หลังจากเก็บกฏมานานที่ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศเลยตั้งแต่ Covid เราออกนอกประเทศครั้งสุดท้ายก็มา Nepal นี่เลยย ในเส้นยอดนิยมอย่าง ABC หรือ Annapurna Base Camp ซึ่งทริปนั้นพอเราจบทริปปุ๊บ ก็เป็นช่วงที่ covid กำลังเริ่มแพร่ระบาดแต่ยังอยู่ในเฉพาะประเทศจีน
ทริปนี้เราจึงขอจัดกันไปหนักๆเล้ยยยย(หนักตามน้ำหนักตัวเอง) กับเส้นทางที่ชื่อว่าเป็นเส้นทางที่โหดและหนักที่สุดของเส้นทาง Trekking ของโลกเลยก็ว่าได้ นั้นก็คือ
"Everest Base Camp 3 Passes"
เส้นทาง Trekking เส้นนี้ถือว่าเป็น Dream Destination ที่ไฝ่ฝันอยากมาสักครั้งหนึ่ง เป็นเส้นที่มีคนกล่าวขานมากมายถึงความโหด ความสวยงาม ความยิ่งใหญ่ อลังการของธรรมชาติ รวมถึงการเดินทางที่น่าท้าทายกับสนามบิน Lukla ที่ได้ชื่อว่าเป็น most dangerous airport of the world ยิ่งทำให้เราตื่นเต้นเข้าไปอีก
ส่วนการเตรียมตัวขอไม่กล่าวถึงนะครับ เพราะมีรีวิวจากหลายๆกระทู้มารีวิวไว้หลายท่าน ผมจะแปะ link ให้ที่ผมใช้อิงเป็นหลักนะครับ
มีอีก 2-3 ท่านนะครับ ยังหาไม่เจอ ไว้จะกลับมาเพิ่มให้ครับ
ส่วนภาพจากทริปนี้ใช้
Body : Nikon Z7
Lens : Nikon 14-24 F2.8 ED , Tamron 24-70 F2.8VC G2 , Tamron 70-200 F2.8VC G1
Gopro 9 เมื่อถึงไทย mem พัง อย่างเซงเลยครับ
Drone บินไม่ได้ อันนี้ก็เซงเหมือนกัน เห้อ..........
Process : Lightroom
ทริปนี้จากที่เริ่มเล่าไปตั้งแต่แรก เป็นทริปอัดอั้นที่ไม่ได้ไปไหนเลยเกือบๆ 3 ปี ทริปนี้เราจึงมาระเบิดความอัดอั้นนั้นด้วยการผลาญพลังจากที่อ้วนขึ้นๆ จากช่วงที่ปิดประเทศไป 3 ปี น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาพอสมควร ทริปนี้เราเลยมาพิสูจน์กันว่า ความแก่ที่เพิ่มมากขึ้น(31->34)บวกกับน้ำหนักที่มากตามอายุ จะทำให้เรามีปัญหาเรื่องการหายใจ และอาการ AMS จะรบกวนไหม อันนี้เราก็ไม่รู้ได้ เพราะผมก็ค่อนข้างรู้สึกหายใจลำบากขึ้นจากความอ้วนที่เพิ่มขึ้นด้วย
การเตรียมตัว
ผมมีเวลาเตรียมตัวค่อนข้างจำกัด เนื่องจากกว่าจะ Approve วันลาแต่จัดแจ้งวันหยุดกับงานของทีมได้ก็ปาไปกลางเดือน พฤษจิกายนแล้ว แถมมีงานแต่งและดันเพื่อนสนิทแต่งงานช่วง พฤษจิกายน และ ธันวาคม และยังมีทริปครอบครัวด้วย จึงทำให้การออกกำลังกายเตรียมร่างกายไม่สม่ำเสมอและเวลาจำกัด ผมได้ออกกำกายจริงๆเพียงไม่ถึง 3 อาทิตย์ แต่ต้องมาคั่นด้วยงานแต่ง แถบจะอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ซึ่งไม่ต้องถามว่าเพื่อนมัธยม เพื่อนประถมเจอกันนี่ เมาเละแน่นอน 55555 จากเหตุการณ์พวกนี้ทำให้ต้องแบ่งการออกกำลังกายหลักๆเป็น 2 แบบ
แบบที่ 1
วิ่ง ได้แต่วิ่งๆ วิ่งล้วนๆแบบไม่ต้องคิดอะไร และเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ เพิ่ม hate rate ขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลดน้ำหนักและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และเป็นการเคลียร์ปอด เพราะผมรู้สึกอึดอัดมากเมื่อหายใจ สาเหตุน่าจะเกิดจากความอ้วนและขนาดของพุงนี่แหละครับ ฮ่าาาา
แบบที่ 2
เดินบนสะพานวิ่งที่ความชันสูงสุด 15 องศา และ ปั่นเครื่องออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาส่วนหน่อง และ ต้นขา และยังมีการออกกำลังแบบ body weight ยกดัมเบล เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของลำตัว
วัตถุประสงค์ หลักของการเตรียมตัวคือการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในส่วนที่จำเป็นและการหายใจเป็นหลักเนื่องจากเวลาที่จำกัด แต่ไม่แนะนำให้เตรียมตัวแบบนี้เพราะค่อนข้างเสี่ยงหลายอย่าง
แผนการเดินทาง
Day 1 17 Dec 2022 Bangkok -> Katmandu
Day 2 18 Dec 2022 Katmandu -> Lukla 2850m -> Monjo 2835m
Day 3 19 Dec 2022 Monjo 2835m -> Namche 3440m
Day 4 20 Dec 2022 Namche 3440m -> Kumjung Acclimation Day 3780m
Day 5 21 Dec 2022 Kumjung 3780m -> Pangboche 3930m
Day 6 22 Dec 2022 Pangboche 3930m -> Dingboche 4410m
Day 7 23 Dec 2022 Dingboche 4410m -> Nangkartshang 5073m -> Chukhung 4730m
Day 8 24 Dec 2022 Chukhung Acclimation Day -> Chunkhung Ri 5546m
Day 9 25 Dec 2022 Chukhung 4730m -> Kongma La Pass 5535m -> Luboche 4910m
Day 10 26 Dec 2022 Luboche 4910m -> Gorak Shep 5175m -> Everest Base Camp 5364m
Day 11 27 Dec 2022 Gorak Shep 5175m -> Dzonglha 4830m
Day 12 28 Dec 2022 Dzonglha 4830m -> Cho La Pass 5368m -> Dragnag 4700m
Day 13 29 Dec 2022 Dragnag 4700m -> Gokyo 4750m
Day 14 30 Dec 2022 Gokyo 4750m -> Renjo La Pass 5417m -> Lungdhen 4380m
Day 15 31 Dec 2022 Lungdhen 4380m -> Namche 3440m
Day 16 1 Jan 2023 Namche 3440m -> Lukla 2850m
Day 17 2 Jan 2023 Lukla -> Katmandu
Day 18 3 Jan 2023 Katmandu -> Bangkok
เราทำการ Trekking ทั้งหมด 15 วันและเดินทางจากไทยไป katmandu อีก 2 วัน พร้อมเดินเล่น ซื้อของ เตรียมของที่ยังขาดในย่าย thamel โดยใช้เวลาทั้งทริปไป 18 วัน ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นวันที่น้อยที่สุดที่ควรจะวางแผนไป EBC 3 Passes ถ้าน้อยกว่านี้น่าจะอันตรายกับเรา และ เสี่ยงเป็น AMS ค่อนข้างสูง
ด้วยการที่เราไปฤดูหนาวการเตรียมตัว อุปกรณ์จึงสำคัญมาก แต่ร่างกายไม่ค่อยเตรียมนะ ฮ่าาาา ก่อนการเดินทางเราทำการวางแพลนการเดินทางกับไกด์ และ agency จึงโดนปัดปฏิเสธไปหลายรอบ เนื่องจากแพลนที่ค่อนข้างหนักเกินไปในบางวัน(ตอนแรกคิดว่าไหว) แต่เอาเข้าจริงเราดีใจมากนะที่เขาปฏิเสธแพลนเรา เพราะเท่าที่เดินตามแพลนนี่เรายังลากเลือดไม่น้อยเลย Trekking รอบนี้เราเลือกใช้บริการไกด์และ Porter เนื่องจากเวลาที่น้อยและสภาพอากาศที่แย่บวกกับความเสี่ยงระหว่างทางไม่ว่าจะเป็นการข้ามธารน้ำแข็งที่มีคนหลงทางเป็นจำนวนมาก การขึ้นพื้นที่สูงกว่า 5000m การเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น หิมะตกจะไม่สามารถเห็นทางข้าม Pass ได้ และรวมไปถึงอุบัติเหตุระหว่างทาง เพราะเราจะไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้เลย
[CR] แบกพุง ไปลดความอ้วน ท้าลมหนาวที่ Everest Base Camp 3 Passes แบบคนมีเวลาค่อนข้างจำกัด 15 วัน
ทริปนี้เราจึงขอจัดกันไปหนักๆเล้ยยยย(หนักตามน้ำหนักตัวเอง) กับเส้นทางที่ชื่อว่าเป็นเส้นทางที่โหดและหนักที่สุดของเส้นทาง Trekking ของโลกเลยก็ว่าได้ นั้นก็คือ
Lens : Nikon 14-24 F2.8 ED , Tamron 24-70 F2.8VC G2 , Tamron 70-200 F2.8VC G1
Day 4 20 Dec 2022 Namche 3440m -> Kumjung Acclimation Day 3780m
Day 5 21 Dec 2022 Kumjung 3780m -> Pangboche 3930m
Day 6 22 Dec 2022 Pangboche 3930m -> Dingboche 4410m
Day 7 23 Dec 2022 Dingboche 4410m -> Nangkartshang 5073m -> Chukhung 4730m
Day 8 24 Dec 2022 Chukhung Acclimation Day -> Chunkhung Ri 5546m
Day 9 25 Dec 2022 Chukhung 4730m -> Kongma La Pass 5535m -> Luboche 4910m
Day 10 26 Dec 2022 Luboche 4910m -> Gorak Shep 5175m -> Everest Base Camp 5364m
Day 11 27 Dec 2022 Gorak Shep 5175m -> Dzonglha 4830m
Day 12 28 Dec 2022 Dzonglha 4830m -> Cho La Pass 5368m -> Dragnag 4700m
Day 13 29 Dec 2022 Dragnag 4700m -> Gokyo 4750m
Day 14 30 Dec 2022 Gokyo 4750m -> Renjo La Pass 5417m -> Lungdhen 4380m
Day 15 31 Dec 2022 Lungdhen 4380m -> Namche 3440m
Day 16 1 Jan 2023 Namche 3440m -> Lukla 2850m
Day 18 3 Jan 2023 Katmandu -> Bangkok
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้