คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
1 ตอนถูกล่วงละเมิดไม่มีการต่อสู้ขัดขืนไม่มีร่องรอยการต่อสู้ไม่เอะอะ ผิดวิสัยของผู้หญิงทั่วไป
เพราะผู้เสียหายคิดว่าเป็นวิธีการตรวจทางการแพทย์
2 ไม่แจ้งความทันทีทั้งที่เป็นเรื่องร้ายแรง
เพราะผู้เสียหายเกิดความอับอาย
3 ไม่เคยแจ้งให้กับญาติผู้ใหญ่พ่อแม่หรือบุคคลใกล้ชิดหรือแม้กระทั่งคนรับทราบทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ
มีการแจ้งให้เพื่อนร่วมงานและคนอื่นๆรับรู้ถึงวิธีการตรวจที่ผิดปกติของหมอ
4 ไม่มีการไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายใน เพราะหากมีการ ร่วมเพศจริง
ผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหายก็ต้องไปพบแพทย์ เพื่อตรวจภายในอีกครั้งหนึ่ง
เพราะผู้เสียหายเกิดความอับอาย และคิดว่าเป็นวิธีการตรวจทางการแพทย์
5 ไม่มีร่องรอยการข่มขืนและไม่มีการตรวจพิสูจน์ภายใน
เพราะผู้เสียหายเกิดความอับอาย และคิดว่าเป็นวิธีการตรวจทางการแพทย์
6 หลังจากเกิดเหตุเป็นเวลานานเพิ่งจะมาแจ้งความ
มีทั้งเหตุพึ่งเกิด และเกิดมานานแล้ว ส่วนที่เหตุพึ่งเกิด ก็จะมีการแจ้งความ
แต่ส่วนที่เหตุเกิดมานานแล้ว จะกันไว้เป็นพยานต่อไป
7 แชทไลน์ต่างๆเกิดจากคำแนะนำของทนาย
ให้ติดต่อกับทางคุณหมอเพื่อให้มีพยานหลักฐานในการดำเนินคดี
ก็สามารถยืนยันได้ว่าหมอมีการละเมิดทางเพศกับผู้เสียหาย
8 มีการเรียกค่าเสียหายและมีการตกลงค่าเสียหายกัน
คดีข่มขืนกระทำชำเราในที่ลับเป็นความผิดอันยอมความได้คดีอาญาน่าจะระงับ
ผลอีกอย่าง คือ การ ตีแพร่ความจริง ให้ผู้หญิงได้ระวังตัว
9 มีข้อสงสัยว่าได้เงินได้ทองแล้วเหตุใด จึงมานำเสนอให้เป็นข่าว
เพื่อให้ผู้หญิงได้ระวังตัว และทราบว่า ควรบุคคลที่สามด้วยทุกครั้งที่ตรวจภายใน
10 หากเป็นการสมยอมแต่ไปแจ้งความเท็จว่าถูกข่มขืน
ไม่น่าจะใช่การสมยอม เพราะผู้เสียหายไปหาหมอเพื่อรักษาอาการป่วย
แต่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยการอ้างหลักการทางแพทย์
คล้ายๆพ่อมดหมอผี ที่อ้างไสยศาสตร์ ล่วงละเมิดทางเพศ
นางเหมียวยอมรับว่า ในครั้งแรกตนเองคิดว่าเป็นการรักษาแบบปกติทั่วไป แต่เมื่อมาครั้งที่ 2
กลับเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก จนได้มาคุยกับเพื่อนรุ่นน้อง และเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน
จึงพบว่าเจอลักษณะเดียวกันตนเอง จากนั้นได้เลิกไปหาหมอคนดังกล่าว
ซึ่งล่าสุดเมื่อมาเห็นข่าวยิ่งมั่นใจทำให้เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
จึงกล้าออกมาให้ข้อมูลเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ต่อไป
เพราะผู้เสียหายคิดว่าเป็นวิธีการตรวจทางการแพทย์
2 ไม่แจ้งความทันทีทั้งที่เป็นเรื่องร้ายแรง
เพราะผู้เสียหายเกิดความอับอาย
3 ไม่เคยแจ้งให้กับญาติผู้ใหญ่พ่อแม่หรือบุคคลใกล้ชิดหรือแม้กระทั่งคนรับทราบทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ
มีการแจ้งให้เพื่อนร่วมงานและคนอื่นๆรับรู้ถึงวิธีการตรวจที่ผิดปกติของหมอ
4 ไม่มีการไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายใน เพราะหากมีการ ร่วมเพศจริง
ผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหายก็ต้องไปพบแพทย์ เพื่อตรวจภายในอีกครั้งหนึ่ง
เพราะผู้เสียหายเกิดความอับอาย และคิดว่าเป็นวิธีการตรวจทางการแพทย์
5 ไม่มีร่องรอยการข่มขืนและไม่มีการตรวจพิสูจน์ภายใน
เพราะผู้เสียหายเกิดความอับอาย และคิดว่าเป็นวิธีการตรวจทางการแพทย์
6 หลังจากเกิดเหตุเป็นเวลานานเพิ่งจะมาแจ้งความ
มีทั้งเหตุพึ่งเกิด และเกิดมานานแล้ว ส่วนที่เหตุพึ่งเกิด ก็จะมีการแจ้งความ
แต่ส่วนที่เหตุเกิดมานานแล้ว จะกันไว้เป็นพยานต่อไป
7 แชทไลน์ต่างๆเกิดจากคำแนะนำของทนาย
ให้ติดต่อกับทางคุณหมอเพื่อให้มีพยานหลักฐานในการดำเนินคดี
ก็สามารถยืนยันได้ว่าหมอมีการละเมิดทางเพศกับผู้เสียหาย
8 มีการเรียกค่าเสียหายและมีการตกลงค่าเสียหายกัน
คดีข่มขืนกระทำชำเราในที่ลับเป็นความผิดอันยอมความได้คดีอาญาน่าจะระงับ
ผลอีกอย่าง คือ การ ตีแพร่ความจริง ให้ผู้หญิงได้ระวังตัว
9 มีข้อสงสัยว่าได้เงินได้ทองแล้วเหตุใด จึงมานำเสนอให้เป็นข่าว
เพื่อให้ผู้หญิงได้ระวังตัว และทราบว่า ควรบุคคลที่สามด้วยทุกครั้งที่ตรวจภายใน
10 หากเป็นการสมยอมแต่ไปแจ้งความเท็จว่าถูกข่มขืน
ไม่น่าจะใช่การสมยอม เพราะผู้เสียหายไปหาหมอเพื่อรักษาอาการป่วย
แต่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยการอ้างหลักการทางแพทย์
คล้ายๆพ่อมดหมอผี ที่อ้างไสยศาสตร์ ล่วงละเมิดทางเพศ
นางเหมียวยอมรับว่า ในครั้งแรกตนเองคิดว่าเป็นการรักษาแบบปกติทั่วไป แต่เมื่อมาครั้งที่ 2
กลับเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก จนได้มาคุยกับเพื่อนรุ่นน้อง และเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน
จึงพบว่าเจอลักษณะเดียวกันตนเอง จากนั้นได้เลิกไปหาหมอคนดังกล่าว
ซึ่งล่าสุดเมื่อมาเห็นข่าวยิ่งมั่นใจทำให้เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
จึงกล้าออกมาให้ข้อมูลเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ต่อไป
แสดงความคิดเห็น
จากข่าวคดีหมอตรวจภายในล่วงละเมิดทางเพศคนไข้ ?! มีใครแก้ข้อสงสัยของทนายท่านนี้ได้บ้าง ?!?!
จากกรณีเพจทนาย เผยแพร่เรื่องราวว่ามีนายแพทย์ก่อเหตุข่มขืนหญิงสาว
ระหว่างตรวจภายใน และมีการเจรจาให้เงินเพื่อให้เรื่องเงียบ ขณะที่แพทย์คนดังกล่าวเข้ามอบตัว
พร้อมทั้งปฏิเสธและขอสู้คดี แต่ปรากฏว่ามีความหวาดหวั่นในพื้นที่
เนื่องจากแพทย์คนดังกล่าวทำงานอยู่ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ใน จ.นครสวรรค์
โดยพบว่า ทนายคนหนึ่ง ได้แสดงความคิดเห็นว่า
มีพิรุธในคดีหลายเรื่องเทียบเคียงแนวคำตัดสินของศาลฎีกา อาจเป็นการสมยอมก็ได้"
1 ตอนถูกล่วงละเมิดไม่มีการต่อสู้ขัดขืนไม่มีร่องรอยการต่อสู้ไม่เอะอะ ผิดวิสัยของผู้หญิงทั่วไป
2 ไม่แจ้งความทันทีทั้งที่เป็นเรื่องร้ายแรง
3 ไม่เคยแจ้งให้กับญาติผู้ใหญ่พ่อแม่หรือบุคคลใกล้ชิดหรือแม้กระทั่งคนรับทราบทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ
4 ไม่มีการไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายใน เพราะหากมีการ ร่วมเพศจริง
ผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหายก็ต้องไปพบแพทย์ เพื่อตรวจภายในอีกครั้งหนึ่ง
5 ไม่มีร่องรอยการข่มขืนและไม่มีการ ตรวจพิสูจน์ภายใน
6 หลังจากเกิดเหตุเป็นเวลานานเพิ่งจะมาแจ้งความ
7 แชทไลน์ต่างๆเกิดจากคำแนะนำของทนาย
ให้ติดต่อกับทางคุณหมอเพื่อให้มีพยานหลักฐานในการดำเนินคดี
8 มีการเรียกค่าเสียหายและมีการตกลงค่าเสียหายกัน
คดีข่มขืนกระทำชำเราในที่ลับเป็นความผิดอันยอมความได้คดีอาญาน่าจะระงับ
9 มีข้อสงสัยว่าได้เงินได้ทองแล้วเหตุใด จึงมานำเสนอให้เป็นข่าว
10 หากเป็นการสมยอมแต่ไปแจ้งความเท็จว่าถูกข่มขืน
แนวคำตัดสินของศาลฎีกาถือว่าแจ้งความเท็จต้องการให้คนอื่นติดคุกมีบทลงโทษ
จำคุกถึง 7 ปีอ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 589 / 2536
พร้อมกันนั้น ยังได้ระบุว่า การพิสูจน์ต้องดูพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุประกอบด้วย
ซึ่งผู้เสียหายไม่มีพยานในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งไม่มีพยานหลักฐานเพราะเหตุเกิดขึ้นไปนานแล้ว
โดยที่ผ่านมา ที่ได้รับทำคดีก็พบว่า มีผู้หญิงที่แบ็กเมล์หมออยู่จำนวนมากเช่นกัน
ที่มา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้