ซื้อโน๊ตบุคมาใช้งานกันไม๊ .. ซื้อโน๊ตบุคยังไงดี ผมซื้อมาแล้ว เจอแบบนี้ทำไงดี ...

สวัสดีครับเพื่อนๆพี่น้องสมาชิก.. อยากแชร์ประสบการณ์ซื้อคอมพิวเตอร์โน๊ตบุค  หลังจากไม่เคยได้ซื้อใช้งานมาหลายๆปีครับ

     ก่อนอื่นขอประนามตัวเองก่อนครับ .. คือปกติส่วนผมเอง เป็นคนไม่ค่อยพูด และพยายามใจเย็นในหลายปีหลังๆ อาจเพราะเกี่ยวกับอายุที่เพิ่มมากขึ้น เรี่ยวแรงที่จะทำใจให้ร้อนไวๆ อาจจะถดถอยลงไปตามอายุขัย ชีวิตประจำวันหลักๆใช้คอมพิวเตอร์เป็นเดสท๊อปเก่าๆสเปค i5 สมัยรุ่นแรก น้องๆอาสาช่วยประกอบให้ สำหรับพิมพ์งานเอกสารส่งให้ลูกค้า ตอบรับเมลทั่วๆไปครับ   แล้วที่ใช้ส่วนตัวอีกเครื่องเป็น imac27 /2011 สำหรับงานดูภาพและแก้ไขภาพเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆก่อนเข้านอน   ซึ่งเจ้า imac เพิ่งเปิดไม่ติดเมื่อเดือนก่อน และคิดว่าคงปลดระวางไม่ซ่อมแล้ว เลยวางแผนหา nb ที่สามารถใช้ได้ดีทั้งฝั่งงานเอกสารและแก้ไขภาพได้และสามารถพกพาได้สะดวกด้วย

      ผมเคยขอคำปรึกษาในการเลือก nb ให้เหมาะสมกับตัวเอง และได้รับคำแนะนำดีๆจากท่านสมาชิกในห้องคอมพิวเตอร์แลปท๊อปมาครั้งนึงครับ หลังจากนั้น ผมก็ได้มีโอกาสใช้ยี่ห้อนึงที่ได้รับคำแนะนำมาเพราะน้องๆซื้อมาแล้วไม่ถูกใจ ประจวบกับผมไปเดินหาซื้อของใหม่หลายร้านแล้วไม่มีของ เลยขอซื้อต่อเขามา แต่ใช้ได้สัปดาห์กว่าๆ ก็เปลี่ยนมือไปด้วยเหตุผล(ส่วนตัว)เกี่ยวกับจอภาพครับ ส่วนอื่นลงตัวหมดทุกอย่าง

     จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ก่อน พอมีเวลามีโอกาส หลังจากที่ไปเดินๆเลียบๆเคียงๆหลายๆห้าง  แอบไปลองส่องโดยเลือกดูที่จอก่อน(อันดับแรก)..งบประมาณที่ต้องการ .. ขนาดไซส์ที่พกไหว.. สเปค .. หายี่ห้อ .. รุ่น.. แล้วกลับมาลองค้นๆข้อมูลอีกครั้งเลยตัดสินใจเลือกซื้อรุ่นที่ถูก(ใจ)ที่สุด หวยออกที่ ยี่ห้อดีย์ย์ย์ (นามสมมุติ) สเปค i7 128g +1tb ราคา 3หมื่นกลางๆ

      ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาพอมีเวลาว่าง จึงเริ่มหาร้านที่จำหน่ายที่ใกล้บ้านที่สุด โดยสอบถามทางโทรศัพท์ครับ ...ถามหลายร้าน หลายสาขา ราคาไม่ตรงกันเลย จนกระทั่ง ได้คุยกับเซลร้านดังร้านนึง แจ้งผมว่ามีของพอดี และผมลดให้อีกพันแต่ต้องมาซื้อกับผมนะๆๆๆ ....  ผมตอบตกลงไปครับ

     หลังจากนัดเวลา รุ่งอีกวันผมก็ไปรอตามนัดก่อนเวลา2ชม. มีพนง.ท่านอื่นมาถามมามาช่วยดูแล แต่ผมก็ตั้งใจรอเซลคนนี้หละ ไม่ใช่เพราะอยากได้ส่วนลดนะครับ เพราะที่มาคุยเขาก็เสนอขายราคาลดเหมือนกัน  แต่คิดว่าเราคุยรับปากกันกับคนแรกไปแล้ว รอก็รอ..

      จนกระทั่งพระเอกของผมก็มา...

      รวบรัดตัดมาใจความหลักๆตอนเจอหน้าพระเอกคือจ่ายเงินก่อนครับ.. แล้วให้ผมนั่งรอสินค้าที่เขาแจ้งว่าต้องโยกมาจากสนง.ใหญ่อีกประมาณ2ชม. เพราะที่สาขานี้ไม่มีของ เหลือแต่รุ่น i5  ไหนๆแล้วผมก็รอครับ กะแค่สองชั่วโมงเอง  เขาคงเผื่อเวลาให้เราได้เดินเล่นไปด้วย .. จากที่นัดกันบ่ายโมงจนถึง5โมงเย็นกว่า เจ้า nb ของผมก็เดินทางมาถึง ..

      สิ่งแรกที่ผมเห็นคือ กล่องกระดาษที่อยู่ในถุงก่อนยกออกมา แถบเทปที่ปิดปากกล่องมีรอยตัดเปิดมาให้เรียบร้อย น้องที่เป็นเซลวางตรงโต๊ะหน้าผม หยิบชิ้นส่วนออกมาทีละอย่าง ...

     อันดับแรกคือชุดสายไฟที่ข้างนึงต่อเข้าเต้าเสียบไฟบ้าน กับ ก้อนอแดปเตอร์ที่แยกกันมา มีพลาสติกเยินๆห่ออแดปเตอร์มาอย่างเดียว และเทปหนามเตยที่พันรอบสายไฟม้วนเก็บสายมาอย่างชุ่ยๆ แค่ดูผ่านๆก็รู้ถึงไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเลย ความคิดแรกขำๆคือยี่ห้อ ดีย์ย์ที่ผมนึกถึง โห.. เจ้ายี่ห้อนี้ คงรีบบรรจุห่อหีบเพราะขายดีขนาดแน่ๆ

     ชิ้นที่2  หยิบจากกล่องตามมาติดๆคือ บล็อกกระดาษกันกระแทกที่รองรับตัวเครื่องสีน้ำตาลแข็งๆ (ถ้านึกไม่ออกอยากให้นึกถึงลักษณะของรังไข่กระดาษครับ) แต่สภาพมันไม่ต่างกับรังไข่ที่เวียนในตลาดมาหลายร้าน มันเริ่มปวกเปียก รอยพับทั้งดำทั้งดูช้ำ

     ต่อด้วยชิ้นที่3 ที่ล้วงออกมาจากกล่อง มันคือเจ้า nbของผม(ที่บอกของผมคือจ่ายสตางค์เรียบร้อยไปแล้ว) ห่อแผ่นโฟมสีขาวบางๆลวกๆ ผมได้เห็นแป๊ปเดียว เพราะใจคอไม่ดีตั้งแต่เห็นรังไข่กะสายไฟแล้วครับ ก็มาวางอยู่ตรงหน้าพร้อมเปิดฝาเครื่องให้เสร็จเรียบร้อย ผมหยิบแว่นสายตาสวม พิจารณาเพ่งมองที่แรกเลยก็คือที่จอครับ จอเป็นคราบจากการเช็ดทำความสะอาด พอนึกภาพออกไหมครับ เวลาเราเอาผ้าหมาดๆเช็ดถ้าไม่ใช้ผ้าแห้งเช็ดตามคราบจะฟ้องถึงความไม่สะอาดให้เห็น

      และเหมือนเล่นกล ผมไม่รู้ว่า น้องที่เป็นเซลเร็วหรือผมเคลื่อนไหวช้า เขายกเครื่องที่อยู่ตรงหน้าส่งให้ พนง.อีกคนไปติดฟิล์มกันรอยหน้าจอ กว่าผมจะได้สติ เลยถามเขาเบาๆด้วยความเกรงใจไปว่า น้องครับ เครื่องที่มาขายให้พี่นี่เครื่องใหม่หรือเครื่องโชว์ (ใจจริงๆผมอยากจะเย๊าเขาโดยเปลี่ยนคำว่าเครื่องโชว์เป็นคำว่าเครื่องเคลมมากกว่า)..  แต่เขาตอบว่าใหม่ชัวร์ครับพี่

                         ผมก็บอกเขาไปว่า .. “โอเครครับ ใหม่ก็ใหม่ !! ผมเชื่อถือในคำพูดเรานะ”  

      หลังจากติดกันรอยเสร็จ ผมก็เดินไปดูความ(ไม่)เรียบร้อยของเครื่อง ท่านใดเคยเห็นเครื่องรุ่นนี้ จะทราบว่าแผ่นรอบๆตรงแป้นคีย์บรอดทั้งหมดจะเป็นพลาสติกเหมือนผสมยางหนืดๆ(ผมเรียกไม่เป็น) ตรงตำแหน่งปุ่มเปิดปิด มีรอยเหมือนใช้งาน มันเป็นรอยมันๆเงาๆเหมือนสึกหรอจากการถูหน่ะครับ และบริเวณคีย์บรอดเลอะฝุ่นผงเล็กๆทั่วไปหมดแบบสังเกตได้ ..

      ใครไม่รับ แต่ผมรับครับ ..(อย่าเพิ่งว่าผมนะครับ) ผมถือว่า ผมนั่งรอมานาน และเพียงซื้อมาใช้งาน ใช้สองปีหรือสามปีถ้าได้ใช้งานก็น่าจะคุ้มค่าแล้ว..อีกอย่าง เครื่องยี่ห้อนี้เห็นว่าประกันยาว3ปีอีกด้วย (เดี๋ยวเรื่องออนไซต์ เซอร์วิส ถ้ามีเวลาอาจจะมาเล่าต่อภาคหน้าครับ ผมได้ใช้บริการมาแล้วหลังจากได้เครื่องใหม่มาไม่ถึงวัน)

     หลังจากติดกันรอยเสร็จ ผมก็ถือกล่องออกจากห้าง มอไซค์กับภรรยาคู่ใจติดฝนตกเกือบ ชม.ถึงบ้านทุ่มนึง  รีบเปิดเครื่องเพื่อลงโปรแกรมที่เตรียมไว้และตั้งใจเซ็ตอัพวินโดว์แล้วปล่อยให้อัพเดท(ศึกษาข้อมูลมาจากในนี้ว่าใช้เวลาอัพเดทค่อนข้างนาน) กะว่าพรุ่งนี้เช้าวันหยุดจะทยอยใส่ข้อมูลลงเพื่อใช้งานได้ทันในวันจันทร์พอดี ..

     แต่...หลังจากเปิดกล่องหยิบเครื่องหยิบอแดปเตอร์ในห่อเยินๆมาต่อสายไฟ เสียบปุ๊ป .. ปรากฏว่าครอกแคร็กๆ รู้สึกเหมือนมันไม่แน่นครับ  เจ้าแทรคแพดก็คลอนๆ ส่วนแทรคแพคนี้ ทีแรกผมไม่ติดใจ ยังคิดว่าคงเป็นเรื่องปกติของเครื่องรุ่นนี้  

     แต่ พอลองกดปุ่มเปิดเครื่อง โอ้โห .. เจ้ายี่ห้อนี่ดีจริงๆครับ ติดตั้งเซ็ตอัพวินโดว์มาให้เรียบร้อยแล้ว และสถานะแบตเตอรี่ขึ้น98เปอร์เซ็นต์  แหม่..ชาร์จแบตมาให้เสร็จ เตรียมให้พร้อมใช้งานแบบทันทีอีกต่างหาก ..แต่ๆๆ สัญลักษณ์รูปไฟชาร์จกลับไม่มีทั้งที่เสียบอแดปเตอร์ชาร์จไว้แล้ว ลองขยับๆตรงข้อต่อ ก็ปรากฏว่ามีไฟขึ้นติดๆดับๆตามที่ขยับ น่าจะคงเป็นเพราะขั้วด้านในคงแค่หลวมๆเอง ใช้ไปคงอาจจะแน่น(ปลอบใจตัวเอง)

     ที่แย่ไปกว่านั้น พอกวาดตาไปทั่วจอ เจอละครับมุมจอล่างฝั่งซ้าย ดำมากๆ  คือเป็นสีดำมืดเหมือนหลอดไฟข้างในขาด  แล้วตัวคีย์บรอดตำแหน่ง M ไฟสว่างโร่ขึ้นมาเด่นสว่างกว่ากว่าตัวอักษรอื่นอยู่จุดเดียว

     สรุปนอกจาก ปัญหาที่เจอกับเครื่องใหม่แกะกล่องไม่ถึง10นาทียังมีต่ออีก ..พอปิดฝาลงพยามยามสังเกตรอบๆแล้วเปิดฝาพับขึ้นใหม่ ตรงขอบของหน้าจอด้านบน ตำแหน่งตรงจุดที่เราจะเปิดเครื่องต้องเอานิ้วไปเกี่ยวฝาจอให้เปิดนั่นหลุดเผยอออกมาอีกต่างหาก เฮ๊ย นี่มันแย่กว่าที่คิดมากๆๆๆ

                      ความอดทนของผมก็เริ่มหมดลงทันที..

     ผมโทรไปหาเซลคนที่ขายให้ผม  บอกเรื่องทั้งหมด ว่ามันไม่ไหวจริงๆแฮะคุณน้อง ผมคิดคำพูดดีที่สุดไม่ให้กระทบกระเทือน อ่อนน้อมที่สุดทั้งที่ผมเสียหาย พยายามบอกเหตุผลจากใจที่รับกลับมาเพราะใจผมคิดว่ามาใช้งาน ถ้าใช้ได้ปกติผมก็ไม่เรื่องมาก แต่นี่มันเหมือนของที่เก่าที่เสียแล้วมากกว่า และผมก็พยายามรักษาน้ำใจ ด้วยการไม่ตำหนิ และถามเพื่อนำทางให้เขาเพื่อสบายใจเช่น ทาง สนง.ใหญ่พลาดหยิบเครื่องเคลมมาให้พี่หรือป่าวลองเช็คให้หน่อยนะ เขาคงไม่มีเจตนามั้ง..

     เขายอมรับ พูดออกมาคำนึงว่าถึง สนง.ใหญ่ว่า... ทำไมเอาเครื่องนี้มาให้ อุตส่าห์บอกแล้ว...

     ค่ำคืนนั้นรอไปอีกชม. จนผมต้องเป็นฝ่ายโทรไปตามเองสรุปคือ ให้ผมเดินทางไปอีกรอบ โดยนำเครื่องเก่าไปคืนแล้วรออีกสองชม. เพื่อทำเรื่องเปลี่ยนแล้วนำเครื่องใหม่จากสนง.ใหญ่มาให้

     ผมแค่ขอว่าทำเรื่องให้เลยได้ไม๊ ผมไปถึงจะได้ไม่ต้องรอ.. คือเวลาผมไม่มีแล้วครับ วันนี้ผมใช้ไปหมดวันนึงเต็มๆ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ อีกวันก็เริ่มทำงานกันอีกแล้ว ..และเครื่องใหม่เที่ยวนี้ ผมขอมาแบบไม่เปิดกล่องนะ เดี๋ยวผมให้แมสเซนเจอร์ไปรับกลับมาเปิดเอง.. สุดท้ายเขาตกปากรับคำอย่างดี..
รุ่งขึ้น มันพีคตรงนี้หละครับ ... ผมโทรไป ไลน์ไปสอบถาม สุดท้ายได้คำตอบแบบสรุปมาว่า  เครื่องรุ่นผมแบบมีวินโดว์มาด้วยนั้นไม่มีแล้ว  ถ้าจะเอาเครื่องใหม่ จะเหลืออีก1เครื่องที่ไม่มีโปรแกรมวินโดว์ในเครื่องติดมาให้  แต่แนะนำให้ผมซื้อวินโดว์เพิ่มอีก4พันกว่าจากเขา สรุปคือ ผมต้องเพิ่มสตางค์ส่วนต่างของเครื่องใหม่..

     ทีแรกเหมือนจะดูดี  ถ้าผมไม่รับโปรแกรมวินโดว์ที่จะขายให้ผม4พันกว่า ก็เท่ากับเครื่องใหม่ ผมยังมีสตางค์เหลือที่ร้านเขาอีก3พันหักที่เป็นเครื่องที่ไม่มีวินโดว์ติดมา  เอาหละครับ..ผมยอมตัดปัญหาทั้งหมดจากที่เขาแจ้งว่าทำเงินทอนคืนไม่ได้เพราะเป็นบัตรเครดิตรูดล่วงหน้า  ผมยอมรับเครื่องไม่มีวินโดว์ก็ได้..และผมเสนอให้เป็นเครดิตฝากเขาไว้3พัน  เผื่อเที่ยวหน้าผมจะไปซื้อของที่มีมูลค่ามากกว่าแล้วเพิ่มสตางค์ส่วนต่างให้เขาไป ผมคิดว่าตรงนี้ผมแฟร์สุดแล้ว (ส่วนโปรแกรมวินโดว์ ผมโทรถามเพื่อนรุ่นน้องๆเขาแจ้งว่าสามารถซื้อโปรแกรมวินโดว์แท้ให้ผมได้ในราคาแค่ประมาณสองพันกว่าๆ)

     แต่มันมาสะดุดตรงนี้ครับ ... คำว่า ไม่มีหนทางอื่น ถ้ากรณีไม่ซื้อวินโดว์จากเขา (ซึ่งมีส่วนต่างที่ผมต้องจ่ายเงินเพิ่ม) ก็ทำเรื่องคืนตังกันไป !!

     คำนี้ ผมรับไม่ได้มากกว่าได้เครื่องแย่ๆที่ผ่านมา..คือผมและภรรยา-เพื่อนลูกชายที่ขับรถตามไปด้วยอีกคน  ทุกคนหมดเวลาไป หมดค่าเดินทาง เสียโอกาสในวันหยุด เสียโอกาสจากการที่จะได้ใช้งานเครื่องใหม่ เพราะจากทางร้านเจตนาให้เครื่องที่ชำรุดมาขายให้บอกผมว่าเป็นเครื่องใหม่  แล้วให้ทางเลือกโดยการคืนเงินที่จ่ายไปแล้วจบ..มันไม่มีทางอื่นให้ผมแล้วหรือ อาจจะหาเครื่องที่สเปคสูงกว่าอาจจะมีราคาสูงกว่าสมเหตุสมผล ให้ผมเพิ่มเงินให้ก็ยินดีนะครับ

     เจอแบบนี้  ผมคงไม่ยอมละครับ มันเกินไปแล้ว คำขอคืนเงิน สำหรับความคิดผมในกรณีแบบนี้  ถ้าเป็นฝั่งลูกค้าถ้าเป็นคนพูดร้องขอเงินคืน คือเขาหมดความอดทน จบๆกันไป คงไม่อยากต่อความยาว แต่ถ้าฝั่งคุณซึ่งเป็นคนขายพูดนี่ เหมือนกับเอาเงินของผมโยนกลับใส่ผมเอง แล้วไล่ผมออกจากร้านทั้งๆที่ผมเงียบ ยิ้มรับและยอมทุกอย่างตั้งแต่ต้น และไม่ได้พูดเอะอะอะไรเลยสักคำ..

            สามัญสำนึกของความเป็นมืออาชีพในการขายมันไปอยู่ที่ไหน..

      ผมเลยบอกเขาตรงๆว่า ถ้างั๊น.. เราทั้งหมดมาร่วมวงช่วยกันทำให้เสียเวลา ผมขอเลือกแจ้งความดำเนินคดีแล้วกัน สินค้าอยู่กับผม ใบเสร็จอยู่กับผม และพยานบุคคลก็มี  และพยานอีกอย่างสำคัญคือเสียงของเซลล์ที่สารภาพกับผมทางโทรศัพท์แล้วผมบันทึกไว้(เดี๋ยวผมเขียนเล่าในตอนท้าย)  ที่สุดแล้วจะเป็นอย่างไรผมไม่สน ใครเกี่ยวข้องต้องขอมาคุยกันให้หมด ทั้งที่สน.แล้วที่ สคบ.ด้วย  

     หลังจากที่ผมแจ้งกลับไป และผมให้โอกาสเซลล์คุยกับหัวหน้าเขาที่สามารถตัดสินใจได้  สุดท้ายเซลล์พระเอกของผมก็ติดต่อกลับก่อนผมจะออกไปแจ้งความ..สรุปว่า..

1.จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ทันที โดยจะเบิกของมารอที่สาขาแล้วให้ผมนำเครื่องเก่าไปเปลี่ยนภายในวันนี้ และเปลี่ยนเครื่องใหม่ที่ยังไม่มีการแกะซีล
2.เรื่องโปรแกรมวินโดว์ที่มาพร้อมเครื่องที่ผมชำระเงินไปเรียบร้อยแล้ว ทางเซลล์จะหาเป็นแผ่นลิขสิทธิ์มาให้ผมกลับมาลงเอง โดยไม่เก็บเพิ่มส่วนต่าง..โอเครครับ แบบนี้ผมพอรับได้..และได้ไปทำการเปลี่ยน-รับเครื่องมาเรียบร้อยในวันเดียวกัน..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่