สวัสดีครับ
ก่อนอื่นเลยคือจะบอกว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ผมรีวิว
วันนี้ผมจะพาทัวร์เกาะพยาม ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมัลดีฟ เมืองไทย อยู่ไม่ไกลมาก จังหวัดระนองนี่เอง
งั้นมาเริ่มกันเลยครับบบ!!
วันที่ที่ผมไปคือช่วง 20-23 กันยายน 2561 ซึ่งแอบลุ้นมากกกกก เพราะตอนนั้นเป็นช่วงที่พายุมังคุดกำลังจะหมด (แต่ยังไม่หมดดีเลยยย)
โดยผมทำการจองตั๋วเครื่องบิน รอบเช้าของวันที่ 20 กันยายน 2561 เพื่อจะให้ทันกับรถตู้รอบเช้าของรีสอท
ต้องบอกก่อนว่าช่วงตอนที่ผมไป เป็นช่วง Low Season พอดี จึงได้ราคาห้องมาที่โอเคเลย (เพราะถ้าช่วง Hi Season นี่ราคาเอาเรื่องครับ 5555)
วิวสวยดีงาม แดดยามเช้าสีทองอุ่นๆ ^^
ถึงแล้วววว สนามบินระนอง แดดกำลังดี ไม่ร้อนครับ เนื่องจากว่าจังหวัดระนองเป็นเมืองการท่องเที่ยวที่เป็นเมืองรอง คนจึงไม่ค่อยเยอะมากครับ
สำหรับคนที่กำลังเดินทางไป The Blue Sky จะมีรถตู้ของทางรีสอทมารอรับอยู่ (รถตู้ส่วนใหญ่จะมารอรอบตรงไฟล์ทพอดี ไม่ต้องห่วงเรื่องกลัวตกรถ แต่ก่อนจะมา ให้แจ้งทางรีสอทก่อน) มีค่ารถตู้คนละ 300 บาท
รถตู้จะพาเรามาที่ยังท่าเรือ Blue Monkey เพื่อจะต่อเรือไปยังเกาะพยามครับ
และก็ถึงแล้วววววว ท่าเรือ Blue Monkey
จากนั้นก็ซื้อตั๋วเรือ มีให้เลือกทั้งเรือเมล์และสปีดโบ๊ท
สปีดโบ๊ท ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่าใช้จ่ายคนละ 350 บาท
เรือเมล์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที ค่าใช้จ่ายคนละ 30 บาท
ซึ่ง จขกท.ได้เลือกสปีดโบ๊ท (อยากถึงไวๆแล้วว)
บรรยากาศระหว่างรอสปีดโบ๊ท
พอถึงเวลาก็ขึ้นสปีดโบ๊ท ใส่ชูชีพและนั่งประจำที่ เอากระเป๋าโหลดเข้าเรือ (ไม่ต้องกลัวปนกับคนอื่น เพราะเจ้าหน้าที่ของ Blue Monkey จะผูกเชือกแดงไว้เป็นสัญลักษณ์) ขาออกมีเจ้าหน้าที่มาส่งด้วย รู้สึก vip ฝุดดๆ
ระหว่างทางลมดี น้ำทะเลเขียวไล่ระดับเป็นสีฟ้าาาเรื่อยยยๆ
พี่คนคุมเรือท่าตั้งมั่นสุด ไม่รู้ง่วงหรือยังไง แซวๆ ^^ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีครับ
ถึงแล้ววววววว เกาะพยาม ลงจากเรือมาก็ถ่ายเก็บบรรยากาศนิดนึงครับ โชคดีที่ไม่เจอฝน ท้องฟ้าปลอดโปร่งงง ฟินนน
พนักงานของ The Blue Sky จะมาต้อนรับเราและนำกระเป๋าของเราที่ผูกเชือกสีแดงออกมาใส่ที่รถอีแต๋นให้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาทีได้และก็ขึ้นรถอีแต๋นไปยังรีสอทกันเลยจย้าาาาา (พนักงานมีแจกร่มด้วย เพราะแดดร้อนแสบมากก)
และแล้วก็เข้าเขต The Blue Sky Resort แล้วววววว
มาถึงก็มุ่งตรงไปยัง Lobby เพื่อ Check in ครับและก็พอได้กุญแจก็มาลุยยยย
บรรยากาศรอบๆ ถือว่าประทับใจมากกกกกกกครับ ที่ผมบอกไปตอนแรกคือลุ้นมาก เพราะมาช่วงพายุมังคุดใกล้หมดแล้ว
แต่ถือว่าโชคดีมากครับ พนักงานบอกว่าเมื่อวานฝนตกหนักมากและฟ้าครึ้มทั้งวันไม่มีแดด ซึ่งพึ่งจะมีแดดตอนผมมานี่แหละ
ยิ่งว้าวเลย ถือว่ามาไม่เสียรอบนะเนี่ย
เดินเล่นสำรวจสักนิดครับ ตัวรีสอทเนื้อที่ติดกับทะเลเลยและเงียบสงบมากๆ เหมาะสำหรับวันพักผ่อนจริงๆ
สระน้ำถ้าหากใช้บริการทางรีสอทให้ใส่ชุดว่ายน้ำนะครับ ไม่อนุญาติให้ใส่ชุดอื่นเล่นเลย
ส่วนตรงริมทะเลก็มีเรือคายักบริการฟรี สามารถพายเดี่ยวหรือช่วยกันพายได้ครับ
เดินพอเหงื่อตกแล้วก็เข้าห้องพักกันดีกว่าา ส่วนของผมที่พักคือโซนที่วงสีส้มไว้ เป็นที่พักสองชั้น ชั้นล่างเป็นห้องพัก ชั้นบนเป็นกึ่งด่านฟ้า นั่งชิวได้ตลอดๆ กินลมชมวิววว
Credit pic :
https://www.theblueskyresort.com/
เข้ามาก็เสียบคีกาด เพื่อเปิดการใช้ไฟฟ้าและก็โดดลงเตียงเลยยย เพลียมาก 5555 เครื่องใช้ไฟฟ้ามีครบครับ ทีวี, กล่องเคเบิ้ล , โทรศัพท์, ตู้เย็นพร้อมน้ำดื่ม
มาที่ห้องน้ำกันบ้างครับ ตัวห้องน้ำจะติดกับห้องนอนเลย โดยรวมถือว่าโอเคมากกกกครับ น้ำแรง มีชั้นวางผ้าขนหนูและไม้แขวนเสื้อ ชั้นตากผ้า
**สำคัญ** ตรงข้างล่างชั้นวางจะมีไฟฉายให้อยู่ แนะนำเลยครับ ตอนช่วงกลางคืนมืดมากก ให้พกติดตัวไปด้วยครับ มีประโยชน์มากๆ หรือถ้าขี้เกียจก็ใช้ไฟฉายมือถือเอาก็ได้ครับผม
เสียดายที่ช่วงที่ผมไป น้ำยังไม่มาเต็มข้างในรีสอทครับ เลยเป็นภาพอย่างที่เห็น
หลังจากนอนยืดเส้นสักพักแล้ว ก็ได้เวลาออกหาอะไรกินแล้วววว ท้องร้องโคร่กๆ
ร้านอาหารเป็นโถงสูง โปร่งสบายครับ ลมโกรกตลอดเลย
ไม่รอช้าแล้วครัชชช สั่งแล้วเด้อออออ หิวมากกกครับบโผมมม
เผลออีกที เต็มโต๊ะแล้วววว (สั่งด้วยความหิวล้วนๆ 5555)
จานแรก สเต็กไก่ทอดกอร์ดองเบลอ ทอดกรอบนุ่ม ข้างในเป็นซอสเบอรี่ครับ รสเปรี้ยวตัดพอดิบพอดี 8.5/10 ดาวจย้าา
จานสอง ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ รสชาติน้ำพริกค่อนข้างนัว กินแกล้มผักตัดรส แต่ส่วนตัวยังไม่ค่อยโดน 7/10 ดาวครัช
จานสาม โรตีน้ำแกงเขียวหวาน ออกตัวก่อนเลยว่าเด็ดมากๆ รสชาติกลมกล่อม ถ้าใครมาแนะนำให้ลองเลยครับ 9.8/10 ดาว (หักไป 0.2 ราคาแอบแรงนิดครับ)
พนักงานดูแลเอาใจใส่ดีมากๆครับ มีการถามถึงรสชาติอาหารหลังทาน ถ้าไม่ถูกปาก สามารถปรับรสชาติได้เลยครับ
พออิ่มสักพัก ผมก็ไปหารถมอเตอร์ไซค์เช่า มาขี่เล่นรอบเกาะ ซึ่งเห็นพนักงานบอกว่าพยายามมาให้ทันช่วง 17:30-18:00 เพราะเป็นช่วงที่แสงสวยที่สุดของวัน ท้องฟ้าจะเป็นสีฟ้าอมม่วงสะท้อนผิวน้ำทะเลสวยสุดๆเลยเป็นที่มาของชื่อรีสอท The Blue Sky ครับผม
ที่ที่ผมจะไปคือวัดเกาะพยาม ซึ่งมีพระอุโบสถอยู่กลางน้ำเลยทีเดียว น่าสนใจมากๆ ไม่รอช้า แว๊นแปปครับ
ถึงแล้วครับ วัดเกาะพยาม เส้นทางในการมาค่อยข้างเป็นหลุมหน่อย แต่ทางมาไม่ซับซ้อนมากครับ
ผมมุ่งไปยังพระอุโบสถกลางน้ำเลย
อุโบสถกลางน้ำ เรียกได้ว่าเงียบสุดๆ ข้างในมีองค์พระตั้งอยู่ครับ ช่วงที่ผมไปทางข้ามมายังพระอุโบสถเสียหาย ก้าวข้ามระวังๆกันด้วยครับผม
หลังจากสักการะเสร็จแล้ว ก็ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกหน่อยยย แดดดี อากาศดี สุขภาพจิตดีค้าบบบ
และก็ดูเวลาก็ใกล้จะถึงเวลาที่แสงสวยแล้วว แว๊นกลับบด่วนนนน
กลับถึงที่รีสอทก็มาทันพอดี ไม่รอช้าครับ มุ่งไปยังริมทะเลเลยย ^^
พอมาถึงริมทะเล ผมอึ้งกับสีท้องฟ้ามากๆครับ มันบรรยายไม่ถูก มันเป็นอย่างที่พนักงานบอกไว้จริงๆด้วย เป็นสีฟ้าอมม่วงแล้วสะท้อนเล่นสีกันสวยมากๆ ยิ่งใกล้ช่วงพระอาทิตย์จะตกดิน แสงสีทองสาดลงมาเล่นด้วย มันสวยงามแบบบอกไม่ถูกเลยครับ เป็นทะเลที่ฟ้าสวยที่สุดตั้งแต่ในชีวิตผมเลย
10/10 ดาวไปเลยยย!!
จิบน้ำมะพร้าวชิวๆ พร้อมดูวิวหลักล้านนน!!
พอพระอาทิตย์ตกดิน ผมก็ลงเล่นสระน้ำ (เลยไม่ได้จับกล้องเก็บบรรยากาศเลย555)
ครัวของร้านอาหารรีสอทเปิดถึง 21:00 น.ครับ พนักงานเป็นกันเองมากๆ
หลังจากนั้นก็พักผ่อนตามอัธยาศัยครับ นอนรับลมทะเลโกรกๆ แต่แอบหนาวครับ ช่วงตกดึกนี่เห็นได้ชัด มีสั่นกันบ้างนะ
ช่วงเช้ามี Beakfast ให้ที่ร้านอาหารของรีสอทครับ
มีไส้กรอก แฮม ไข่ดาว ผัดซีอิ๊ว ซุปเห็ด กาแฟ น้ำส้ม ต่างๆมากมายครับ
เช้าๆแบบนี้นั่งกลางแจ้ง รับวิตามินดีกันไปเลยครับ วิวดีสุดๆ อาหารอร่อยครับและพนักงานต้อนรับดีอีกแล้ว ประทับใจสุดๆเลยครับ
*ขากลับ
สามารถ Check out ออกก่อนเที่ยงและแจ้งว่าจะกลับเรือสปีดโบ๊ทหรือเรือเมล์กับทางรีสอทได้เลยครับ
ขอจบการรีวิวไว้เท่านี้ครับผม. .
*วิว 10/10
*การเดินทาง 9/10
*ค่าใช้จ่าย 8/10
[CR] รีวิว **The Blue Sky เกาะพยาม** มัลดีฟเมืองไทย จ.ระนอง
ก่อนอื่นเลยคือจะบอกว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ผมรีวิว
วันนี้ผมจะพาทัวร์เกาะพยาม ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมัลดีฟ เมืองไทย อยู่ไม่ไกลมาก จังหวัดระนองนี่เอง
งั้นมาเริ่มกันเลยครับบบ!!
วันที่ที่ผมไปคือช่วง 20-23 กันยายน 2561 ซึ่งแอบลุ้นมากกกกก เพราะตอนนั้นเป็นช่วงที่พายุมังคุดกำลังจะหมด (แต่ยังไม่หมดดีเลยยย)
โดยผมทำการจองตั๋วเครื่องบิน รอบเช้าของวันที่ 20 กันยายน 2561 เพื่อจะให้ทันกับรถตู้รอบเช้าของรีสอท
ต้องบอกก่อนว่าช่วงตอนที่ผมไป เป็นช่วง Low Season พอดี จึงได้ราคาห้องมาที่โอเคเลย (เพราะถ้าช่วง Hi Season นี่ราคาเอาเรื่องครับ 5555)
วิวสวยดีงาม แดดยามเช้าสีทองอุ่นๆ ^^
ถึงแล้วววว สนามบินระนอง แดดกำลังดี ไม่ร้อนครับ เนื่องจากว่าจังหวัดระนองเป็นเมืองการท่องเที่ยวที่เป็นเมืองรอง คนจึงไม่ค่อยเยอะมากครับ
สำหรับคนที่กำลังเดินทางไป The Blue Sky จะมีรถตู้ของทางรีสอทมารอรับอยู่ (รถตู้ส่วนใหญ่จะมารอรอบตรงไฟล์ทพอดี ไม่ต้องห่วงเรื่องกลัวตกรถ แต่ก่อนจะมา ให้แจ้งทางรีสอทก่อน) มีค่ารถตู้คนละ 300 บาท
รถตู้จะพาเรามาที่ยังท่าเรือ Blue Monkey เพื่อจะต่อเรือไปยังเกาะพยามครับ
และก็ถึงแล้วววววว ท่าเรือ Blue Monkey
จากนั้นก็ซื้อตั๋วเรือ มีให้เลือกทั้งเรือเมล์และสปีดโบ๊ท
สปีดโบ๊ท ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่าใช้จ่ายคนละ 350 บาท
เรือเมล์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที ค่าใช้จ่ายคนละ 30 บาท
ซึ่ง จขกท.ได้เลือกสปีดโบ๊ท (อยากถึงไวๆแล้วว)
บรรยากาศระหว่างรอสปีดโบ๊ท
พอถึงเวลาก็ขึ้นสปีดโบ๊ท ใส่ชูชีพและนั่งประจำที่ เอากระเป๋าโหลดเข้าเรือ (ไม่ต้องกลัวปนกับคนอื่น เพราะเจ้าหน้าที่ของ Blue Monkey จะผูกเชือกแดงไว้เป็นสัญลักษณ์) ขาออกมีเจ้าหน้าที่มาส่งด้วย รู้สึก vip ฝุดดๆ
ระหว่างทางลมดี น้ำทะเลเขียวไล่ระดับเป็นสีฟ้าาาเรื่อยยยๆ
พี่คนคุมเรือท่าตั้งมั่นสุด ไม่รู้ง่วงหรือยังไง แซวๆ ^^ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีครับ
ถึงแล้ววววววว เกาะพยาม ลงจากเรือมาก็ถ่ายเก็บบรรยากาศนิดนึงครับ โชคดีที่ไม่เจอฝน ท้องฟ้าปลอดโปร่งงง ฟินนน
พนักงานของ The Blue Sky จะมาต้อนรับเราและนำกระเป๋าของเราที่ผูกเชือกสีแดงออกมาใส่ที่รถอีแต๋นให้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาทีได้และก็ขึ้นรถอีแต๋นไปยังรีสอทกันเลยจย้าาาาา (พนักงานมีแจกร่มด้วย เพราะแดดร้อนแสบมากก)
และแล้วก็เข้าเขต The Blue Sky Resort แล้วววววว
มาถึงก็มุ่งตรงไปยัง Lobby เพื่อ Check in ครับและก็พอได้กุญแจก็มาลุยยยย
บรรยากาศรอบๆ ถือว่าประทับใจมากกกกกกกครับ ที่ผมบอกไปตอนแรกคือลุ้นมาก เพราะมาช่วงพายุมังคุดใกล้หมดแล้ว
แต่ถือว่าโชคดีมากครับ พนักงานบอกว่าเมื่อวานฝนตกหนักมากและฟ้าครึ้มทั้งวันไม่มีแดด ซึ่งพึ่งจะมีแดดตอนผมมานี่แหละ
ยิ่งว้าวเลย ถือว่ามาไม่เสียรอบนะเนี่ย
เดินเล่นสำรวจสักนิดครับ ตัวรีสอทเนื้อที่ติดกับทะเลเลยและเงียบสงบมากๆ เหมาะสำหรับวันพักผ่อนจริงๆ
สระน้ำถ้าหากใช้บริการทางรีสอทให้ใส่ชุดว่ายน้ำนะครับ ไม่อนุญาติให้ใส่ชุดอื่นเล่นเลย
ส่วนตรงริมทะเลก็มีเรือคายักบริการฟรี สามารถพายเดี่ยวหรือช่วยกันพายได้ครับ
เดินพอเหงื่อตกแล้วก็เข้าห้องพักกันดีกว่าา ส่วนของผมที่พักคือโซนที่วงสีส้มไว้ เป็นที่พักสองชั้น ชั้นล่างเป็นห้องพัก ชั้นบนเป็นกึ่งด่านฟ้า นั่งชิวได้ตลอดๆ กินลมชมวิววว
Credit pic : https://www.theblueskyresort.com/
เข้ามาก็เสียบคีกาด เพื่อเปิดการใช้ไฟฟ้าและก็โดดลงเตียงเลยยย เพลียมาก 5555 เครื่องใช้ไฟฟ้ามีครบครับ ทีวี, กล่องเคเบิ้ล , โทรศัพท์, ตู้เย็นพร้อมน้ำดื่ม
มาที่ห้องน้ำกันบ้างครับ ตัวห้องน้ำจะติดกับห้องนอนเลย โดยรวมถือว่าโอเคมากกกกครับ น้ำแรง มีชั้นวางผ้าขนหนูและไม้แขวนเสื้อ ชั้นตากผ้า
**สำคัญ** ตรงข้างล่างชั้นวางจะมีไฟฉายให้อยู่ แนะนำเลยครับ ตอนช่วงกลางคืนมืดมากก ให้พกติดตัวไปด้วยครับ มีประโยชน์มากๆ หรือถ้าขี้เกียจก็ใช้ไฟฉายมือถือเอาก็ได้ครับผม
เสียดายที่ช่วงที่ผมไป น้ำยังไม่มาเต็มข้างในรีสอทครับ เลยเป็นภาพอย่างที่เห็น
หลังจากนอนยืดเส้นสักพักแล้ว ก็ได้เวลาออกหาอะไรกินแล้วววว ท้องร้องโคร่กๆ
ร้านอาหารเป็นโถงสูง โปร่งสบายครับ ลมโกรกตลอดเลย
ไม่รอช้าแล้วครัชชช สั่งแล้วเด้อออออ หิวมากกกครับบโผมมม
เผลออีกที เต็มโต๊ะแล้วววว (สั่งด้วยความหิวล้วนๆ 5555)
จานแรก สเต็กไก่ทอดกอร์ดองเบลอ ทอดกรอบนุ่ม ข้างในเป็นซอสเบอรี่ครับ รสเปรี้ยวตัดพอดิบพอดี 8.5/10 ดาวจย้าา
จานสอง ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ รสชาติน้ำพริกค่อนข้างนัว กินแกล้มผักตัดรส แต่ส่วนตัวยังไม่ค่อยโดน 7/10 ดาวครัช
จานสาม โรตีน้ำแกงเขียวหวาน ออกตัวก่อนเลยว่าเด็ดมากๆ รสชาติกลมกล่อม ถ้าใครมาแนะนำให้ลองเลยครับ 9.8/10 ดาว (หักไป 0.2 ราคาแอบแรงนิดครับ)
พนักงานดูแลเอาใจใส่ดีมากๆครับ มีการถามถึงรสชาติอาหารหลังทาน ถ้าไม่ถูกปาก สามารถปรับรสชาติได้เลยครับ
พออิ่มสักพัก ผมก็ไปหารถมอเตอร์ไซค์เช่า มาขี่เล่นรอบเกาะ ซึ่งเห็นพนักงานบอกว่าพยายามมาให้ทันช่วง 17:30-18:00 เพราะเป็นช่วงที่แสงสวยที่สุดของวัน ท้องฟ้าจะเป็นสีฟ้าอมม่วงสะท้อนผิวน้ำทะเลสวยสุดๆเลยเป็นที่มาของชื่อรีสอท The Blue Sky ครับผม
ที่ที่ผมจะไปคือวัดเกาะพยาม ซึ่งมีพระอุโบสถอยู่กลางน้ำเลยทีเดียว น่าสนใจมากๆ ไม่รอช้า แว๊นแปปครับ
ถึงแล้วครับ วัดเกาะพยาม เส้นทางในการมาค่อยข้างเป็นหลุมหน่อย แต่ทางมาไม่ซับซ้อนมากครับ
ผมมุ่งไปยังพระอุโบสถกลางน้ำเลย
อุโบสถกลางน้ำ เรียกได้ว่าเงียบสุดๆ ข้างในมีองค์พระตั้งอยู่ครับ ช่วงที่ผมไปทางข้ามมายังพระอุโบสถเสียหาย ก้าวข้ามระวังๆกันด้วยครับผม
หลังจากสักการะเสร็จแล้ว ก็ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกหน่อยยย แดดดี อากาศดี สุขภาพจิตดีค้าบบบ
และก็ดูเวลาก็ใกล้จะถึงเวลาที่แสงสวยแล้วว แว๊นกลับบด่วนนนน
กลับถึงที่รีสอทก็มาทันพอดี ไม่รอช้าครับ มุ่งไปยังริมทะเลเลยย ^^
พอมาถึงริมทะเล ผมอึ้งกับสีท้องฟ้ามากๆครับ มันบรรยายไม่ถูก มันเป็นอย่างที่พนักงานบอกไว้จริงๆด้วย เป็นสีฟ้าอมม่วงแล้วสะท้อนเล่นสีกันสวยมากๆ ยิ่งใกล้ช่วงพระอาทิตย์จะตกดิน แสงสีทองสาดลงมาเล่นด้วย มันสวยงามแบบบอกไม่ถูกเลยครับ เป็นทะเลที่ฟ้าสวยที่สุดตั้งแต่ในชีวิตผมเลย
10/10 ดาวไปเลยยย!!
จิบน้ำมะพร้าวชิวๆ พร้อมดูวิวหลักล้านนน!!
พอพระอาทิตย์ตกดิน ผมก็ลงเล่นสระน้ำ (เลยไม่ได้จับกล้องเก็บบรรยากาศเลย555)
ครัวของร้านอาหารรีสอทเปิดถึง 21:00 น.ครับ พนักงานเป็นกันเองมากๆ
หลังจากนั้นก็พักผ่อนตามอัธยาศัยครับ นอนรับลมทะเลโกรกๆ แต่แอบหนาวครับ ช่วงตกดึกนี่เห็นได้ชัด มีสั่นกันบ้างนะ
ช่วงเช้ามี Beakfast ให้ที่ร้านอาหารของรีสอทครับ
มีไส้กรอก แฮม ไข่ดาว ผัดซีอิ๊ว ซุปเห็ด กาแฟ น้ำส้ม ต่างๆมากมายครับ
เช้าๆแบบนี้นั่งกลางแจ้ง รับวิตามินดีกันไปเลยครับ วิวดีสุดๆ อาหารอร่อยครับและพนักงานต้อนรับดีอีกแล้ว ประทับใจสุดๆเลยครับ
*ขากลับ
สามารถ Check out ออกก่อนเที่ยงและแจ้งว่าจะกลับเรือสปีดโบ๊ทหรือเรือเมล์กับทางรีสอทได้เลยครับ
ขอจบการรีวิวไว้เท่านี้ครับผม. .
*วิว 10/10
*การเดินทาง 9/10
*ค่าใช้จ่าย 8/10
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น