กลับมารีวิวอีกครั้งต่อจากตอนที่ 3 พอดีช่วงนี้ว่าง ๆ และเห็นว่าช่วงนี้กระทู้รีวิวเที่ยวเวียดนามเริ่มหายไปจากห้องบลูเพลนเนต สำหรับกระทู้นี้จะเป็นการท่องเที่ยวฉบับตะลุยเดี่ยวในทริปเวียดนามใต้ของผมเป็นวันที่ 7 - 8 โดยเที่ยวเก็บตกสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองดาลัดที่ยังไม่ได้ไปชมใน 2 วันที่ผ่านมา และต่อด้วยการเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของเมืองมุยเน่นะครับ
ดังนั้น ใครสนใจอยากไปเที่ยวเมืองดาลัดและมุยเน่ก็สามารถเก็บเกี่ยวข้อมูลจากกระทู้ที่ผมเขียนเพื่อใช้วางแผนเที่ยวก็ได้นะครับ ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำในการท่องเที่ยวคนเดียวในประเทศเวียดนาม ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับทริปตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเวียดนามใต้ 9 วันของผมก่อนนะครับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - โฮจิมินห์ และเที่ยวชมอาคารสำคัญต่าง ๆ ภายในเมืองยามค่ำคืน
วันที่ 2 : นั่งเครื่องบินไปญาจาง เที่ยวชมปราสาทโพนคร และชมเมืองญาจางยามค่ำคืน
วันที่ 3 : เที่ยวชมกลุ่มปราสาทจามที่ฟันรังทับจาม และทะเลทรายขาวแห่งฟันรัง
วันที่ 4 : เที่ยวเก็บตกภายในเมืองญาจาง และเที่ยวชมเมืองดาลัตยามค่ำคืน
วันที่ 5 : เที่ยวชมกลุ่มน้ำตกตอนใต้ของเมืองดาลัด
วันที่ 6 : เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองดาลัด พวกสวนดอกไม้และโบสถ์คริสต์ และน้ำตกช้าง
วันที่ 7 : เที่ยวเก็บตกภายในเมืองดาลัด และเดินทางไปเมืองมุยเน่
วันที่ 8 : เล่นน้ำชายหาดเมืองมุยเน่ และเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ของเมืองมุยเน่
วันที่ 9 : เดินเที่ยวชมเมืองโฮจิมินห์ครึ่งวัน และเดินทางกลับกรุงเทพฯ
วันที่ 7 : เที่ยวเก็บตกภายในเมืองดาลัด และเดินทางไปเมืองมุยเน่
วันนี้ออกจากโรงแรมที่พักแต่เช้าขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปชมโบสถ์สีชมพูที่อยู่ใกล้ ๆ โรงแรม โบสถ์หลังนี้ตั้งอยู่บนเนินเขามีชื่อว่า
"โบสถ์โดเมน เดอ มารี (Nha tho Domaine de Marie)"
โบสถ์หลังนี้สีชมพูหวานแหวว มาถ่ายรูปโบสถ์ยามเช้าดีไปอย่างไม่ค่อยเจอนักท่องเที่ยวมากนัก ทำให้ถ่ายรูปมาจึงไม่ติดคน โบสถ์หลังนี้เราสามารถเข้าไปชมภายในโบสถ์ได้นะครับ เดินชมโบสถ์ได้สักครู่พอก็ขี่รถไปเที่ยวสถานที่ต่อไปนั่นคือ
"วัดลิญกวง (Chua Linh Quang)"
วัดนี้ตั้งอยู่ไปไกลจากโบสถ์สีชมพูหลังเมื่อกี้มากนัก ขี่รถแป๊บ ๆ ก็ถึงแล้ว พอมาถึงวัดเดินขึ้นบันไดไปเราก็จะได้เห็นถึงความสวยงามของวัด วัดนี้ดูบรรยากาศสงบ ๆ ภายในวัดเปิดบทสวดมนต์บูชาพระโพธิสัตว์ด้วยเสียงเบา ๆ คลออยู่ตลอดเวลา แต่ตอนผมไปชมวัดกลับไม่พบเจอใครเลย บรรยากาศจึงดูสงบเงียบจริง ๆ
บริเวณลานด้านซ้ายของวัดมีรูปปั้นมังกรตัวใหญ่หลากสีตกแต่งอยู่ และมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมประทับยืนเด่นสง่าซึ่งสามารถมองเห็นได้แต่ไกล
ถัดมาภายในวัดจะประดิษฐานพระพุทธรูปสีทอง ด้านหน้าพระพุทธรูปสีทองมีรูปพระพุทธเจ้าองค์เล็ก 5 องค์นั่นคงหมายถึง พระอาทิพระพุทธเจ้า 5 องค์ของศาสนาพุทธนิกายมหายาน
ชื่นชมวัดนี้ได้สักพัก ผมก็ขี่รถไปชมวัดที่อยู่ใกล้ ๆ กันอีกวัด แต่วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาต้องขี่รถเข้าไปในตรอกของชุมชน วัดนี้มีชื่อว่า
"วัดเลียนตริ (Chua Lien Tri)"
วัดนี้มีกำแพงปูนปั้นสีเทาอยู่ด้านหน้าวัด ตัววัดมีอาคารหลังไม่ใหญ่มาก แต่ลานวัดด้านในมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่สีขาวประดิษฐานอยู่
ภายในอาคารของวัดมีรูปเคารพพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ประดับนั่งบนดอกบัวซึ่งก็คือ พระตรีกายในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ด้านหน้ามีรูปเคารพสีทองรูปเจ้าแม่กวนอิมพันมืออยู่ด้วย
ต่อมาผมขี่รถไปชมน้ำตกดาลันดา จริง ๆ แล้ว ผมได้เคยขี่รถผ่านทางเข้าน้ำตกดาลันดามาตั้งแต่วันที่ไปเที่ยวน้ำตกเพิร์นแล้ว แต่ไม่ได้แวะเข้าไปชมเพราะเห็นว่าที่ลานจอดรถหนาแน่นไปด้วยรถมากมาย นักท่องเที่ยวคงเยอะเลยขี้เกียจไปยืนเบียดตอนถ่ายรูปน้ำตก
น้ำตกดาลันดา เป็นน้ำตกยอดฮิตอีกแห่งของผู้ที่มาเยือนเมืองดาลัดไม่ควรพลาดชม ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มายังน้ำตกนี้มักจะลงไปชมน้ำตกด้วยการเล่นเครื่องเล่นโรคอสเตอร์ แต่ผมเห็นเค้าต่อคิวที่จะนั่งรถกันยาว สงสัยท่าจะนานผมเลยเดินลงไปบันไดไปชมน้ำตกดีกว่า ซึ่งระยะทางลงไปน้ำตกนั้นก็ไม่ไกลอะไรมากนัก
ป้อมที่ขายบัตรเข้าชมน้ำตกดาลันดา ค่าเข้าชมน้ำตกอยู่ที่ราคา 30,000 ด่อง หรือ 44.10 บาท
ที่จำหน่ายตั๋วเล่นรถโรคอสเตอร์ลงไปชมน้ำตก มีขาทั้งชนิดไปขาเดียว หรือจะซื้อแบบไป-กลับก็ได้
ภาพน้ำตกดาลันดา ช่วงที่ผมไปก็ถือว่าน้ำตกแรงพอตัว เพราะเป็นช่วงปลายฝนพอดี
บริเวณน้ำตกยังมีบริการดึงนักท่องเที่ยวออกจากกระเป๋า ด้วยการให้บริการนั่งกระเช้าชมวิวน้ำตก แต่บริการนี้ต้องเสียเงินนะครับ ไม่ได้ฟรี
ตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเวียดนามใต้ ตอนที่ 4
กลับมารีวิวอีกครั้งต่อจากตอนที่ 3 พอดีช่วงนี้ว่าง ๆ และเห็นว่าช่วงนี้กระทู้รีวิวเที่ยวเวียดนามเริ่มหายไปจากห้องบลูเพลนเนต สำหรับกระทู้นี้จะเป็นการท่องเที่ยวฉบับตะลุยเดี่ยวในทริปเวียดนามใต้ของผมเป็นวันที่ 7 - 8 โดยเที่ยวเก็บตกสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองดาลัดที่ยังไม่ได้ไปชมใน 2 วันที่ผ่านมา และต่อด้วยการเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของเมืองมุยเน่นะครับ
ดังนั้น ใครสนใจอยากไปเที่ยวเมืองดาลัดและมุยเน่ก็สามารถเก็บเกี่ยวข้อมูลจากกระทู้ที่ผมเขียนเพื่อใช้วางแผนเที่ยวก็ได้นะครับ ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำในการท่องเที่ยวคนเดียวในประเทศเวียดนาม ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับทริปตะลุยเดี่ยวขี่รถเที่ยวดะเวียดนามใต้ 9 วันของผมก่อนนะครับ
วันแรก : เดินทางจากกรุงเทพฯ - โฮจิมินห์ และเที่ยวชมอาคารสำคัญต่าง ๆ ภายในเมืองยามค่ำคืน
วันที่ 2 : นั่งเครื่องบินไปญาจาง เที่ยวชมปราสาทโพนคร และชมเมืองญาจางยามค่ำคืน
วันที่ 3 : เที่ยวชมกลุ่มปราสาทจามที่ฟันรังทับจาม และทะเลทรายขาวแห่งฟันรัง
วันที่ 4 : เที่ยวเก็บตกภายในเมืองญาจาง และเที่ยวชมเมืองดาลัตยามค่ำคืน
วันที่ 5 : เที่ยวชมกลุ่มน้ำตกตอนใต้ของเมืองดาลัด
วันที่ 6 : เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองดาลัด พวกสวนดอกไม้และโบสถ์คริสต์ และน้ำตกช้าง
วันที่ 7 : เที่ยวเก็บตกภายในเมืองดาลัด และเดินทางไปเมืองมุยเน่
วันที่ 8 : เล่นน้ำชายหาดเมืองมุยเน่ และเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ของเมืองมุยเน่
วันที่ 9 : เดินเที่ยวชมเมืองโฮจิมินห์ครึ่งวัน และเดินทางกลับกรุงเทพฯ
วันที่ 7 : เที่ยวเก็บตกภายในเมืองดาลัด และเดินทางไปเมืองมุยเน่
วันนี้ออกจากโรงแรมที่พักแต่เช้าขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปชมโบสถ์สีชมพูที่อยู่ใกล้ ๆ โรงแรม โบสถ์หลังนี้ตั้งอยู่บนเนินเขามีชื่อว่า "โบสถ์โดเมน เดอ มารี (Nha tho Domaine de Marie)"
โบสถ์หลังนี้สีชมพูหวานแหวว มาถ่ายรูปโบสถ์ยามเช้าดีไปอย่างไม่ค่อยเจอนักท่องเที่ยวมากนัก ทำให้ถ่ายรูปมาจึงไม่ติดคน โบสถ์หลังนี้เราสามารถเข้าไปชมภายในโบสถ์ได้นะครับ เดินชมโบสถ์ได้สักครู่พอก็ขี่รถไปเที่ยวสถานที่ต่อไปนั่นคือ "วัดลิญกวง (Chua Linh Quang)"
วัดนี้ตั้งอยู่ไปไกลจากโบสถ์สีชมพูหลังเมื่อกี้มากนัก ขี่รถแป๊บ ๆ ก็ถึงแล้ว พอมาถึงวัดเดินขึ้นบันไดไปเราก็จะได้เห็นถึงความสวยงามของวัด วัดนี้ดูบรรยากาศสงบ ๆ ภายในวัดเปิดบทสวดมนต์บูชาพระโพธิสัตว์ด้วยเสียงเบา ๆ คลออยู่ตลอดเวลา แต่ตอนผมไปชมวัดกลับไม่พบเจอใครเลย บรรยากาศจึงดูสงบเงียบจริง ๆ
บริเวณลานด้านซ้ายของวัดมีรูปปั้นมังกรตัวใหญ่หลากสีตกแต่งอยู่ และมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมประทับยืนเด่นสง่าซึ่งสามารถมองเห็นได้แต่ไกล
ถัดมาภายในวัดจะประดิษฐานพระพุทธรูปสีทอง ด้านหน้าพระพุทธรูปสีทองมีรูปพระพุทธเจ้าองค์เล็ก 5 องค์นั่นคงหมายถึง พระอาทิพระพุทธเจ้า 5 องค์ของศาสนาพุทธนิกายมหายาน
ชื่นชมวัดนี้ได้สักพัก ผมก็ขี่รถไปชมวัดที่อยู่ใกล้ ๆ กันอีกวัด แต่วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาต้องขี่รถเข้าไปในตรอกของชุมชน วัดนี้มีชื่อว่า "วัดเลียนตริ (Chua Lien Tri)"
วัดนี้มีกำแพงปูนปั้นสีเทาอยู่ด้านหน้าวัด ตัววัดมีอาคารหลังไม่ใหญ่มาก แต่ลานวัดด้านในมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่สีขาวประดิษฐานอยู่
ภายในอาคารของวัดมีรูปเคารพพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ประดับนั่งบนดอกบัวซึ่งก็คือ พระตรีกายในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ด้านหน้ามีรูปเคารพสีทองรูปเจ้าแม่กวนอิมพันมืออยู่ด้วย
ต่อมาผมขี่รถไปชมน้ำตกดาลันดา จริง ๆ แล้ว ผมได้เคยขี่รถผ่านทางเข้าน้ำตกดาลันดามาตั้งแต่วันที่ไปเที่ยวน้ำตกเพิร์นแล้ว แต่ไม่ได้แวะเข้าไปชมเพราะเห็นว่าที่ลานจอดรถหนาแน่นไปด้วยรถมากมาย นักท่องเที่ยวคงเยอะเลยขี้เกียจไปยืนเบียดตอนถ่ายรูปน้ำตก
น้ำตกดาลันดา เป็นน้ำตกยอดฮิตอีกแห่งของผู้ที่มาเยือนเมืองดาลัดไม่ควรพลาดชม ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มายังน้ำตกนี้มักจะลงไปชมน้ำตกด้วยการเล่นเครื่องเล่นโรคอสเตอร์ แต่ผมเห็นเค้าต่อคิวที่จะนั่งรถกันยาว สงสัยท่าจะนานผมเลยเดินลงไปบันไดไปชมน้ำตกดีกว่า ซึ่งระยะทางลงไปน้ำตกนั้นก็ไม่ไกลอะไรมากนัก
ป้อมที่ขายบัตรเข้าชมน้ำตกดาลันดา ค่าเข้าชมน้ำตกอยู่ที่ราคา 30,000 ด่อง หรือ 44.10 บาท
ที่จำหน่ายตั๋วเล่นรถโรคอสเตอร์ลงไปชมน้ำตก มีขาทั้งชนิดไปขาเดียว หรือจะซื้อแบบไป-กลับก็ได้
ภาพน้ำตกดาลันดา ช่วงที่ผมไปก็ถือว่าน้ำตกแรงพอตัว เพราะเป็นช่วงปลายฝนพอดี
บริเวณน้ำตกยังมีบริการดึงนักท่องเที่ยวออกจากกระเป๋า ด้วยการให้บริการนั่งกระเช้าชมวิวน้ำตก แต่บริการนี้ต้องเสียเงินนะครับ ไม่ได้ฟรี