เข้าสู้ความลึกล้ำของห้วงอวกาศ ทอดทิ้งความวินาศ เดินไปไม่เหินหลัง สายตาที่จ้องมองดูสุดจะรั้ง อวกาศนั้นยังเป็นของเธอ
หลุมดำ เป็นวัตถุที่เราเข้าใจว่า เป็นดินแดนอันสุดแสนจะลึกลับในห้วงอวกาศอันลึก ความหนาแน่นที่มหาศาล
พร้อมกับสนามความโน้มถ่วงรุนแรง ทำให้แม้แต่สุดยอดความเร็ว ของสิ่งที่เราๆ เรียกกันว่าแสง ก็ยังไม่มี
ปัญญาจะหลบหนีออกมาจากหลุมดำไปได้เลย นอกจากนี้หลุมดำยังมีความลับที่สุดพิสดาร
เกี่ยวกับสนามแม่เหล็ก ที่อาจกลายเป็นความลับ ที่มืดดำ และลึกลับยิ่งกว่า เรารู้แน่ชัดแล้วในปัจจุบัน
ว่ามีสนามแม่เหล็กรุนแรง ไหลเวียนอยู่รอบสิ่งที่เราเรียกว่าหลุมดำ แต่คำถามคือ สนามแม่เหล็กรอบหลุมดำแต่ละหลุม
มีความหนาแน่นที่ต่างกันอย่างมาก และเรายังไม่เข้าใจอย่างแท้จริง ถึงกระบวนการในการก่อตัวของมัน
แต่บัดนี้สถานการ์ณได้เปลื่ยนแปลงไปอย่างมาก ขอบคุณสำหรับความทุ่มเทของเหล่านักวิทยาศาสตร์
สำหรับผลการวิจัยใหม่ ตอนนี้ในแง่ขององค์ความรู้ เราได้รับตัวต่อเจ๋งๆ ตัวใหม่มาแล้ว สำหรับการจะแก้ปริศนา
เรื่องของหลุมดำ นี่เป็นครั้งแรก ที่เหล่านักดาราศาสตร์ ได้สามารถที่จะทำการตรวจจับ
คลื่นสนามแม่เหล็ก รอบๆ หลุมดำ supermassive black hole ขณะที่เจ้าสัตว์ร้ายแห่งอวกาศ กำลังกลืนกินสสาร
อย่างตะกละตะกลาม ที่ใจกลางของ ของ Cygnus A - กาแลคซีที่มีปฏิกิริยาอย่างต่อเนื่อง หรือเรียกในภาษาไทยง่ายๆ ว่าดาราจักรกัมมันต์
มันอยู่ห่างจากโลกราวๆ 600 ล้านปีแสงและเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดคลื่นวิทยุที่สว่างใสวในช่วงคลื่นของมันที่สุดในท้องฟ้า
- นักดาราศาสตร์ได้พบว่ามีสนามแม่เหล็กรุนแรง ดักวัตถุที่ป้อนเข้าไปในขอบฟ้าเหตุการณ์ของเจ้า supermassive black hole นี้
จัดเรียงเป็นเหมือนโครงข่าวของเส้นใยคอสมิค
สิ่งนี้อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจได้ว่าทำไมแกนนิวเคลียสหรือพึ้นที่บริเวณของกาแลคซีบางแห่งถึงกระปรี้กระเปร่าโดยมีการพ่นไอพ่น collimated ขนาดมหึมาออกจากบริเวณขั้วของมันอย่างต่อเนื่องขณะที่กลุ่มอื่น ๆ เช่น Sagittarius A * ของทางช้างเผือกเองก็มีการใช้งานปฏิกิริยานี้
เป็นระยะ ๆ และอีกบางส่วนดูเหมือนอยู่เฉยๆ
จากการจำลองโมเดลสำรวจแบบ unifed ใจกลางของกาแล็คซี่ ที่มีปฏิกิริยาอย่างต่อเนื่องนั่นคือ หลุมดำมวลมหาศาลที่ใจกลางกาแลคซีซึ่งกำลังกลืนกินคือสสารของดาวฤกษ์และเนบิวล่าอยู่ อยู่โดยวัตถุอย่างหลุมดำยักษ์ จะถูกล้อมด้วยแผ่นดิสก์ที่เพิ่มขึ้น และความร้อนสูงของแก้ส ที่กำลังไหลเวียนไป
ของรอบหลุมดำ รวมทั้งสสารที่ตกลงสู่หลุมดำ แต่ถ้าอยู่ใกลพอก็จะโคจรเหมือนดาวบริวารแทน ดังนั้นหลุมดำยักษ์จึงมักมีวงแหวกคือจานแก้สนี้เอง
ด้านนอกของแผ่นเพิ่มกำลังเป็นแท่งหรือโครงสร้างของรูปโดนัทของฝุ่นละอองและก๊าซที่เข้าสู่แผ่นเพิ่มกำลัง
โครงสร้างที่สร้างขึ้นและทำไมมันอยู่ที่นั่นจึงไม่ชัดเจน - แต่ข้อสังเกตของ Cygnus A ได้ชี้ให้เห็นว่าสนามแม่เหล็กกำลังทำงานเพื่อกำหนดเส้นรอบวงและเก็บไว้ในตำแหน่ง - กาแลคซีที่ใช้งานอยู่ 600 ล้านปีแสงและเป็นหนึ่งใน แหล่งกำเนิดคลื่นที่สว่างที่สุดในท้องฟ้า - นักดาราศาสตร์ได้พบว่ามีสนามแม่เหล็กดักวัตถุที่ป้อนเข้าไปในหลุมดำขนาดมหึมา จัดเรียงเป็นเหมือนจักรวาลสุทธิ
สิ่งนี้อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจได้ว่าทำไมแกนนิวเคลียสของกาแลคซีถึงกระปรี้กระเปร่าโดยมีการพ่นไอพ่น collimated ขนาดมหึมาออกจากบริเวณขั้วของมันขณะที่กลุ่มอื่น ๆ เช่น Sagittarius A * ของทางช้างเผือกเองก็มีการใช้งานเป็นระยะ ๆ และอีกบางส่วนดูเหมือนอยู่เฉยๆ
นิวเคลียสของกาแลคซีที่ใช้งานอยู่นั่นคือหลุมดำมวลมหาศาลที่ใจกลางกาแลคซีซึ่งกำลังให้อาหารอยู่จะถูกล้อมด้วยแผ่นดิสก์ที่เพิ่มขึ้นของวัสดุที่ตกลงสู่หลุมดำ
ตามกรณีทั่วไป จากเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ในเจเนอเรชั่นเก่าๆ โครงสร้างเหล่านี้เป็นเรื่องยากที่จะสังเกตเห็นในความยาวคลื่นแสงและยากที่จะตรวจจับในคลื่นวิทยุอีกด้วย แต่เครื่องมือใหม่ ๆ มีความไวต่อการตรวจจับการปล่อยคลื่นอินฟราเรดจาก กลุ่มฝุ่นละอองและสสาร ที่วนรอบใจกลางของซิกนัสเอ
นักดาราศาสตร์ได้ใช้กล้องความละเอียดสูงที่มีความละเอียดสูงในอากาศ (HAWC +) บนหอสังเกตการณ์อวกาศนาซาของดาราศาสตร์สำหรับการสำรวจดาราศาสตร์เชิง อินฟราเรด (SOFIA) นักดาราศาสตร์ได้สามารถแยกแยะและสังเกตเห็น torus ฝุ่นที่เป็นแกนกลางของ Cygnus A.
นักดาราศาสตร์ Enrique Lopez-Rodriguez จากศูนย์วิทยาศาสตร์ของโซเฟียและ Universities Space Research Association กล่าวว่า "มันน่าตื่นเต้นเสมอที่ได้ค้นพบสิ่งใหม่ ๆนะครับ ผมดีใจมากๆเลย"
"การสังเกตการณ์เหล่านี้จาก HAWC + เป็นเรื่องที่ไม่เหมือนใครพวกเขาแสดงให้เราเห็นว่าโพลาไรซ์อินฟราเรดสามารถนำไปสู่การศึกษากาแลคซีได้อย่างไร"
ยังไม่ชัดเจนว่ารูปแบบของลำเจ็ทที่พุ่งออกมาจากหลุมดำจะมีลักษณะอย่างไร
เรารู้ว่าสิ่งหนึ่งที่พวกเขาไม่ได้กำเนิดหรือก่อตัวมาจากด้านในของขอบฟ้าเหตุการ์ณ เพราะที่นั่นมีแรงโน้มถ่วงสูงเกินไป-รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าไม่สามารถหลบหนีออกมาได้
มันเป็นความคิดที่ว่าวัสดุจากขอบด้านในของดิสก์เพิ่มความเร็วในเดินทางไปอีกครั้งพร้อมสนามแม่เหล็กที่ก่อตัวขึ้นที่ขอบนอกของหลุมดำ รอบด้านนอกของหลุมดำที่จะถูกทำให้ระเบิดออกมาจากหลุมดำ กลายเป็นเสาพลังงานที่ความเร็วใกล้แสงนั่นเอง
การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่าหลุมดำที่เรียกว่า V404 Cygni มีสนามแม่เหล็กที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้แม้ว่าจะมีไอพ่นที่แข็งแกร่งและรุนแรงซึ่งหมายความว่าสนามแม่เหล็กที่มีปฏิสัมพันธ์กับหลุมดำอาจไม่จำเป็นต้องแข็งแรงเท่าที่คิด หรือกลไกอื่น ๆ ทางวิทยาศาสตร์ที่มีส่วนร่วม
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดการสังเกตในอนาคตจะช่วยให้แสงสว่างของความรู้บางส่วนเกี่ยวกับพลวัตที่ซับซ้อนเหล่านี้และสนามแม่เหล็กจะสร้างสภาพแวดล้อมที่รุนแรงรอบหลุมดำมวลมหาศาลอย่างไร
นาซากล่าวว่า "ถ้าเช่น HAWC + เผยการแผ่รังสีอินฟราเรดที่ขั้วสูงจากศูนย์กลางของกาแลคซีที่ใช้งานอยู่ แต่ไม่ได้มาจากกาแลคซีที่ยังหลงเหลืออยู่" NASA กล่าวว่า "มันจะสนับสนุนแนวคิดที่สนามแม่เหล็กควบคุมการดูดกลืนสสารของหลุมดำและเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักดาราศาสตร์ในแบบจำลองแบบเอกภาพ ของกาแลคซีที่ใช้งานอยู่ "
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.sciencealert.com/supermassive-black-hole-active-galactic-nucleus-cygnus-a-torus-magnetic-fields?perpetual=yes&limitstart=1
https://en.wikipedia.org/wiki/Cygnus_A
https://imagine.gsfc.nasa.gov/science/objects/active_galaxies1.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Astrophysical_jet
https://en.wikipedia.org/wiki/Sagittarius_A*
http://blogs.discovermagazine.com/d-brief/2018/03/02/supermassive-black-hole/#.W8gVLWgzbIU
https://en.wikipedia.org/wiki/Stratospheric_Observatory_for_Infrared_Astronomy
https://www.nasa.gov/feature/magnetic-fields-may-be-the-key-to-black-hole-activity/
เสร็จแล้วครับ มีข้อสงสัยประการใดสอบถามได้นะครับผม
(เอาข่าววิทย์มาฝาก) นี่เป็นครั้งแรก ที่เราทำการตรวจจับหลุมดำ ผ่านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้โดยตรง
หลุมดำ เป็นวัตถุที่เราเข้าใจว่า เป็นดินแดนอันสุดแสนจะลึกลับในห้วงอวกาศอันลึก ความหนาแน่นที่มหาศาล
พร้อมกับสนามความโน้มถ่วงรุนแรง ทำให้แม้แต่สุดยอดความเร็ว ของสิ่งที่เราๆ เรียกกันว่าแสง ก็ยังไม่มี
ปัญญาจะหลบหนีออกมาจากหลุมดำไปได้เลย นอกจากนี้หลุมดำยังมีความลับที่สุดพิสดาร
เกี่ยวกับสนามแม่เหล็ก ที่อาจกลายเป็นความลับ ที่มืดดำ และลึกลับยิ่งกว่า เรารู้แน่ชัดแล้วในปัจจุบัน
ว่ามีสนามแม่เหล็กรุนแรง ไหลเวียนอยู่รอบสิ่งที่เราเรียกว่าหลุมดำ แต่คำถามคือ สนามแม่เหล็กรอบหลุมดำแต่ละหลุม
มีความหนาแน่นที่ต่างกันอย่างมาก และเรายังไม่เข้าใจอย่างแท้จริง ถึงกระบวนการในการก่อตัวของมัน
แต่บัดนี้สถานการ์ณได้เปลื่ยนแปลงไปอย่างมาก ขอบคุณสำหรับความทุ่มเทของเหล่านักวิทยาศาสตร์
สำหรับผลการวิจัยใหม่ ตอนนี้ในแง่ขององค์ความรู้ เราได้รับตัวต่อเจ๋งๆ ตัวใหม่มาแล้ว สำหรับการจะแก้ปริศนา
เรื่องของหลุมดำ นี่เป็นครั้งแรก ที่เหล่านักดาราศาสตร์ ได้สามารถที่จะทำการตรวจจับ
คลื่นสนามแม่เหล็ก รอบๆ หลุมดำ supermassive black hole ขณะที่เจ้าสัตว์ร้ายแห่งอวกาศ กำลังกลืนกินสสาร
อย่างตะกละตะกลาม ที่ใจกลางของ ของ Cygnus A - กาแลคซีที่มีปฏิกิริยาอย่างต่อเนื่อง หรือเรียกในภาษาไทยง่ายๆ ว่าดาราจักรกัมมันต์
มันอยู่ห่างจากโลกราวๆ 600 ล้านปีแสงและเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดคลื่นวิทยุที่สว่างใสวในช่วงคลื่นของมันที่สุดในท้องฟ้า
- นักดาราศาสตร์ได้พบว่ามีสนามแม่เหล็กรุนแรง ดักวัตถุที่ป้อนเข้าไปในขอบฟ้าเหตุการณ์ของเจ้า supermassive black hole นี้
จัดเรียงเป็นเหมือนโครงข่าวของเส้นใยคอสมิค
สิ่งนี้อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจได้ว่าทำไมแกนนิวเคลียสหรือพึ้นที่บริเวณของกาแลคซีบางแห่งถึงกระปรี้กระเปร่าโดยมีการพ่นไอพ่น collimated ขนาดมหึมาออกจากบริเวณขั้วของมันอย่างต่อเนื่องขณะที่กลุ่มอื่น ๆ เช่น Sagittarius A * ของทางช้างเผือกเองก็มีการใช้งานปฏิกิริยานี้
เป็นระยะ ๆ และอีกบางส่วนดูเหมือนอยู่เฉยๆ
จากการจำลองโมเดลสำรวจแบบ unifed ใจกลางของกาแล็คซี่ ที่มีปฏิกิริยาอย่างต่อเนื่องนั่นคือ หลุมดำมวลมหาศาลที่ใจกลางกาแลคซีซึ่งกำลังกลืนกินคือสสารของดาวฤกษ์และเนบิวล่าอยู่ อยู่โดยวัตถุอย่างหลุมดำยักษ์ จะถูกล้อมด้วยแผ่นดิสก์ที่เพิ่มขึ้น และความร้อนสูงของแก้ส ที่กำลังไหลเวียนไป
ของรอบหลุมดำ รวมทั้งสสารที่ตกลงสู่หลุมดำ แต่ถ้าอยู่ใกลพอก็จะโคจรเหมือนดาวบริวารแทน ดังนั้นหลุมดำยักษ์จึงมักมีวงแหวกคือจานแก้สนี้เอง
ด้านนอกของแผ่นเพิ่มกำลังเป็นแท่งหรือโครงสร้างของรูปโดนัทของฝุ่นละอองและก๊าซที่เข้าสู่แผ่นเพิ่มกำลัง
โครงสร้างที่สร้างขึ้นและทำไมมันอยู่ที่นั่นจึงไม่ชัดเจน - แต่ข้อสังเกตของ Cygnus A ได้ชี้ให้เห็นว่าสนามแม่เหล็กกำลังทำงานเพื่อกำหนดเส้นรอบวงและเก็บไว้ในตำแหน่ง - กาแลคซีที่ใช้งานอยู่ 600 ล้านปีแสงและเป็นหนึ่งใน แหล่งกำเนิดคลื่นที่สว่างที่สุดในท้องฟ้า - นักดาราศาสตร์ได้พบว่ามีสนามแม่เหล็กดักวัตถุที่ป้อนเข้าไปในหลุมดำขนาดมหึมา จัดเรียงเป็นเหมือนจักรวาลสุทธิ
สิ่งนี้อาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจได้ว่าทำไมแกนนิวเคลียสของกาแลคซีถึงกระปรี้กระเปร่าโดยมีการพ่นไอพ่น collimated ขนาดมหึมาออกจากบริเวณขั้วของมันขณะที่กลุ่มอื่น ๆ เช่น Sagittarius A * ของทางช้างเผือกเองก็มีการใช้งานเป็นระยะ ๆ และอีกบางส่วนดูเหมือนอยู่เฉยๆ
นิวเคลียสของกาแลคซีที่ใช้งานอยู่นั่นคือหลุมดำมวลมหาศาลที่ใจกลางกาแลคซีซึ่งกำลังให้อาหารอยู่จะถูกล้อมด้วยแผ่นดิสก์ที่เพิ่มขึ้นของวัสดุที่ตกลงสู่หลุมดำ
ตามกรณีทั่วไป จากเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ในเจเนอเรชั่นเก่าๆ โครงสร้างเหล่านี้เป็นเรื่องยากที่จะสังเกตเห็นในความยาวคลื่นแสงและยากที่จะตรวจจับในคลื่นวิทยุอีกด้วย แต่เครื่องมือใหม่ ๆ มีความไวต่อการตรวจจับการปล่อยคลื่นอินฟราเรดจาก กลุ่มฝุ่นละอองและสสาร ที่วนรอบใจกลางของซิกนัสเอ
นักดาราศาสตร์ได้ใช้กล้องความละเอียดสูงที่มีความละเอียดสูงในอากาศ (HAWC +) บนหอสังเกตการณ์อวกาศนาซาของดาราศาสตร์สำหรับการสำรวจดาราศาสตร์เชิง อินฟราเรด (SOFIA) นักดาราศาสตร์ได้สามารถแยกแยะและสังเกตเห็น torus ฝุ่นที่เป็นแกนกลางของ Cygnus A.
นักดาราศาสตร์ Enrique Lopez-Rodriguez จากศูนย์วิทยาศาสตร์ของโซเฟียและ Universities Space Research Association กล่าวว่า "มันน่าตื่นเต้นเสมอที่ได้ค้นพบสิ่งใหม่ ๆนะครับ ผมดีใจมากๆเลย"
"การสังเกตการณ์เหล่านี้จาก HAWC + เป็นเรื่องที่ไม่เหมือนใครพวกเขาแสดงให้เราเห็นว่าโพลาไรซ์อินฟราเรดสามารถนำไปสู่การศึกษากาแลคซีได้อย่างไร"
ยังไม่ชัดเจนว่ารูปแบบของลำเจ็ทที่พุ่งออกมาจากหลุมดำจะมีลักษณะอย่างไร
เรารู้ว่าสิ่งหนึ่งที่พวกเขาไม่ได้กำเนิดหรือก่อตัวมาจากด้านในของขอบฟ้าเหตุการ์ณ เพราะที่นั่นมีแรงโน้มถ่วงสูงเกินไป-รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าไม่สามารถหลบหนีออกมาได้
มันเป็นความคิดที่ว่าวัสดุจากขอบด้านในของดิสก์เพิ่มความเร็วในเดินทางไปอีกครั้งพร้อมสนามแม่เหล็กที่ก่อตัวขึ้นที่ขอบนอกของหลุมดำ รอบด้านนอกของหลุมดำที่จะถูกทำให้ระเบิดออกมาจากหลุมดำ กลายเป็นเสาพลังงานที่ความเร็วใกล้แสงนั่นเอง
การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่าหลุมดำที่เรียกว่า V404 Cygni มีสนามแม่เหล็กที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้แม้ว่าจะมีไอพ่นที่แข็งแกร่งและรุนแรงซึ่งหมายความว่าสนามแม่เหล็กที่มีปฏิสัมพันธ์กับหลุมดำอาจไม่จำเป็นต้องแข็งแรงเท่าที่คิด หรือกลไกอื่น ๆ ทางวิทยาศาสตร์ที่มีส่วนร่วม
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดการสังเกตในอนาคตจะช่วยให้แสงสว่างของความรู้บางส่วนเกี่ยวกับพลวัตที่ซับซ้อนเหล่านี้และสนามแม่เหล็กจะสร้างสภาพแวดล้อมที่รุนแรงรอบหลุมดำมวลมหาศาลอย่างไร
นาซากล่าวว่า "ถ้าเช่น HAWC + เผยการแผ่รังสีอินฟราเรดที่ขั้วสูงจากศูนย์กลางของกาแลคซีที่ใช้งานอยู่ แต่ไม่ได้มาจากกาแลคซีที่ยังหลงเหลืออยู่" NASA กล่าวว่า "มันจะสนับสนุนแนวคิดที่สนามแม่เหล็กควบคุมการดูดกลืนสสารของหลุมดำและเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักดาราศาสตร์ในแบบจำลองแบบเอกภาพ ของกาแลคซีที่ใช้งานอยู่ "
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.sciencealert.com/supermassive-black-hole-active-galactic-nucleus-cygnus-a-torus-magnetic-fields?perpetual=yes&limitstart=1
https://en.wikipedia.org/wiki/Cygnus_A
https://imagine.gsfc.nasa.gov/science/objects/active_galaxies1.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Astrophysical_jet
https://en.wikipedia.org/wiki/Sagittarius_A*
http://blogs.discovermagazine.com/d-brief/2018/03/02/supermassive-black-hole/#.W8gVLWgzbIU
https://en.wikipedia.org/wiki/Stratospheric_Observatory_for_Infrared_Astronomy
https://www.nasa.gov/feature/magnetic-fields-may-be-the-key-to-black-hole-activity/
เสร็จแล้วครับ มีข้อสงสัยประการใดสอบถามได้นะครับผม