คิดยังไงกับการซื้อของที่ไม่เกิน40บ.แล้วจ่ายแบงค์1,000 (ร้านเล็กๆที่ไม่ใช่7-11 โลตัส)

ครอบครัวเราเปิดร้านขายอาหาร แถวต่างจังหวัด วันนี้เราเจอลูกค้าที่ซื้ออาหาร1จาน (40บ.) แล้วให้แบงค์1,000 เจอ4คน ล่าสุดตอนเย็นลูกค้าขอซื้อข้าวสวย5บ. แล้วให้แบงค์1,000 ปกติก็ได้แบงค์1,000บ่อยมาก แต่ลูกค้าส่วนน้อยค่ะที่จะซื้ออาหาร400บ.+ แล้วให้แบงค์1,000 ส่วนน้อยมากกกกกกก คือเอาจริงๆนะ เราไม่มีเงินสำรองที่จะทอนให้ลูกค้าได้ ต้องขับรถไปซื้อของเล็กๆน้อยๆที่7-11 เราเข้าใจแม่ค้าดี เราไม่เคยที่จะซื้อของเล็กๆน้อยๆแล้วให้แบงค์พันเลย ขอร้องล่ะ ลูกค้าคือพระเจ้าทั้งหลาย กิจการของพวกเราไม่มีเงินสำรองมากพอเท่า7-11 เราไม่สามารถหาเงิน 995บ.มาทอนคุณได้ ขายของก็เงียบอยู่แล้ว เราขอได้ไหม ถ้าคุณจะซื้อสินค้าร้านเล็กๆ กรุณาจ่ายแบงค์อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่1,000ได้ไหม ผู้บริโภคต้องการให้เจ้าของกิจการเข้าใจพวกเขา แล้วผู้บริโภคล่ะ เข้าใจพวกเราไหม เอาใจเขามาใส่เราบ้างดิ เหนื่อยนะเว้ย เสียวก็เสียวถ้าโชคร้ายเจอแบงค์ปลอมอีก เหนื่อย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
การค้าขาย สิ่งหนึ่งคือการเตรียมพร้อม ผมเองก็พ่อค้าครับ เรื่องเงินทอน พวกเหรียญจะแยกๆเลย ส่วนแบ็งค์ก็พร้อมจะทอน ไม่ได้อวดว่าตัวเองดี เพราะเคยเจอลูกค้าเหน็บแม่ค้าอื่นๆข้างๆกันในงาน Otop เมืองทองธานี ขอทานยังมีกะลานะ ฟังแล้วนึก อือม์จริง! บางทีก็รู้ว่าเขาจะแลกเงินก็ต้องจำใจ ไม่เคยพลาดโอกาสจะขายของครับ
ความคิดเห็นที่ 10
เข้าใจนะ มันก็มีทั้งตั้งใจแตกแบงค์และไม่มีแบงค์อื่นจริงๆ แต่ถ้ามองแบบคนขายของเรามองว่ามีลูกค้าให้วิ่งแลกแบงค์ ดีกว่าไม่มีลูกค้าเลย เราเองถ้าวันไหนถือแบงค์พันจะถามก่อนว่าแบงค์พันมีทอนมั้ย ถ้าตอบว่าไม่มีร้านนั้นก็ไม่ได้เงินเรา แค่นั้น แล้วก็ไปซื้อที่อื่น

   ไม่เกี่ยวกับลูกค้าคือพระเจ้า แต่คนซื้อเค้าไม่แคร์หรอก เค้ามีร้านอื่นให้ซื้อเยอะแยะ คุณเองนั่นแหละที่จะมีปัญหา คุณเองก็บอกอยู่ว่าค้าขายเงียบ ถ้าบอกไม่รับแบงค์พันไม่กลัวจะเงียบกว่าเดิมหรือ ขายของต้องพร้อมถ้าไม่พร้อมก็ต้องวิ่งแลกอย่างที่ทำหรือไม่ก็หาทางอื่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่