Annapurna Circuit ต้องไปหื้อสุด ถ้าแข้งบ่ปุด ก่บ่หยุดเตว

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าเกี่ยวกับการไป trekking เส้น Annapurna circuit ที่ประเทศ เนปาล ตั้งแต่การเตรียมตัวของผม ไปจนถึงเรื่องราวต่างๆระหว่างการเดินทาง จนจบทริปให้อ่านกันนะครับ เนื้อหาอาจดูไม่มีสาระ เพราะเราเน้นใช้แต่พละกำลัง ฮ่าาาา ๆๆ ๆ ๆ



          มาเริ่มกันเลย ... หลังจากหาโอกาสที่จะไป trekking ที่เนปาลมาหลายปี ในที่สุดผมก็ตัดสินใจว่ายังไงปีนี้ก็ต้องไปเนปาลให้ได้ เพราะผลัดตัวเองมาหลายปีแล้ว โดยทีมงานของผมมี 5 คนรวมผมด้วย มีคนชอบเดิน 4 คน โดนหลอกมา 1 คน นามของเขาคือ กาก้า ชายผู้คิดว่าเราจะเดินกันวันละ 3 ชั่วโมง แต่ความเป็นจริงแล้วเราเดินกัน 8 ชั่วโมง ฮ่าๆๆๆๆ ๆ  ๆ ๆ


          นี้คือแผนการเดินทางจริงซึ่งไม่ตรงกับที่วางแผนไว้นะครับ เพราะพวกเรางอแงจะไป Tilicho Lake ครับเลยต้องปรับแผนการเดินใหม่

   Day 1 >>> Bangkok (2 m) - Kuala Lumpur (22 m) - Kathmandu (1,440 m)
    
   Day 2 >>> Kathmandu (1,440 m) - Besisahar (820 m)
  
   Day 3 >>> Besisahar (820 m) - Chame (2,700 m)
  
   Day 4 >>> Chame (2,700 m) - Upper Pisang (3,300 m)
    
   Day 5 >>> Upper Pisang (3,300 m) - Ngawal (3,660 m)

   Day 6 >>> Ngawal (3,660 m) - Manang (3540 m)

   Day 7 >>> Manang (3540 m) - Tilicho Base Camp (4140 m)

   Day 8 >>> Tilicho Base Camp (4140 m) - Tilicho Lake (49xx m) - Shree Kharka (4060 m)

   Day 9 >>> Shree Kharka (4060 m) - Thorung Hight Camp (4870 m)

   Day 10 >>> Thorung Hight Camp (4870 m) - Thorung La Pass (5416 m) - Muktinath (3670 m)

   Day 11 >>> Muktinath (3670 m) - Jomsom (2740 m) - Pokhara (820 m)

   Day 12 >>> Pokhara (820 m) - Kathmandu (1,440 m) - Kuala Lumpur (22 m) - Bangkok (2 m)

แผนที่ของเส้นนี้ครับ


ขออนุญาติใช้รูปแผนที่ของน้อง Hoyberry จาก Link https://ppantip.com/topic/35590567 นี้นะคับ อ้ายขอยืมรูปกำเด้อคับ


*** ชื่อเมืองที่ไม่มีระบุในรูปคือ  Shree Khraka ตำแหน่งเมืองจะเป็นจุดสีส้มระหว่าง Khangsar - Tilicho base camp ซึ่งเป็นจุดตัดไป Yak Kharka โดยไม่ต้องเดินย้อนกลับมาที่ Manang


          ทริปนี้เริ่มต้นด้วยการที่ผมส่งข้อมูลการ Trekking เส้น Annapurna circuit ไปในกลุ่มเพื่อนๆ แล้วก็ได้การตอบรับมาทั้งหมด 5 คน หลังจากได้สมาชิกแล้วเราก็ไปที่การซื้อตั๋วเครื่องบิน ( เราใช้สูตรป้องกันทริปล่มด้วยการซื้อตั๋วเป็นตัวประกัน ... 555555+ )

          พอพวกเราซื้อตั๋วเสร็จแล้ว ผมก็ทำการส่งอีเมลล์ไปถามราคาค่าใช้จ่ายระหว่างทริปกับ agency เจ้าต่างๆ โดยผมเลือกมาประมาณ 5 เจ้า โดยดูจากคะแนนรีวิวของเว็บ tripadvisor พอได้ agency เรียบร้อยแล้วก็มาเริ่มส่วนของการเตรียมอุปกรณ์และการเตรียมร่างกายก่อนไป

          การเตรียมอุปกรณ์ ผมเตรียมไปเกือบทุกอย่าง อารมณ์แบบว่าเตรียมไปให้พร้อม ใช้ไม่ใช้ค่อยว่ากัน พอเตรียมของเสร็จลองแบกดู สบายๆครับ 14 โล ชิวๆ ตอนเริ่มแบกเดินวันแรกยังพอไหวครับ แต่พอเริ่มเดินวันที่สองเท่านั้นแหละครับ งามไส้ไทยแลนด์ ดินแดน sea level เลยทีเดียว พอความสูงเกิน 3,000 m แล้วต้องแบกอะไรหนักๆ บวกกับยังต้องเดินขึ้นอีก ตอนนั้นรู้สึกว่ารูจมูก 2 รูไม่เพียงพอต่อการหายใจจริงๆ อยากจะขอเพิ่มอีกซัก 2 3 รูเอามาช่วยกันหายใจ เพราะหายใจไม่ทันจริงๆ ว่าแล้วเดียวผมจะบอกเลยดีกว่าว่า ถ้าผมได้ไปเดินเส้นนี้อีกรอบ ผมจะเอาอะไรไปบ้าง

     ผมไปช่วง ตุลาคม นะครับ

  - เป้ดีๆซักอัน ผมใช้ Atmos AG 50 ความจุเพียงพอสำหรับทริปนี้แล้วครับ
  - กระเป๋าคาดเอวเล็กๆซักอัน หรือ daypack แบบพับได้ขนาด 10-20 ลิตร
  - กางเกงใน 5 ตัว
  - เสื้อในไม่ต้อง ผมเป็นผู้ชาย ... แฮร่
  - เสื้อใส่เดิน ใส่ไป 1 ใส่เป้ 2 วันกลับอยากหล่อซื้อเสื้อที่ระลึกใส่กลับเอา
  - กางเกงใส่เดินขายาว ใส่ไป 1 ตัว ใส่เป้ 1 ตัว
  - เสื้อ Heattech 2 ตัว กางเกง Heattech 1 ตัว
  - เสื้อฟลีส 1 ตัว
  - เสื้อขนเป็ด 1 ตัว
  - เสื้อกันลมแบบกันฝนได้ด้วย 1 ตัว หรือแยกเป็นเสื้อกันลม 1 ตัว แล้วเตรียมเสื้อกันฝนไปต่างหากก็ได้
  - หมวกกันหนาว 1 หมวกแก๊ป 1 ผ้าบั๊ฟ 1 แว่นตากันแดดดีๆ 1
  - liner ดีๆ อุ่นๆ ซักอัน (ใช้แทนถุงนอน)
  - ไม้เท้าเทรคกิ้ง
  - รองเท้าเทรคใส่ไป รองเท้าแตะใส่เป้
  - ถุงเท้าใส่เดิน ใส่ไป 1 คู่ ใส่เป้ 1 คู่ แบบอุ่นใส่นอน 1 คู่
  - แบบกันหนาววธรรมดา 1 คู่ ถุงมือแบบโครตอุ่น 1 คู่
  - ที่รัดเข่า 1 คู่ พร้อมยานวด
  - ยาและวิตตามินต่างๆ
  - หัวแปลงพร้อมปลั๊กพ่วงแบบมีรูให้เสียบ usb
  - โทรศัพท์พร้อมซิมโรมมิ่ง ไฟฉายคาดหัว กล้องพร้อมแบตสำรอง2ก้อนและเมมโมรี่ เพาเวอร์แบงค์ พร้อมสายชาร์ตแบบ usb
  - ผ้าเช็ดตัว พร้อมสบู่ ยาสระผม แปลงสีฟัน ยาสีฟัน ครีมกันแดด ลิปมัน
  - มาม่า โจ๊ก แม็กกี้ ลูกอมแบบที่เป็นสีใสๆประมาณ Ricola กินแล้วไม่บาดคอดี บ๊วยเค็ม
  - ขวดน้ำตวามจุ 1 ลิตร เครื่องกรองไม่ต้อง น้ำเปิดก๊อกเอา หรือซื้อ savewater เติมเอา ถ้าซื้อน้ำแร่เติมราคาก็เจ็บหน่อย
  - พาสปอร์ต พร้อม pocket money

เพิ่มเติม : ถ้าใครไปช่วงเมษา ผมแนะนำให้เอาถุงนอนไปด้วยนะครับ เพราะมันจะหนาวกว่าช่วงที่ผมไปมาก

  *** ที่คิดได้น่าจะมีแค่นี้ครับถ้าถ้าผมจะแบกไปอีกรอบ แต่ใครที่เห็นว่าผมพลาดตกหล่นอะไรที่มันจำเป็นจริงๆไปบอกได้เลยนะครับ  

          ในส่วนของการเตรียมร่างกาย ส่วนตัวผมวิ่งอาทิตย์ละ 4-5 วันครับ วันละประมาณ 5 km ครับ แล้วก็เพิ่มกล้ามเนื้อด้วยการ squat ครับ ผมจะแบ่งทำเป็น 4 รอบเอาครับ หลังจากวิ่งเสร็จ ช่วงแรกก็ทำได้รอบละ 20 ครั้งวันละ 80 ครั้งครับ แล้วก็ค่อยๆขยับจำนวนไปเรื่อยๆครับ พอก่อนจะไปเนปาลผมทำได้รอบละ 50 ครั้งวันละ 200 ครั้งครับ ใครมีอะไรแนะนำเรื่องเตรียมสภาพร่างกายเพิ่มเติม ชี้แนะได้เลยนะครับ

          ยาและวิตามิน ที่ผมเตรียมไปมี ยาพารา ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้ท้องอืด ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้อักเสบ พลาสเตอร์พันแผล เบตาดีน ส่วนที่ผมลืมเตรียมไป ก็เป็นพวกวิตามินรวม กระเทียมเม็ด และ Diamox ครับ สำคัญๆทั้งนั้นที่ลืมเตรียมไปเกือบทำให้ผมเดินไม่จบทริปเลยทีเดียว

          การทำวีซ่า ผมทำวีซ่าตั้งแต่ที่ไทยไปเลยนะครับ ยื่นพาสปอร์ทขอวีซ่าช่วงเช้า รับพาสปอร์ตบ่ายวันถัดไปครับ ดูรีวิวได้ในลิงค์นี้เลยครับ https://ppantip.com/topic/36341557  หรือ ไปทำ on arrival ก็ได้ครับแต่แถวยาวหน่อยนะครับ

          การแลกเงิน ผมแลกเป็น us dollar จากไทยไปก่อนครับ แล้วค่อยไปแลกเป็น รูปีเนปาล ที่เนปาลครับ ผมแนะนำให้ไปแลกเงินรูปีเนปาลกับ agency นะครับเพราะได้เลทดีกว่าสนามบินแน่นอนครับ

          ตอนแรกผมว่าจะไปกันเอง แต่เพื่อความแน่นอนผมเลยจ้าง porter guide 1 คน นามของเขาคือ Milan ซึ่งคิดถูกแล้วครับที่จ้าง เพราะเค้าจะเป็นคนคอยดูแลเรา ช่วยจัดการเรื่องที่พัก เรื่องการเดินทาง และคอยแก้ปัญหาต่างๆ ระหว่างทริปครับ แล้วก็สามารถแบกของให้ได้อีก 10 โล ด้วยครับ ผมเลยให้แบกเสบียงครับ เสบียงก็เป็นพวก มาม่า โจ๊ก ลูกอม และขนม แล้วก็อย่าลืมซอสปรุงรสนะครับ น้ำปลา หรือแม็กกี้ก็ได้ครับ พวกผมไม่ได้เตรียมไปครับรู้สึกพลาดจริงๆ เพราะตอนผมสั่งข้าวกับไข่ดาว กินโดยไร้ซอสปรุงรส มันช่างฟืดคอเหลือเกิน

          เส้นนี้ที่พักดีครับ ผ้าห่มอุ่นมากครับ พกมาแค่ thermal liner ดีๆซักอัน ก็พอครับ แล้วที่พักส่วนใหญ่ก็สามารถอาบน้ำร้อนได้เกือบทุกที่ครับ แต่วันสุดท้ายผมพักที่ highcamp มันหนาวมากเลยไม่ได้อาบ ก็เลยไม่รู้ว่ามีรึเปล่านะครับ

          หนึ่งวันก่อนที่จะเดินทางผมได้ video call ไปหา agency เพื่อย้ำว่า อย่าลืมมารับพวกเรานะ แล้วก็เม้าท์มอยกันไปซักพัก ก็ถามไถ่ว่าใครจะมารับพวกเรา สรุปเจ้าของมารับเราเองครับชื่อ Dhana

ก่อนจะเริ่มเดินทางออกนอกประเทศวันแรก เราก็เดินทางจากบ้านเกิดสู่เมืองกรุงก่อนครับ ฟริ้วววววว

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่