อยากพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ติดตามเส้นทางการเดินทางแบบเฟี้ยวๆของเราได้
ที่ facebook fanpage :
https://www.facebook.com/aroundthefeaw
ภาคต่อจากกระทู้นี้นะคะ
http://ppantip.com/topic/33323060
ขอบคุณสำหรับการตอบรับอย่างล้นหลาม
ชื่นใจจริงๆค่าาา
กระทู้นี้จะเกี่ยวกับประสบการณ์การเทรกกิ้งเส้น Annapurna Base Camp และการเดินทางมันส์ๆในเนปาลล้วนๆเลยนะคะ
โดยจะรวมเส้นทางดังต่อไปนี้
Pokhara-Trekking Annapurna Base Camp-Kathmandu-Bhaktapur-Pasumptinath-Boudnath-Patan-Bhairawa
ในส่วนนี้เราขอเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้เจอะเจอมากับตัวเองมาบอกกล่าวนะคะ อาจจะงงๆ ผิดพลาด รูปน้อยไปบ้าง อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าไม่ได้ตั้งใจมาตั้งกระทู้จริงๆ แต่ผลตอบรับมันเกินกว่าที่คาดคิดมากกก ผิดพลาดประการณ์ใด ข้อมูลขาดตกบกพร่องไปบ้าง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยน้า
และนี่เป็นการเทรกกิ้งอย่างจริงจัง ครั้งแรกในชีวิต!!!
เนื่องจากระหว่างทางเทรกกิ้ง เราไม่ค่อยได้เก็บภาพเท่าไหร่ เราใช้เวลาส่วนมากไปกับการยืนซึมซับบรรยากาศ ธรรมชาติ ขุนเขา แมกไม้ ผู้คน ความเหนื่อยล้า อ่อนแรง ท้อถอย เจ็บป่วย ที่เราได้เห็น ได้สัมผัส ได้รู้สึก เก็บไว้ด้วยตา ด้วยสมอง ด้วยหัวใจ และด้วยความทรงจำของเราเอง บางครั้งเราไม่อยากให้กล้องมาขวางความรู้สึกตอนนั้นของเราจริงๆ เชรดดดดด!!!! ยิ่งเขียนยิ่งอินให้ตายซิ 5555
และรูปที่เป็นรูปเราที่เป็นเส้นทางระหว่างการเทรก มาจากกล้องของพี่คนไทยที่เราเดินเทรกไปด้วยกัน ซึ่งขอคารวะว่าสวยมากกก ถ้าหากเราไปคนเดียวไม่มีทางได้มีภาพแบบนี้เด็ดขาด!!! คุ้มค่า ! ปริ่มมากกกก
หลังจากการเทรกเสร็จสิ้น ทุกคนจะเห็นได้ว่าความกล้าบ้าระห่ำ ความอินดี้และติสแตกของเราได้ลดลงไประดับนึง ย้ำ!!! แค่ระดับนึงนะ 555 อย่างเห็นได้ชัด!! เกิดความรู้สึกรักตัวกลัวตายเฉยย!!! ต้องขอบคุณหิมาลัยเทือกเขาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้มอบความรู้สึกอันล้ำค่าแบบนี้มาให้กับเราจริงๆ TT มันเลอเลิศ! และเป็นบทเรียนในชีวิตให้กับเราไปจนวันตาย!! เอาซิ๊ TT
เอาล่ะ!!! ก่อนการเทรกกิ้งเราต้องเตรียมตัว ทำใจ เอ้ยยย!! เตรียมหัวใจ และเตรียมร่างกายเช่นใดบ้างงง
เราศึกษาข้อมูลในอินเตอร์เน๊ต ดูสารคดี คลิปวีดีโอในยูทูป อ่านหนังสือ ทุกอย่างที่พอจะหาได้ ทั้งของไทยและของเทศ
ปกติเราเป็นคนชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว เราวิ่งทุกวัน วันละ 5 กิโลเป็นอย่างต่ำ ปั่นจักรยานด้วย ฟิตร่างกายแบบมาเต็ม !! บีทีเอสจากสะพานควายไปอนุสาวรีย์เหรอ? เราไม่ขึ้น!!! เดินจ๊ะ!!! จะไปเซนลาดเหรอ? เดินจากสะพานควายไปเลยจ๊ะ!!! 555 จะเห็นได้ว่าเราฟิตจริง!!! 555
เรื่องหัวจิตหัวใจ เราพร้อมตั้งแต่เกิด 555 แบบตั้งแต่ก่อนวางแผนแบบจริงๆจังๆ ว่าจะมาเทรก มันคือสักครั้งในชีวิตของเราที่เราจะต้องทำ!!
ส่วนในเรื่องของเอกสารต่างๆสำหรับทำใบ Permit ข้าวของที่ต้องใช้ระหว่างเทรก หรือจิปาถะต่างๆ รบกวนถามอากู๋ได้เลยนะค๊า หรือหลังไมค์มาถามเราได้ ถามได้ตอบได้จ้า
ปล. ถ้ามาเทรกหน้าหนาว ช่วง กุมภา แบบเรา แนะนำและขอเตือนว่า ต้องมีเสื้อกันหนาว ถุงนอน และรองเท้าเทรกกิ้งอย่างดี ย้ำ!!! ว่าของแท้ไปเลยยิ่งดี เพราะมันจะช่วยทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น และ!!! ควรพกกระป๋องน้ำแบบเก็บความร้อนได้ไปด้วย ชีวิตคุณจะง่ายขึ้นเยอะ!!
เสื้อที่เราใส่เป็นของ the north face รุ่น Wind wall 2.0 Triclimate jacket เราซื้อจาก shop ที่สยาม ซึ่งคุ้มค่าคุ้มราคามากก เอาอยู่จริงๆ
กางเกง uniqlo รองเท้า Nike (งบไม่พอซื้อรองเท้าเทรกกิ้งจริงๆ TT)
อย่าอินดี้และเฟี้ยวจัดแบบเราที่ใส่รองเท้าวิ่งเทรก!!! เพราะคุณจะจำไปจนวันตาย !!!
และ!! เราพกแค่ขวดน้ำพลาสติกไป นั่นทำให้เราจำขึ้นใจ มันโหดจริงนะสำหรับเรา TT
ปล. ใส่ชุดเดียวตลอดการเทรกกันเลยทีเดียวจ้า !!
ปล.2 เราพกหมูหยอง น้ำพริก โจ๊ก กาแฟ โอวัลติน ปลาปุ้มปุ้ย โอรีโอ้ คุ้กกี้ ขนมที่ให้พลังงานต่างๆ มาจากเมืองไทยพอสมควร และเซฟค่าใช้จ่ายได้เยอะมาก
แต่ถ้าหากไม่อยากทรหดแบบเรา บนนั้นก็มีอาหารมีขนมขาย แต่แพงมากก ยิ่งสูงยิ่งแพง!! มากๆๆ ย้ำว่า!! มากกกกกก!!!! ตามกำลังทรัพย์และตามแต่ความสะดวกเลยจ้า
ค่าที่พักบนเขาไม่แพง ทุกที่!! คืนละร้อยกว่าบาท หารสอง ตกคนละ 50 กว่าบาท ไม่มีปลั๊กไฟ ไม่มีน้ำอุ่น ไม่มีอินเตอร์เน๊ต ถึงมีก็ต้องเสียตังค์เพิ่ม เล่นได้บ้างไม่ได้บ้าง น้ำอุ่นบ้างไม่อุ่นบ้าง ซึ่งแน่นอนตลอดการอยู่บนนั้นเราตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง เพื่อเป็นการเซฟรายจ่ายไปในตัว สภาพห้องแค่เอาไว้นอน อย่าคาดหวังมาก!! แต่วิวข้างนอกนี่เกินคุ้ม สวยยเกินจะกล่าวว ต้องไปเห็นด้วยตัวเองจริงๆนะ
ยิ่งสูงอากาศยิ่งเบาบาง ยิ่งเหนื่อยง่าย ความสูงและต่ำที่เปลี่ยนตลอด ค่อยๆเดินและจิบน้ำไปเรื่อยๆจะช่วยได้เยอะ แต่เราเหนื่อยให้ตายยังไงแต่พอมองยอดเขาหิมะที่อยู่เบื้องหน้า แรงฮึดมีมาตลอดดด จนไกด์ถามเราว่า นี่ไม่คิดจะเหนื่อยบ้างเหรอ?? 5555
แผนของเราคือ (ความจริงของไกด์ต่างหาก!! ซึ่งไม่ถงถามสุขภาพกันซ๊ากคำ!!!)
Day 1 Phedi to Landruk
Day 2 Landruk to Chomrong
Day 3 Chhomrong to Himalayan Hotel
Day 4 Himalayan Hotel to Machhapuchhare Base Camp (MBC)
Day 5 MBC to ABC and MBC to Deorali
Day 6 Deorali to Sinuwa
Day 7 Sinuwa to New Bridge
Day 8 New Bridge to Ulleri (เหมาแท๊กซี่กลับโพครา)
โอเครละแกรรร พร้อมละ ลุยกันเล๊ยยยยย!!!
[CR] ผู้หญิงคนเดียว แบกเป้ลุยเดี่ยว อินเดีย-เนปาล 35 วัน กับเงิน 25,000 ชีวิตนี้ต้องได้ลอง!! ฉบับ Trekking ABC แบบโหดๆ
ที่ facebook fanpage : https://www.facebook.com/aroundthefeaw
ภาคต่อจากกระทู้นี้นะคะ
http://ppantip.com/topic/33323060
ขอบคุณสำหรับการตอบรับอย่างล้นหลาม ชื่นใจจริงๆค่าาา
กระทู้นี้จะเกี่ยวกับประสบการณ์การเทรกกิ้งเส้น Annapurna Base Camp และการเดินทางมันส์ๆในเนปาลล้วนๆเลยนะคะ
โดยจะรวมเส้นทางดังต่อไปนี้
Pokhara-Trekking Annapurna Base Camp-Kathmandu-Bhaktapur-Pasumptinath-Boudnath-Patan-Bhairawa
ในส่วนนี้เราขอเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้เจอะเจอมากับตัวเองมาบอกกล่าวนะคะ อาจจะงงๆ ผิดพลาด รูปน้อยไปบ้าง อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าไม่ได้ตั้งใจมาตั้งกระทู้จริงๆ แต่ผลตอบรับมันเกินกว่าที่คาดคิดมากกก ผิดพลาดประการณ์ใด ข้อมูลขาดตกบกพร่องไปบ้าง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยน้า
และนี่เป็นการเทรกกิ้งอย่างจริงจัง ครั้งแรกในชีวิต!!!
เนื่องจากระหว่างทางเทรกกิ้ง เราไม่ค่อยได้เก็บภาพเท่าไหร่ เราใช้เวลาส่วนมากไปกับการยืนซึมซับบรรยากาศ ธรรมชาติ ขุนเขา แมกไม้ ผู้คน ความเหนื่อยล้า อ่อนแรง ท้อถอย เจ็บป่วย ที่เราได้เห็น ได้สัมผัส ได้รู้สึก เก็บไว้ด้วยตา ด้วยสมอง ด้วยหัวใจ และด้วยความทรงจำของเราเอง บางครั้งเราไม่อยากให้กล้องมาขวางความรู้สึกตอนนั้นของเราจริงๆ เชรดดดดด!!!! ยิ่งเขียนยิ่งอินให้ตายซิ 5555
และรูปที่เป็นรูปเราที่เป็นเส้นทางระหว่างการเทรก มาจากกล้องของพี่คนไทยที่เราเดินเทรกไปด้วยกัน ซึ่งขอคารวะว่าสวยมากกก ถ้าหากเราไปคนเดียวไม่มีทางได้มีภาพแบบนี้เด็ดขาด!!! คุ้มค่า ! ปริ่มมากกกก
หลังจากการเทรกเสร็จสิ้น ทุกคนจะเห็นได้ว่าความกล้าบ้าระห่ำ ความอินดี้และติสแตกของเราได้ลดลงไประดับนึง ย้ำ!!! แค่ระดับนึงนะ 555 อย่างเห็นได้ชัด!! เกิดความรู้สึกรักตัวกลัวตายเฉยย!!! ต้องขอบคุณหิมาลัยเทือกเขาอันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้มอบความรู้สึกอันล้ำค่าแบบนี้มาให้กับเราจริงๆ TT มันเลอเลิศ! และเป็นบทเรียนในชีวิตให้กับเราไปจนวันตาย!! เอาซิ๊ TT
เอาล่ะ!!! ก่อนการเทรกกิ้งเราต้องเตรียมตัว ทำใจ เอ้ยยย!! เตรียมหัวใจ และเตรียมร่างกายเช่นใดบ้างงง
เราศึกษาข้อมูลในอินเตอร์เน๊ต ดูสารคดี คลิปวีดีโอในยูทูป อ่านหนังสือ ทุกอย่างที่พอจะหาได้ ทั้งของไทยและของเทศ
ปกติเราเป็นคนชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว เราวิ่งทุกวัน วันละ 5 กิโลเป็นอย่างต่ำ ปั่นจักรยานด้วย ฟิตร่างกายแบบมาเต็ม !! บีทีเอสจากสะพานควายไปอนุสาวรีย์เหรอ? เราไม่ขึ้น!!! เดินจ๊ะ!!! จะไปเซนลาดเหรอ? เดินจากสะพานควายไปเลยจ๊ะ!!! 555 จะเห็นได้ว่าเราฟิตจริง!!! 555
เรื่องหัวจิตหัวใจ เราพร้อมตั้งแต่เกิด 555 แบบตั้งแต่ก่อนวางแผนแบบจริงๆจังๆ ว่าจะมาเทรก มันคือสักครั้งในชีวิตของเราที่เราจะต้องทำ!!
ส่วนในเรื่องของเอกสารต่างๆสำหรับทำใบ Permit ข้าวของที่ต้องใช้ระหว่างเทรก หรือจิปาถะต่างๆ รบกวนถามอากู๋ได้เลยนะค๊า หรือหลังไมค์มาถามเราได้ ถามได้ตอบได้จ้า
ปล. ถ้ามาเทรกหน้าหนาว ช่วง กุมภา แบบเรา แนะนำและขอเตือนว่า ต้องมีเสื้อกันหนาว ถุงนอน และรองเท้าเทรกกิ้งอย่างดี ย้ำ!!! ว่าของแท้ไปเลยยิ่งดี เพราะมันจะช่วยทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น และ!!! ควรพกกระป๋องน้ำแบบเก็บความร้อนได้ไปด้วย ชีวิตคุณจะง่ายขึ้นเยอะ!!
เสื้อที่เราใส่เป็นของ the north face รุ่น Wind wall 2.0 Triclimate jacket เราซื้อจาก shop ที่สยาม ซึ่งคุ้มค่าคุ้มราคามากก เอาอยู่จริงๆ
กางเกง uniqlo รองเท้า Nike (งบไม่พอซื้อรองเท้าเทรกกิ้งจริงๆ TT)
อย่าอินดี้และเฟี้ยวจัดแบบเราที่ใส่รองเท้าวิ่งเทรก!!! เพราะคุณจะจำไปจนวันตาย !!!
และ!! เราพกแค่ขวดน้ำพลาสติกไป นั่นทำให้เราจำขึ้นใจ มันโหดจริงนะสำหรับเรา TT
ปล. ใส่ชุดเดียวตลอดการเทรกกันเลยทีเดียวจ้า !!
ปล.2 เราพกหมูหยอง น้ำพริก โจ๊ก กาแฟ โอวัลติน ปลาปุ้มปุ้ย โอรีโอ้ คุ้กกี้ ขนมที่ให้พลังงานต่างๆ มาจากเมืองไทยพอสมควร และเซฟค่าใช้จ่ายได้เยอะมาก
แต่ถ้าหากไม่อยากทรหดแบบเรา บนนั้นก็มีอาหารมีขนมขาย แต่แพงมากก ยิ่งสูงยิ่งแพง!! มากๆๆ ย้ำว่า!! มากกกกกก!!!! ตามกำลังทรัพย์และตามแต่ความสะดวกเลยจ้า
ค่าที่พักบนเขาไม่แพง ทุกที่!! คืนละร้อยกว่าบาท หารสอง ตกคนละ 50 กว่าบาท ไม่มีปลั๊กไฟ ไม่มีน้ำอุ่น ไม่มีอินเตอร์เน๊ต ถึงมีก็ต้องเสียตังค์เพิ่ม เล่นได้บ้างไม่ได้บ้าง น้ำอุ่นบ้างไม่อุ่นบ้าง ซึ่งแน่นอนตลอดการอยู่บนนั้นเราตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง เพื่อเป็นการเซฟรายจ่ายไปในตัว สภาพห้องแค่เอาไว้นอน อย่าคาดหวังมาก!! แต่วิวข้างนอกนี่เกินคุ้ม สวยยเกินจะกล่าวว ต้องไปเห็นด้วยตัวเองจริงๆนะ
ยิ่งสูงอากาศยิ่งเบาบาง ยิ่งเหนื่อยง่าย ความสูงและต่ำที่เปลี่ยนตลอด ค่อยๆเดินและจิบน้ำไปเรื่อยๆจะช่วยได้เยอะ แต่เราเหนื่อยให้ตายยังไงแต่พอมองยอดเขาหิมะที่อยู่เบื้องหน้า แรงฮึดมีมาตลอดดด จนไกด์ถามเราว่า นี่ไม่คิดจะเหนื่อยบ้างเหรอ?? 5555
แผนของเราคือ (ความจริงของไกด์ต่างหาก!! ซึ่งไม่ถงถามสุขภาพกันซ๊ากคำ!!!)
Day 1 Phedi to Landruk
Day 2 Landruk to Chomrong
Day 3 Chhomrong to Himalayan Hotel
Day 4 Himalayan Hotel to Machhapuchhare Base Camp (MBC)
Day 5 MBC to ABC and MBC to Deorali
Day 6 Deorali to Sinuwa
Day 7 Sinuwa to New Bridge
Day 8 New Bridge to Ulleri (เหมาแท๊กซี่กลับโพครา)
โอเครละแกรรร พร้อมละ ลุยกันเล๊ยยยยย!!!