คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 70
ไม่เคยทาน KFC เมืองนอกนะครับ แต่ KFC เมื่อ 15ปีก่อน+ อร่อยกว่าจริงๆ ทั้งโคลสลอว์ บิสกิต ไก่ไม่มีกระดูก หรือแม้แต่ไก่ทอดเมื่อก่อนที่แบ่งเป็นไก่กรอบเผ็ดกับไก่คลาสสิค(ไม่เผ็ด)ก็อร่อยกว่าปัจจุบันสำหรับผม
เดี๋ยวนี้แทบไม่ได้เข้าเลยครับ นานๆที
เดี๋ยวนี้แทบไม่ได้เข้าเลยครับ นานๆที
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ทำไมเรารู้สึกว่า kfc ที่อเมริกานี่ไม่อร่อยเลย นานน้านจะเข้าที ไก่ทอด Walmart ยังจะอร่อยกว่า
ส่วนkfcไทย เมื่อนานมาแล้ว มีข้าวผัดด้วยนะ ก็น่าจะ เมื่อ20กว่าปีนั่นล่ะ อร่อยมากๆเลย บิสกิตตอนนั้นก็อร่อย
ส่วนkfcไทย เมื่อนานมาแล้ว มีข้าวผัดด้วยนะ ก็น่าจะ เมื่อ20กว่าปีนั่นล่ะ อร่อยมากๆเลย บิสกิตตอนนั้นก็อร่อย
สมาชิกหมายเลข 808634 ถูกใจ, มาร์ชเมลโลกับไมโลอุ่นๆ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4752519 ถูกใจ, อมยิ้มในกำมือ* ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3640828 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4501274 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 45
เคยทำอยู่เมิ่อประมาณ 24 ปีผ่านมาแล้ว...
หมักเอง คลุกเอง ทอดเอง กินเอง...
หมักไก่ 15 นาที เป็นเครื่องปรุงซอง ผลิตโดยสหพัฒน์ ผสมน้ำผงหมัก 1 ซองใช้น้ำ 5700 cc. แบ่งเป็น 1900 cc. ละลายผงหมักจากนั้นเติมอีก 3800 cc. คนให้เข้ากัน หมักไก่คราวละ 20 ตัวตัดแบ่งตัวละ 9 ชิ้น ลงในถังหมักเดินเครื่องให้หมุน ครบ 15 นาทีเทลงมาหยิบใส่ถุง ถุงละ 2 ตัวสะโพก 4 สันหลัง 4 น่อง 4 ปีก 4 อก 2 (ทำงานใหม่ๆจับใส่ถุง ส่วนที่หมักอยู่ในเครื่องเสร็จแล้วยังจับใส่ถุงไม่เสร็จ หลังๆหลับตาจับไม่กินห้านาทีเสร็จ) แล้วพักไว้ในห้องเย็น อย่างน้อย 4 ชม.จึงนำออกมาทอดได้ อายุการเก็บไม่เกิน 24 ชั่วโมง นานกว่านั้นเค็ม เสียต้องทิ้ง)...
จากนั้นคลุกแป้งที่มีส่วนผสมของแป้งสาลีกับแป้งขนมปัง จำไม่ได้ละว่าอัตราส่วนเท่าไหร่ ร่อนแป้งก่อนการคลุกไก่ทุกครั้ง คลุกครั้งแรกแล้วเอาแป้งส่วนเกินออก ลงจุ่มน้ำ แล้วคลุกแป้งอีกครั้ง จัดเรียงใส่ตะกร้าทอด ทอดได้คราวละ 1 - 6 ตัว(ส่วนใหญ่จะ 4 ตัว) ลงทอดที่อุณหภูมิน้ำมัน 171°C คนน้ำมันในเตาให้อุณหภูมิสม่ำเสมอ แล้วลงทอด จากนั้นทอดที่อุณหภูมิ 157 °C เป็นเวลา 14นาที15วินาที ยกขึ้นเอียงตะกร้าไล่น้ำมันส่วนเกิน จัดเรียงใส่ถาด สะโพกน่องอกสันหลังปีกเรียงซ้ายมาขวา พักไก่ไว้ในตู้ก่อนจำไม่ได้ว่า 5 หรือ 15 นาที ก่อนนำไปขาย และจะต้องขายให้หมดภายใน 1 ชม. ไม่งั้นไก่จะไม่ร้อน สีจะคล้ำๆ แป้งจะไม่กรอบ เช้าจะสับไก่ 1 ชิ้นเพื่อตรวจดูว่าเลือดในกระดูกสุกเต็มที่จริงๆไม่มีเลือดแดงๆ ...
ไปถึงแคชเชียร์จะรู้ว่าไก่เรียงแบบไหน หยิบจัดเซ็ทได้สะดวก 2 ชิ้นจัดสะโพกปีก หรือ สันหลังน่อง 3 ชิ้นจัด เหมือน 2 ชิ้นเพิ่มสันหลังหรือปีก 6ชิ้นจัดอย่างละ 1 กับสันหลังหรือปีก 10 ชิ้นจัด1 ตัวเพิ่มสันหลังหรือปีก...
เมื่อก่อนลูกค้า 1 คนสั่งแล้วจะจัดให้เสร็จภายใน 1 นาที ไม่มีคิวมาวุ่นวายเหมือนสมัยนี้ จะสังเกตุได้สั่งเสร็จจะตักน้ำแข็งใส่แก้วกดน้ำ แล้วขยับไปมือนึงหยิบถาดอีกมือจะหยิบกระดาษรองถาด จากนั้นมือนึงหยิบจานอีกมือหยิบที่คีบไก่ ยกจานสูงพอประมาณกันไก่กระเด็น คีบเสร็จวางไว้บนถาด จากนั้นหยิบของตามที่สั่ง ถ้าสั่งเบอเกอร์พนักงานจะเหลือบมองในตู้ว่ามีมั้ยถ้าไม่มีจะสั่งซับพลายด้านหลัง เบอเกอร์จะทำเสร็จภายใน 1 นาทีเช่นกันหากไส้พร้อม เดี๋ยวนี้อาจจะเพราะ products มันมากขึ้นทำไม่ทันเลยต้องรอ เลยเสียคอนเซ็ปท์ไปหน่อย ไม่ฟาสเหมือนเมื่อก่อน จะสังเกตุได้ว่าจะไม่มีการใช้มือสัมผัสอาหารทุกขั้นตอน พนักงานจะใส่ถุงมือเฉพาะตอนทำเบอเกอร์เท่านั้น ทำเสร็จก็ถอดออก ไม่ให้ถุงมือไปสัมผัสอุปกรณ์อื่นไม่อย่างนั้นก็ปนเปื้อนอยู่ดี...
ส่วนไก่ไม่เคยกิน KFC อเมริกา แต่ KFC มาเลเซียอร่อยกว่าโดยเฉพาะซอสพริก...
หมักเอง คลุกเอง ทอดเอง กินเอง...
หมักไก่ 15 นาที เป็นเครื่องปรุงซอง ผลิตโดยสหพัฒน์ ผสมน้ำผงหมัก 1 ซองใช้น้ำ 5700 cc. แบ่งเป็น 1900 cc. ละลายผงหมักจากนั้นเติมอีก 3800 cc. คนให้เข้ากัน หมักไก่คราวละ 20 ตัวตัดแบ่งตัวละ 9 ชิ้น ลงในถังหมักเดินเครื่องให้หมุน ครบ 15 นาทีเทลงมาหยิบใส่ถุง ถุงละ 2 ตัวสะโพก 4 สันหลัง 4 น่อง 4 ปีก 4 อก 2 (ทำงานใหม่ๆจับใส่ถุง ส่วนที่หมักอยู่ในเครื่องเสร็จแล้วยังจับใส่ถุงไม่เสร็จ หลังๆหลับตาจับไม่กินห้านาทีเสร็จ) แล้วพักไว้ในห้องเย็น อย่างน้อย 4 ชม.จึงนำออกมาทอดได้ อายุการเก็บไม่เกิน 24 ชั่วโมง นานกว่านั้นเค็ม เสียต้องทิ้ง)...
จากนั้นคลุกแป้งที่มีส่วนผสมของแป้งสาลีกับแป้งขนมปัง จำไม่ได้ละว่าอัตราส่วนเท่าไหร่ ร่อนแป้งก่อนการคลุกไก่ทุกครั้ง คลุกครั้งแรกแล้วเอาแป้งส่วนเกินออก ลงจุ่มน้ำ แล้วคลุกแป้งอีกครั้ง จัดเรียงใส่ตะกร้าทอด ทอดได้คราวละ 1 - 6 ตัว(ส่วนใหญ่จะ 4 ตัว) ลงทอดที่อุณหภูมิน้ำมัน 171°C คนน้ำมันในเตาให้อุณหภูมิสม่ำเสมอ แล้วลงทอด จากนั้นทอดที่อุณหภูมิ 157 °C เป็นเวลา 14นาที15วินาที ยกขึ้นเอียงตะกร้าไล่น้ำมันส่วนเกิน จัดเรียงใส่ถาด สะโพกน่องอกสันหลังปีกเรียงซ้ายมาขวา พักไก่ไว้ในตู้ก่อนจำไม่ได้ว่า 5 หรือ 15 นาที ก่อนนำไปขาย และจะต้องขายให้หมดภายใน 1 ชม. ไม่งั้นไก่จะไม่ร้อน สีจะคล้ำๆ แป้งจะไม่กรอบ เช้าจะสับไก่ 1 ชิ้นเพื่อตรวจดูว่าเลือดในกระดูกสุกเต็มที่จริงๆไม่มีเลือดแดงๆ ...
ไปถึงแคชเชียร์จะรู้ว่าไก่เรียงแบบไหน หยิบจัดเซ็ทได้สะดวก 2 ชิ้นจัดสะโพกปีก หรือ สันหลังน่อง 3 ชิ้นจัด เหมือน 2 ชิ้นเพิ่มสันหลังหรือปีก 6ชิ้นจัดอย่างละ 1 กับสันหลังหรือปีก 10 ชิ้นจัด1 ตัวเพิ่มสันหลังหรือปีก...
เมื่อก่อนลูกค้า 1 คนสั่งแล้วจะจัดให้เสร็จภายใน 1 นาที ไม่มีคิวมาวุ่นวายเหมือนสมัยนี้ จะสังเกตุได้สั่งเสร็จจะตักน้ำแข็งใส่แก้วกดน้ำ แล้วขยับไปมือนึงหยิบถาดอีกมือจะหยิบกระดาษรองถาด จากนั้นมือนึงหยิบจานอีกมือหยิบที่คีบไก่ ยกจานสูงพอประมาณกันไก่กระเด็น คีบเสร็จวางไว้บนถาด จากนั้นหยิบของตามที่สั่ง ถ้าสั่งเบอเกอร์พนักงานจะเหลือบมองในตู้ว่ามีมั้ยถ้าไม่มีจะสั่งซับพลายด้านหลัง เบอเกอร์จะทำเสร็จภายใน 1 นาทีเช่นกันหากไส้พร้อม เดี๋ยวนี้อาจจะเพราะ products มันมากขึ้นทำไม่ทันเลยต้องรอ เลยเสียคอนเซ็ปท์ไปหน่อย ไม่ฟาสเหมือนเมื่อก่อน จะสังเกตุได้ว่าจะไม่มีการใช้มือสัมผัสอาหารทุกขั้นตอน พนักงานจะใส่ถุงมือเฉพาะตอนทำเบอเกอร์เท่านั้น ทำเสร็จก็ถอดออก ไม่ให้ถุงมือไปสัมผัสอุปกรณ์อื่นไม่อย่างนั้นก็ปนเปื้อนอยู่ดี...
ส่วนไก่ไม่เคยกิน KFC อเมริกา แต่ KFC มาเลเซียอร่อยกว่าโดยเฉพาะซอสพริก...
สมาชิกหมายเลข 4708566 ถูกใจ, sleeper_j ถูกใจ, Destiny มีจริง ถูกใจ, samsam หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 1518762 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมไก่ kfc ที่อเมริกาถึงอร่อยกว่าที่ประเทศไทย
และก็ชั้นที่ 2 จะเหมือนเป็นชั้นแป้งหมักเหลวๆค่ะ อร่อยมาก ชั้นสุดท้าย จะเป็นหนังเคลือบแป้งอร่อย
แต่พอมาไทย ไทยมีแค่ 2 ชั้นเอง คือชั้นแป้งหมักเหลวๆหายไป และก็เนื้อไก่ ไม่มีรสชาติเลย ถ้าลอกหนังออก คงไม่ต่างจากไก่ต้มเลยนะคะ ชิ้นล่ะ 37 บาทนี่
ทำไมเป็นแบบนี้ คุณพ่อเคยบอกว่าเมื่อ 20 ปีก่อน kfc มีไก่ไม่มีกระดูก อร่อยมากๆ เวลากินเนื้อคุณพ่อชอบดึงออกมาเป็นเส้นๆค่ะ แต่ต่อมาก็เลิกผลิต จากนั้นก็กลับมาผลิตอีก แต่ไก่ไม่มีกระดูกรอบนี้กลับเป็นเนื้ออกหรือสันในซึ่งเนื้ออกหรือสันในมันก็ไม่มีกระดูกอยู่แล้ว ใช้เนื้อไม่อร่อยเหมือนเมื่อ 20 ปี( 20 ปีก่อนจะใช้เนื้อจากน่องไก่เลาะกระดูก จึงเรียกว่าไก่ไม่มีกระดูก)และเนื้อก็ไม่มีการหมักเลย ตอนนี้คงเลิกผลิตไปแล้วเพราะเราเองก็หาไม่เจอ แต่เหมือนมีคนพูกว่า kfc ไทยนำเครื่องเทศของ kfc แท้ๆ มี 1 ส่วนแล้วผสมกับเครื่องเทศที่ไทยคิดขึ้นเองไม่ใช่ของ kfc เจ้าตำรับ อีกหลายส่วน ข่าวนี้จริงเปล่าคะ ถ้าใครเข้ามาอ่านแล้วได้ทานไก่ kfc เมื่อ 20 ปีที่แล้ว มาบอกรสชาติที่เปลี่ยนไปด้วยน่ะคะ
เราอยากให้ kfc แท้ๆกลับคืนมาจังค่ะ