Bohemian Rhapsody ระเบิดพลังร็อคได้เกินคาดหมายสำหรับสุดสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน มาถึงสัปดาห์นี้ก็ได้เวลาลงสนามของเต็ง 1 หนังทำเงินสูงสุดประจำเดือนพฤศจิกายนนี้คือ Dr. Seuss’ The Grinch แล้ว พร้อมกับ The Girl in the Spider’s Web ภาคต่อจาก Dragon Tattoo และ Overlord หนังซอมบี้สงครามโลกจาก Bad Robots
Dr. Seuss’ The Grinch (Universal)
รายได้ประมาณการ = $55-60 ล้านเหรียญ
การรวมตัวกันของ Illuminations ค่าย Animation คู่แข่งสำคัญที่สุดของ Disney และ The Grinch ตัวละครดังจะทำให้เกิดปรากฎการณ์อะไรได้หรือไม่สุดสัปดาห์นี้แล้วที่เราจะได้รู้คำตอบกัน โดย The Grinch จะเข้าฉายใน 4,140 Locations และได้รับการคาดหมายว่าจะทำเงินเปิดตัวไป $55-60 ล้านเหรียญ เท่าๆกับฉบับคนแสดง How the Grinch Stole Christmas ที่นำทีมโดย Jim Carrey เก็บรายได้เปิดตัวที่ $55 ล้านและทำรายได้รวม $260 ล้านเหรียญในปี 2000 ส่วน The Grinch ฉบับ Animation ปีนี้คาดว่าจะทำรายได้รวมที่ประมาณ $250-270 ล้านเหรียญ
ปัจจุบัน The Grinch ได้คะแนนวิจารณ์ในระดับกลางๆ (Tomatometer = 61%, Metascore = 52) แต่ในช่วง 2-3 เดือนมานี้ The Nun, Venom และ Bohemian Rhapsody พิสูจน์แล้วว่าคะแนนวิจารณ์อาจเป็นเพียงเสียงนกเสียงกาหากคนดูทั่วไปถูกใจหนังเรื่องนั้นจริงๆ และดูแล้วกลุ่มเป้าหมายของ The Grinch ก็คงไม่มานั่งอ่านบทวิจารณ์เสียด้วย โดยนอกจากอเมริกาเหนือแล้ว The Grinch จะเปิดตัวในอีก 23 ประเทศรวมทั้ง UK และ Brazil คาดว่าจะทำเงินทั่วโลกในสุดสัปดาห์แรก $80+ ล้านเหรียญ
Bohemian Rhapsody (Fox)
รายได้ประมาณการ = $25-28 ล้านเหรียญ
ได้ร้องเพลง We’re the champions กันไปทั้งในอเมริกาเหนือและรอบโลกในสุดสัปดาห์ที่แล้วสำหรับ Bohemian Rhapsody มาในสัปดาห์นี้คาดว่ารายได้จะลดลงประมาณ -50% ที่ $25-28 ล้าน ไม่ต้องแคร์ว่าคะแนนวิจารณ์จะเป็นอย่างไรในเมื่อคนดูและแฟนเพลงรักหนังเรื่องนี้ ก็พร้อมจะยึดครองอันดับที่ 2 บนตาราง Box Office ต่อไป
The Girl in the Spider’s Web (Sony)
รายได้ประมาณการ = $11-12 ล้านเหรียญ
หนังสือเล่มที่ 4 ในนวนิยายชุด Millenniums Series แต่เป็นหนังเรื่องที่ 2 ต่อจาก The Girl with the Dragon Tattoo ทำท่าจะไม่ดีตั้งแต่ยังไม่ออกฉาย เมื่อ Sony ประกาศลดจำนวนโรงลงจาก 3,000 เหลือ 2,400+ Locations ประกอบกับคะแนนวิจารณ์ (Tomatometer = 54%, Metascore = 48) ที่แย่ลงจากภาคที่แล้ว (Tomatometer = 86%, Metascore = 71) เป็นอย่างมาก ย่อมต้องส่งผลกระทบต่อ The Girl in the Spider’s Web อย่างแน่นอน เดิมทีนั้นคาดการณ์กันว่าจะเปิดตัวที่ราว $15 ล้าน แต่พอเจอลดโรงฉายและคะแนนที่ไม่ดีรายได้สุดสัปดาห์แรกน่าจะไปจบที่ $11-12 ล้านเหรียญมากกว่า
The Nutcracker and the Four Realms (Disney)
รายได้ประมาณการ = $10 ล้านเหรียญ
เปิดตัวได้ไม่ดีนักสำหรับ The Nutcracker ภาพยนตร์ Adventure Fantasy ทุนสูงถึง $130 ล้าน ในสุดสัปดาห์ที่สองนี้คาดว่ารายได้จะลดลงประมาณ -50% เหลือ $10 ล้านเหรียญ รายได้รวมในบ้านอยู่ที่ $35-40 ล้าน เรียกว่ายังห่างไกลจากการคืนทุนและคงเป็นหนังแกะดำเพียงเรื่องเดียวของ Disney ในปีนี้ที่ทำเงินในอเมริกาเหนือไม่ถึง $100 ล้านเหรียญ
Overlord (Paramount)
A Star is Born (Warner Bros.)
รายได้ประมาณการ = $8-10 ล้านเหรียญ
แย่งที่ 5 กันสำหรับ Overlord ภาพยนตร์สยองขวัญแนวซอมบี้สมัยสงครามโลกจาก Bad Robots Production ที่ได้คะแนนวิจารณ์ค่อนข้างดี (Tomatometer = 90%, Metascore = 52) โดยจะเปิดตัว 2,850 Locations ทั่วอเมริกาเหนือ ซึ่งวงการภาพยนตร์ก็ขาดแคลนหนังซอมบี้ชั้นดีมาระยะนึงแล้วต้องมาดูกันว่า Overlord จะทำได้ดีแค่ไหน หากออกมาถูกใจผู้ชมทั่วไป Overlord มีลุ้นถึงแซง The Girl in the Spider’s Web เข้าป้ายอันดับ 3 ไปเลยด้วยซ้ำ ขณะเดียวกันคู่แข่งแย่งอันดับ 5 อย่าง A Star is Born ที่กำลังฉายย่างเข้าสุดสัปดาห์ที่ 6 แล้วแต่รายได้ยังคงแข็งเป๊กรวมทั้งยังยึดโรงฉายไว้ได้มากกว่า 3,000 Locations นับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ รายได้รวมในบ้าน $200 ล้านที่หลายสื่อในอเมริกาเคยประเมินไว้ก่อนออกฉายไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันเลยจริงๆ
[BoxOffice NA] The Grinch เตรียมขโมยตำแหน่งแชมป์สุดสัปดาห์ The Girl in the Spider’s Web ส่อเค้าไม่ดี Overlord ต้องฮึด
การรวมตัวกันของ Illuminations ค่าย Animation คู่แข่งสำคัญที่สุดของ Disney และ The Grinch ตัวละครดังจะทำให้เกิดปรากฎการณ์อะไรได้หรือไม่สุดสัปดาห์นี้แล้วที่เราจะได้รู้คำตอบกัน โดย The Grinch จะเข้าฉายใน 4,140 Locations และได้รับการคาดหมายว่าจะทำเงินเปิดตัวไป $55-60 ล้านเหรียญ เท่าๆกับฉบับคนแสดง How the Grinch Stole Christmas ที่นำทีมโดย Jim Carrey เก็บรายได้เปิดตัวที่ $55 ล้านและทำรายได้รวม $260 ล้านเหรียญในปี 2000 ส่วน The Grinch ฉบับ Animation ปีนี้คาดว่าจะทำรายได้รวมที่ประมาณ $250-270 ล้านเหรียญ
ปัจจุบัน The Grinch ได้คะแนนวิจารณ์ในระดับกลางๆ (Tomatometer = 61%, Metascore = 52) แต่ในช่วง 2-3 เดือนมานี้ The Nun, Venom และ Bohemian Rhapsody พิสูจน์แล้วว่าคะแนนวิจารณ์อาจเป็นเพียงเสียงนกเสียงกาหากคนดูทั่วไปถูกใจหนังเรื่องนั้นจริงๆ และดูแล้วกลุ่มเป้าหมายของ The Grinch ก็คงไม่มานั่งอ่านบทวิจารณ์เสียด้วย โดยนอกจากอเมริกาเหนือแล้ว The Grinch จะเปิดตัวในอีก 23 ประเทศรวมทั้ง UK และ Brazil คาดว่าจะทำเงินทั่วโลกในสุดสัปดาห์แรก $80+ ล้านเหรียญ
ได้ร้องเพลง We’re the champions กันไปทั้งในอเมริกาเหนือและรอบโลกในสุดสัปดาห์ที่แล้วสำหรับ Bohemian Rhapsody มาในสัปดาห์นี้คาดว่ารายได้จะลดลงประมาณ -50% ที่ $25-28 ล้าน ไม่ต้องแคร์ว่าคะแนนวิจารณ์จะเป็นอย่างไรในเมื่อคนดูและแฟนเพลงรักหนังเรื่องนี้ ก็พร้อมจะยึดครองอันดับที่ 2 บนตาราง Box Office ต่อไป
หนังสือเล่มที่ 4 ในนวนิยายชุด Millenniums Series แต่เป็นหนังเรื่องที่ 2 ต่อจาก The Girl with the Dragon Tattoo ทำท่าจะไม่ดีตั้งแต่ยังไม่ออกฉาย เมื่อ Sony ประกาศลดจำนวนโรงลงจาก 3,000 เหลือ 2,400+ Locations ประกอบกับคะแนนวิจารณ์ (Tomatometer = 54%, Metascore = 48) ที่แย่ลงจากภาคที่แล้ว (Tomatometer = 86%, Metascore = 71) เป็นอย่างมาก ย่อมต้องส่งผลกระทบต่อ The Girl in the Spider’s Web อย่างแน่นอน เดิมทีนั้นคาดการณ์กันว่าจะเปิดตัวที่ราว $15 ล้าน แต่พอเจอลดโรงฉายและคะแนนที่ไม่ดีรายได้สุดสัปดาห์แรกน่าจะไปจบที่ $11-12 ล้านเหรียญมากกว่า
เปิดตัวได้ไม่ดีนักสำหรับ The Nutcracker ภาพยนตร์ Adventure Fantasy ทุนสูงถึง $130 ล้าน ในสุดสัปดาห์ที่สองนี้คาดว่ารายได้จะลดลงประมาณ -50% เหลือ $10 ล้านเหรียญ รายได้รวมในบ้านอยู่ที่ $35-40 ล้าน เรียกว่ายังห่างไกลจากการคืนทุนและคงเป็นหนังแกะดำเพียงเรื่องเดียวของ Disney ในปีนี้ที่ทำเงินในอเมริกาเหนือไม่ถึง $100 ล้านเหรียญ
แย่งที่ 5 กันสำหรับ Overlord ภาพยนตร์สยองขวัญแนวซอมบี้สมัยสงครามโลกจาก Bad Robots Production ที่ได้คะแนนวิจารณ์ค่อนข้างดี (Tomatometer = 90%, Metascore = 52) โดยจะเปิดตัว 2,850 Locations ทั่วอเมริกาเหนือ ซึ่งวงการภาพยนตร์ก็ขาดแคลนหนังซอมบี้ชั้นดีมาระยะนึงแล้วต้องมาดูกันว่า Overlord จะทำได้ดีแค่ไหน หากออกมาถูกใจผู้ชมทั่วไป Overlord มีลุ้นถึงแซง The Girl in the Spider’s Web เข้าป้ายอันดับ 3 ไปเลยด้วยซ้ำ ขณะเดียวกันคู่แข่งแย่งอันดับ 5 อย่าง A Star is Born ที่กำลังฉายย่างเข้าสุดสัปดาห์ที่ 6 แล้วแต่รายได้ยังคงแข็งเป๊กรวมทั้งยังยึดโรงฉายไว้ได้มากกว่า 3,000 Locations นับว่าไม่ธรรมดาจริงๆ รายได้รวมในบ้าน $200 ล้านที่หลายสื่อในอเมริกาเคยประเมินไว้ก่อนออกฉายไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันเลยจริงๆ