** รีวิวทั้งหมดเป็นการเขียนด้วยตัวของผมเพียงคนเดียว การเรียกชื่อสถานที่ หรือประวัติต่างๆ เป็นความเข้าใจส่วนบุคคลและหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ทจากหลายแหล่ง อาจจะผิดพลาดนะครับ ซึ่งตัวผมไม่ได้มีพื้นฐานการเรียนเยอรมัน หรือมาเรียนแถบนี้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้น ถ้ามีอะไรผิดพลาด ขออภัยมา ณ ที่นี้ก่อนเลย และถ้าท่านใดจะเสริมข้อมูลให้ จะกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
รีวิวอันนี้เป็นตอนสอง นะคับ เผื่อใครอยู่ดีโผล่มากระทู้นี้เลย แล้วมาอ่านกลางเรื่องจะงงๆ เหมือนท่านอ่านแฮรี่พอร์ตเตอร์แบบข้ามตอน 1 ไปอ่ะ
ไปอ่านกระทู้ 1 ก่อนนะคับ
https://ppantip.com/topic/38220130
Day 3 ของการเดินทา
Vienna --> Budapest
7 october 18
แพลนทริป ที่ฮังการี บุดดาเปส นะคับ (แพลนของสองวัน)
(วันที่สามของการเที่ยว)
ออกจาก เวียนนา รับรถที่เช่าไว้ ไป Budapest
เช็คอิน เดินเที่ยวผับ ดูบอลคู่ ลิเวอร์พูล vs แมนซิตี้
สาวๆ ไปร้านเค้ก Newyork 92/100 (คะแนนโดยสาวๆ ขนมอร่อย ร้านสวย ต่อคิวนาน)
เดินเล่นในเมือง
(วันที่สี่ของการเที่ยว) (วันนี้ของดให้คะแนนทุกสถานที่ด้วยเหตุผลหลายประการ)
เดินข้ามสะพาน chain bridge
ไปเที่ยววัง
Matthias Church
Fisherman’s Bastion
โอเปร่าเฮ้าส์
พาไลเม้น
ขึ้นเรือ ล่องแม่น้ำตอนกลางคืน 100/100 ห้ามพลาดเลยครับ
เริ่มต้นเช้าอันสดใส
6 7 8
เราแพลนกันแบบนี้คับ ผมกะนุ้งตั้ม ตื่นเช้ามาทานข้าวเช้าแบบเดิม
ขนมปัง ไข่เจียว มาม่า ไส้กรอก โยเกิร์ท ซีเรียล คอนเฟลค จัดของทุกอย่างให้เสร็จ แล้วออกเดินทางไปเอารถ ส่วนพวกสาวๆ ให้จัดการแพ็คของให้เรียบร้อย แล้วพอพวกผมได้รถเสร็จ ก็จะขับรถมาจอดหน้าที่พัก แล้วขนของขึ้นรถชิลๆ แล้วออกเดินทางไป เมือง บุดดาเปส ประเทศฮังการี
***** การขับรถ การขับรถและรับรถที่นี่ มีอะไรซับซ้อนมากมายนะคับ ขอร่ายยาวเลยละกัน ผมเชื่อว่า คนไม่เคยขับรถต่างประเทศมีมึน มีพลาดหลายดอกแน่นอน
เอาตอนแรกเลย ก่อนเราจะมาเราจะทำใบขับขี่อินเตอร์ใช่มะ พอทำเสร็จ ผมก็พกใบขับขี่อินเตอร์กับพาสปอร์ทมาใช้ที่นี่ไง มาถึงตอนรับรถ สิ่งที่มันขอคือ ... พาสปอร์ท กับ Thai Driving License !!!!! ผมถึงกับอึ้งส์แดรก ... ผมควักกระเป๋าตังออกมา ซึ่งรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่า ไม่ได้เอามา .... ผมหยิบบัตรประชาชนให้มัน ซึ่งมันก็เอาไปดูแล้วจดไอดีบัตรเว่ย สรุปว่ารอด .... ทำเรื่องทำไรเสร็จ มันบอกว่า ... ซื้อประกันเพิ่มมั้ย เนี่ยะ ประกันที่ยูซื้อมามันไม่ โคฟเว่อร์หมดนะ มันโคฟเว่อร์แค่ 5ร้อยยูโร .... คือพวกผมก็งง หันไปมองหน้ากัน เพราะจำได้ว่า เรากดซื้อผ่านเน็ทมาก่อนแล้ว
สิ่งที่พวกผมซื้อคือ ประกัน กับคาร์ซีทสำหรับเด็ก และ GPS ซึ่งมันก็คำนวนเป็นเงินออกมาแล้ว ไฟน่อลแล้ว จบแล้ว ทำไมมาถึงที่นี่ ถึงมาถามเพิ่มประกันอีก คิดไปคิดมา เริ่มกลัวใจ เพราะกลัวขับชนมา แล้วเสียเป็นแสน ตัดสินใจคิดกันอยู่นาน หันไปคุยกะมัน มันบอกว่า ถ้ายูซื้อประกันเด๋วไอ แถม GPS ให้ละกัน … พวกผมก็เริ่มงงละ แถมไรวะ ก็เรากดสั่งมาจากตอนจองตอนแรกแล้วนะ คือคุยกะมันวนไป วนมา จนรู้สึกได้ว่า อีนี่ หลอกกูแน่นอน ไปๆ มาๆ เลยถามมันว่า (ควักมือถือที่เราจองไว้ให้มันดู) ไอจองประกันแบบ Full Cover มานะทำไมถึงต้องซื้อเพิ่ม มันก็อธิบายมึนๆ งงๆ
สุดท้าย ผมจะบอกว่า ระวังให้ดีนะคับ พวกนี้ชอบขายของเพิ่มแบบมั่วซั่ว
สุดท้ายอีก เราบอกว่าเราจะเอาตามที่จองมา ก็จบ ทำเรื่องรับใบ และเดินไปที่ที่จอดรถ ลงไปรับคาร์ซีทที่สกปรกมากๆ สกปรกจนคุณแม่ไม่ได้ใช้งานเลยทั้งทริป แต่มีไว้กันตำรวจแทน -*-
รับรถออกมาอย่างปลอดภัย ผมกด GPS ไปที่พักของเรา ขับไปขนของ
เช็คเอ้าท์จากที่พักเวียนนา แล้วมุ่งหน้าสู่ เมืองบุดดาเปส ประเทศฮังการี
สิ่งแรกที่พวกเราหาข้อมูลก็คือ ค่าทางด่วนในฮังการี
คืองี้ครับ ประเทศแถบนี้ทุกประเทศ จะต้องมีการจ่ายค่าทางด่วน เวลาเราขับ ซึ่งเราไม่มีทางรู้ด้วยซ้ำว่า ตรงไหนคือทางด่วน ตรงไหนต้องเสียเงิน ไอ่ใบทางด่วนเนี่ยะ เรียกว่า Vignette ซึ่งออกเสียงว่า วินเน่ .... ซึ่งนุ้งตั้มผู้มีความสลิดแบบคนเมืองออกเสียงว่า “วินเย่” เราจึงเรียกวินเย่ มาตลอดทริป
ไอ่ Vignette เนี่ยะ จะเหมือนบัตรขึ้นรถของทุกประเทศแถบนี้นะคับ นั่นคือ คุณจะไม่ซื้อก็ได้ แต่ถ้ามีการตรวจจับ หรือเค้าจับได้ว่า เราขับขึ้นถนนที่ต้องจ่ายแล้วเราไม่ได้ซื้อวินเน่นี้ จะมีค่าปรับ ซึ่งเท่าที่หาข้อมูลมา ค่าปรับค่อนข้างแพงเลย หลายร้อยยูโรเลยแหละ
ในรถที่พวกเราเช่านั้น มี วินเน่ ของประเทศออสเตรีย ติดมาให้เลยนะครับ ดังนั้น ถ้าเราอยู่ในออสเตรีย เราไม่จำเป็นต้องจ่าย
ทีนี้ พอเข้าฮังการี เราก็หาข้อมูล เพราะเรากลัวที่สุดคือค่าปรับ .... พอเราแวะปั้ม เราก็เห็นตู้ Vignette อยู่ ซึ่งปั้มนี้อยู่ในเขตประเทศฮังการีแล้ว
ค่าวินเน่ ของฮังการี นั้น จะจ่ายแบบขั้นต่ำคือ 1 เดือน !!!!! รถปกติ 15ยูโร แต่ของพวกเรา คือ 30 ยูโร เพราะพวกเราคือรู้ตู้ 9 ที่นั่ง ดังนั้น โดนไป 30ยูโร คับ ซื้อเสร็จจะได้สติ๊กเกอร์มาแปะหน้ารถ ... กันคนมาตรวจ
ใจจริง ตอนแรกที่แพลนกันคือ เราจะไป บลาติสลาว่า ด้วย แต่จากการคำนวนแล้ว มันกลายเป็นใช้เวลาขับนาน แถมเที่ยวก็ใช้เวลาอีก จะทำให้เรามีเวลาที่บุดดาเปสน้อยเกินไป แถมจะอดดูบอลด้วย ... เราเลยตัดสินใจ ตัดบลาติสลาว่าทิ้งไป
พอได้วินเน่มาแล้ว ลุยยยย เราขับไปบุดดาเปสเลย ใช้เวลาไม่นานคับ ประมาณ 3ชั่วโมง ก็ถึงใจกลางเมือง ...
ทางที่พักอีเมล์มาว่า เราสามารถเช็คอินได้ หลัง 15.30 น แต่ตอนนี้เพิ่งจะ 14.00 ไปถึงก็ขับไปแถวอพาร์ทเม้นเลย มีที่จอดพอดี ซึ่งวันอาทิตย์ จอดฟรีทั้งวันครับ เราไม่ต้องหยอดตู้เพื่อซื้อตั๋วจอดรถ
พอจอดรถเราก็ติดต่ออพาร์ทเม้น ก็มีคนมาเปิดประตู ซึ่งเค้าบอกว่า ห้องพักยังไม่พร้อม เราต้องเอาของทั้งหมดไปฝากไว้ที่ออฟฟิสก่อน ไอ่อพาร์ทเม้นนี้ อยู่ใจกลางเมืองเลยนะครับ แต่การขึ้นห้องนั้นน่ากลัวมาก คือ ต้องเปิดประตูเข้าไปในชุมชนแปลกๆ ที่เป็นตึกหลายชั้น มีบ้านคนอยู่ด้านใน มีลิฟท์ (โชคดีนะที่มีลิฟท์) ตัวเล็กๆ เราขนของไปชั้นสี่ เพื่อเอากระเป๋ายักษ์ไว้ในออฟฟิสเค้าก่อน
จากนั้นก็ออกไปหาข้าวกลางวันกิน
แถวที่พักมีร้านอาหารญี่ปุ่นพอดี เลยแวะทานอาหารญี่ปุ่นกัน
ตกคนละประมาณ 13ยูโร
ที่นี่ เริ่มใช้เงิน โฟรินท์ แล้วนะคับ แต่ร้านส่วนใหญ่ก็ยังสามารถรับเงินยูโรได้ หรือจะรูดการ์ดก็ได้เช่นกัน
เงินโฟรินท์ ใช้ตัวย่อว่า HUF โดยค่าเงินโฟรินท์นั้น 1 ยูโร เท่ากับ 325 โฟรินท์
ซึ่งถือว่า เป็นเงินที่ต่ำกว่าเงินไทย โดย หนึ่งบาทไทย จะได้ประมาณ 8กว่าๆ โฟรินท์
อาหารญี่ปุ่น ช้าชิบหอยยยยย เลยนะคับ
ผมให้ความเร็วในการเสิร์ฟ 3/10 เลย
ช้าแบบรอเป็นชั่วโมง หงุดหงิดกันมากๆ ส่วนรสชาติก็พอไปได้ โอเค
พอทานข้าวเสร็จ กลับขึ้นที่พัก ไปเอาของในออฟฟิส แล้วลากเป๋าไปชั้นห้า ซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นของพวกเรา
ความดีงามของห้องที่นี่คือ วิวสวยมาก เห็นสะพานแถวบ้าน ตกแต่งไฟสวยงาม
แถมโลเคชั่นยังติดกับแม่น้ำดานูบ แม่น้ำที่แบ่งฝั่ง บุดดา กับ เปส ของเมืองบุดดาเปส อีกด้วย
ห้องพักที่นี่ ก็เช่นกัน คือ
มี 1 ห้องใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว กับ
2ห้องนอน ซึ่งเป็นห้องนอนที่อยู่บนชั้นลอยฟ้า และห้องนอนใกล้ๆห้องน้ำ โดยห้องอาบน้ำจะใช้ร่วมกันสี่คน และแยกห้องส้วม
เราเก็บของเตรียมตัวกันจนเสร็จ
สาวๆ ทุกคนทำการบ้านมาว่า จะต้องไปร้านเค้กที่มีชื่อเสียงมากๆ ชื่อว่า New York
ส่วนหนุ่มๆ สองคน จะไปดูบอลคู่บิ๊กแมทระหว่าง ลิเวอร์พูล vs แมนซิตี้
พวกเราเดินจากที่พักไปร้านนิวยอร์ค และกด google map หาผับที่มีบอล
ระหว่างทางก็เดินไป แวะถ่ายรูปไป เมืองน่ารักดีคับ สวยๆ
ระหว่างทาง แวะร้าน EXCHANGE เพราะว่า พวกเราจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน HUF ในเมืองนี้
**** การแลกเงิน
คือ ที่นี่จะมี exchange อยู่ตามที่ต่างๆ เยอะมากนะคับ แต่ละร้าน จะมีเรทไม่เท่ากัน ไอ่เรทไม่เท่ากันเนี่ยะ ไม่ได้ต่างกันนิดหน่อยนะคับ มันต่างกันเยอะระดับ 5-10% เลย ดังนั้น เราไม่ควรผลีผลาม ควรจะเช็คเรทการแลกดีดี ซึ่ง เรทแรกที่พวกเราได้คือ 1 ยูโร ต่อ 345 HUF ซึ่งเป็นราคาที่ดีมากๆ
แต่ๆๆๆๆๆๆๆ ครั้งแรกผมไม่รู้ ผมก็ขอแลก 50ยูโร ... ทุกๆ การแลก มี ค่าแลกตังซะงั้น 800 HUF -*- (ประมาณร้อยบาท ต่อการแลกหนึ่งครั้ง)
แลกเสร็จผมก็บอกเจ๊แกว่า เฮ้ย งั้นผมแลกอีก 100 ยูโร เผื่อว่าเค้าจะคิดค่าคอมมิชชั่น (ค่าแลกตัง) ครั้งเดียว ไปๆมาๆ มันเป็นระบบคอม แลกอีกร้อยยูโร โดนค่าแลกอีกดอก -*- คือแบบ โคตรเซ็ง ผมเงยหน้าไปมองหน้าอีป้ารับแลกตัง รู้สึกถึงออร่าการหัวเราะเยาะแถมยิ้มมุมปากว่า “เสร็จกู อีง่าว” -*-
สรุป แลกเงิน คิดค่าแลกเป็นครั้งนะครับ ไม่ว่าจะแลกกี่ยูโรก็ตาม ดังนั้น ควรแพลนการแลกเงินให้ดีดี
[CR] รีวิว Hungary Budapest Hallstatt ฉบับเที่ยวไปด่าไป
รีวิวอันนี้เป็นตอนสอง นะคับ เผื่อใครอยู่ดีโผล่มากระทู้นี้เลย แล้วมาอ่านกลางเรื่องจะงงๆ เหมือนท่านอ่านแฮรี่พอร์ตเตอร์แบบข้ามตอน 1 ไปอ่ะ
ไปอ่านกระทู้ 1 ก่อนนะคับ
https://ppantip.com/topic/38220130
Day 3 ของการเดินทา
Vienna --> Budapest
7 october 18
แพลนทริป ที่ฮังการี บุดดาเปส นะคับ (แพลนของสองวัน)
(วันที่สามของการเที่ยว)
ออกจาก เวียนนา รับรถที่เช่าไว้ ไป Budapest
เช็คอิน เดินเที่ยวผับ ดูบอลคู่ ลิเวอร์พูล vs แมนซิตี้
สาวๆ ไปร้านเค้ก Newyork 92/100 (คะแนนโดยสาวๆ ขนมอร่อย ร้านสวย ต่อคิวนาน)
เดินเล่นในเมือง
(วันที่สี่ของการเที่ยว) (วันนี้ของดให้คะแนนทุกสถานที่ด้วยเหตุผลหลายประการ)
เดินข้ามสะพาน chain bridge
ไปเที่ยววัง
Matthias Church
Fisherman’s Bastion
โอเปร่าเฮ้าส์
พาไลเม้น
ขึ้นเรือ ล่องแม่น้ำตอนกลางคืน 100/100 ห้ามพลาดเลยครับ
เริ่มต้นเช้าอันสดใส
6 7 8
เราแพลนกันแบบนี้คับ ผมกะนุ้งตั้ม ตื่นเช้ามาทานข้าวเช้าแบบเดิม
ขนมปัง ไข่เจียว มาม่า ไส้กรอก โยเกิร์ท ซีเรียล คอนเฟลค จัดของทุกอย่างให้เสร็จ แล้วออกเดินทางไปเอารถ ส่วนพวกสาวๆ ให้จัดการแพ็คของให้เรียบร้อย แล้วพอพวกผมได้รถเสร็จ ก็จะขับรถมาจอดหน้าที่พัก แล้วขนของขึ้นรถชิลๆ แล้วออกเดินทางไป เมือง บุดดาเปส ประเทศฮังการี
***** การขับรถ การขับรถและรับรถที่นี่ มีอะไรซับซ้อนมากมายนะคับ ขอร่ายยาวเลยละกัน ผมเชื่อว่า คนไม่เคยขับรถต่างประเทศมีมึน มีพลาดหลายดอกแน่นอน
เอาตอนแรกเลย ก่อนเราจะมาเราจะทำใบขับขี่อินเตอร์ใช่มะ พอทำเสร็จ ผมก็พกใบขับขี่อินเตอร์กับพาสปอร์ทมาใช้ที่นี่ไง มาถึงตอนรับรถ สิ่งที่มันขอคือ ... พาสปอร์ท กับ Thai Driving License !!!!! ผมถึงกับอึ้งส์แดรก ... ผมควักกระเป๋าตังออกมา ซึ่งรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่า ไม่ได้เอามา .... ผมหยิบบัตรประชาชนให้มัน ซึ่งมันก็เอาไปดูแล้วจดไอดีบัตรเว่ย สรุปว่ารอด .... ทำเรื่องทำไรเสร็จ มันบอกว่า ... ซื้อประกันเพิ่มมั้ย เนี่ยะ ประกันที่ยูซื้อมามันไม่ โคฟเว่อร์หมดนะ มันโคฟเว่อร์แค่ 5ร้อยยูโร .... คือพวกผมก็งง หันไปมองหน้ากัน เพราะจำได้ว่า เรากดซื้อผ่านเน็ทมาก่อนแล้ว
สิ่งที่พวกผมซื้อคือ ประกัน กับคาร์ซีทสำหรับเด็ก และ GPS ซึ่งมันก็คำนวนเป็นเงินออกมาแล้ว ไฟน่อลแล้ว จบแล้ว ทำไมมาถึงที่นี่ ถึงมาถามเพิ่มประกันอีก คิดไปคิดมา เริ่มกลัวใจ เพราะกลัวขับชนมา แล้วเสียเป็นแสน ตัดสินใจคิดกันอยู่นาน หันไปคุยกะมัน มันบอกว่า ถ้ายูซื้อประกันเด๋วไอ แถม GPS ให้ละกัน … พวกผมก็เริ่มงงละ แถมไรวะ ก็เรากดสั่งมาจากตอนจองตอนแรกแล้วนะ คือคุยกะมันวนไป วนมา จนรู้สึกได้ว่า อีนี่ หลอกกูแน่นอน ไปๆ มาๆ เลยถามมันว่า (ควักมือถือที่เราจองไว้ให้มันดู) ไอจองประกันแบบ Full Cover มานะทำไมถึงต้องซื้อเพิ่ม มันก็อธิบายมึนๆ งงๆ
สุดท้าย ผมจะบอกว่า ระวังให้ดีนะคับ พวกนี้ชอบขายของเพิ่มแบบมั่วซั่ว
สุดท้ายอีก เราบอกว่าเราจะเอาตามที่จองมา ก็จบ ทำเรื่องรับใบ และเดินไปที่ที่จอดรถ ลงไปรับคาร์ซีทที่สกปรกมากๆ สกปรกจนคุณแม่ไม่ได้ใช้งานเลยทั้งทริป แต่มีไว้กันตำรวจแทน -*-
รับรถออกมาอย่างปลอดภัย ผมกด GPS ไปที่พักของเรา ขับไปขนของ
เช็คเอ้าท์จากที่พักเวียนนา แล้วมุ่งหน้าสู่ เมืองบุดดาเปส ประเทศฮังการี
สิ่งแรกที่พวกเราหาข้อมูลก็คือ ค่าทางด่วนในฮังการี
คืองี้ครับ ประเทศแถบนี้ทุกประเทศ จะต้องมีการจ่ายค่าทางด่วน เวลาเราขับ ซึ่งเราไม่มีทางรู้ด้วยซ้ำว่า ตรงไหนคือทางด่วน ตรงไหนต้องเสียเงิน ไอ่ใบทางด่วนเนี่ยะ เรียกว่า Vignette ซึ่งออกเสียงว่า วินเน่ .... ซึ่งนุ้งตั้มผู้มีความสลิดแบบคนเมืองออกเสียงว่า “วินเย่” เราจึงเรียกวินเย่ มาตลอดทริป
ไอ่ Vignette เนี่ยะ จะเหมือนบัตรขึ้นรถของทุกประเทศแถบนี้นะคับ นั่นคือ คุณจะไม่ซื้อก็ได้ แต่ถ้ามีการตรวจจับ หรือเค้าจับได้ว่า เราขับขึ้นถนนที่ต้องจ่ายแล้วเราไม่ได้ซื้อวินเน่นี้ จะมีค่าปรับ ซึ่งเท่าที่หาข้อมูลมา ค่าปรับค่อนข้างแพงเลย หลายร้อยยูโรเลยแหละ
ในรถที่พวกเราเช่านั้น มี วินเน่ ของประเทศออสเตรีย ติดมาให้เลยนะครับ ดังนั้น ถ้าเราอยู่ในออสเตรีย เราไม่จำเป็นต้องจ่าย
ทีนี้ พอเข้าฮังการี เราก็หาข้อมูล เพราะเรากลัวที่สุดคือค่าปรับ .... พอเราแวะปั้ม เราก็เห็นตู้ Vignette อยู่ ซึ่งปั้มนี้อยู่ในเขตประเทศฮังการีแล้ว
ค่าวินเน่ ของฮังการี นั้น จะจ่ายแบบขั้นต่ำคือ 1 เดือน !!!!! รถปกติ 15ยูโร แต่ของพวกเรา คือ 30 ยูโร เพราะพวกเราคือรู้ตู้ 9 ที่นั่ง ดังนั้น โดนไป 30ยูโร คับ ซื้อเสร็จจะได้สติ๊กเกอร์มาแปะหน้ารถ ... กันคนมาตรวจ
ใจจริง ตอนแรกที่แพลนกันคือ เราจะไป บลาติสลาว่า ด้วย แต่จากการคำนวนแล้ว มันกลายเป็นใช้เวลาขับนาน แถมเที่ยวก็ใช้เวลาอีก จะทำให้เรามีเวลาที่บุดดาเปสน้อยเกินไป แถมจะอดดูบอลด้วย ... เราเลยตัดสินใจ ตัดบลาติสลาว่าทิ้งไป
พอได้วินเน่มาแล้ว ลุยยยย เราขับไปบุดดาเปสเลย ใช้เวลาไม่นานคับ ประมาณ 3ชั่วโมง ก็ถึงใจกลางเมือง ...
ทางที่พักอีเมล์มาว่า เราสามารถเช็คอินได้ หลัง 15.30 น แต่ตอนนี้เพิ่งจะ 14.00 ไปถึงก็ขับไปแถวอพาร์ทเม้นเลย มีที่จอดพอดี ซึ่งวันอาทิตย์ จอดฟรีทั้งวันครับ เราไม่ต้องหยอดตู้เพื่อซื้อตั๋วจอดรถ
พอจอดรถเราก็ติดต่ออพาร์ทเม้น ก็มีคนมาเปิดประตู ซึ่งเค้าบอกว่า ห้องพักยังไม่พร้อม เราต้องเอาของทั้งหมดไปฝากไว้ที่ออฟฟิสก่อน ไอ่อพาร์ทเม้นนี้ อยู่ใจกลางเมืองเลยนะครับ แต่การขึ้นห้องนั้นน่ากลัวมาก คือ ต้องเปิดประตูเข้าไปในชุมชนแปลกๆ ที่เป็นตึกหลายชั้น มีบ้านคนอยู่ด้านใน มีลิฟท์ (โชคดีนะที่มีลิฟท์) ตัวเล็กๆ เราขนของไปชั้นสี่ เพื่อเอากระเป๋ายักษ์ไว้ในออฟฟิสเค้าก่อน
จากนั้นก็ออกไปหาข้าวกลางวันกิน
แถวที่พักมีร้านอาหารญี่ปุ่นพอดี เลยแวะทานอาหารญี่ปุ่นกัน
ตกคนละประมาณ 13ยูโร
ที่นี่ เริ่มใช้เงิน โฟรินท์ แล้วนะคับ แต่ร้านส่วนใหญ่ก็ยังสามารถรับเงินยูโรได้ หรือจะรูดการ์ดก็ได้เช่นกัน
เงินโฟรินท์ ใช้ตัวย่อว่า HUF โดยค่าเงินโฟรินท์นั้น 1 ยูโร เท่ากับ 325 โฟรินท์
ซึ่งถือว่า เป็นเงินที่ต่ำกว่าเงินไทย โดย หนึ่งบาทไทย จะได้ประมาณ 8กว่าๆ โฟรินท์
อาหารญี่ปุ่น ช้าชิบหอยยยยย เลยนะคับ
ผมให้ความเร็วในการเสิร์ฟ 3/10 เลย
ช้าแบบรอเป็นชั่วโมง หงุดหงิดกันมากๆ ส่วนรสชาติก็พอไปได้ โอเค
พอทานข้าวเสร็จ กลับขึ้นที่พัก ไปเอาของในออฟฟิส แล้วลากเป๋าไปชั้นห้า ซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นของพวกเรา
ความดีงามของห้องที่นี่คือ วิวสวยมาก เห็นสะพานแถวบ้าน ตกแต่งไฟสวยงาม
แถมโลเคชั่นยังติดกับแม่น้ำดานูบ แม่น้ำที่แบ่งฝั่ง บุดดา กับ เปส ของเมืองบุดดาเปส อีกด้วย
ห้องพักที่นี่ ก็เช่นกัน คือ
มี 1 ห้องใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว กับ
2ห้องนอน ซึ่งเป็นห้องนอนที่อยู่บนชั้นลอยฟ้า และห้องนอนใกล้ๆห้องน้ำ โดยห้องอาบน้ำจะใช้ร่วมกันสี่คน และแยกห้องส้วม
เราเก็บของเตรียมตัวกันจนเสร็จ
สาวๆ ทุกคนทำการบ้านมาว่า จะต้องไปร้านเค้กที่มีชื่อเสียงมากๆ ชื่อว่า New York
ส่วนหนุ่มๆ สองคน จะไปดูบอลคู่บิ๊กแมทระหว่าง ลิเวอร์พูล vs แมนซิตี้
พวกเราเดินจากที่พักไปร้านนิวยอร์ค และกด google map หาผับที่มีบอล
ระหว่างทางก็เดินไป แวะถ่ายรูปไป เมืองน่ารักดีคับ สวยๆ
ระหว่างทาง แวะร้าน EXCHANGE เพราะว่า พวกเราจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน HUF ในเมืองนี้
**** การแลกเงิน
คือ ที่นี่จะมี exchange อยู่ตามที่ต่างๆ เยอะมากนะคับ แต่ละร้าน จะมีเรทไม่เท่ากัน ไอ่เรทไม่เท่ากันเนี่ยะ ไม่ได้ต่างกันนิดหน่อยนะคับ มันต่างกันเยอะระดับ 5-10% เลย ดังนั้น เราไม่ควรผลีผลาม ควรจะเช็คเรทการแลกดีดี ซึ่ง เรทแรกที่พวกเราได้คือ 1 ยูโร ต่อ 345 HUF ซึ่งเป็นราคาที่ดีมากๆ
แต่ๆๆๆๆๆๆๆ ครั้งแรกผมไม่รู้ ผมก็ขอแลก 50ยูโร ... ทุกๆ การแลก มี ค่าแลกตังซะงั้น 800 HUF -*- (ประมาณร้อยบาท ต่อการแลกหนึ่งครั้ง)
แลกเสร็จผมก็บอกเจ๊แกว่า เฮ้ย งั้นผมแลกอีก 100 ยูโร เผื่อว่าเค้าจะคิดค่าคอมมิชชั่น (ค่าแลกตัง) ครั้งเดียว ไปๆมาๆ มันเป็นระบบคอม แลกอีกร้อยยูโร โดนค่าแลกอีกดอก -*- คือแบบ โคตรเซ็ง ผมเงยหน้าไปมองหน้าอีป้ารับแลกตัง รู้สึกถึงออร่าการหัวเราะเยาะแถมยิ้มมุมปากว่า “เสร็จกู อีง่าว” -*-
สรุป แลกเงิน คิดค่าแลกเป็นครั้งนะครับ ไม่ว่าจะแลกกี่ยูโรก็ตาม ดังนั้น ควรแพลนการแลกเงินให้ดีดี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้