[รายงานแห้งแบบใส่ซีอิ๊ว] บอกเล่าความประทับใจจากกิจกรรม #เฮสเสสดใส10

กระทู้สนทนา
สวัสดีอาร์มี่ทุกคนนะคะ
จากที่คลับเราได้มีกิจกรรมเพื่อเข้าร่วมฟังเสวนาการเปิดตัว #เฮสเสสดใส10
กับทางสำนักพิมพ์เคล็ดไทยกันไปแล้ว

วันนี้ก็ถึงเวลาบอกเล่าและแบ่งปันเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ที่แสนประทับใจในงานนี้กันแล้วค่ะ

บรรยากาศในงาน

โดยงานมีวันที่ 23 ตุลาคม 2561 ที่ห้อง meeting room 3 ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 23 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ค่ะ

ต้องบอกก่อนว่านี่ก็เป็นครั้งแรกของนัตที่ได้ไปร่วมงานเสวนาการเปิดตัวหนังสือ ตื่นเต้นไม่น้อยเลยค่ะ รวมถึงอาร์มี่ที่ไปร่วมงานจากการร่วมสนุกในกิจกรรมของทางคลับด้วย ทางสำนักพิมพ์ใจดีกับพวกเรามากๆ โดยการให้สิทธิ์พวกเรานั่งแบบติดเวทีโคลสอัพกันไปเลย

ซึ่งงานนี้จะถูกแบ่งเป็นสองช่วงด้วยกันนะคะ โดยช่วงแรกจะเป็นหัวข้อ 'เดเมียนกับคนรุ่นใหม่' ซึ่งดำเนินรายการโดยพี่กอล์ฟ ณัฐกร  พี่ป่าน ฉัตรรวี และนัตเองค่ะ แหะๆ ส่วนช่วงหลัง ซึ่งเป็นช่วงที่เรียกได้ว่าสนุกสนานและกลมกล่อมมากทีเดียวค่ะ กับ 'อ่านเฮสเสกับ "สดใส" 'โดยมีพี่เอ๋ หรือที่เรารู้จักกันดีในนามปากกานิ้วกลม คุณโตมร และอาจารย์สดใส ซึ่งเป็นผู้แปลวรรณกรรมชั้นเยี่ยมของเฮสเสนั่นเองค่ะ

พี่กอล์ฟ ณัฐกร 'The People'

พี่ป่าน ฉัตรรวี 'The Momentum'

มาพูดถึงช่วงแรกกันก่อนดีกว่านะคะ กับช่วงเดเมียนกับคนรุ่นใหม่ ซึ่งทางสำนักพิมพ์ได้เล็งเห็นว่าการกลับมาอีกครั้งของเดเมียนวรรณกรรมที่อยู่คู่มือนักอ่านมาหลายยุคสมัย โดยการกลับมาคราวนี้ของเดเมียนกับแฮชแท็ก #นัมจุนอ่าน #บังทันอ่าน #อาร์มี่อ่าน ทำให้เป็นโอกาสของอาร์มี่ตัวเล็กๆ ได้ขึ้นไปร่วมเสวนาในเวทีที่เรียกได้ว่ามีแต่ระดับเซียนเลยล่ะค่ะ


บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่ายค่ะ ทั้งตัวนัต พี่ป่านและพี่กอล์ฟ ได้พูดคุยถึงเดเมียน (และนัมจุนรวมถึงบังทัน) ว่าจากวรรณกรรมเล่มหนึ่งให้อะไรกับพวกเราบ้าง รวมไปถึงสิ่งที่ได้ขบคิด ตกผลึกจากผลงานชั้นดีชิ้นนี้ นอกเหนือไปจากนั้น เราได้พูดคุยถึงคำถามที่ว่า เดเมียนของคุณเป็นใครกัน
มาถึงจุดนี้ ใครที่เคยอ่านเดเมียนกันแล้วลองมาคิดตามกันไปก็ได้นะคะ

ในตอนท้ายของช่วงแรก มีอาร์มี่ที่ไปร่วมงานได้พูดถึงความรู้สึกของการอ่านงานของเฮสเส
รวมถึงประโยคนึงที่นัตชอบมากๆ เลยก็คือ เราอาจจะเคยเป็นโครเมอร์ เดเมียน หรือซินแคลร์ของใครสักคนในช่วงเวลาหนึ่ง
เป็นอะไรที่ทำให้นัตฉุกคิดไม่น้อยเลยล่ะค่ะ เราอาจจะต้องหันกลับมามองตัวเองกันแล้วล่ะว่าเรานั้นเป็นอะไรอยู่

จบจากช่วงแรกที่เป็นเดเมียนก็เข้าสู่ช่วงที่สองที่ได้พบทั้งอาจารย์สดใส พี่เอ๋ และคุณโตมรนะคะ
เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ลื่นไหล เพลิดเพลิน กลมกล่อม เป็นรสชาติที่หอมหวานมากๆ เลยล่ะค่ะ


พี่เอ๋ (นิ้วกลม) อาจารย์สดใส คุณโตมร

การพูดคุยในช่วงนี้จะเกี่ยวข้องกับจุดเริ่มต้นของอาจารย์สดใสกับฉายาลูกสาวเฮสเส ความประทับใจที่มีต่อผลงานของเฮสเส
รวมไปถึงคุณโตมรที่ได้มาบอกเล่าถึงประสบการณ์การอ่านและการเยือนบ้านเกิดของเฮสเส รวมไปถึงการได้ขึ้นไปยังที่ที่เฮสเสนั้นใช้สรรค์สร้างผลงานที่ทำให้เราได้ขบคิดถึงชีวิต มองตัวเอง และตั้งคำถามกับตัวเองนั่นเองค่ะ

บอกได้เลยว่าอาจารย์สดใสนั้นสดใสสมชื่อค่ะ ตัวนัตเองรู้สึกได้รับพลังบวกมาจากอาจารย์อย่างเต็มเปี่ยมเลย
แถมในงานอาจารย์สดใสยังบอกว่าได้ฟังสปีชของนัมจุน เด็กหนุ่มวัยยี่สิบสี่ที่พาเดเมียนกลับมาสู่วงการนักอ่านอีกครั้ง ซึ่งอาจารย์ประทับใจคำพูดของนัมจุนมาก กับวลีที่ว่า 'Speak yourself' มาก จนถึงขั้นบอกว่าขอเป็นอาร์มี่ด้วยอีกคน เรียกได้ว่าพวกเราที่ไปร่วมงานด้วยนั้นได้แต่ยิ้มกว้างเลยค่ะ
เพราะดีใจมากๆ กับการที่บังทันได้รับความรักและเป็นที่รู้จักในแง่มุมของเด็กหนุ่มทั้งเจ็ดคนที่ไม่เพียงแต่เป็นนักร้อง แต่ยังเป็นกลุ่มคนที่จุดประกายให้เกิดการอ่าน การตั้งคำถามกับตัวเอง ฟังเสียงของตัวเอง และรักตัวเอง

หลังจบงานพวกเราก็ได้ถ่ายรูปร่วมกับอาจารย์สดใสกันต่ออีกเล็กน้อย ซึ่งอาจารย์ก็ได้ถามถึงว่าอาร์มี่คืออะไร แถมยังคิดแฮชแท็กใหม่ขึ้นมากับ #เฮสเสอาร์มี่ ด้วยนะคะ เรียกได้ว่าเป็นบรรยากาศที่เป็นกันเองมากๆ เลยค่ะ อาจารย์สดใสน่ารักและอบอุ่นกับอาร์มี่มากจริงๆ

ในตอนท้ายของงาน อาจารย์สดใสได้พูดคุยถึงสปีชของนัมจุนในเรื่องการรักตัวเองกันอีกเล็กน้อย
ซึ่งอาจารย์ได้พูดว่ายังมีเด็กเข้าใจผิดว่าการรักตัวเองคือการเห็นแก่ตัว ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น
การรักตัวเอง คือการเห็นคุณค่าตัวเอง เมื่อเราเริ่มรักตัวเอง เห็นคุณค่าตัวเอง เราก็จะรักคนรอบตัวได้ด้วยเช่นกัน
ทุกคนเป็นดั่งดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ ต่างมีความงดงาม และจะเบ่งบาน เปล่งประกายได้ในแบบของตน
เพราะงั้นแล้ว อย่าลืมที่เห็นคุณค่าของตัวเอง และรักตัวเองเพื่อที่เราจะได้เติบโตและสดใสเป็นเจ้าดอกไม้ที่ภูมิใจในตนและเผื่อแผ่ความรักไปถึงคนอื่นๆ ด้วย

บอกได้เลยว่าเป็นงานเสวนาที่สนุกและเป็นความทรงจำดีๆ มากค่ะ
อีกทั้งอาร์มี่ที่ได้เข้าร่วมงานก็โชคดีได้รับของที่ระลึกจากทางสำนักพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นแก้วมัคเฮสเส หรือรางวัลใหญ่อย่างวรรณกรรมโมเดิร์นคลาสสิคสิบเล่ม ครบเซทของเฮอร์มาน เฮสเสที่แปลโดยอาจารย์สดใส ซึ่งคุ้มมากๆ อีกทั้งยังได้ขอลายเซ็นกับอาจารย์สดใสแบบใกล้ชิดเลยล่ะค่ะ

ต้องขอขอบคุณทางเคล็ดไทยมากๆ นะคะ ที่นึกถึงอาร์มี่และชักชวนให้พวกเราได้มามีประสบการณ์ใหม่ๆ จากการที่พวกเราเป็นเพียงแฟนคลับของเด็กผู้ชายเจ็ดคนที่ต้องการจะเป็นดั่งเกราะกันกระสุนปกป้องวัยรุ่นจากถ้อยความหรือความโหดร้ายของโลกใบนี้

และก็คงต้องขอบคุณคิมนัมจุน คิมซอกจิน มินยุนกิ จองโฮซอก ปาร์คจีมิน คิมแทฮยอง และจอนจองกุก สำหรับความรัก ความฝันและแรงบันดาลใจที่ส่งมาให้พวกเรา ทำให้พวกเราเองก็ได้โบยบินออกไปตามหาตัวเอง ออกมาจากกรอบที่เคยวางไว้ และได้พบประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทำให้โลกของเรานั้นกว้างขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่นการได้ไปงานเสวนาในครั้งนี้ค่ะ

สำหรับนักอ่านหรืออาร์มี่คนไหนที่ตามหาเดเมียน ตอนนี้หมดสต็อกอยู่นะคะ แต่จะกลับมาอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 26 ตุลาคมนี้ในงานหนังสือ หรือสามารถสั่งจองได้ทางเว็บเพจของสำนักพิมพ์เคล็ดไทยค่ะ และถ้าสนใจจะอ่านวรรณกรรมเรื่องอื่นของเฮสเสก็สามารถไปจับจองได้เช่นกันนะคะ

ขอปิดท้ายด้วยภาพบรรยากาศในงานเสวนา
และใครที่พลาดเข้าฟังไป ไม่ต้องเสียใจนะคะ เพราะว่าทางเพจเคล็ดไทยก็ได้ไลฟ์งานไว้ด้วย
สามารถไปดูได้ตามนี้เลยค่ะ ** บันทึกการถ่ายทอดสด #เฮสเสสดใส10 **


ในโอกาสหน้า ถ้าทางคลับมีกิจกรรมอะไรดีๆ แบบนี้ ทีมแอดมินไม่พลาดที่จะมาบอกต่อแน่นอนค่ะ
ตอนนี้ต้องขอตัวไปอ่านเดเมียนอีกสักรอบแล้วล่ะค่ะ




แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่