห์นี้ก็จะเข้าฉายในวันพุธเช่นเดียวกัน นับเป็นอีก 1 ช่วงเทศกาลที่มีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่แย่งกันเข้าฉายเพื่อโกยเงินโกยทองไม่ต่างจาก Summer และคริสต์มาส+ปีใหม่เลย ทั้งนี้รายได้ประมาณการที่แจ้งในสัปดาห์นี้จะเป็นรายได้รวม 5 วัน
Ralph Breaks the Internet (Disney)
รายได้ประมาณการ = $70+ ล้านเหรียญ
เป็นประเพณีของ Disney ที่ทำมาเนิ่นนานสำหรับการส่งภาพยนตร์สำหรับครอบครัวเข้าฉายในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า และในอดีตตั้งแต่ปี 1982 หนังของ Disney ก็เคยครองแชมป์สุดสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้ามาแล้วถึง 11 เรื่องไล่ตั้งแต่ Coco (2017), Moana (2016), Enchanted (2007), National Treasure (2004), Toy Story 2 (1999), A Bug’s Life (1998), Flubber (1997), 101 Dalmatians (1996), Toy Story (1995), The Santa Clause (1994) และ Three Men and a Baby (1987) มาในปีนี้ Disney ก็ยังเป็นเต็งแชมป์ Thanksgiving เป็นครั้งที่ 13 เนื่องจากยอดขายตั๋วล่วงหน้าของ Ralph Breaks the Internet ที่ขนเอาทั้งจักรวาลของ Disney มาลงจอด้วยนั้น มียอดขายที่เหนือกว่า Coco ($72.9 ล้าน) และ Moana ($82 ล้าน) ด้วยซ้ำ โดยเจ้าของสถิติรายได้ 5 วันสูงที่สุดของช่วง Thanksgiving คือ The Hunger Games : Catching Fire ($109.9 ล้าน) ส่วนอันดับที่ 2 คือ Frozen ($93.5 ล้าน) และทั้งคู่ออกฉายพร้อมกันในปี 2013 แต่หากดูเฉพาะภาพยนตร์ที่เปิดตัวแบบ Nationwide ในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าแล้ว Disney ครองตำแหน่งไปถึง 9 จาก 10 อันดับแรก ที่สำคัญใน 9 เรื่องนั้นเป็น Animation ถึง 7 เรื่อง คือ Frozen, Moana, Toy Story 2, Coco, Tangled, The Good Dinosaur และ A Bug’s Life ส่วนอีก 2 เรื่องคือ Enchanted (Hybrid), Unbreakable (Live Action)
Ralph จะเข้าฉายทั่วอเมริกาเหนือใน 4,017 Locations ปัจจุบัน Ralph Breaks the Internet ได้คะแนนวิจารณ์ในระดับดีมาก (Tomatometer = 91%, Metascore = 72) ซึ่งน่าจะช่วยให้หนัง Animation ที่มีระยะเวลาการเก็บรายได้ที่ยาวอยู่แล้วยาวยิ่งขึ้นไปอีก รวมทั้งอาจช่วยดันให้ Ralph สร้างสถิติเปิดตัวใหม่ๆขึ้นก็เป็นได้
Creed II (Warner Bros.)
รายได้ประมาณการ = $55 ล้านเหรียญ
ใช่ว่า Disney จะมีประวัติศาสตร์กับ Thanksgiving ได้เพียงเจ้าเดียว ภาพยนตร์ในชุด Rocky ก็มีประวัติศาสตร์กับวันขอบคุณพระเจ้าเช่นกัน โดย Creed II จะเป็นหนังเรื่องที่ 5 ในภาพยนตร์ชุด Rocky ที่จะเข้าฉายในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนและวันขอบคุณพระเจ้าต่อจาก Rocky (1976), Rocky IV (1985), Rocky V (1990) และ Creed (2015) โดยปัจจุบัน Creed II ได้คะแนนวิจารณ์ในระดับดี (Tomatometer = 80%, Metascore = 66) และคาดกันว่า Creed II จะทำรายได้ 5 วันอยู่ที่ราว $55 ล้าน จาก 3,441 Locations ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือนอกจากตัวดารานำ Michael B. Jordan ที่กำลังโด่งดังจากหนังฟอร์มยักษ์ทั้ง Black Panther และ Solo แล้ว เนื้อเรื่องที่เข้มข้นยังเป็นการปะทะกันบนสังเวียนผ้าใบของ Adonis ลูกชาย Apollo Creed อดีตแชมป์โลก คู่แข่ง และเพื่อนรักของ Rocky Balboa ซึ่งผันตัวมาเป็นโค้ชให้กับ Adonis กับ Viktor Drago ลูกชายของ Ivan Drago อดีตคู่ปรับชาวรัสเซียของ Rocky และเป็นผู้ที่ต่อย Apollo จนเสียชีวิตคาเวทีอีกด้วย
Fantastic Beasts : The Crimes of Grindelwald (Warner Bros.)
รายได้ประมาณการ = $40+ ล้านเหรียญ
ไม่เป็นที่ถูกใจนักวิจารณ์และคนดูบางกลุ่มนักสำหรับ Fantastic Beasts : The Crimes of Grindelwald แชมป์หนังทำเงินในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าคาดว่า FB2 จะทำรายได้ลดลง -50% ถึง -55% ที่ $40 ล้านเหรียญ เท่ากับรายได้รวม 10 วันจะไปอยู่ที่ราว $120 ล้านเหรียญ จากรายได้รวมที่สื่อ Hollywood ประเมินกันไว้ $180-200 ล้านเหรียญก่อนที่คะแนนวิจารณ์จะออกมา ซึ่ง FB2 ยังเหลือเวลาให้กอบโกยอีก 2 สัปดาห์ก่อนที่ทัพหนังใหญ่ระลอกสุดท้ายของปีจะมา
Dr. Seuss’ the Grinch (Universal)
รายได้ประมาณการ = $30-35 ล้านเหรียญ
ยังคงแข็งเป๊กสำหรับรายได้สัปดาห์ที่ 3 ของเต็งแชมป์หนังทำเงินเดือนพฤศจิกายนตัวจริงอย่าง The Grinch ที่คาดว่าหยุด 5 วันนี้จะทำเงินอีก $30-35 ล้านเหรียญ รายได้รวมไปแตะ $170 ล้านเหรียญสบายๆ รวมทั้งคืบคลานต่อไปยังหลัก $270-300 ล้านที่คาดกันไว้อย่างช้าๆตามสไตล์หนัง Illumination
Bohemian Rhapsody (Fox)
รายได้ประมาณการ = $15-20 ล้านเหรียญ
Freddie Mercury และวง Queen คงอยู่ใน Top 5 ได้อย่างน่าอัศจรรย์ทั้งๆที่มีหนังฟอร์มใหญ่ๆมากมายดาหน้ากันเข้าฉายตามหลังมา แต่ Bohemian Rhapsody ที่ยืนโรงมาตั้งแต่ต้นเดือนวันที่ 2 พฤศจิกายนยังสามารถรั้ง Top 5 ได้อย่างเหนียวแน่นซ้ำยังทำเงินถล่มทลายอยู่อีก สุดสัปดาห์หยุดยาวนี้คาดว่า BR จะทำเงินราว $15-20 ล้าน รายได้รวมไปอยู่ที่ $150 ล้านเหรียญ เป็น Surprise Hit ของเดือนนี้และปีนี้อย่างแท้จริง
Robin Hood (Lionsgate)
Instant Family (Paramount)
รายได้ประมาณการ = ไม่เกิน $15 ล้านเหรียญ
เมื่อมีหนังใหญ่ๆหลายเรื่องสุดสัปดาห์นี้ก็ขอเลยมาถึงอันดับ 6, 7 ด้วยที่ต้องแย่งชิงกันระหว่างหน้าใหม่ Robin Hood และหน้าเก่า Instant Family ซึ่งประเมินว่าจะทำรายได้กันไม่เกิน $15 ล้านเหรียญ Robin Hood เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มีเนื้อหาเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งอาจจะดีเกินไปจนน่าเบื่อคล้ายกับตำนานกษัตริย์ Arthur และอัศวินโต๊ะกลมที่ทำหนังยังไงก็ไม่มีคนอยากดูแล้วในตอนนี้ โดย Robin Hood ฉบับใหม่ล่าสุดได้ Taron Egerton พระเอกหนุ่มจาก Kingsman และ Jamie Foxx นำแสดง พร้อม Production และ Costume ที่แปลกแหวกแนวสะดุดตา แต่ Robin Hood ได้คะแนนวิจารณ์แย่มาก (Tomatometer = 15%, Metascore = 34) ทำให้แม้จะเปิดฉายใน 2,700 Locations แต่ก็คาดกันว่าจะทำรายได้รวม 5 วันไม่เกิน $15 ล้านเหรียญ ในขณะที่ Instant Family ที่ได้คะแนนจัดว่าไม่แย่เลยสำหรับหนัง Comedy (Tomatometer = 80%, Metascore = 54) กลับเปิดตัวในสัปดาห์ก่อนได้น่าผิดหวังคือ $14.5 ล้านจากที่คาดกันไว้ $/20-25 ล้าน แต่ในสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้าซึ่งเป็นช่วงเวลาของครอบครัวประมาณกันว่า Instant Family จะแก้ตัวได้และทำเงิน 5 วันราว $15 ล้านเหรียญเช่นกัน ลองมาดูกันว่าภาพยนตร์ของ Mark Wahlberg และ Rose Byrne จะต้องพบกัยความผิดหวังอีกสัปดาห์หรือไม่เพราะทุนสร้างก็ไม่ใช่น้อยๆ $48 ล้านเหรียญถ้าสัปดาห์นี้ยังแย่อยู่อีกก็เตรียมตัวขาดทุนได้เลย
[BoxOffice NA] Ralph ทลายคู่แข่งครองแชมป์วันขอบคุณพระเจ้า Creed ลงสังเวียนยึดที่ 2 Robin Hood ร่วงไม่ติด Top 5
เป็นประเพณีของ Disney ที่ทำมาเนิ่นนานสำหรับการส่งภาพยนตร์สำหรับครอบครัวเข้าฉายในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า และในอดีตตั้งแต่ปี 1982 หนังของ Disney ก็เคยครองแชมป์สุดสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้ามาแล้วถึง 11 เรื่องไล่ตั้งแต่ Coco (2017), Moana (2016), Enchanted (2007), National Treasure (2004), Toy Story 2 (1999), A Bug’s Life (1998), Flubber (1997), 101 Dalmatians (1996), Toy Story (1995), The Santa Clause (1994) และ Three Men and a Baby (1987) มาในปีนี้ Disney ก็ยังเป็นเต็งแชมป์ Thanksgiving เป็นครั้งที่ 13 เนื่องจากยอดขายตั๋วล่วงหน้าของ Ralph Breaks the Internet ที่ขนเอาทั้งจักรวาลของ Disney มาลงจอด้วยนั้น มียอดขายที่เหนือกว่า Coco ($72.9 ล้าน) และ Moana ($82 ล้าน) ด้วยซ้ำ โดยเจ้าของสถิติรายได้ 5 วันสูงที่สุดของช่วง Thanksgiving คือ The Hunger Games : Catching Fire ($109.9 ล้าน) ส่วนอันดับที่ 2 คือ Frozen ($93.5 ล้าน) และทั้งคู่ออกฉายพร้อมกันในปี 2013 แต่หากดูเฉพาะภาพยนตร์ที่เปิดตัวแบบ Nationwide ในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าแล้ว Disney ครองตำแหน่งไปถึง 9 จาก 10 อันดับแรก ที่สำคัญใน 9 เรื่องนั้นเป็น Animation ถึง 7 เรื่อง คือ Frozen, Moana, Toy Story 2, Coco, Tangled, The Good Dinosaur และ A Bug’s Life ส่วนอีก 2 เรื่องคือ Enchanted (Hybrid), Unbreakable (Live Action)
Ralph จะเข้าฉายทั่วอเมริกาเหนือใน 4,017 Locations ปัจจุบัน Ralph Breaks the Internet ได้คะแนนวิจารณ์ในระดับดีมาก (Tomatometer = 91%, Metascore = 72) ซึ่งน่าจะช่วยให้หนัง Animation ที่มีระยะเวลาการเก็บรายได้ที่ยาวอยู่แล้วยาวยิ่งขึ้นไปอีก รวมทั้งอาจช่วยดันให้ Ralph สร้างสถิติเปิดตัวใหม่ๆขึ้นก็เป็นได้
ใช่ว่า Disney จะมีประวัติศาสตร์กับ Thanksgiving ได้เพียงเจ้าเดียว ภาพยนตร์ในชุด Rocky ก็มีประวัติศาสตร์กับวันขอบคุณพระเจ้าเช่นกัน โดย Creed II จะเป็นหนังเรื่องที่ 5 ในภาพยนตร์ชุด Rocky ที่จะเข้าฉายในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนและวันขอบคุณพระเจ้าต่อจาก Rocky (1976), Rocky IV (1985), Rocky V (1990) และ Creed (2015) โดยปัจจุบัน Creed II ได้คะแนนวิจารณ์ในระดับดี (Tomatometer = 80%, Metascore = 66) และคาดกันว่า Creed II จะทำรายได้ 5 วันอยู่ที่ราว $55 ล้าน จาก 3,441 Locations ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือนอกจากตัวดารานำ Michael B. Jordan ที่กำลังโด่งดังจากหนังฟอร์มยักษ์ทั้ง Black Panther และ Solo แล้ว เนื้อเรื่องที่เข้มข้นยังเป็นการปะทะกันบนสังเวียนผ้าใบของ Adonis ลูกชาย Apollo Creed อดีตแชมป์โลก คู่แข่ง และเพื่อนรักของ Rocky Balboa ซึ่งผันตัวมาเป็นโค้ชให้กับ Adonis กับ Viktor Drago ลูกชายของ Ivan Drago อดีตคู่ปรับชาวรัสเซียของ Rocky และเป็นผู้ที่ต่อย Apollo จนเสียชีวิตคาเวทีอีกด้วย
ไม่เป็นที่ถูกใจนักวิจารณ์และคนดูบางกลุ่มนักสำหรับ Fantastic Beasts : The Crimes of Grindelwald แชมป์หนังทำเงินในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าคาดว่า FB2 จะทำรายได้ลดลง -50% ถึง -55% ที่ $40 ล้านเหรียญ เท่ากับรายได้รวม 10 วันจะไปอยู่ที่ราว $120 ล้านเหรียญ จากรายได้รวมที่สื่อ Hollywood ประเมินกันไว้ $180-200 ล้านเหรียญก่อนที่คะแนนวิจารณ์จะออกมา ซึ่ง FB2 ยังเหลือเวลาให้กอบโกยอีก 2 สัปดาห์ก่อนที่ทัพหนังใหญ่ระลอกสุดท้ายของปีจะมา
ยังคงแข็งเป๊กสำหรับรายได้สัปดาห์ที่ 3 ของเต็งแชมป์หนังทำเงินเดือนพฤศจิกายนตัวจริงอย่าง The Grinch ที่คาดว่าหยุด 5 วันนี้จะทำเงินอีก $30-35 ล้านเหรียญ รายได้รวมไปแตะ $170 ล้านเหรียญสบายๆ รวมทั้งคืบคลานต่อไปยังหลัก $270-300 ล้านที่คาดกันไว้อย่างช้าๆตามสไตล์หนัง Illumination
Freddie Mercury และวง Queen คงอยู่ใน Top 5 ได้อย่างน่าอัศจรรย์ทั้งๆที่มีหนังฟอร์มใหญ่ๆมากมายดาหน้ากันเข้าฉายตามหลังมา แต่ Bohemian Rhapsody ที่ยืนโรงมาตั้งแต่ต้นเดือนวันที่ 2 พฤศจิกายนยังสามารถรั้ง Top 5 ได้อย่างเหนียวแน่นซ้ำยังทำเงินถล่มทลายอยู่อีก สุดสัปดาห์หยุดยาวนี้คาดว่า BR จะทำเงินราว $15-20 ล้าน รายได้รวมไปอยู่ที่ $150 ล้านเหรียญ เป็น Surprise Hit ของเดือนนี้และปีนี้อย่างแท้จริง
เมื่อมีหนังใหญ่ๆหลายเรื่องสุดสัปดาห์นี้ก็ขอเลยมาถึงอันดับ 6, 7 ด้วยที่ต้องแย่งชิงกันระหว่างหน้าใหม่ Robin Hood และหน้าเก่า Instant Family ซึ่งประเมินว่าจะทำรายได้กันไม่เกิน $15 ล้านเหรียญ Robin Hood เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มีเนื้อหาเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งอาจจะดีเกินไปจนน่าเบื่อคล้ายกับตำนานกษัตริย์ Arthur และอัศวินโต๊ะกลมที่ทำหนังยังไงก็ไม่มีคนอยากดูแล้วในตอนนี้ โดย Robin Hood ฉบับใหม่ล่าสุดได้ Taron Egerton พระเอกหนุ่มจาก Kingsman และ Jamie Foxx นำแสดง พร้อม Production และ Costume ที่แปลกแหวกแนวสะดุดตา แต่ Robin Hood ได้คะแนนวิจารณ์แย่มาก (Tomatometer = 15%, Metascore = 34) ทำให้แม้จะเปิดฉายใน 2,700 Locations แต่ก็คาดกันว่าจะทำรายได้รวม 5 วันไม่เกิน $15 ล้านเหรียญ ในขณะที่ Instant Family ที่ได้คะแนนจัดว่าไม่แย่เลยสำหรับหนัง Comedy (Tomatometer = 80%, Metascore = 54) กลับเปิดตัวในสัปดาห์ก่อนได้น่าผิดหวังคือ $14.5 ล้านจากที่คาดกันไว้ $/20-25 ล้าน แต่ในสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้าซึ่งเป็นช่วงเวลาของครอบครัวประมาณกันว่า Instant Family จะแก้ตัวได้และทำเงิน 5 วันราว $15 ล้านเหรียญเช่นกัน ลองมาดูกันว่าภาพยนตร์ของ Mark Wahlberg และ Rose Byrne จะต้องพบกัยความผิดหวังอีกสัปดาห์หรือไม่เพราะทุนสร้างก็ไม่ใช่น้อยๆ $48 ล้านเหรียญถ้าสัปดาห์นี้ยังแย่อยู่อีกก็เตรียมตัวขาดทุนได้เลย