พุทธศาสนาดำรงมายาวนานกว่า 2,500 ปี ผ่านกระแสกาลเวลา เจริญรุ่งเรืองในชมพูทวีป ว่ากันว่าในตอนนั้น มีผู้ตรัสรู้บรรลุธรรมขั้นสูง นับพันนับหมื่น อินเดียเจริญรุ่งเรืองด้วยพระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึงขีดสุด มีบทบัญญัติหลักธรรมคำสอน มีสำนักตักศิลา ชมพูทวีปคือแดนแห่งพุทธธรรม กระจายผ่านการแผ่ธรรมไปยังดินแดนต่าง ๆ ด้วยพระสมณะที่เป็นธรรมฑูต และการเดินทางเคลื่อนย้านถิ่นฐาน การค้าขาย การล่องเรือเดินทะเล และผ่านเส้นทางการค้าโบราณที่ยิ่งใหญ่ เช่นเส้นทางสายไหม

ในตอนนั้นมีเหตุการณ์ที่สำคัญยิ่ง ที่ทำให้ศาสนาพุทธเจริญรุ่งเรื่องในประเทศจีน คือการเดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฎกของพระเสวียนจ้าน หรือพระถังซัมจั๋ง จากซีอาน ใจกลางแดนมังกร พระถังซัมจั๋งได้เดินทางไกลนับพันลี้ไปสู่ชมพูทวีป ผ่านอุปสรรคมากมาย ผ่านดินแดนพุทธศาสนาโบราณตามเส้นทางสายไหม ไม่ว่าจะเป็น ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน อัฟกานิสถาน ซึ่งในสมัยนั้นเป็นเมืองที่นับถือพุทธ รุ่งเรื่องด้วยศาสนาพุทธ จนกระทั่งถึงอินเดีย จึงศึกษาพระธรรมคำสอนของพุทธศาสนาที่สำนักตักศิลา และได้ดำรงชีวิตอยู่ในชมพูทวีปเพื่อศึกษาพระไตรปิฎกอยู่หลายปี แล้วจึงได้เดินทางกลับซีอาน

การเดินทางกลับซีอานของท่าน ส่งผลให้ศาสนาพุทธประดิษฐานยิ่งใหญ่ถาวรในประเทศจีน ในดินแดนตงง้วน เพราะท่านได้แปลคำภีร์ศาสนาพุทธนับร้อยนับพันเล่มจากภาษาสันสกฤตบาลีเป็นภาษาจีน ภายใต้การอุปถัมภ์ของฮ่องเต้ราชวงศ์ถัง ทำให้มีการศึกษาพระธรรมคำสอนในจีนอย่างกว้างขวาง ศาสนาพุทธเข้าแทรกซึมสู่วิถีของชาวจีน ปรับเข้ากับลัทธิขงจื๊อและคำสอนจีนโบราณ นับตั้งแต่นั้นมา ศาสนาพุทธก็เป็นส่วนหนึงของจีน

ไม่แต่เฉพาะงานด้านพระธรรมคำสอน แต่ในแง่ศิลปะ ประติมากรรม จิตรกรรมของจีน ก็มีการแทรกคติของศาสนาพุทธเข้าไป เกิดรูปเคารพ เกิดวัด เกิดสถานที่พุทธะศักดิ์สิทธิ์ เกิดงานแกะสลัก งานเขียนตามฝาผนัง แทบจะทุกที่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของจีน

คราวนี้ผมจะพาท่านไปเที่ยว ถ้ำผามังกรบิน มหัศจรรย์แห่งแดนพุทธะ  งานแกะสลักหินบรรลือโลก หนึ่งเดียวแห่งความงดงามและอลังการ ทีควรแค่แก่การไปดูยิ่งนัก


โดยเฉพาะวัดเฟิ่งเซียน เป็นเพชรเม็ดงามแห่งหมู่หินสลักผาหลงเหมิน เป็นสุดยอดประติมากรรมที่ยิ่งใหญ่อันเกิดจากศรัทธาแห่งศาสนา งดงามและยากในการสร้างที่สุดเท่าที่มนุษย์จะทำขึ้นได้ ในสมัยศาสนาพุทธยังรุ่งเรืองอยู่ในจีน กว่าพันปีก่อน

องค์กลางที่ท่านเห็นคือพระไวโรจนะ แห่งวัชรยาน ซึ่งสกัดขึ้นจากเขาทั้งลูกให้มีพระพักตร์เหมือนพระนางบูเช็กเทียน สตรีผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ถัง เฟิ่งเซียนจึงเป็นตัวแทนของหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งศรัทธา อำนาจ ปัญญาแห่งหญิงผู้เก่งกล้าเหนือชาย ความรุ่งเรืองแห่งเมืองลั่วหยาง และสุดยอดฝีมือพุทธศิลป์ของช่างชาวจีน

       
ถึงจะเดินทางมายาก ตื่นแต่เช้า นั่งรถไฟมาจากซีอานเพื่อมาลั่วหยาง รอรถเมล์นาน เดินไกล ผจญกับคลื่นชาวจีน แต่เมื่อได้มาเห็นสิ่งนี้ ความเหนื่อยก็หายไปหมดสิ้น เหลือแต่ความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย เมื่อได้มาเห็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งหนึ่งของโลกตรงหน้า





เราจะเดินทางไปยังลั่วหยาง นครหลวงโบราณอีกแห่งหนึ่งของจีน ทั้งราชวงศ์โจวตะวันออก ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก และราชวงศ์ถัง


ลั่วหยางอยู่ในดินแดนตงง้วนหรือจงหงวน ใจกลางประเทศจีน ลุ่มแม่น้ำฮวงโห อันเป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่


อยู่ในมณฑลเหอหนาน มีเมืองเอกคือเจิ้งโจว แต่ลั่วหยางเป็นนครศิลปะวัฒนธรรมเก่าแก่ที่สำคัญที่สุด


ขอบคุณภาพจาก https://www.chinahighlights.com/luoyang/map.htm

แสดงภาพเมืองหลวงที่อยู่ตามแม่น้ำฮวงโหหรือแม่น้ำเหลือง อู่อารยธรรมเก่าแก่ของจีน ลั่วหยางก็เป็นหนึ่งในนครเหล่านั้น


ขอบคุณภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Luoyang