คือเรากับแฟนแต่งงานกันมาหลายปีแล้ว รักก็ไม่ happy ปกติโน๊ะชีวิตคุ่ไม่มีใครจะหวานแหววได้ตลอด แต่...ของเราคือ รักๆ เลิกๆ หลังจากแต่งงานได้ไม่กี่เท่าไหร่ ด้วยนิสัยคือเข้ากันไม่คอ่ยได้ แต่เขาก็รักเราดีนะ ยอมเราทุกอย่าง แต่ด้วยอารมณ์หึง หวง จนทะเลาะกันบ่อยๆ เลยตัดสินใจเลิกกัน และต่างคนต่างไปมีคนใหม่ ระยะเวลาผ่านไปรวมๆ 2 ปี ก็ได้มาเจอและคุยกันอีกครั้ง ตอนนั้นสถานะโสดเลยคิดว่าจะลองมาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอีกสักครั้ง ด้วยการย้ายมาอยู่ด้วยกันแบบจริงจัง (ครั้งแรกอยู่คนละจังหวัดด้วยงาน) เราตัดสินใจลาออกจากงาน เพื่อหวังจะให้ครอบครัวดีขึ้น ไม่เหมือนครั้งแรกที่อยู่ไกลกันจนมีปัญหา...
แต่มันไม่ได้เป็นดังหวัง เมื่อเขาไม่ได้รักเราแล้ว เขาไปหลงรักเพื่อนเขา รักแบบมาก เราจับได้คือ เขาจะโทรคุยกันทุกวันวันละ 30-40 ครั้งได้ ในขณะที่เราไปทำงานหาเงินเขาก็จะคุยกันตลอด และที่เจ็บปวดคือเขาไล่เราออกจากบ้าน บอกเลิก โกหกว่าเขาจดทะเบียนกันคนอืนแล้ว แต่เราไปไหนไม่ได้ด้วยเงินและงานที่ไม่สามารถใช้ชีวิตเด็กหอได้ เลยต้องทนอยู่แบบขืนข่ม ตลอดเวลาเขาไม่เคยยอมรับว่ารักคนนั้น เขาบอกเพื่อนกัน แต่เราจับได้วาเขาให้เงินคนนั้นไปออกรถยนต์ใหม่ และดูแลทั้งเรื่องโทรศัพท์ซื้อให้เขาใช้ จ่ายค่าโทรศัพท์ให้...สุดท้ายเราก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจออกไปอยู่หอ..(เลิกกันอีกครั้ง)
ประเด็นตรงที่ว่า ผุ้หญิงคนนั้นเป็นคนสวย ลูกติด ชีวิตเขาบอกว่าไม่คิดจะเอาแฟนเรา คนจะคบกับเชาได้ต้องดูแลเขาได้ ซึ่งแฟนเราหนี้สินเยอะ เงินเดือนไม่มีเหลือใช้ แต่หาเงินได้มาจากการกู้...ทำให้แฟนเราไม่สมหวังในความรัก และสุดท้าย...
เขาก็มาง้อเรา อีกเช่นเคย เราก็ยอมคืนดี เพราะอยู่หอลำบากมาก อย่างน้อยอยู่กับแฟนก็ยังได้ที่พักฟรี และแฟนเราบอกว่าจะทำดี เลิกยุ่งกับใครแล้ว และเพราะยังรักเราอยู่ ขอโอกาสแก้ตัว (ตอนนั้นเรารู้สึกไม่ได้รักแล้ว แต่คิดว่าจะอยู่เพื่อเอาตัวรอด) เราก็บอกแฟนนะว่าไม่ได้รักแล้ว แต่แฟนบอกว่าจะไปอยู่ให้ลำบากทำไม มาอยู่ด้วยกันจนกว่าจะย้ายได้ (ตอนนั้นเราสอบราชการได้) ซึ่งก็มองว่าไม่มีอะไรเสียหาย เลยกลับไป รอเวลาย้าย
แรกๆ เขาก็ดีนะ ดูแลดี ยอมไปบ้านเรา (จากที่ไม่เคยไปหลังจากแต่ง) แต่...อะไรมันย่อมแตกต่างได้เสมอ เราจับได้ว่าเขายังติดต่อกับผญ.คนนั้น โดยอ้างว่าแค่พี่น้อง (เพราะผญ.ไม่ยอมคบแฟนเรา) แฟนเราไปหาที่บ้าน เอาของไปฝาก ไปไหนๆ กับคนนั้น...ไม่เจ็บหรอกเพราะว่าเราเองก็เฉยๆ ไปแล้ว แต่ที่เรารู้สึกว่าไม่โอเคคือเขาไม่ยอมไปบานเราแล้ว นิสัยก็เปลี่ยนไปไม่สนใจ ไม่ดูแลอะไรเราแล้ว เราวิ่งเรื่องครอบครัวขับรถไปกลับระยะทางไกลๆ เขาก็ไม่เคยห่วง ไม่ไปด้วย และพอถึงเวลาย้ายเราเองก็ไม่ย้าย ก่อนตัดสินใจว่าจะไม่ย้ายก็ถามเขาว่าให้ย้ายกลับบ้านไหม เขาตอบว่า "แล้วแต่คิดเอาเองเลย" ซึ่งจริงๆ คำแบบนี้น่าจะตัดสินได้แล้วโน๊ะว่า เขาไม่เอาเราแล้ว...
แต่เพราะเรายังเข้าข้างตัวเองไง ว่าถ้าเราทำดียังไงก็ต้องรักกันได้อีก ครอบครัวต้องดีขึ้นได้ จนเวลาผ่านมาจนวันนี้ มันกลับยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยว การนิ่งเฉย เขาปกปิดเรากับเพื่อนๆ เขาหลายๆ กลุ่ม ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเกิดจากที่เขาเอาเราไปด่าว่ากับเพื่อนเขา การจะเอาเรามาเปิดเผยคงอาย หรืออีกอย่างคือคนไม่รักแล้ว ยังไงก็คงไม่อยากมีแล้ว...
วันนี้เรายึดติดเพราะคิดว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลวร้าย เขาไม่ได้มีเมียน้อย เขาไม่ได้ทำตัวเลว แต่ว่าไม่ได้รักกันแล้วแค่นั้น หากเราจะดื้อด้านอยู่ต่อมันจะดูโง่มากไหม หากเราไปเราจะมีความสุขกว่านี้ไหมหนอ มันคือความกลัวที่บอกไม่ถูก ...
หลายวันแล้วที่เราไม่คุยกัน เราพยายามอยากให้เขาปรับปรุงเพื่อชีวิตครอบครัวจะได้ไปรอด...แต่ไร้คำตอบ
ความผูกพัน ความเคยชินกำลังทำเราลังเล...ควรเดินต่อไปหรือควรยอมรับสภาพแบบนี้ไปจนตาย
(เราไม่มีลูกด้วยกัน) ทางออกมีให้เลือกคืออยู่ไปวันๆ ไม่ต้องคิดอะไร ตราบใดที่เขาไม่ได้เลวพอจนจะทำให้เลิกก็อยู่ไป และอีกทางคือ ย้ายกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่และใช้ชีวิตคนโสด...
เมื่อไม่รักกัน
แต่มันไม่ได้เป็นดังหวัง เมื่อเขาไม่ได้รักเราแล้ว เขาไปหลงรักเพื่อนเขา รักแบบมาก เราจับได้คือ เขาจะโทรคุยกันทุกวันวันละ 30-40 ครั้งได้ ในขณะที่เราไปทำงานหาเงินเขาก็จะคุยกันตลอด และที่เจ็บปวดคือเขาไล่เราออกจากบ้าน บอกเลิก โกหกว่าเขาจดทะเบียนกันคนอืนแล้ว แต่เราไปไหนไม่ได้ด้วยเงินและงานที่ไม่สามารถใช้ชีวิตเด็กหอได้ เลยต้องทนอยู่แบบขืนข่ม ตลอดเวลาเขาไม่เคยยอมรับว่ารักคนนั้น เขาบอกเพื่อนกัน แต่เราจับได้วาเขาให้เงินคนนั้นไปออกรถยนต์ใหม่ และดูแลทั้งเรื่องโทรศัพท์ซื้อให้เขาใช้ จ่ายค่าโทรศัพท์ให้...สุดท้ายเราก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจออกไปอยู่หอ..(เลิกกันอีกครั้ง)
ประเด็นตรงที่ว่า ผุ้หญิงคนนั้นเป็นคนสวย ลูกติด ชีวิตเขาบอกว่าไม่คิดจะเอาแฟนเรา คนจะคบกับเชาได้ต้องดูแลเขาได้ ซึ่งแฟนเราหนี้สินเยอะ เงินเดือนไม่มีเหลือใช้ แต่หาเงินได้มาจากการกู้...ทำให้แฟนเราไม่สมหวังในความรัก และสุดท้าย...
เขาก็มาง้อเรา อีกเช่นเคย เราก็ยอมคืนดี เพราะอยู่หอลำบากมาก อย่างน้อยอยู่กับแฟนก็ยังได้ที่พักฟรี และแฟนเราบอกว่าจะทำดี เลิกยุ่งกับใครแล้ว และเพราะยังรักเราอยู่ ขอโอกาสแก้ตัว (ตอนนั้นเรารู้สึกไม่ได้รักแล้ว แต่คิดว่าจะอยู่เพื่อเอาตัวรอด) เราก็บอกแฟนนะว่าไม่ได้รักแล้ว แต่แฟนบอกว่าจะไปอยู่ให้ลำบากทำไม มาอยู่ด้วยกันจนกว่าจะย้ายได้ (ตอนนั้นเราสอบราชการได้) ซึ่งก็มองว่าไม่มีอะไรเสียหาย เลยกลับไป รอเวลาย้าย
แรกๆ เขาก็ดีนะ ดูแลดี ยอมไปบ้านเรา (จากที่ไม่เคยไปหลังจากแต่ง) แต่...อะไรมันย่อมแตกต่างได้เสมอ เราจับได้ว่าเขายังติดต่อกับผญ.คนนั้น โดยอ้างว่าแค่พี่น้อง (เพราะผญ.ไม่ยอมคบแฟนเรา) แฟนเราไปหาที่บ้าน เอาของไปฝาก ไปไหนๆ กับคนนั้น...ไม่เจ็บหรอกเพราะว่าเราเองก็เฉยๆ ไปแล้ว แต่ที่เรารู้สึกว่าไม่โอเคคือเขาไม่ยอมไปบานเราแล้ว นิสัยก็เปลี่ยนไปไม่สนใจ ไม่ดูแลอะไรเราแล้ว เราวิ่งเรื่องครอบครัวขับรถไปกลับระยะทางไกลๆ เขาก็ไม่เคยห่วง ไม่ไปด้วย และพอถึงเวลาย้ายเราเองก็ไม่ย้าย ก่อนตัดสินใจว่าจะไม่ย้ายก็ถามเขาว่าให้ย้ายกลับบ้านไหม เขาตอบว่า "แล้วแต่คิดเอาเองเลย" ซึ่งจริงๆ คำแบบนี้น่าจะตัดสินได้แล้วโน๊ะว่า เขาไม่เอาเราแล้ว...
แต่เพราะเรายังเข้าข้างตัวเองไง ว่าถ้าเราทำดียังไงก็ต้องรักกันได้อีก ครอบครัวต้องดีขึ้นได้ จนเวลาผ่านมาจนวันนี้ มันกลับยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยว การนิ่งเฉย เขาปกปิดเรากับเพื่อนๆ เขาหลายๆ กลุ่ม ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเกิดจากที่เขาเอาเราไปด่าว่ากับเพื่อนเขา การจะเอาเรามาเปิดเผยคงอาย หรืออีกอย่างคือคนไม่รักแล้ว ยังไงก็คงไม่อยากมีแล้ว...
วันนี้เรายึดติดเพราะคิดว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลวร้าย เขาไม่ได้มีเมียน้อย เขาไม่ได้ทำตัวเลว แต่ว่าไม่ได้รักกันแล้วแค่นั้น หากเราจะดื้อด้านอยู่ต่อมันจะดูโง่มากไหม หากเราไปเราจะมีความสุขกว่านี้ไหมหนอ มันคือความกลัวที่บอกไม่ถูก ...
หลายวันแล้วที่เราไม่คุยกัน เราพยายามอยากให้เขาปรับปรุงเพื่อชีวิตครอบครัวจะได้ไปรอด...แต่ไร้คำตอบ
ความผูกพัน ความเคยชินกำลังทำเราลังเล...ควรเดินต่อไปหรือควรยอมรับสภาพแบบนี้ไปจนตาย
(เราไม่มีลูกด้วยกัน) ทางออกมีให้เลือกคืออยู่ไปวันๆ ไม่ต้องคิดอะไร ตราบใดที่เขาไม่ได้เลวพอจนจะทำให้เลิกก็อยู่ไป และอีกทางคือ ย้ายกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่และใช้ชีวิตคนโสด...