สวัสดีค่ะ เริ่มต้นปี 2018 สำหรับทริปวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมา
เราเลือกการเดินทางที่คิดไว้ว่าคนน่าจะไม่เยอะ โดยเลือกพักที่เกาะพยามวันที่ 3-5 มกราคม 2561 ค่ะ สำหรับทริป 3 วัน 2 คืน
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา จะขอรีวิวที่พักบนเกาะก่อนเลยนะคะ
วันที่ 3/1/61 เรามารอที่ท่าเรือเทศบาลปากน้ำ จ.ระนองค่ะ (การเดินทางจาก กทม.- ระนอง)
เรือที่เราเลือกไว้ เวลา 10:30 น. ค่ะ รวมในแพคเกจที่เราซื้อกับทางรีสอร์ทไว้ ถ้าไม่ได้ซื้อแพคเกจราคาจะอยู่ประมาณ 350/เที่ยว ค่ะ
ที่ท่าเรือจะมีร้านคาเฟ่ให้นั่งรอ เป็นของรีสอร์ท ชื่อ blue monkey ค่ะ แถวๆ นั่นจะมีที่รับฝากรถคืนละ 100 บาทนะคะ (ย้ำ คิดเป็นต่อคืนนะคะ)
เพราะเราโดนมาแล้ว คนเก็บเงินคิดต่อวัน ตอนไปจอดเราให้แฟนจัดการ พอมาถึงร้านบลูมังกี้เราถามเค้าคิดราคาไง แฟนบอก 300 เราบอกไม่ใช่ ต้อง 200 เพราะคิดเป็นคืน เราจึงเดินไปถามที่ฝากรถเค้าบอกคิดเป็นวัน 😒 (เพราะว่าเราได้หาข้อมูลมาก่อนแล้ว จึงเดินกลับมาที่ร้านและบอกกับพนักงาน พนักงานทำหน้าเหวอๆ และบอกว่าขอบัตรจอดรถหน่อย สักพักกลับมาพร้อมเงิน 100 บาทมาคืนเรา😆 ยอมมิได้....ได้เวลา 10:30 เรือ Speed boat มารับแล้วค่ะ
ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ระหว่างเดินทางด้วยเรือ ก็จะมีแวะส่งที่เกาะช้างด้วย (งงชิมิคะ ชื่อเหมือนกันกับเกาะช้างที่ตราดค่ะ แต่ไม่ใช่ 555 ตอนแรกเราก็งงๆ)
ถึงแล้วค่ะท่าเรือเกาะพยาม และก็มี จนท.รีสอร์ทมารอรับค่ะ รีสอร์ทไม่ไกลจากท่าเรือค่ะ
ถึงแล้วที่พักของเรา .... TheBlueSky พนักงานต้องรับเราด้วย welcome drink แก้วเล็กๆ อร่อยมากค่ะ เป็นน้ำผลไม้ น่าจะเป็นน้ำสตอเบอรี่สดผสมเบอรี่มั้งคะไม่แน่ใจ แต่ใันสดชื่นมากๆ ค่ะ

ที่นี่สามารถเช็คอินได้เวลา 14.00 ค่ะ ระหว่างรอเข้าห้องก็ทำเรื่องเอกสารเช็คอิน ขอใบเสร็จต่างๆ และไปนั่งรอที่ล็อบบี้
ระหว่างรอก็ได้เวลาอาหารมือแรกของเรา คือมื้อเที่ยงค่ะ เสริฟเป็นจานค่ะ มีฉู่ฉี่กุ้ง คนละจาน ของทานเล่นเป็นปอเปี๊ยะทอด และของหวานไอศครีมคนละลูกค่ะ อาหารรสชาติกลางๆ ค่ะ ก็อร่อยดี แต่เราว่าได้น้อยไปหน่อย มีกุ้งแค่ 4 ตัวเอง ไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่ค่ะ (เราเป็นพวกชะนีกินเก่ง😆)

13.30 พอดีห้องว่าง ทาง จนท.ก็เชิญเข้าห้องพักค่ะ กระเป๋าสัมภาระ ทาง จนท. จะขนไปให้ค่ะ
ระหว่างทางเดินไปห้องพัก วิวก็จะสวยๆ แบบนี้แหละค่ะ เพราะว่าช่วงเวลานี้น้ำยังไม่ขึ้น ต้องรอสายๆ แล้วแต่วันด้วยนะคะ

เย้ถึงห้องพักแล้วมาดูบรรยากาศกันค่ะ - ต้องบอกเลยว่าชอบมาก เพราะสิ่งสำคัญคือห้องพักสะอาดค่ะ และยังดูใหม่ด้วย เราเลือกโซน L ค่ะ ได้ห้อง 6 ต้องบอกว่าโซน L ห้อง 5 กับ 6 วิวดีสุดถ้าเทียบกับโซน L อื่นๆ ค่ะ แต่ถ้าเป็นโซน R จะมีบันไดขึ้นลงน้ำได้ ราคาจะแพงกว่าห้องละประมาณ 500-1000
มาดูห้องพักกันเลย จะมองเห็นวิวห้องพัก Villa lagoon เป็นห้องพักสองชั้นค่ะ ข้างบนก็เป็นที่นั่งเล่น ชมวิว ราคาเท่ากันค่ะ แต่เราอยากได้ห้องที่เป็นแบบในน้ำมากกว่า

หลังจากเก็บสัมภาระ ถ่ายรูปเล่น ก็พีกผ่อนกันสักพัก ช่วงเย็นๆ ก็ออกมาถ่ายรูปสวยๆ รอทางรีสอร์พาไปเที่ยวอ่าวเขาควาย 17.00 น.
บรรยากาศรอบๆ รีสอร์ทนะคะ

ถึงเวลาไปเที่ยวอ่าวเขาควายค่ะ มีหินทะลุด้วยค่ะ ที่นี่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกค่ะ

หลังจากไปอ่าวเขาควาย ก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี มือเย็นเค้าจัดให้มาเป็นเซ็ตค่ะ
เช่นเดิม รสชาติอาหารก็กลางๆ ค่ะสำหรับมื้อนี้

ช่วงที่เราไปอากาศดีมากค่ะ ลมเย็น กลางคืนก็อากาศเย็นด้วยค่ะ หลังจากทานเสร็จก็กลับไปพักผ่อนค่ะ
นอนหลับสบายมากๆ เตียงนุ่มมากๆ ...... ฝันดีเจอกันใหม่พรุ่งนี้ค่ะ😆

เช้าแล้วตื่นล้างหน้าล้างตา อาบน้ำเรียบร้อย ไปทานมื้อเช้าค่ะ ที่นี่มื้อเช้าเวลา 07.30 - 09.00 น.
ไลน์อาหารมีไม่เยอะค่ะ สำหรับเราถือว่าน้อยค่ะ เมื่อเทียบกับหลายๆที่ๆไปมา และเทียบกับราคาที่พัก แต่ก็เข้าใจค่ะ เพราะที่นี่ห้องพักไม่ได้เยอะมาก การจัดการบริหารที่นี่ค่อนข้างดีค่ะ ดูจากเรื่องเวลา เรื่องอาหารต่างๆ อย่างมื้อเช้าจะค่อยๆเติมมีละนิด เพื่อไม่ให้อาหารเหลือ อันไหนหมดก็ค่อยเติม
หลักๆ ก็มีไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ข้าวผัด ข้าวต้ม สลัด ขนมปัง ชา/กาแฟ/น้ำส้ม/นม ผลไม้ 2 อย่าง เท่านี้ค่ะ

หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ ก็ไปทำกิจกรรม ปั่นจักรยานไปวัดเกาะพยาม พายเรือเล่นที่รีสอร์ท หรีไม่มี คชจ.ค่ะ แต่ถ้าใครจะเช่ามอเตอร์ไซต์ วันละ 250 รวมน้ำมีนแล้วค่ะ บนเกาะพยามสำหรับเราไม่ค่อยมีอะไรค่ะ เหมือนที่นี่เป็นหมู่บ้านทั่วไป หาดกับรีสอร์ทบนเกาะเราว่าที่ bluesky ดีสุดแล้วค่ะ

หลังจากกลับมาจากทำกิจกรรม ก็ถึงช่วงเวลาน้ำขึ้นพอดี ต้องบอกเลยว่าวิวสวยมากค่ะ อากาศก็ดีเช่นกัน ช่วงที่มาไม่เจอฝนเลยค่ะ