ฟ้า...ที่เป็นมากกว่าฟ้า!!

ฟ้า...ที่เป็นมากกว่าฟ้า!!


โลกกำลังเผชิญมหันตภัย ในขณะที่ฟ้าหลั่งน้ำตาดั่งสายเลือด
เทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้า แต่จิตใจผู้คนกลับตกต่ำ
ฟ้าสุดปวดร้าวประทาน“วิถีธรรม”ท่ามกลางมหันตภัย
นี่คือ พระคุณฟ้า ที่เป็นมากกว่าฟ้า!!
5 ศาสนา หมื่นศาสตร์ พันลัทธิ ต่างได้ทุ่มเทสุด ๆ ทว่ามิอาจสู้รบตบมือกับความอำมหิตผิดบาป
ที่ครอบงำทุกมุมโลก ที่ชักนำมหันตภัยใกล้เข้ามา
ทุกสำนักควรสำนึกผนึกกำลังรวมเป็นหนึ่ง
แตกแยกตายหมู่ รวมพลังเราอยู่
อย่างไรก็ตาม “วิถีอนุตรธรรม”อยู่...โลกอยู่ ชัวร์!!


**1**


          “อาทิตย์นี้ ลุงให้แค่ 180 บาท”ชายวัย 60 ต้น ๆ ยื่นธนบัตรให้หลานสาวซึ่งเรียนอยู่ชั้นม. 2 โรงเรียนมัธยมขยาดใหญ่มีนักเรียนหลายพันคนอยู่ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 400 กิโลเมตร เป็นค่าใช้จ่ายประจำสัปดาห์ที่โรงเรียน ซึ่งปรกติจ่ายสัปดาห์ละ 200 บาท แต่ถูกตัดออก 20 บาท เพราะน้ำฟ้าผู้เป็นหลานสาวไม่ยอมช่วยทำงานบ้าน ไม่เช็ดถูพื้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 จึงถูกหักเงินลงสัปดาห์ละ 10 บาท
          เด็กยุคนี้สอนยาก กลัวคุณครู แต่ไม่กลัวพ่อแม่หรือผู้ปกครอง วัน ๆ เอาแต่ดูโทร.มือถือ จนสายตาเสียต้องตัดแว่นสายตา ดีอยู่หน่อยที่น้ำฟ้าเป็นเด็กฉลาดเรียนรู้เร็วสอบได้ที่ 1 ของห้อง แต่เรื่องงานทางบ้านไม่สนใจเลย แม้แต่เสื้อผ้าของตัวเองก็ต้องให้คุณแม่รีดให้ ทำให้เทียมเทพผู้เป็นลุงต้องสร้างเงื่อนไขเพื่อต่อรองบังคับด้วยการตัดค่าใช้จ่ายประจำสัปดาห์สำหรับไปโรงเรียน อาจเป็นเพราะว่าน้ำฟ้าเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่นจึงค่อนข้างดื้อรั้น คุณพ่อของน้ำฟ้าได้กลับคืนสรวงสวรรค์ ในขณะที่น้ำฟ้ายังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล เป็นโชคชะตาหรือฟ้าลิขิตก็มิอาจทราบได้ เทียมเทพชายแปลกหน้าได้ก้าวเข้ามาเกี่ยวข้องกับครอบครัวนี้ นับตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน ในวันนั้นน้ำฟ้ายังเรียนอยู่ชั้นป.2 ยังเล็กมาก แต่น่ารักน่าเอ็นดู ไม่คิดเลยว่า พอเริ่มโตหน่อยจะกลายเป็นเด็กดื้อไปได้
          เด็กดื้อ หรือว่าเราขาดทักษะในการสอนเด็ก
          เด็กดื้อ หรือว่าวิธีการเดิม ๆ ล้าสมัยไปแล้ว
          เด็กดื้อ หรือว่าโลกทุกวันนี้เปลี่ยนไป แต่เรายังเป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปี
          จะโทษเด็ก หรือจะโทษเทคโนโลยี หรือว่าจะโทษตนเองที่ยังไม่ตื่นแจ้ง?
          เทียมเทพครุ่นคิดอย่างหนัก เคยผ่านศึกเหนือเสือใต้มาก็มาก เคยเป็นผู้จัดการธนาคารย้ายไปหลายจังหวัด เชียงราย เพชรบูรณ์ กรุงเทพฯ เคยเป็นนักข่าวท้องถิ่นชีวิตเสี่ยงตายหลายครั้ง สำเร็จการศึกษาปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ เคยบวชพระ 5 พรรษาเพื่อต่ออายุตนเอง ทว่าสมองกลับไม่ทำงานมืดตื้อตีบตันซะงั้น
          “ถ้าลุงลืม หนูทวงเงินเองนะ วันศุกร์ หรือเสาร์-อาทิตย์ ก็ได้”เทียมเทพบอกหลานสาว เพราะตนเองมักเป็นคนขี้ลืม ลืมจ่ายค่าใช้จ่ายประจำสัปดาห์ที่โรงเรียนบ่อย ๆ “โอ เค.อาทิตย์นี้ได้ 200 เต็ม เพราะหนูรีดผ้าของตัวเองและช่วยคุณแม่ถูบ้าน” “ขอบคุณ คุณลุงค่ะ”น้ำฟ้ากล่าวเสียงหวานจ๋อยเมื่อได้รับเงินครบ
          “ลุงเคยชวนหนูกินเจ แต่หนูก็ยังไม่ยอมกินสักที...ถ้าหนูยอมกินเจเมื่อใด ลุงจะจ่าย *เงินพิเศษ*ให้หนูเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา”
          “อย่าบังคับหนูได้ไหม ถ้าหนูอยากกิน หนูจะกินเอง”
          “แค่ 4 วันเอง ทำไม่ได้เหรอ?”
          “ถ้ากินเจอย่างเดียว แต่ไม่เข้าพิธีรับธรรมะ ได้ไหมคะคุณลุง?”เด็กดื้อต่อรอง
          “กินแจแล้วรับธรรมะด้วย จะเป็นอะไรที่ฟินสุด ๆ นะหนู”ลุงไม่ยอมลดละ
          “พิธีรับธรรมะ เป็นสิทธิพิเศษ อนุญาตเฉพาะผู้มีจิตใจดีงามระดับหนึ่ง ไม่อนุญาตให้ใครก็ได้ที่ไม่มีรากบุญ การยอมกินเจ ก็แสดงว่าเป็นผู้มีจิตใจสูงขึ้นไม่เบียดเบียนเลือดเนื้อของผู้อื่น จึงมีสิทธิเข้าร่วมพิธีรับธรรมะได้...นี่คือ “วิถีธรรม”ที่เปิด 1 จุดชี้ รู้ช่องทางกลับบ้าน เป็น “วิถีธรรม”ที่ฟ้าประทานเป็นกรณีพิเศษ เป็น “วิถีธรรม”ที่ฟ้าประทานท่ามกลางภัยพิบัติ เป็น “วิถีธรรม”จากโลกอนาคต มากับไทม์มะชีน เป็น “วิถีธรรม”จากยุคพระศรีอารียเมตรัย ยุคนั้นบำเพ็ญธรรมไม่ต้องออกบวช แต่บำเพ็ญอยู่ในบ้าน บำเพ็ญทั้งครอบครัว สำเร็จมรรคผลนิพพานทั้งครอบครัว”หยุดพักหายใจก่อนอธิบายต่อ แม้ว่าหลานสาวยังคงทำตาแป๋วสมองว่างเปล่า ทว่าเทียมเทพยังคงพยายามเดินหน้า
          “เกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก แต่เกิดมาแล้วพบพระพุทธศาสนากลับยากกว่ามากนัก เกิดมาแล้วได้รับ...วิถีธรรมนี่สิ ถือว่ายากสุด ๆ” เทียมเทพสาธยายยาวเหยียดเป็นขบวนรถไฟ มั่นหมายว่าหลานสาวจะตกล่องปล่องชิ้นยอมรับธรรมะตามที่ตนปรารถนา
          “เอาไว้หนูพร้อมเมื่อใด หนูจะบอกคุณลุงนะคะ”
          “....!!??....”
          อาจเป็นเรื่องธรรมดา ที่เด็กอายุขนาดนี้ คงยังไม่ค่อยเข้าใจ ยังแยกแยะไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร อะไรเป็นคุณ อะไรเป็นโทษ หรือว่าเราสื่อสารกับเด็กยังไม่ดีพอ ยังใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะกับเด็กในวัยนี้ แต่เราก็เห็นลูก ๆ ของเพื่อนเรามีอายุน้อยกว่านี้ ยังยอมกินเจและรับธรรมะได้
          “เด็กพูดไม่รู้เรื่อง หรือว่าเราพูดไม่รู้เรื่องกันแน่...ปัญหาอยู่ตรงไหนหนอ?”เทียมเทพเฝ้าถามตนเอง ทว่าสมองกลับหลับใหลไม่ตื่นแจ้ง
          “จะมีใครบ้างไหม ที่ตอบเราได้?”เขาวอนขอผู้คนทั่วโลกที่ตื่นแจ้งแล้ว โปรดชี้แนะผ่านพันทิป
          “ใครก็ได้ช่วยหน่อยครับ  ถือเสียว่า ช่วยกันประกาศธรรมแทนฟ้า เป็นกุศลเวอร์สุด ๆ ประกาศธรรมแทนฟ้า ขอรับรองว่า ท่านจะไม่โดดเดี่ยวเดียวดาย แต่จะมีพระพุทธะ พระโพธิสัตว์ค้ำจุนหนุนส่ง”เขาพยายามเน้นย้ำให้ผู้คนเห็นความสำคัญของอนุตตรโองการ
          เขา คือคนบาป ชีวิตที่ผ่านมาปูทางลงนรกไปแล้วครึ่งค่อนชีวิต แต่ที่ยังมีวันนี้ได้ เพราะพระเมตตาจากฟ้าเบื้องบน ความผิดบาปที่ผ่านมาคือบทเรียนล้ำค่า เงินทองกองสูงเทียมฟ้า ก็มิอาจซื้อหามาได้ ผิดพลาดแล้วรู้ตัวแก้ไขเป็นกำไรชีวิต ผู้ที่ยังไม่เคยทำผิดยังมีโอกาส อย่าประมาทเด็ดขาด รูปหล่อขอบอก!!
          เขา คือนักโทษประหาร ที่ออกรบเพื่อไถ่โทษ ไถ่บาป ไถ่ความผิด ยอมตายกลางสนามรบ ยังดีกว่ารอดชีวิตกลับมา แล้วถูกเพชฌฆาตบั่นคอ นี่คือ คนอย่างเขาล่ะ...เทียมเทพ

**2**


     “เมื่อวานนั่งสมาธิครบ 3 ชั่วโมงหรือเปล่า”คำแรกที่เทียมเทพพูดกับบัวแก้วซึ่งเป็นคุณแม่ของน้ำฟ้า เทียมเทพเป็นครูฝึกสมาธิให้บัวแก้ว จะว่าเป็นครูก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำ เป็นเพียงแค่ “ร่างทรง”ให้สมเด็จองค์ปฐมบรมครูใช้เป็นทางผ่านสอนกรรมฐาน จากเดิมนั่งสมาธิแบบงู ๆ ปลา ๆ บัวแก้วเคยไปฝึกสมาธิหลายวัดหลายครูแต่ก็ยังไม่ก้าวหน้า จนกระทั้งเทียมเทพได้พาบัวแก้วยกครูกรรมฐานตามแนวทางของหลวงพ่อฤาษีลิงดำต่อสมเด็จองค์ปฐมบรมครู นำพาฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจนบัวแก้วเกิดตาทิพย์มองเห็นเลข 3 ตัวหลายครั้ง จึงอาศัยสมาธิเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองได้ อาศัยเงินเดือนรับราชการเดือนละกว่าสามหมื่นแต่มีหนี้สินรุงรังจึงชักหน้าไม่ถึงหลัง เป้าหมายหลักของการทำสมาธิมิใช่ให้เห็นตัวเลข แต่เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา บังเอิญเห็นตัวเลขก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้ ระยะหลังมานี้ นั่งไม่ครบวันละ 3 ชั่วโมง จิตใจไขว้เขวฟังคนโน้นคนนี้วิพากษ์วิจารณ์ทำให้ตาทิพย์ไม่แจ่มใสไม่แม่นยำเหมือนระยะเริ่มแรกที่ทำได้ใหม่ ๆ เทียมเทพจึงต้องเฝ้าประคับประคองให้ฝึกฝนต่อเนื่องทุกวัน
     “หัวหน้ากลุ่มคอยกั่นแกล้งจับผิด ผู้อำนวยการก็ถือหางหัวหน้ากลุ่ม ว่าตัวหนูทำงานน้อย ไม่เหมาะกับตำแหน่ง ทั้งที่วัน ๆ แทบไม่มีเวลาหายใจ หัวฟูหน้ามันอั้นฉี่”บัวแก้วระบายความคับแค้นใจแก่เทียมเทพแทบทุกวันหลังเลิกงาน
     “เราไม่มีเส้น ไม่มีลูกพี่คอยปกป้อง ทำงานที่ไหนก็มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานเหมือนกันหมด”เทียมเทพปลอบใจ ให้บัวแก้วยอมรับความจริงของโลกปัจจุบัน
     “แต่เราก็ยังมีครูบาอาจารย์ที่คอยค้ำจุนหนุนส่ง นั่งสมาธิมาก ๆ บุญกุศลจากสมาธิจะช่วยได้”เทียมเทพฝากความหวังสุดท้าย
     “เมื่อคืนหนูฝันว่า ผู้อำนวยการยกถังแก๊สติดไฟพุ่งใส่ตัวหนูเพื่อเผาให้ตัวหนูมอดไหม้ แต่โชคดีที่มีเสาหินขนาดใหญ่บังตัวหนูไว้มิดชิด ผู้อำนวยการมองไม่เห็น”เล่าไปก็ตื่นตระหนกอกสั่นขวัญแขวน
     “นั่นคือ พลังจากสมาธิและบารมีครูบาอาจารย์ช่วยปกป้องปัดเป่า”เทียมเทพยืนยันมั่นเหมาะ
     “สมาธิเมื่อได้แล้วต้องรักษาไว้ด้วยชีวิต ไม่ใช่ว่าใครก็จะทำได้ บางคนทำตลอดชีวิตยังไม่ได้ก็มี”บัวแก้วได้ฟังถึงกับตาสว่าง
     ธรรมชาติก็คือกฎเกณฑ์ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ พื้นแผ่นดินต่างก็มีธรรมชาติของตน สรรพสิ่งในธรรมชาติล้วนมีกฎเกณฑ์ของตน เพราะตนทำตามกฎธรรมชาติของสิ่งนั้นตนจึงเป็นสิ่งนั้น หากวันใดดวงอาทิตย์ไม่ส่องสว่าง ดวงอาทิตย์ก็จะเป็นสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ดวงอาทิตย์ ชีวิตคนเราก็มีกฎเกณฑ์ของธรรมชาติควบคุมอยู่ กฎข้อแรกคือ จดจำสำนึกคุณ ตระหนักรู้ว่าตัวเราได้รับประโยชน์ได้พึงพาอาศัยใครบ้าง ฝึกสมาธิก็เช่นเดียวกัน หากไม่จดจำสำนึกคุณของสมาธิและครูผู้ฝึกสอน สมาธิก็จะคลายตัวอยู่ได้ไม่นาน ทุกวันจึงต้องกราบไหว้บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และครูฝึกด้วยศรัทธาและจริงใจ ผู้ใดหากไม่รู้จักจดจำสำนึกคุณ แม้เก่งกาจปราชญ์เปรื่องปานใดก็เอาตัวไม่รอด
     อารมณ์สมาธิของบัวแก้วนั้น ต้องตั้งใจมาก ๆ จึงจะเข้าฌานได้ แต่อารมณ์สมาธิของเทียมเทพกลับต้องผ่อนคลายมาก ๆ จนใกล้ง่วงนอน แต่ไม่หลับเพราะรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา บัวแก้วต้องนั่งสมาธิตัวตรง แต่เทียมเทพต้องนอนสมาธิอย่างเดียวจึงจะเข้าฌานได้ การฝึกสมาธิเป็นการฝึกใช้อารมณ์ล้วน ๆ ตัดความคิดทางโลกทุกอย่างทิ้งไป ต้องพยายามค้นให้พบว่า อารมณ์สมาธิของตนอยู่ระดับใดจึงจะเกิดสมาธิที่เรียกว่า “ฌาน” ต้องไม่ตึงเกินไปและไม่หย่อนเกินไป ที่เรียกว่า “ทางสายกลาง” ตัวอย่างของบัวแก้วกับเทียมเทพ ต่างเข้าฌานได้ทั้งคู่แต่อารมณ์สมาธิต่างกันสุดขั้ว
     “เทศกาลกินเจปีนี้ เขามีโครงการพิเศษ เปิดโอกาสให้ผู้กินเจติดต่อกัน 4 วันได้เข้าร่วมพิธีกรรมและฟังธรรมเป็นการเฉพาะ ในชีวิตหนึ่งเข้าร่วมพิธีแบบนี้ได้ครั้งเดียว”บัวแก้วฟังเทียมเทพชักชวนแล้วหูผึ่งตาลุกวาว เทศกาลกินเจของทุกปีที่ผ่านมา บัวแก้วไม่เคยพลาด กินเจครบ 9 วัน แถมยังเคยกินเจถวายพระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นครั้งคราว เมื่อเกิดปัญหาในชีวิตแล้วแก้ไม่ตก บัวแก้วก็กราบทูลขอบารมีพระโพธิสัตว์กวนอิมให้ช่วยปัดเป่า ก็จะสำเร็จทุกครั้ง
     “ตกลงค่ะ หนูจะเข้าร่วมพิธีกราบรับวิถีอนุตรธรรม”
     และแล้ววันที่เฝ้ารอคอยก็มาถึง ในวันที่บัวแก้วกราบรับวิถีอนุตรธรรมเวลาประมาณ 18:00 น.ฝนตกอย่างหนักไม่ลืมหูลืมตา ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลายวันอากาศร้อนแทบตับแตกและไม่มีวี่แววว่าจะเกิดฝนตก บัวแก้วก้าวเดินขึ้นบันไดสถานธรรมขึ้นสู่ชั้นบน ได้ยินเสียงบอกว่า “ขึ้นสวรรค์” ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน
     “อย่าไปพูดให้ใครฟัง เดี๋ยวเขาจะว่าเราบ้า แล้วเขาก็จะเป็นบาป”เทียมเทพเตือนบัวแก้ว คนที่ไม่ฝึกสมาธิ ไม่มีทางเข้าใจ แม้แต่ผู้ที่ทุ่มเทฝึกสมาธิตลอดชีวิตก็อาจจะไม่เกิดมรรคผลอะไร ถ้าบุญเก่าไม่เกื้อหนุนมากพอ หรือไม่พบครูฝึกที่แก้ปัญหาตรงจุด
     พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์เริ่มขึ้นแล้ว อาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมเป็นผู้แทนของพระวิสุทธิอาจารย์เปิดจุดสถิตจิตญาณแก่ผู้เข้ากราบรับวิถีอนุตรธรรม เป็นจุดเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าบอกกับพระมหากัสสปะในการประชุมธรรมที่ภูเขาคิชกูฏ เป็นจุดเดียวที่ธรรมชาติสร้างไว้เพื่อเป็นช่องทางติดต่อกับฟ้าเบื้องบน เป็นช่องทางเดิมเมื่อคนเราเกิดดวงจิตธรรมญาณจะผ่านเข้ามาสู่กายสังขารแล้วปิดตายสนิท แต่บัดนี้ได้ถูกเปิดแล้ว เมื่อรู้แล้วต้องปกปิดเป็นความลับ พร้อมทั้งบอกรหัสคาถา 5 คำและตราประทับลัญจกรให้เป็นการเฉพาะแก่ผู้บำเพ็ญธรรมในยุคใหม่ ธรรมะเข้าสู่ครัวเรือน ไม่ต้องออกบวช แต่ปฏิบัติบำเพ็ญอยู่ในบ้าน ทำงานทางโลกควบคู่งานธรรม ถ้าพูดให้ชัดก็คือ ยุคนี้เป็นธรรมกาลยุคขาวและเป็นยุคท้ายปลายกัปล์ เพื่อเก็บกวาดล้างโลกเตรียมการต้อนรับพระศรีอารียเมตรัยในอนาคตกาล ทรงมีมหาปณิธานเปลี่ยนแปรโลกเป็นดินแดนดอกบัวบาน รวมทุกศาสนาเป็นหนึ่งเดียว ยุคนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลง ช่วงแห่งการแบ่งแยกคัดกรอง “หยกที่หมกอยู่กับหิน”แบ่งแยกบุญกุศลที่ปะปนอยู่กับอำหิตผิดบาป ท่ามกลางมหันตภัยใกล้ตัว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่