เนื่องด้วยดิฉันอยากได้บ้านแถวพุทธมณฑลสาย 2 ราคา 3,100,000 บาท ได้ยื่นกู้สินเชื่อบ้านกับทางธนาคาร 4 ที่แต่ไม่ผ่าน จึงหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตวันที่ 16 ส.ค 2558 ว่า “ทำไมถึงกู้ไม่ผ่าน” ทำให้เจอข้อความ “ใครกู้ไม่ผ่าน รายได้น้อย เป็นพ่อค้าแม่ค้าไม่มีสลิป สเตทเม้นไม่สวย ยินดีดำเนินการให้ค่ะ มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี สนใจสอบถามได้ค่ะ (เบอร์โทร) คุณหนูนิวค่ะ” จึงได้ลองโทรไปสอบถามและได้คุยกันทางไลน์ นัดเจอกันในวันที่ 18 ส.ค.58 ระหว่างกำลังเดินทางไปคุณนิวโทรมาบอกให้ดิฉันไปเอาใบสมัครสินเชื่อบ้านที่ธนาคารแห่งหนึ่งที่ห้างแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ให้ด้วยเพราะทางตนมีแต่เป็นฉบับเก่าแล้ว ดิฉันกับแฟนจึงรีบไปจัดการและมากรอกใบสมัครที่บ้านคุณนิว วันที่ 18 ส.ค 2558 ที่หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ ซึ่งบังเอิญว่าบ้านอยู่ในละแวกใกล้เคียงกันและได้พูดคุยกับคุณนิว เบื้องต้นว่าสามารถยื่นกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารแห่งหนึ่งได้ 100% เพราะตนได้บ้านหลังนี้มาจากทีมงานแบบนี้เหมือนกันและสามารถทำให้ลูกค้าอื่นกู้ผ่านมานับ 10 รายแล้ว ทราบผลภายใน 20 วันนับจากวันจ่ายเงินมัดจำ เสียค่าบริการ 4% จากยอดวงเงินกู้ และจะต้องมัดจำ 1% ในการเตรียมเอกสารและแจ้งดิฉันว่ายอดกู้น่าจะได้ประมาณ 3,895,000 บาท ยอดมัดจำอยู่ที่ 38,950 บาท คุณนิว ได้ให้สำเนาบัตรประชาชนของเขาและมีการเซ็นต์รับรองสำเนาว่าใช้สำหรับเป็นตัวแทนยื่นแบงค์เรื่องบ้านและลงรายละเอียดว่ารับเงินมัดจำจากดิฉัน 38,950 บาท ดิฉันจึงได้โอนเงินทางอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งไปยัง ธ.สีม่วง เลขที่บัญชี 007-2-38436-7 ชื่อบัญชี คุณนิว หลังจากโอนเงินมัดจำเรียบร้อยแล้วทางคุณนิว แจ้งว่าจะมีการโชว์เงินสดให้กับทางผู้จัดการสาขาและผู้จัดการภาคของธนาคาร แค่ 1 วันแล้วจะรีบโอนคืนกลับมาให้กับดิฉันทันที
ทางทีมงานได้ติดต่อมาชื่อคุณจิ ได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อบ้านของธ. แต่ไม่ยอมบอกว่าอยู่สาขาไหน จนกว่าลูกค้าจะได้เซ็นต์สัญญากู้บ้านกัน ดิฉันจึงได้หลงเชื่อและยังได้บอกดิฉันว่ามีเคสที่ลูกค้าไม่เอา วงเงินกู้ใกล้เคียงกับดิฉัน และจะช่วยให้วงเงินกู้กับดิฉันสูงขึ้นเป็น 4,100,000 บาท เขาจะทำเรื่องให้เร็วขึ้นเพียง 7 วันแต่ต้องทำตามที่เขาบอกคือการโชว์เงินสด 410,000 บาท ให้ทางผู้จัดการสาขาและผู้จัดการภาคเขาดูศักยภาพของลูกค้าว่ามีกำลังที่จะผ่อนบ้านหลังได้รับการเซ็นอนุมัติแล้ว
วันที่ 19 ส.ค 2558 ทางคุณจิโทรมาเร่งให้ดิฉันรีบโอนเงินเพื่อใช้โชว์ไปเร็วๆ เพราะผู้จัดการสาขาและผู้จัดการภาคอยู่พอดี จะได้โชว์และรีบโอนเงินคืนกันเร็วๆ ดิฉันรู้สึกกลัวจะโดนหลอกจึงรีบไปพบคุณนิวที่บ้านเพื่อสอบถามว่าคุณไม่ได้หลอกลวงกันใช่ไหม ทางคุณนิวบอกว่าเขาไม่มีหลอกแน่นอน ถ้าจะหลอกไม่ให้มาพบที่บ้านหรอกและให้สำเนาบัตรประชาชนมาอย่างนี้และยังบอกว่าวิธีการกู้ตรงนี้เป็นวิธีการที่พิเศษดังนั้นเงื่อนไขอาจจะไม่ได้เป็นไปตามปกติอย่างที่คุณไปยื่นกู้แล้วไม่ผ่านให้เชื่อใจเขา และยืนยันว่าโชว์แค่วันเดียวก็ได้คืน บอกเงินที่เราโอนมาเขาจะเป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมด ดิฉันบอกเขาว่าดิฉันมีเงินไม่เยอะ เขาบอกขาดเท่าไรเขาและคุณจิจะหาช่วย ดิฉันจึงโอนเงินทางอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งเข้าบัญชีคุณนิวเหมือนเดิม จำนวนเงิน 100,000 บาท และก็แยกย้ายกันเพราะเขาบอกว่าจะรีบไปธนาคารเพื่อโอนเงินให้คุณจิ ประมาณบ่าย 2 คุณนิวโทรมาบอกเงินยังไม่ครบขาดอีก 30,000 บาท และให้ดิฉันหาอีกเพื่อจะได้จบเร็วๆ ดิฉันจึงได้ให้แฟนโอนเพิ่มเข้ามา 30,000 บาทจากตู้เอทีเอ็มไปยังบัญชีของคุณนิว และเขาก็บอกว่าจะรีบไปกดให้ทีมงาน ระหว่างนั้นดิฉันก็ตามทวงเงินตลอดระยะ พอตอนเย็นประมาณ 18.30 น.ทางคุณนิวก็โอนเงินมาคืน และทางคุณจิโทรมาบอกว่าผู้จัดการไม่เซ็นให้เพราะยอดเงินไม่พอต้องโชว์ใหม่พรุ่งนี้ พอได้เงินคืนทำให้ดิฉันรู้สึกวางใจทีมงานมากขึ้นไม่คิดว่าจะเป็นหลุมพรางของมิจฉาชีพ
วันที่ 20 ส.ค 2558 ทางคุณจิให้ดิฉันหาเงินเพิ่มอ้างว่ายอดเงินไม่พอดิฉันโอนเงินเข้าบัญชีคุณนิว 240,000 บาท และช่วงบ่ายเอาเงินสดไปให้คุณนิวที่ห้างแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่อีก 15,000 บาท ทางทีมงานบอกจะช่วยหาเงินเพิ่มเพื่อที่จะให้ได้ยอดเงิน 410,000 บาท แต่หาไม่ทันจึงได้เลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้อีก แต่ไม่ได้มีการโอนเงินกลับมา
วันที่ 21 ส.ค 2558 ทางทีมงานรีบโชว์เงินแล้วทางคุณจิโทรมาบอกดิฉันว่าผู้การเซ็นต์แล้ว และบอกจะต้องโชว์เงินประกันด้วยยอด 450,000 บาท ทางคุณจิและคุณนิวบอกถ้าไม่มีเงินประกัน 450,000 บาทโชว์คือจะกู้ไม่ผ่าน ต้องให้ดิฉันหาเงินเพิ่ม ดิฉันจึงเอาทองไปเข้าโรงจำนำและนำเงินสดไปให้คุณนิว ที่ห้างแห่งหนึ่งแถว บางใหญ่ จำนวน 40,000 บาท พอเวลา 2 ทุ่มคุณนิวแจ้งว่าเงินยังไม่ครบต้องเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้
วันที่ 22 ส.ค 2558 ดิฉันนำทองไปเข้าโรงจำนำและนำเงินสดโอนไปให้คุณนิว ยอดเงิน 65,000 บาท รวมยอดทั้งหมดที่โอนไป 360,000 บาท หลังจากทางทีมงานแจ้งว่าโชว์เรียบร้อย คุณนิวแจ้งว่าทางทีมงานไม่สามารถคืนเป็นเงินสดกลับมาได้ ต้องออกเป็นเช็คจากทางธนาคารเท่านั้น แต่ดิฉันแจ้งกลับไปว่าไม่รับเช็คต้องการคืนเป็นเงินสดเท่านั้น แต่ทางคุณนิวแอบเอาเช็คไปเข้าให้โดยที่ดิฉันไม่ได้รับเช็คและเห็นเช็คดังกล่าวเลย (จนความมาแตกวันที่ 27 ส.ค.58 เช็คคืน)
วันที่ 24 ส.ค 2558 คุณนิวบอกธนาคารจะโทรมาสัมภาษ และก็มีโทรมา ชื่อคุณอ้อม ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์สินเชื่อและเป็นหัวหน้าของคุณจิอีกที และบอกต้องโชว์เงิน 1,000,000 บาท ไม่อย่างนั้นที่ทำมาทั้งหมดจะไม่ผ่าน แต่ทางดิฉันแจ้งไปว่าไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้นและเงินก็อยู่ที่พวกคุณเพราะเรายังไม่ได้รับเงินคืนจากทีมคุณสักบาท แต่ทางคุณนิวก็หว่านล้อมว่าจะช่วยกันหาเงินให้ครบจนได้ ดิฉันกับแฟนเลยโอนเพิ่มไปอีก 60,000 บาท
วันที่ 25 ส.ค 2558 ดิฉันรวบรวมเงินโอนเงินเพิ่มอีก 55,000 บาทไปบัญชีคุณนิว และแฟนดิฉันได้โอนเงินของเขาไปยังบัญชีคุณนิว เพิ่มอีกเป็นจำนวนเงิน 99,000 บาท แต่ก็ยังไม่ถึงยอด 1,000,000 บาท ทีมงานแจ้งว่าจึงต้องเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้
วันที่ 26 ส.ค 2558 คุณนิวอ้างว่ากำลังหารวบรวมเงินช่วยให้ครบยอด 1,000,000 บาท
วันที่ 27 ส.ค 2558 ดิฉันโอนไปเพิ่ม 15,000 บาท และดิฉันแจ้งคุณนิวทางไลน์ว่าขอรับเงินคืนเป็นเงินสดเท่านั้นไม่รับเช็คใดๆทั้งสิ้น และทางคุณนิวแจ้งว่าได้ช่วยหาเงินในส่วนที่ขาดไปครบยอด 1,000,000 บาทเรียบร้อยแล้วทำให้สามารถดำเนินการต่อได้ แต่เวลา 17.00 น.มีเจ้าหน้าที่จากธนาคารสีเขียว ซึ่งเป็นธนาคารสาขาที่ดิฉันไปเปิดบัญชีโทรมาแจ้งดิฉันว่ามีเช็คคืน 1 ฉบับ ให้ดิฉันรีบไปรับ ดิฉันจึงรีบเดินทางไปดูทันที ปรากฎว่าเป็นเช็ค 360,000 บาทที่เข้าไว้ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2558 ของคุณนิว ธนาคารให้เหตุผลว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่ายให้รีบติดต่อผู้สั่งจ่ายเช็ค ดิฉันจึงโทรไปหาคุณนิวเพื่อขอยกเลิกสัญญาและขอเงินของดิฉันคืนทั้งหมดยอด 589,000 บาท แต่ทางคุณนิวและทีมงานก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่าจะได้รับเงินคืนก็ต่อเมื่อเซ็นสัญญาสินเชื่อบ้านเสร็จเรียบร้อยเท่านั้น ดิฉันจึงเริ่มโวยวายและขู่ว่าจะแจ้งความไหนตกลงว่าโชว์เงินแค่วันเดียวแล้วครั้งเดียวแต่นี่กลับกลายเป็น 3-4 ครั้งแล้วก็ยังไม่คืนเงินด้วย แต่ทางคุณนิวและคุณจิพูดจาหว่านล้อมว่าถ้าเขาเป็นมิจฉาชีพจริงได้เงินไปขนาดนี้ เขาคงปิดเครื่องหนีและเลิกติดต่อกับดิฉันแล้ว แต่นี่ยังสามารถติดต่อพูดคุยสอบถามความคืบหน้าเรื่องสัญญาได้ตลอดเวลาจึงทำให้ดิฉันรู้สึกก้ำกึ่งว่าน่าจะไม่โดนหลอก พอดิฉันถามถึงกำหนดสัญญาเสร็จเมื่อไร ก็บ่ายเบี่ยงเลื่อนวันเซ็นสัญญาไปเรื่อยๆ
ดิฉันได้ทวงถามเรื่องเงินกับคุณนิวกับทีมงานได้บอกว่าเงินก้อนได้แบ่งกระจายกันไปเรียบร้อยแล้ว คืนได้แต่ต้องทยอยคืนให้ซึ่งดิฉันก็ตกใจมากและรู้สึกไม่ไว้ใจมากขึ้นแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอสัญญาให้เสร็จไวๆ และอ้อนวอนขอเงินคืน
วันที่ 10 ก.ย 2558 คุณนิวแจ้งมาว่าตนเองได้ออกค่าประเมินบ้าน 27 ส.ค 2558 ไปเป็นจำนวนเงิน 5,700 บาท จึงมาทวงดิฉัน บอกค่าประเมินดิฉันต้องเป็นคนจ่ายแต่ตนจ่ายไปให้ก่อนแล้วแต่ดิฉันก็ได้ขอให้ถ่ายรูปใบจ่ายเงินค่าประเมินให้ดิฉันดูทางไลน์แต่คุณนิวก็ได้บ่ายเบี่ยงอ้างว่าหาไม่เจอถ้าเจอจะรีบถ่ายให้ดูและก็ได้ขอความเห็นใจจากดิฉันต่างๆนานา จนดิฉันโอนไปให้คุณนิว 5,000 บาทหวังว่าเรื่องสัญญาจะได้จบเร็วๆ
ดิฉันทวงถามเรื่องเงินมาตลอดและบอกว่ารับเป็นเงินสดอย่างเดียวไม่รับเป็นเช็คเด็ดขาดเพราะคุณนิวไม่มีความน่าเชื่อถือแล้วจนมาถึงวันที่ 1 ต.ค 2558 มีเช็คคืนแจ้งมาอีก 1 ใบ ยอดเงิน 150,000 บาท ซึ่งทางคุณนิวได้นำไปเข้าบัญชีธนาคารของดิฉันเองโดยที่ดิฉันได้บอกแล้วว่าไม่รับเช็คอีกและทางธนาคารก็ได้แจ้งเช็คคืนเนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี
ตอนนี้ดิฉันเป็นทุกข์มากค่ะ เงินจำนวนนั้นซึ่งมีหนี้สิน OD ยอด 200,000 บาท ดอกเบี้ยเดินทุกวัน ฉันกับแฟนต้องคอยหาเงินมาใส่ OD เพื่อให้เสียดอกเบี้ยน้อยลง ตอนนั้นพวกมันชั่วมาก ดิฉันไม่มีเงินให้มันแล้วถึงขั้นที่หลอกให้ดิฉันไปกู้เงินนอกระบบมาให้ ถ้าตอนนั้นดิฉันยังหลงเชื่ออีกคงโดนเจ้าหนี้นอกระบบฆ่าตายไปแล้ว พวกมันคงหวังว่าจะให้เป็นอย่างนั้น เลวมากๆค่ะ กฎหมายบ้านเมืองก็ช้าเหลือเกินไม่ได้มีไว้ปกป้องคนดีเลย หลายๆเคสคนดีโดนรังแกแต่โจรลอยนวลใช้เงินที่ปล้นสุจริตชนอย่างเราๆไปใช้อย่างสบายใจ
ดิฉันหวังว่าเรื่องของดิฉันจะเป็นอุทาหรณ์ มีประโยชน์กับคนที่อ่านและคนที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าอย่างดิฉันไม่มากก็น้อย จะไม่มาตกเป็นเหยื่อของพวกมิฉาชีพเหล่านี้ และช่วยแชร์เรื่องของดิฉันไปให้รับรู้กันมากๆที่สุดนะคะ ดิฉันร้องไห้เป็นทุกข์ทุกวัน จนมีหลายครั้งอยากคิดค่าตัวตายเพราะหมดตัวแถมมีหนี้มีสินเพิ่มมามากโดยที่เหล่ามิจฉาชีพเหล่านี้ไม่เคยเห็นใจคนที่ทำงานสุจริตชนอย่างเรา หาเงินมาด้วยความเหนื่อยยากแต่ถูกพวกมันหลอกเอาเงินไปใช้อย่างสบายและมีการโทรมาเยาะเย้ยว่า "คนโง่ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาด" ดิฉันจึงต้องน้อมรับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสนั้นไว้
อยากจะขอวิงวอนผู้มีอำนาจที่จะสามารถช่วยดิฉันได้บ้างตามจับเหล่ามิจฉาชีพเหล่านี้เป็นเยี่ยงอย่างไม่ให้ไปก่อความเดือดร้อนให้ใครได้อีก และ ช่วยเป็นสื่อให้ดิฉันได้มีโอกาสเล่าเรื่องราวความเจ็บปวดของดิฉันและครอบครัวให้เป็นอุทาหรณ์ จะขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
ระวังถูกหลอกจากมิจฉาชีพที่อ้างว่าจะกู้สินเชื่อบ้านให้ผ่านแล้วต้องหมดตัวแบบดิฉันค่ะ
ทางทีมงานได้ติดต่อมาชื่อคุณจิ ได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อบ้านของธ. แต่ไม่ยอมบอกว่าอยู่สาขาไหน จนกว่าลูกค้าจะได้เซ็นต์สัญญากู้บ้านกัน ดิฉันจึงได้หลงเชื่อและยังได้บอกดิฉันว่ามีเคสที่ลูกค้าไม่เอา วงเงินกู้ใกล้เคียงกับดิฉัน และจะช่วยให้วงเงินกู้กับดิฉันสูงขึ้นเป็น 4,100,000 บาท เขาจะทำเรื่องให้เร็วขึ้นเพียง 7 วันแต่ต้องทำตามที่เขาบอกคือการโชว์เงินสด 410,000 บาท ให้ทางผู้จัดการสาขาและผู้จัดการภาคเขาดูศักยภาพของลูกค้าว่ามีกำลังที่จะผ่อนบ้านหลังได้รับการเซ็นอนุมัติแล้ว
วันที่ 19 ส.ค 2558 ทางคุณจิโทรมาเร่งให้ดิฉันรีบโอนเงินเพื่อใช้โชว์ไปเร็วๆ เพราะผู้จัดการสาขาและผู้จัดการภาคอยู่พอดี จะได้โชว์และรีบโอนเงินคืนกันเร็วๆ ดิฉันรู้สึกกลัวจะโดนหลอกจึงรีบไปพบคุณนิวที่บ้านเพื่อสอบถามว่าคุณไม่ได้หลอกลวงกันใช่ไหม ทางคุณนิวบอกว่าเขาไม่มีหลอกแน่นอน ถ้าจะหลอกไม่ให้มาพบที่บ้านหรอกและให้สำเนาบัตรประชาชนมาอย่างนี้และยังบอกว่าวิธีการกู้ตรงนี้เป็นวิธีการที่พิเศษดังนั้นเงื่อนไขอาจจะไม่ได้เป็นไปตามปกติอย่างที่คุณไปยื่นกู้แล้วไม่ผ่านให้เชื่อใจเขา และยืนยันว่าโชว์แค่วันเดียวก็ได้คืน บอกเงินที่เราโอนมาเขาจะเป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมด ดิฉันบอกเขาว่าดิฉันมีเงินไม่เยอะ เขาบอกขาดเท่าไรเขาและคุณจิจะหาช่วย ดิฉันจึงโอนเงินทางอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้งเข้าบัญชีคุณนิวเหมือนเดิม จำนวนเงิน 100,000 บาท และก็แยกย้ายกันเพราะเขาบอกว่าจะรีบไปธนาคารเพื่อโอนเงินให้คุณจิ ประมาณบ่าย 2 คุณนิวโทรมาบอกเงินยังไม่ครบขาดอีก 30,000 บาท และให้ดิฉันหาอีกเพื่อจะได้จบเร็วๆ ดิฉันจึงได้ให้แฟนโอนเพิ่มเข้ามา 30,000 บาทจากตู้เอทีเอ็มไปยังบัญชีของคุณนิว และเขาก็บอกว่าจะรีบไปกดให้ทีมงาน ระหว่างนั้นดิฉันก็ตามทวงเงินตลอดระยะ พอตอนเย็นประมาณ 18.30 น.ทางคุณนิวก็โอนเงินมาคืน และทางคุณจิโทรมาบอกว่าผู้จัดการไม่เซ็นให้เพราะยอดเงินไม่พอต้องโชว์ใหม่พรุ่งนี้ พอได้เงินคืนทำให้ดิฉันรู้สึกวางใจทีมงานมากขึ้นไม่คิดว่าจะเป็นหลุมพรางของมิจฉาชีพ
วันที่ 20 ส.ค 2558 ทางคุณจิให้ดิฉันหาเงินเพิ่มอ้างว่ายอดเงินไม่พอดิฉันโอนเงินเข้าบัญชีคุณนิว 240,000 บาท และช่วงบ่ายเอาเงินสดไปให้คุณนิวที่ห้างแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่อีก 15,000 บาท ทางทีมงานบอกจะช่วยหาเงินเพิ่มเพื่อที่จะให้ได้ยอดเงิน 410,000 บาท แต่หาไม่ทันจึงได้เลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้อีก แต่ไม่ได้มีการโอนเงินกลับมา
วันที่ 21 ส.ค 2558 ทางทีมงานรีบโชว์เงินแล้วทางคุณจิโทรมาบอกดิฉันว่าผู้การเซ็นต์แล้ว และบอกจะต้องโชว์เงินประกันด้วยยอด 450,000 บาท ทางคุณจิและคุณนิวบอกถ้าไม่มีเงินประกัน 450,000 บาทโชว์คือจะกู้ไม่ผ่าน ต้องให้ดิฉันหาเงินเพิ่ม ดิฉันจึงเอาทองไปเข้าโรงจำนำและนำเงินสดไปให้คุณนิว ที่ห้างแห่งหนึ่งแถว บางใหญ่ จำนวน 40,000 บาท พอเวลา 2 ทุ่มคุณนิวแจ้งว่าเงินยังไม่ครบต้องเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้
วันที่ 22 ส.ค 2558 ดิฉันนำทองไปเข้าโรงจำนำและนำเงินสดโอนไปให้คุณนิว ยอดเงิน 65,000 บาท รวมยอดทั้งหมดที่โอนไป 360,000 บาท หลังจากทางทีมงานแจ้งว่าโชว์เรียบร้อย คุณนิวแจ้งว่าทางทีมงานไม่สามารถคืนเป็นเงินสดกลับมาได้ ต้องออกเป็นเช็คจากทางธนาคารเท่านั้น แต่ดิฉันแจ้งกลับไปว่าไม่รับเช็คต้องการคืนเป็นเงินสดเท่านั้น แต่ทางคุณนิวแอบเอาเช็คไปเข้าให้โดยที่ดิฉันไม่ได้รับเช็คและเห็นเช็คดังกล่าวเลย (จนความมาแตกวันที่ 27 ส.ค.58 เช็คคืน)
วันที่ 24 ส.ค 2558 คุณนิวบอกธนาคารจะโทรมาสัมภาษ และก็มีโทรมา ชื่อคุณอ้อม ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์สินเชื่อและเป็นหัวหน้าของคุณจิอีกที และบอกต้องโชว์เงิน 1,000,000 บาท ไม่อย่างนั้นที่ทำมาทั้งหมดจะไม่ผ่าน แต่ทางดิฉันแจ้งไปว่าไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้นและเงินก็อยู่ที่พวกคุณเพราะเรายังไม่ได้รับเงินคืนจากทีมคุณสักบาท แต่ทางคุณนิวก็หว่านล้อมว่าจะช่วยกันหาเงินให้ครบจนได้ ดิฉันกับแฟนเลยโอนเพิ่มไปอีก 60,000 บาท
วันที่ 25 ส.ค 2558 ดิฉันรวบรวมเงินโอนเงินเพิ่มอีก 55,000 บาทไปบัญชีคุณนิว และแฟนดิฉันได้โอนเงินของเขาไปยังบัญชีคุณนิว เพิ่มอีกเป็นจำนวนเงิน 99,000 บาท แต่ก็ยังไม่ถึงยอด 1,000,000 บาท ทีมงานแจ้งว่าจึงต้องเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้
วันที่ 26 ส.ค 2558 คุณนิวอ้างว่ากำลังหารวบรวมเงินช่วยให้ครบยอด 1,000,000 บาท
วันที่ 27 ส.ค 2558 ดิฉันโอนไปเพิ่ม 15,000 บาท และดิฉันแจ้งคุณนิวทางไลน์ว่าขอรับเงินคืนเป็นเงินสดเท่านั้นไม่รับเช็คใดๆทั้งสิ้น และทางคุณนิวแจ้งว่าได้ช่วยหาเงินในส่วนที่ขาดไปครบยอด 1,000,000 บาทเรียบร้อยแล้วทำให้สามารถดำเนินการต่อได้ แต่เวลา 17.00 น.มีเจ้าหน้าที่จากธนาคารสีเขียว ซึ่งเป็นธนาคารสาขาที่ดิฉันไปเปิดบัญชีโทรมาแจ้งดิฉันว่ามีเช็คคืน 1 ฉบับ ให้ดิฉันรีบไปรับ ดิฉันจึงรีบเดินทางไปดูทันที ปรากฎว่าเป็นเช็ค 360,000 บาทที่เข้าไว้ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2558 ของคุณนิว ธนาคารให้เหตุผลว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่ายให้รีบติดต่อผู้สั่งจ่ายเช็ค ดิฉันจึงโทรไปหาคุณนิวเพื่อขอยกเลิกสัญญาและขอเงินของดิฉันคืนทั้งหมดยอด 589,000 บาท แต่ทางคุณนิวและทีมงานก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่าจะได้รับเงินคืนก็ต่อเมื่อเซ็นสัญญาสินเชื่อบ้านเสร็จเรียบร้อยเท่านั้น ดิฉันจึงเริ่มโวยวายและขู่ว่าจะแจ้งความไหนตกลงว่าโชว์เงินแค่วันเดียวแล้วครั้งเดียวแต่นี่กลับกลายเป็น 3-4 ครั้งแล้วก็ยังไม่คืนเงินด้วย แต่ทางคุณนิวและคุณจิพูดจาหว่านล้อมว่าถ้าเขาเป็นมิจฉาชีพจริงได้เงินไปขนาดนี้ เขาคงปิดเครื่องหนีและเลิกติดต่อกับดิฉันแล้ว แต่นี่ยังสามารถติดต่อพูดคุยสอบถามความคืบหน้าเรื่องสัญญาได้ตลอดเวลาจึงทำให้ดิฉันรู้สึกก้ำกึ่งว่าน่าจะไม่โดนหลอก พอดิฉันถามถึงกำหนดสัญญาเสร็จเมื่อไร ก็บ่ายเบี่ยงเลื่อนวันเซ็นสัญญาไปเรื่อยๆ
ดิฉันได้ทวงถามเรื่องเงินกับคุณนิวกับทีมงานได้บอกว่าเงินก้อนได้แบ่งกระจายกันไปเรียบร้อยแล้ว คืนได้แต่ต้องทยอยคืนให้ซึ่งดิฉันก็ตกใจมากและรู้สึกไม่ไว้ใจมากขึ้นแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอสัญญาให้เสร็จไวๆ และอ้อนวอนขอเงินคืน
วันที่ 10 ก.ย 2558 คุณนิวแจ้งมาว่าตนเองได้ออกค่าประเมินบ้าน 27 ส.ค 2558 ไปเป็นจำนวนเงิน 5,700 บาท จึงมาทวงดิฉัน บอกค่าประเมินดิฉันต้องเป็นคนจ่ายแต่ตนจ่ายไปให้ก่อนแล้วแต่ดิฉันก็ได้ขอให้ถ่ายรูปใบจ่ายเงินค่าประเมินให้ดิฉันดูทางไลน์แต่คุณนิวก็ได้บ่ายเบี่ยงอ้างว่าหาไม่เจอถ้าเจอจะรีบถ่ายให้ดูและก็ได้ขอความเห็นใจจากดิฉันต่างๆนานา จนดิฉันโอนไปให้คุณนิว 5,000 บาทหวังว่าเรื่องสัญญาจะได้จบเร็วๆ
ดิฉันทวงถามเรื่องเงินมาตลอดและบอกว่ารับเป็นเงินสดอย่างเดียวไม่รับเป็นเช็คเด็ดขาดเพราะคุณนิวไม่มีความน่าเชื่อถือแล้วจนมาถึงวันที่ 1 ต.ค 2558 มีเช็คคืนแจ้งมาอีก 1 ใบ ยอดเงิน 150,000 บาท ซึ่งทางคุณนิวได้นำไปเข้าบัญชีธนาคารของดิฉันเองโดยที่ดิฉันได้บอกแล้วว่าไม่รับเช็คอีกและทางธนาคารก็ได้แจ้งเช็คคืนเนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี
ตอนนี้ดิฉันเป็นทุกข์มากค่ะ เงินจำนวนนั้นซึ่งมีหนี้สิน OD ยอด 200,000 บาท ดอกเบี้ยเดินทุกวัน ฉันกับแฟนต้องคอยหาเงินมาใส่ OD เพื่อให้เสียดอกเบี้ยน้อยลง ตอนนั้นพวกมันชั่วมาก ดิฉันไม่มีเงินให้มันแล้วถึงขั้นที่หลอกให้ดิฉันไปกู้เงินนอกระบบมาให้ ถ้าตอนนั้นดิฉันยังหลงเชื่ออีกคงโดนเจ้าหนี้นอกระบบฆ่าตายไปแล้ว พวกมันคงหวังว่าจะให้เป็นอย่างนั้น เลวมากๆค่ะ กฎหมายบ้านเมืองก็ช้าเหลือเกินไม่ได้มีไว้ปกป้องคนดีเลย หลายๆเคสคนดีโดนรังแกแต่โจรลอยนวลใช้เงินที่ปล้นสุจริตชนอย่างเราๆไปใช้อย่างสบายใจ
ดิฉันหวังว่าเรื่องของดิฉันจะเป็นอุทาหรณ์ มีประโยชน์กับคนที่อ่านและคนที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าอย่างดิฉันไม่มากก็น้อย จะไม่มาตกเป็นเหยื่อของพวกมิฉาชีพเหล่านี้ และช่วยแชร์เรื่องของดิฉันไปให้รับรู้กันมากๆที่สุดนะคะ ดิฉันร้องไห้เป็นทุกข์ทุกวัน จนมีหลายครั้งอยากคิดค่าตัวตายเพราะหมดตัวแถมมีหนี้มีสินเพิ่มมามากโดยที่เหล่ามิจฉาชีพเหล่านี้ไม่เคยเห็นใจคนที่ทำงานสุจริตชนอย่างเรา หาเงินมาด้วยความเหนื่อยยากแต่ถูกพวกมันหลอกเอาเงินไปใช้อย่างสบายและมีการโทรมาเยาะเย้ยว่า "คนโง่ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาด" ดิฉันจึงต้องน้อมรับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสนั้นไว้
อยากจะขอวิงวอนผู้มีอำนาจที่จะสามารถช่วยดิฉันได้บ้างตามจับเหล่ามิจฉาชีพเหล่านี้เป็นเยี่ยงอย่างไม่ให้ไปก่อความเดือดร้อนให้ใครได้อีก และ ช่วยเป็นสื่อให้ดิฉันได้มีโอกาสเล่าเรื่องราวความเจ็บปวดของดิฉันและครอบครัวให้เป็นอุทาหรณ์ จะขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ