องค์กรระหว่างประเทศหลายแหล่งเริ่มทำ หนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ขอเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งของ
ไทยที่เบื้องต้นกำหนดวันที่ 24 ก.พ.2562
ขณะที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ระบุในทำนอง
เดียวกันว่า ไม่เป็นมงคล ไทยมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ประเทศ มีปัญหา
นักการเมืองจึงเรียกร้องไฟเขียวให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ
ส่วนนักวิชาการ อดีตเลขาธิการกกต. มีความเห็น ดังนี้
ร.ต.วิจิตร อยู่สุภาพ
อดีตเลขาธิการกกต.
..
ไทยก็เคยเข้าไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่ ต่างประเทศ ดูว่ามีคูหาเลือกตั้งอย่างไร ลงทะเบียนอย่างไร และประชาชนเข้าไปใช้
สิทธิ์เลือกตั้งอย่างไร แม้กระทั่งขั้นตอนการนับคะแนนเขาก็เปิดให้เข้าสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งเขาไม่ได้มีความเคร่งเครียดอะไรเลย
...
แต่ถ้าไทยไม่ให้เข้ามาก็จะเป็นภาพลบของ ประเทศว่าเลือกตั้งไม่โปร่งใส หรือมีลับลมคมในอะไรหรือไม่ และยิ่งถ้ามีผลการเลือกตั้ง
ออกมาแล้วมีการร้องเรียนว่าไม่สุจริต ยุติธรรม หรือรัฐบาล ข้าราชการมีการเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวกตนเองได้รับเลือกตั้ง ต่างชาติ
จะไม่ยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้จะได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระเบียบกฎหมายก็ตาม
ยืนยันว่าไม่ควรมีลับลมคมในอะไร ให้เข้ามาได้เลย ทุกอย่างไม่มีปัญหา ต่างชาติเข้ามาก็ใช้งบประมาณของเขาเอง
เมื่อเข้ามาแล้วจะได้เห็นว่าการจัดการทุก อย่างมีความโปร่งใส และเราเองจะสามารถอธิบายในสิ่งที่เขาสงสัยให้เข้าใจได้ เมื่อเขา
ได้รับรู้ข้อมูลแล้วก็จะชื่นชมเรา
ส่วนจะเข้ามาสังเกตการณ์ช่วงไหนนั้นจะเป็นดุลยพินิจของเขาเอง เรามีหน้าที่แค่อำนวยความสะดวกให้ แต่โดยทั่วไปแล้วทั่วโลก
ทราบดีอยู่แล้วถึงกระบวนการเริ่มต้นและจบที่ตรงไหน ดังนั้นการที่ให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งจึงมีผล
ดีเรื่องความโปร่งใสในการเลือกตั้งและต่อเนื่องไปยังผลทางเศรษฐกิจที่เราจะ ได้รับความร่วมมืออย่างดี เพราะเขาเชื่อในเกียรติศักดิ์ศรี
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะได้รับการยอมรับจากนานาชาติด้วยเช่นกัน
ธนพร ศรียากูล
นายกสมาคมรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
.... เงื่อนไขสภาพทางสังคมเปลี่ยน แปลงไป การที่มีคนรุ่นใหม่จำนวนมาก ทำให้เป็นที่สนใจของชาวโลกอย่างแน่นอน
ส่วนรัฐบาลไทยต้องเชิญนานาชาติมาร่วม สังเกตการณ์หรือไม่นั้น ตามหลักแล้วจะมาเองก็ได้หรือหากเชิญก็จะเป็นการแสดง
ให้เห็นความก้าวหน้า โปร่งใส ให้ชาวโลกได้เห็น
หากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ก็ควรเชิญนานาชาติเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ เพราะไม่ใช่เรื่องเสียหาย
แต่กลับถือเป็นความสง่างามของประเทศ ที่กล้าบอกกับชาวโลกว่าเรามีการเลือกตั้ง
ส่วนผลกระทบในสายตาของผู้ที่สนใจอาจหวาดระแวงว่าการเลือกตั้งอาจจะมีความไม่ ตรงไปตรงมาหรือไม่อย่างไร ถึงไม่เปิดโอกาส
ให้ชาวโลกหรือคนที่สนใจเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ตรงนี้ ซึ่งน่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
.... ในยุคปัจจุบันอะไรก็ตามที่จะเปิดเผยได้ อย่าง ตรงไปตรงมา โปร่งใส และกล้าที่จะพิสูจน์ต่อสายตาชาวโลกยิ่งจะทำให้ได้รับการ
ยอมรับมากขึ้น หากยิ่งปิดบังความน่าเชื่อถือจะยิ่งลดลง
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่สายตาประชาคมโลกจะได้เห็นว่าประเทศไทยมีความมั่นคง การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ....
ดุลยภาค ปรีชารัชช
อาจารย์ประจำโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์
... หากเป็นตัวแทนระดับสูง ที่มีอิทธิพลต่อการจัดทำรายงานผลการเลือกตั้งในประเทศไทยอย่างมีนัยยะสำคัญนั้นคงต้องรอดู
ท่าทีที่อ่อนไหวจากรมว.ต่างประเทศนั้น สะท้อนถึงระบอบการปกครองที่มีลักษณะอำนาจนิยมที่ครองอำนาจอยู่ หวั่นเกรงว่า
การเปิดทางให้นานาชาติเข้ามามีส่วนร่วม อาจนำไปสู่การแทรกแซงผลการเลือกตั้ง ไม่ให้เป็นไปในทิศทางการเมืองที่พวกเขา
กำลังคุมเกมอยู่
เพราะหากปล่อยให้ประชาคมโลกส่งผู้ สังเกตการณ์การเลือกตั้งเข้ามาแล้วเกิดผลการเลือกตั้งออกมาว่า ฝ่ายตรงข้ามชนะ นี่จะ
เป็นเงื่อนไขในการรับรองความชอบธรรมในผลที่ออก ซึ่งจะส่งผลให้ ระบอบคสช. ไม่เป็นไปตามโรดแม็ปที่วางไว้ แต่หากฝ่ายคสช.
ชนะ นี่ก็จะเป็นการรับรองความชอบธรรม
ดังนั้นปัจจัยภายนอกในบางครั้งก็ส่งเสริมประชาธิปไตย ทว่าซ้ำร้ายก็อาจเป็นการส่งเสริมความชอบธรรมให้ระบอบเผด็จการได้เหมือนกัน
ตัวเปรียบเทียบในอาเซียน คือการเลือกตั้งกัมพูชาเมื่อช่วงกลางปี ที่รัฐบาลฮุนเซนชนะถล่มทลาย ท่ามกลางการยุบพรรคฝ่ายตรงข้าม
ควบคุมสื่อ ก็มีการเปิดให้ตัวแทนจากต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์พอประมาณ ฝั่งตะวันตกอย่างอียูและสหรัฐ ประกาศไม่ยอมรับผลที่ออกมา
แต่จีนให้การรับรอง
จึงต้องยอมรับว่า บทบาทของต่างชาติบางแห่งที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบอบเสรีประชาธิปไตย ก็จะมีผลกับส่วนนี้
อังคณา นีละไพจิตร
กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
.... ถ้ารัฐบาลไม่เปิดให้ต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง จะทำให้ต่างชาติเกิดความสงสัยได้ว่าเรามีอะไรแปลกๆหรือไม่ ....
การเปิดให้มีผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง เข้ามา จะช่วยแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ โปร่งใส เพราะผู้สังเกตการณ์ถือเป็นคนนอก
จะยิ่งทำให้การเลือกตั้งได้รับการยอมรับ เป็นที่น่าเชื่อถือ
เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะมีองค์กร จากต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งมากขึ้น เพราะเป็นการเลือกตั้ง
ภายหลังการทำรัฐประหาร ขณะที่ผู้สังเกตการณ์เองจะต้องมีความเป็นมืออาชีพ มีหลักของความเป็นธรรม เป็นกลาง ไม่เอนเอียง
ส่วนข้อเสนอของนายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ที่ให้มาดูตั้งแต่ตอนนี้ที่มีขั้นตอนการเลือกผู้บริหารพรรค
เพื่อทำให้บรรยากาศชัดเจนโปร่งใส
ถือเป็นการเปิดทางตั้งแต่ต้นของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องดี แต่ขึ้นกับผู้สังเกตการณ์ที่จะพิจารณาว่าจะเข้ามาสังเกตการณ์ในช่วงเวลาใด
https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/analysis-today-politics/news_1789624
แปะให้อ่านกันเฉยๆ no comment ขอไปหมอแป๊ป ค่ะ เด๋ว ค่อยกลับมาคุย
วิเคราะห์ ...มุมมอง:ต่างชาติส่องเลือกตั้ง ....ข่าวสดออนไลน์ ... /sao..เหลือ..noi
ไทยที่เบื้องต้นกำหนดวันที่ 24 ก.พ.2562
ขณะที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ และ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ระบุในทำนอง
เดียวกันว่า ไม่เป็นมงคล ไทยมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ประเทศ มีปัญหา
นักการเมืองจึงเรียกร้องไฟเขียวให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ
ส่วนนักวิชาการ อดีตเลขาธิการกกต. มีความเห็น ดังนี้
ร.ต.วิจิตร อยู่สุภาพ
อดีตเลขาธิการกกต.
..
ไทยก็เคยเข้าไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่ ต่างประเทศ ดูว่ามีคูหาเลือกตั้งอย่างไร ลงทะเบียนอย่างไร และประชาชนเข้าไปใช้
สิทธิ์เลือกตั้งอย่างไร แม้กระทั่งขั้นตอนการนับคะแนนเขาก็เปิดให้เข้าสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งเขาไม่ได้มีความเคร่งเครียดอะไรเลย
...
แต่ถ้าไทยไม่ให้เข้ามาก็จะเป็นภาพลบของ ประเทศว่าเลือกตั้งไม่โปร่งใส หรือมีลับลมคมในอะไรหรือไม่ และยิ่งถ้ามีผลการเลือกตั้ง
ออกมาแล้วมีการร้องเรียนว่าไม่สุจริต ยุติธรรม หรือรัฐบาล ข้าราชการมีการเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวกตนเองได้รับเลือกตั้ง ต่างชาติ
จะไม่ยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้จะได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระเบียบกฎหมายก็ตาม
ยืนยันว่าไม่ควรมีลับลมคมในอะไร ให้เข้ามาได้เลย ทุกอย่างไม่มีปัญหา ต่างชาติเข้ามาก็ใช้งบประมาณของเขาเอง
เมื่อเข้ามาแล้วจะได้เห็นว่าการจัดการทุก อย่างมีความโปร่งใส และเราเองจะสามารถอธิบายในสิ่งที่เขาสงสัยให้เข้าใจได้ เมื่อเขา
ได้รับรู้ข้อมูลแล้วก็จะชื่นชมเรา
ส่วนจะเข้ามาสังเกตการณ์ช่วงไหนนั้นจะเป็นดุลยพินิจของเขาเอง เรามีหน้าที่แค่อำนวยความสะดวกให้ แต่โดยทั่วไปแล้วทั่วโลก
ทราบดีอยู่แล้วถึงกระบวนการเริ่มต้นและจบที่ตรงไหน ดังนั้นการที่ให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งจึงมีผล
ดีเรื่องความโปร่งใสในการเลือกตั้งและต่อเนื่องไปยังผลทางเศรษฐกิจที่เราจะ ได้รับความร่วมมืออย่างดี เพราะเขาเชื่อในเกียรติศักดิ์ศรี
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะได้รับการยอมรับจากนานาชาติด้วยเช่นกัน
ธนพร ศรียากูล
นายกสมาคมรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
.... เงื่อนไขสภาพทางสังคมเปลี่ยน แปลงไป การที่มีคนรุ่นใหม่จำนวนมาก ทำให้เป็นที่สนใจของชาวโลกอย่างแน่นอน
ส่วนรัฐบาลไทยต้องเชิญนานาชาติมาร่วม สังเกตการณ์หรือไม่นั้น ตามหลักแล้วจะมาเองก็ได้หรือหากเชิญก็จะเป็นการแสดง
ให้เห็นความก้าวหน้า โปร่งใส ให้ชาวโลกได้เห็น
หากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ก็ควรเชิญนานาชาติเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ เพราะไม่ใช่เรื่องเสียหาย
แต่กลับถือเป็นความสง่างามของประเทศ ที่กล้าบอกกับชาวโลกว่าเรามีการเลือกตั้ง
ส่วนผลกระทบในสายตาของผู้ที่สนใจอาจหวาดระแวงว่าการเลือกตั้งอาจจะมีความไม่ ตรงไปตรงมาหรือไม่อย่างไร ถึงไม่เปิดโอกาส
ให้ชาวโลกหรือคนที่สนใจเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ตรงนี้ ซึ่งน่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
.... ในยุคปัจจุบันอะไรก็ตามที่จะเปิดเผยได้ อย่าง ตรงไปตรงมา โปร่งใส และกล้าที่จะพิสูจน์ต่อสายตาชาวโลกยิ่งจะทำให้ได้รับการ
ยอมรับมากขึ้น หากยิ่งปิดบังความน่าเชื่อถือจะยิ่งลดลง
ดังนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่สายตาประชาคมโลกจะได้เห็นว่าประเทศไทยมีความมั่นคง การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ....
ดุลยภาค ปรีชารัชช
อาจารย์ประจำโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์
... หากเป็นตัวแทนระดับสูง ที่มีอิทธิพลต่อการจัดทำรายงานผลการเลือกตั้งในประเทศไทยอย่างมีนัยยะสำคัญนั้นคงต้องรอดู
ท่าทีที่อ่อนไหวจากรมว.ต่างประเทศนั้น สะท้อนถึงระบอบการปกครองที่มีลักษณะอำนาจนิยมที่ครองอำนาจอยู่ หวั่นเกรงว่า
การเปิดทางให้นานาชาติเข้ามามีส่วนร่วม อาจนำไปสู่การแทรกแซงผลการเลือกตั้ง ไม่ให้เป็นไปในทิศทางการเมืองที่พวกเขา
กำลังคุมเกมอยู่
เพราะหากปล่อยให้ประชาคมโลกส่งผู้ สังเกตการณ์การเลือกตั้งเข้ามาแล้วเกิดผลการเลือกตั้งออกมาว่า ฝ่ายตรงข้ามชนะ นี่จะ
เป็นเงื่อนไขในการรับรองความชอบธรรมในผลที่ออก ซึ่งจะส่งผลให้ ระบอบคสช. ไม่เป็นไปตามโรดแม็ปที่วางไว้ แต่หากฝ่ายคสช.
ชนะ นี่ก็จะเป็นการรับรองความชอบธรรม
ดังนั้นปัจจัยภายนอกในบางครั้งก็ส่งเสริมประชาธิปไตย ทว่าซ้ำร้ายก็อาจเป็นการส่งเสริมความชอบธรรมให้ระบอบเผด็จการได้เหมือนกัน
ตัวเปรียบเทียบในอาเซียน คือการเลือกตั้งกัมพูชาเมื่อช่วงกลางปี ที่รัฐบาลฮุนเซนชนะถล่มทลาย ท่ามกลางการยุบพรรคฝ่ายตรงข้าม
ควบคุมสื่อ ก็มีการเปิดให้ตัวแทนจากต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์พอประมาณ ฝั่งตะวันตกอย่างอียูและสหรัฐ ประกาศไม่ยอมรับผลที่ออกมา
แต่จีนให้การรับรอง
จึงต้องยอมรับว่า บทบาทของต่างชาติบางแห่งที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบอบเสรีประชาธิปไตย ก็จะมีผลกับส่วนนี้
อังคณา นีละไพจิตร
กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
.... ถ้ารัฐบาลไม่เปิดให้ต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง จะทำให้ต่างชาติเกิดความสงสัยได้ว่าเรามีอะไรแปลกๆหรือไม่ ....
การเปิดให้มีผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง เข้ามา จะช่วยแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ โปร่งใส เพราะผู้สังเกตการณ์ถือเป็นคนนอก
จะยิ่งทำให้การเลือกตั้งได้รับการยอมรับ เป็นที่น่าเชื่อถือ
เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะมีองค์กร จากต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งมากขึ้น เพราะเป็นการเลือกตั้ง
ภายหลังการทำรัฐประหาร ขณะที่ผู้สังเกตการณ์เองจะต้องมีความเป็นมืออาชีพ มีหลักของความเป็นธรรม เป็นกลาง ไม่เอนเอียง
ส่วนข้อเสนอของนายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ที่ให้มาดูตั้งแต่ตอนนี้ที่มีขั้นตอนการเลือกผู้บริหารพรรค
เพื่อทำให้บรรยากาศชัดเจนโปร่งใส
ถือเป็นการเปิดทางตั้งแต่ต้นของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องดี แต่ขึ้นกับผู้สังเกตการณ์ที่จะพิจารณาว่าจะเข้ามาสังเกตการณ์ในช่วงเวลาใด
https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/analysis-today-politics/news_1789624
แปะให้อ่านกันเฉยๆ no comment ขอไปหมอแป๊ป ค่ะ เด๋ว ค่อยกลับมาคุย