มาราธอนที่แล้ว ใช้คำสบประมาทมาเป็นแรงผลักดันในการวิ่ง
มาราธอนครั้งนี้ ใช้กำลังใจเป็นแรงฮึดให้ถึงเส้นชัย
มาราธอนครั้งนี้ออกตัวก่อนเลยว่าซ้อมไม่ถึง ซ้ำก่อนหน้านี้ 2 สัปดาห์ก็ดันมาป่วยเป็นไข้หวัด ไข้ปาเข้าไป 38.6 นอนโรงพยาบาลก็ไม่ได้ เนื่องจากติดงาน ไม่มีคนทำแทน
วันรับบิบเจอ เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล อยากจะเข้าไปถามซะละเกินว่า งาน Charity Chonburi Marathon เป็นไงบ้าง แต่ก็กลัวจะโดนถีบออกมา 555
สรุปรับบิบเสร็จ เดินไปเดินมา จัด Altra Torin 3.5 ไปคู่นึง ลด 15% หลายคนเตือนมาแล้วว่าอย่าใส่รองเท้าใหม่ไปวิ่ง ให้ใส่ที่คุ้นเคยดีกว่า สุดท้ายไม่ได้ใส่ เอาคู่เก่าไปวิ่งแทน ตรูจะซื้อมาทำไมเนี้ย
3 วันก่อนหน้านี้ หยุดซ้อมตามตาราง โหลดคาโบอย่างเดียว กิน กิน แล้วก็กิน เย็นวันเสาร์ต้องยอมตัดใจไม่ดูพรีเมียร์ลีก นัดนี้ ปืนใหญ่เปิดบ้านเจอหงส์แดงซะด้วย กะว่าจะถล่มไม่ต่ำกว่า 3 ลูก รีบเข้านอนตั้งแต่ 6 โมงเย็น แผนคือ ตื่นเที่ยงคืนครึ่ง ปฏิบัติภาระกิจส่วนตัวให้เสร็จ กะว่าออกจากบ้านตี 1 ครึ่งกำลังดี ถึงตี 2 หาที่จอดรถสบายๆ เดินไปหาที่วอร์ม
ตื่นเต้น นอน 5 โมงเย็น แต่ได้หลับจริงๆ 4 ทุ่ม นอนไปได้แค่ 2 ชม. เอง
ขับรถมาถึงหน้างานตี 2 นิดๆ ยืดเหยียดตามระเบียบ เดินเข้าจุด Start ตี 3 ได้บล็อค E
แผนการวิ่งของวันนี้ก็คงคล้ายๆปีที่แล้ว วิ่งแบบที่ซ้อม ไม่ต้องไปแซงใคร ไปมันเรื่อยๆ
ปู๊นๆๆ ตี 3 แล้ว ออกตัวได้ บอกเลยว่าผมนี่รอ 2 นาทีเกือบครึ่ง กว่าจะได้ออกตัว เวลาอันมีค่า 2 นาทีครึ่ง นี่ไปได้ไหนต่อไหนแล้ว ตามกันไปอย่างไม่เร่งร้อน งานนี้ต้องวิ่งคนเดียวอีกแล้ว ตามเพื่อนไปก็ตายฟรี ไปตามที่ถนัดดีกว่า
เริ่มวิ่งออกไป เช้านี้รู้สึกสดชื่นมาก ไหลไปตามกระแส ป๊าดดดด แป๊บเดียว 15 โล ถึงสะพานชลมารควิถีที่คุ้นเคย ซ้อมที่นี่อยู่ตลอด เวลาดีกว่าที่คิด ไม่มีเหนื่อย ลมโชยๆ
เครื่องดื่ม ขนม เกลือแร่ ห้องน้ำ มีตามจุดที่แจ้งไว้ ได้สเปรย์จากทีมแพทย์เป็นครั้งคราว
ผ่าน กม. 30 มา เวลาเร็วกว่าปีที่แล้ว 16 นาที เอาละวะ ปีนี่น่าจะทุบสถิติเกือบๆครึ่ง ชม.
สุดท้ายท้ายสุด "ยางแตก กม 37" ไม่ถึงกับชนกำแพง แต่ก็ไม่สามารถวิ่งไปต่อได้ หมดกัน ทั้งที่ตั้งใจไว้ งานนี้เดินเข้าเส้นชัยเลยอย่างองอาจ
เส้นชัยอยู่ตรงหน้า
พาสังขาร 40 ขวบปี รับเหรียญ และ เสื้อ Finisher พร้อมทุบสถิติตัวเอง 11 นาที
งานหน้าที่ไหนดีนั้นค่อยว่ากันใหม่
มาราธอนที่สอง กำลังใจดี๊ดี
มาราธอนครั้งนี้ ใช้กำลังใจเป็นแรงฮึดให้ถึงเส้นชัย
มาราธอนครั้งนี้ออกตัวก่อนเลยว่าซ้อมไม่ถึง ซ้ำก่อนหน้านี้ 2 สัปดาห์ก็ดันมาป่วยเป็นไข้หวัด ไข้ปาเข้าไป 38.6 นอนโรงพยาบาลก็ไม่ได้ เนื่องจากติดงาน ไม่มีคนทำแทน
วันรับบิบเจอ เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล อยากจะเข้าไปถามซะละเกินว่า งาน Charity Chonburi Marathon เป็นไงบ้าง แต่ก็กลัวจะโดนถีบออกมา 555
สรุปรับบิบเสร็จ เดินไปเดินมา จัด Altra Torin 3.5 ไปคู่นึง ลด 15% หลายคนเตือนมาแล้วว่าอย่าใส่รองเท้าใหม่ไปวิ่ง ให้ใส่ที่คุ้นเคยดีกว่า สุดท้ายไม่ได้ใส่ เอาคู่เก่าไปวิ่งแทน ตรูจะซื้อมาทำไมเนี้ย
3 วันก่อนหน้านี้ หยุดซ้อมตามตาราง โหลดคาโบอย่างเดียว กิน กิน แล้วก็กิน เย็นวันเสาร์ต้องยอมตัดใจไม่ดูพรีเมียร์ลีก นัดนี้ ปืนใหญ่เปิดบ้านเจอหงส์แดงซะด้วย กะว่าจะถล่มไม่ต่ำกว่า 3 ลูก รีบเข้านอนตั้งแต่ 6 โมงเย็น แผนคือ ตื่นเที่ยงคืนครึ่ง ปฏิบัติภาระกิจส่วนตัวให้เสร็จ กะว่าออกจากบ้านตี 1 ครึ่งกำลังดี ถึงตี 2 หาที่จอดรถสบายๆ เดินไปหาที่วอร์ม
ตื่นเต้น นอน 5 โมงเย็น แต่ได้หลับจริงๆ 4 ทุ่ม นอนไปได้แค่ 2 ชม. เอง
ขับรถมาถึงหน้างานตี 2 นิดๆ ยืดเหยียดตามระเบียบ เดินเข้าจุด Start ตี 3 ได้บล็อค E
แผนการวิ่งของวันนี้ก็คงคล้ายๆปีที่แล้ว วิ่งแบบที่ซ้อม ไม่ต้องไปแซงใคร ไปมันเรื่อยๆ
ปู๊นๆๆ ตี 3 แล้ว ออกตัวได้ บอกเลยว่าผมนี่รอ 2 นาทีเกือบครึ่ง กว่าจะได้ออกตัว เวลาอันมีค่า 2 นาทีครึ่ง นี่ไปได้ไหนต่อไหนแล้ว ตามกันไปอย่างไม่เร่งร้อน งานนี้ต้องวิ่งคนเดียวอีกแล้ว ตามเพื่อนไปก็ตายฟรี ไปตามที่ถนัดดีกว่า
เริ่มวิ่งออกไป เช้านี้รู้สึกสดชื่นมาก ไหลไปตามกระแส ป๊าดดดด แป๊บเดียว 15 โล ถึงสะพานชลมารควิถีที่คุ้นเคย ซ้อมที่นี่อยู่ตลอด เวลาดีกว่าที่คิด ไม่มีเหนื่อย ลมโชยๆ
เครื่องดื่ม ขนม เกลือแร่ ห้องน้ำ มีตามจุดที่แจ้งไว้ ได้สเปรย์จากทีมแพทย์เป็นครั้งคราว
ผ่าน กม. 30 มา เวลาเร็วกว่าปีที่แล้ว 16 นาที เอาละวะ ปีนี่น่าจะทุบสถิติเกือบๆครึ่ง ชม.
สุดท้ายท้ายสุด "ยางแตก กม 37" ไม่ถึงกับชนกำแพง แต่ก็ไม่สามารถวิ่งไปต่อได้ หมดกัน ทั้งที่ตั้งใจไว้ งานนี้เดินเข้าเส้นชัยเลยอย่างองอาจ
เส้นชัยอยู่ตรงหน้า
พาสังขาร 40 ขวบปี รับเหรียญ และ เสื้อ Finisher พร้อมทุบสถิติตัวเอง 11 นาที
งานหน้าที่ไหนดีนั้นค่อยว่ากันใหม่