เราอายุ 14 อยู่ต่างจังหวัดค่ะ บ้านเราอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 60 กิโลเมตร เราต้องนั่งรถไปเรียนในตัวเมือง ตื่นตั้งแต่ตีห้า รถมาถึงบ้านตอนหกโมงเช้า เป็นรถตู้รับส่งนักเรียน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ตรงที่นั่งที่เรานั่งไม่โดนแอร์เลย ถึงโรงเรียนตอนเจ็ดโมง-เจ็ดโมงครึ่ง เราทานข้าวเช้าที่โรงเรียนเป็นโจ๊กหมูใส่ไข่ กับไก่ย่างสองไม้ หรือไม่ก็ข้าวราดแกงทุกวันเลย

เราเรียนวันละ 7-8 ชั่วโมง เรียนตั้งแต่แปดโมงครึ่ง-สี่โมงเย็น เดินเรียน (ย้ายห้องเรียนทุกครั้งที่เปลี่ยนคาบ) เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติก็นั่งลงกับพื้น (ฝุ่นเขรอะ) ประมาณ 30-40 นาที บางวันแบกกระเป๋าเดินขึ้นชั้นเจ็ดจนกลับบ้านมาปวดไหล่ไปหมด ตอนกลางวัน (บางวันพักเที่ยงสิบเอ็ดโมง บางวันสิบเอ็ดโทงห้าสิบ) ก็กินข้าวราดแกง (ทุกวันแต่ก็เปลี่ยนกับข้าวเรื่อยๆ) ผลไม้ (สับประรดกับฝรั่งที่เขียวๆหวานๆ) แล้วก็ขนมบ้างบางวัน ตอนเย็นวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ เราไปเดินออกกำลังกายประมาณ 40-50 นาที

ตอนที่เราเรียนวอลเลย์บอลตรงแขนช่วงที่ใช้อันเดอร์ลูกก็มีผื่นขึ้น ตอนที่เข้าแถวก็รู้สึกคันขาไปหมด นั่งจนเหน็บกินไปสองรอบสามรอบ แล้วก็รู้สึกเหมือนจะท้องเสียบ่อยด้วย ทั้งๆที่กินข้าวร้านเดิมกับที่เคยกิน ที่สำคัญเลยคือเรากลับบ้านมารู้สึกเพลียมาก ไม่มีแรงจะทำอะไรเลย บางวันอาบน้ำแทบไม่ไหว ตอนกลางคืนรู้สึกเหมือนมีไอร้อนออกจากตัวอยู่ตลอดเวลา (นอนแอร์ เปิดพัดลม ไม่เปิดอะไรเลยก็เป็น) เสาร์-อาทิตย์อยู่บ้านก็รู้สึกไม่มีแรง เวลาเดินทีนี่รู้สึกเหมือนจะล้มให้ได้ แต่ตอนนั่งหรือนอนจะไม่เป็นอะไรเลย เล่นโทรศัพท์ อ่านหนังสือ ทำการบ้านได้ปกติเลยค่ะ ช่วงนี้รู้สึกว่าบางทีแขนขาจะสั่นๆด้วยค่ะ

เราเริ่มรู้สึกว่าจะไม่ไหวแล้ว เราควรจะไปหาหมอไหมคะ หรือควรจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมยังไงดี เราควรย้ายไปอยู่หอแถวโรงเรียนไหมคะ หรือควรจะย้ายโรงเรียนดี?

ถ้ามันเหมือนเป็นการระบายก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ เราไม่ไหวแล้วจริงๆค่ะ