ถูกแบงก์สีเขียวแจ้งเรทดอกเบี้ยบ้านมือสองผิด โดนยึดเงินมัดจำฟรี เคยเจอกันบ้างมั้ยคะ

สวัสดีค่ะ ปกติเป็นคนชอบเข้ามาหาความรู้ในห้องพันทิปเป็นประจำอยู่แล้วไม่ว่าจะทำอะไรส่วนใหญ่ก่อนตัดสินใจจะมาศึกษาหาข้อมูลจากในห้องพันทิปก่อนเสมอ ตอนนี้มีโอกาสได้เจอเรื่องเกี่ยวกับการกู้แบงก์แล้วทางเจ้าหน้าที่แจ้งเรทดอกเบี้ยผิด จึงอยากมาแชร์เหตุการณ์ให้ทุกคนได้ให้คำแนะนำค่ะ

                ดิฉันเป็นวัยทำงานอายุ20 ตอนปลายนะคะ เริ่มทำงานมาหลายปีแล้ว มีความใฝ่ฝันว่าจะทำงานไปด้วยแล้วจะเก็บเงินหาดาวน์บ้านมือสอง
ไว้อยู่กับครอบครัวค่ะ หลังจากเข้าเว็บไซต์ที่มีตัวแทนประกาศขายบ้านมาหลายปีดีดัก ล่าสุดเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา (สิงหาคา 2561) ก็ได้ไปเจอ
อาคารพาณิชย์มือสอง แถวย่านสุขสวัสดิ์ซอยต้นๆ ประกอบกับดิฉันทำงานแถวช่วงสีลมเลยคิดว่าสะดวกต่อการเดินทางไปทำงานและเดินทางไปหาญาติๆที่อาศัยอยู่ละแวกสุขสวัสดิ์อยู่แล้ว
               ก่อนหน้านี้หลังจากไปดูบ้านมือหนึ่งมือสองมาหลายๆ ที่ รวมทั้งคอนโดที่ผุดขึ้นมามากมายหลังจากเปรียบเทียบราคาบ้าน กำลังการผ่อนแต่ละเดือน ก้อเลยคิดว่าราคาอาคารพาณิชย์ 4.5 ชั้นที่จะตัดสินใจซื้อถือว่าราคาไม่แพง (ราคาประกาศขายในเว็บ2ล้านต้นๆ ต่อคนขายได้เหลือ1.9 ล้าน)
เมื่อมั่นใจแล้วก็เลยเข้าไปขอทางเจ้าของบ้านดูสภาพภายในบ้าน ซึ่งทางเจ้าของบ้านให้ติดต่อทางตัวแทน (บริษัทตัวแทนเป็นรูปบอลลูน สามสี)
ซึ่งหลังจากติดต่อทางตัวแทนแล้ว ดิฉันเกิดความไม่แน่ใจว่าจะกู้ผ่านหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยลองยื่นกู้แบงก์ดูเลย อีกทั้งทางตัวแทนแจ้งว่าจะต้องมีการทำสัญญาจะซื้อจะขายกับทางผู้ขาย หากกู้ไม่ผ่านจะไม่สามารถคืนเงินมัดจำได้ ด้วยความสนใจจึงลองปรึกษาตัวแทนและทางตัวแทนก็ส่งเจ้าหน้าที่แบงก์มาให้พิจารณาเรื่อยๆ  แต่เนื่องด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ดิฉันจะซื้อเป็นอาคารพาณิชย์เพื่อที่อยู่อาศัยและมือสอง จึงทำให้ราคาเรทดอกเบี้ยค่อนข้างสูง
ตอนนั้นเลยคิดว่าจะถอดใจไม่ทำเรื่องกู้ต่อเพราะเห็นดอกเบี้ยที่สูงไปถึง 5-6 % ต่อปี และการ re-finance ก็ค่อนข้างลำบาก เพราะแบงก์ส่วนใหญ่ไม่รับรีไฟแนนซ์ อาคารพาณิชย์สักเท่าไหร่ สักพักทางตัวแทนส่งcontact Line เจ้าหน้าที่แบงก์สีเขียวมาให้คุย
โดยทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าตอนนี้มีงาน Home Expo ที่ทางธนาคารสามารถหาเรทดอกเบี้ยพิเศษมาใช้ดูแลลูกค้าได้ หลังจากที่ได้รับเรทดอกเบี้ยแล้วเห็นว่ามีความใกล้เคียงกับเรทบ้านมือหนึ่งจึงถามเพื่อความชัวร์ว่าเรทนี้แน่หรอคะ ทางแบงก์ก็ยืนยันกลับมา เลยตัดสินใจทำส่งเอกสารขออนุมัติก่อนทำสัญญากับผู้ขาย ตลอดเวลาที่ส่งเรื่องกู้แบงก์เจ้าหน้าที่คนนี้จะมีปัญหาตลอดเวลาเดี๋ยวแจ้งเรทอัคคีภัยผิดบ้าง แจ้งเรทเบี้ยประกัน MRTA ผิดบ้าง ด้วยความที่ตัวแทนแนะนำมา เลยคิดว่าอะไรที่สามารถอะลุ่มอล่วยได้ก็ไม่เอามาเป็นประเด็นหลังจากเคาะ NCB ไปแล้วทางเบงก์แจ้งว่าต้องปิดบัตรเครดิตหนึ่งใบ ดิฉันก็ไปปิดให้แล้วถามเจ้าหน้าที่แบงก์ว่า ต้องการจดหมายรับรองจากทางบัตรเครดิตหรือไม่ว่าหนี้ดังกล่าวได้ถูกชำระครบถ้วนแล้ว ทางแบงก์สีเขียวแจ้งว่าไม่ต้องเอาแค่หลักฐานการชำระเงินก็พอ หลังจากการกู้แบงก์ผ่านแล้วได้ดอกเบี้ยที่น่าพอใจแล้ว ดิฉันจึงขอให้ทางแบงก์ทำหนังสือรับรองให้ด้วย เพราะในใจตอนนั้นกลัวถูกยึดเงินมัดจำมาก ทางแบงก์ก็ออกให้ค่ะ
(ลืมแจ้งไปนิดนึงนะคะว่าทางแบงก์มีการให้เจ้าหน้าที่มาประเมินราคาบ้าน เสียค่าประเมินไปแล้ว 3,500 บาทถ้วน)


                 หลังจากสบายใจเรื่องการกู้แบงก์แล้ว ก็ได้ให้ทางตัวแทนนัดหมายทางผู้ขายมาทำสัญญาจะซื้อจะขาย โดยทางตัวแทนก็พยายามให้ดิฉันวางเงินมัดจำประมาณ ห้าหมื่นบาทถ้วน โดยให้เหตุผลว่า ทางผู้ขายมีของในบ้านเยอะ ต้องหาที่ไว้สำหรับเก็บของ ดิฉันจึงแจ้งไปว่า ดิฉันสะดวกในการวางเงินมัดจำเพียง 19,000 เท่านั้น ทางตัวแทนก็พยายามขอความเห็นใจให้เทเงินให้ผู้ขายมีกำลังใจที่จะขายหน่อย แต่ไปๆมาๆ ทางผู้ขายก็ยอมรับเงินมัดจำที่ดิฉันเสนอไป หลังจากนั้นก็เข้าไปเซนต์สัญญากันค่ะ (เซนต์สัญญากันในวันที่ 22/กันยายน/2561)

                 ผ่านไป สองอาทิตย์ ทางแบงก์ก็ยังไม่ติดต่อมาให้ไปเซนต์สัญญากู้สักที ดิฉันเลยติดต่อไปทางตัวแทนให้ช่วงเร่งแบงก์ให้หน่อยเพราะสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำไว้ระบุว่าต้องทำสัญญากันที่กรมที่ดินในวันที่ 16/ตุลาคม/2561 ทางตัวแทนก็รับปากว่าจะเร่งให้ หลังจากนั้นไม่กี่วันแบงก์ก็โทรมาแจ้งว่า
"ขอโทษด้วยครับ พอดีว่าตอนแรกที่บอกไม่ต้องเอาหนังสือรับรองการปิดหนี้แล้ว ตอนนี้ต้องใช้แล้วครับ ขอโทษด้วยที่บอกกระชั้นชิด" พอฟังตอนนั้นก็นึกในใจว่า ตอนแรกก็ถามแล้วแต่บอกไม่ต้องใช้ ดิฉันเลยติดต่อหาทางแบงก์เจ้าของบัตรเครดิตซึ่งเจอพนักงานที่ให้บริการดี เลยได้หนังสือภายในวันรุ่งขึ้นทันที หลังจากที่ให้เอกสารต่างๆกับทางแบงก์ไปแล้ว ก็คิดว่าทุกอย่างน่าจะราบรื่นแล้ว แต่ผิดคาดค่ะ ผ่านไปอีกหลายวัน จนดิฉันรู้สึกว่ามันแปลกๆ เลยทักทางเจ้าหน้าที่ไปทางไลน์ว่า ทำไมช้าขนาดนี้ ปกติเวลาจะเข้าไปเซนต์สัญญามันนานขนาดนี้เลยหรอ ทางเจ้าหน้าที่แบงก์ก็โทรมาตามเสต็ปเดิมคือ '' ขอโทษด้วยครับ พอดีมีเรื่องที่ซีเรียสมากเลย คือผมจะบอกว่าผมแจ้งเรทดอกเบี้ยผิด ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็เคยแจ้งลูกค้าผิดไปแล้ว โดนลูกค้าด่าใหญ่เลยครับ แล้วผมก็คิดว่ามันไม่น่าจะมีแล้ว เผอิญมีของคุณอีกเจ้านึงที่ผมแจ้งผิด'' มาถึงตรงนี้บอกเลย ว่าอารมณ์ขึ้นมากมาย รู้ว่าทำเรทดอกเบี้ยผิด ก็ยังคงนิ่ง จนลูกค้าต้องตามว่าอะไรยังไง ถึงจะยอมบอกว่า ผิด แล้วรอจนนาทีสุดท้าย ดิฉันเลยบอกว่างั้นขอให้หัวหน้าคุณมาคุยเถอะ ดิฉันว่าคุยกับเจ้าหน้าที่คนนี้ไม่รู้เรื่องแล้ว หลังจากนั้นดิฉันก็ติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่ที่รู้จักกันอีกแบงก์นึง เค้าให้ข้อมูลว่า ปกติเวลาขออนุมัติเงินกู้มันต้องมีขั้นตอนประมาณ 3 step ทางแบงก์นี้จะหลุดทั้ง 3 step เลยหรอ หลังจากนั้น ดิฉันเลยให้เพื่อนดิฉันโทรไปคุยแทน กับผู้ช่วยหัวหน้าส่วน ตอนแรกๆ ทางแบงก์ก็ขอโทษมาต่างๆนา จะขอลดค่าประกันชีวิตให้ บลาๆๆๆๆ แล้วโทรมาถามว่าแบบนี้ลูกค้าจะโอเครมั้ย ดิฉันก็ตอบกลับไปว่าโอเคร แต่พอหลังจากนั้นก็ผลัดมาเรื่อยๆ อ้างว่าส่งเรื่องอยู่บ้าง รอผู้ใหญ่ approve บ้าง โทรมาเหมือนไม่รู้ว่าดิฉันก็เป็นพนักงานบริษัทเหมือนกัน ต้องทำงาน บางครั้งโทรมาเพราะจำไม่ได้ว่าคุยอะไรบ้าง
                 จนในที่สุดสายสุดท้ายที่ดิฉันคิดว่า คงจะเลิกทำธุรกรรมใดๆ กับแบงก์นี้แล้วก็คือ ทางแบงก์โทรมาแจ้งว่าในขั้นตอนการเซนต์สัญญาเงินกู้นั้นต้องมีผู้ใหญ่เซนต์ทั้งหมด 3 ขา ซึ่งตอนนี้มีผู้ใหญ่เซนต์แค่ขาเดียว อีก 2 ขา ไม่เซนต์ ทางลูกค้าจะสามารถยอมรับเงื่อนไขต่างๆของธนาคารได้ใช่มั้ย
แล้วตอนแรกจะโทรมาขอโทษขอโพย เพื่อ??? พอผลสุดท้าย ก็โทรมาบอกว่าทำไม่ได้ แล้วจะมารับปากทำไมว่าต้องเอาลูกค้าไว้ก่อน

                  หลังจากที่เซนต์สัญญาไม่ทันวันที่ ระบุไว้แล้ว ดิฉันเลยถามตัวแทนว่า สามารถขยับวันได้อีกมั้ย ทางตัวแทนก็น่ารักมากค่ะ บอกว่าคนขายไม่สามารถขยับวันได้แล้ว ถ้าจะต่อสัญญาต้องจ่ายมัดจำเพิ่ม ซึ่งแบงก์นี้เจ้าหน้าที่คนนี้ ทางตัวแทนก็เป็นคนติดต่อมาให้

                  ท้ายที่สุดแล้วหลังจากปรึกษาเพื่อนร่วมงาน ทุกคนก็แนะนำให้ทิ้งเงินมัดจำ 19,000 +  ค่าประเมิน 3,500 ไปดีกว่าต้องมาเสียดอกเบี้ยแพงๆ ความกังวลเวลาคุยกับแบงก์แล้วแจ้งนู่นนี่นั่นผิดบ่อยๆ จนสุขภาพจิตเสียช่วง2-3 เดือนที่ผ่านมา

                   จึงโพสต์ในพันทิปนี้โดยมีวัตถุประสงค์ให้
1. เพื่อนๆพี่ๆน้องๆระมัดระวังในการทำเอกสาร/ติดต่อกับแบงก์ให้รอบคอบ ขนาดดิฉันคิดว่าถามรายละเอียด ย้ำแล้วย้ำอีกแล้วยังเกิดช่องโหว่ให้เสียเงินมัดจำจนได้
2. เพื่อขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์มาแชร์ว่าควรทำอย่างไร ในสถานการณ์ที่ดิฉันเจอแบบนี้
** ปล. เรทดอกเบี้ยที่แจ้งว่าผิด คือ
                                                          จากเดิม       ผ่อน 8800(ดอกเบี้ย 3.4%ทำประกัน) หลังจาก 3 ปี 10800 (MRR-2%) ตลอดสัญญา
                                                          เพิ่มเป็น       ผ่อน 9600(ดอกเบี้ยประมาณเกือบ4% )  หลังจาก 3 ปี (MRR-1%)มีการปรับค่างวดเป็น11,900 ในปีที่ 6 และ 14,300 ในปีที่ 11 ตลอดครบอายุสัญญา 30 ปี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่