ติดตามเรื่องการที่ภาครัฐ พยายามจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการค้า ออนไลน์ แล้วยังไม่พบว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร สำหรับสินค้าที่มีการส่งตรงมาจากต่างประเทศ ทำอย่างไรถึงจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าเหล่านี้ได้ ประกอบกับในอนาคต เมื่อกลุ่ม Alibaba เข้ามาตั้งศูนย์กระจายสินค้าซึ่งคาดว่าสินค้าเกือบทั้งหมดคงเป็นสินค้าที่ส่งตรงมาจากประเทศจีน ผ่านไป ยังผู้ซื้อออนไลน์ไทย
ตอนนี้เห็นมีเพียง ร่าง พรบ E-Business ซึ่งจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม กับพวก Website ที่ให้บริการในเชิงเวปท่า เช่น Facebook Youtube LINE ซึ่งเป็นการเก็บภาษีจากการเป็นสมาชิก หรือภาษีที่เก็บจากค่าโฆษณา เท่านั้น
http://www.rd.go.th/publish/27777.0.html ซึ่งร่างนี้ไม่รวมถึงการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีแนวคิดเก็บตั้งแต่บาทที่ 0 สำหรับสินค้าออนไลน์ที่มาจากต่างประเทศ
เมื่อกฎหมายยังไม่ออก หรือ อาจจะไม่มีการออกกฎหมาย อนาคตผู้ค้าออน์ไลน์รวมถึงผู้ผลิตและผู้ค้าไทยจะเสียเปรียบเรื่องการแข่งขันอย่างแน่นอน
หากจะมีการหลบเลี่ยงภาษี โดยการจัดตั้งบริษัท offshore ขึ้นและทำการส่งสินค้าตรงจาก warehouse ในต่างประเทศมายังผู้ซื้อหละก็ ทางภาครัฐจะไม่สามารถเก็บทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีนิติบุคคลได้เลย ไม่แน่ว่าตอนนี้กำลังมีกลุ่มบุคคลกำลังใช้วิธีการนี้อยู่
ยังไม่รวมถึงมาตรการการควบคุมสินค้าที่ส่งเข้ามา ที่ต้องมีมาตราฐานบังคับ (มอก) อาทิเช่น ของเล่นเด็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า ยา เมล็ดพืช ซึ่งอาจทำให้เกิดการอาศัยช่องโหว่นี้ในการจำหน่ายสินค้าด้อยคุณภาพเข้าไปอีก ซึ่งแน่นอนสินค้าเหล่านี้คงสร้างกำไร เป็นกอบเป็นกำ โดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อทั้งความปลอดภัยและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา
แต่หากกำลังมีมาตรการออกมาเพื่อปิดช่องทางพวกนี้ ก็คงอดกันนะครับ
หลบเลี่ยงภาษี การค้าออน์ไลน์อย่างไรดี
ตอนนี้เห็นมีเพียง ร่าง พรบ E-Business ซึ่งจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม กับพวก Website ที่ให้บริการในเชิงเวปท่า เช่น Facebook Youtube LINE ซึ่งเป็นการเก็บภาษีจากการเป็นสมาชิก หรือภาษีที่เก็บจากค่าโฆษณา เท่านั้น http://www.rd.go.th/publish/27777.0.html ซึ่งร่างนี้ไม่รวมถึงการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีแนวคิดเก็บตั้งแต่บาทที่ 0 สำหรับสินค้าออนไลน์ที่มาจากต่างประเทศ
เมื่อกฎหมายยังไม่ออก หรือ อาจจะไม่มีการออกกฎหมาย อนาคตผู้ค้าออน์ไลน์รวมถึงผู้ผลิตและผู้ค้าไทยจะเสียเปรียบเรื่องการแข่งขันอย่างแน่นอน
หากจะมีการหลบเลี่ยงภาษี โดยการจัดตั้งบริษัท offshore ขึ้นและทำการส่งสินค้าตรงจาก warehouse ในต่างประเทศมายังผู้ซื้อหละก็ ทางภาครัฐจะไม่สามารถเก็บทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีนิติบุคคลได้เลย ไม่แน่ว่าตอนนี้กำลังมีกลุ่มบุคคลกำลังใช้วิธีการนี้อยู่
ยังไม่รวมถึงมาตรการการควบคุมสินค้าที่ส่งเข้ามา ที่ต้องมีมาตราฐานบังคับ (มอก) อาทิเช่น ของเล่นเด็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า ยา เมล็ดพืช ซึ่งอาจทำให้เกิดการอาศัยช่องโหว่นี้ในการจำหน่ายสินค้าด้อยคุณภาพเข้าไปอีก ซึ่งแน่นอนสินค้าเหล่านี้คงสร้างกำไร เป็นกอบเป็นกำ โดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อทั้งความปลอดภัยและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา
แต่หากกำลังมีมาตรการออกมาเพื่อปิดช่องทางพวกนี้ ก็คงอดกันนะครับ