หลุมดำ (Black Hole) เป็นอีกหนึ่งปริศนาของจักรวาลที่ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้แน่ชัดว่าข้างในมีอไรอยู่กันแน่ แต่ที่แน่ๆ มันอันตรายมากและมันสามารถทำลายดาวทั้งดวงให้แหลกเป็นผุยผงได้ภายในวินาที โดยในทางวิทยาศาสตร์นั้นหลุมดำเป็นซากที่สิ้นสลายของดาวกฤษ์ที่ถึงอายุขัยแล้ว
ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์หลายต่อหลายรุ่นด้วยกันพยายามที่จะศึกษาและค้นคว้าหาคำตอบรวมถึงข้อมูลของหลุมดำให้มากที่สุด ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าหลุมดำมีจำนวนมากเท่าไหร่ และนี่คือสุดยอดหลุมดำที่มีอยู่จริงในจักรวาล
M60-UCD1
นี่คือหลุมดำมวลยอดยิ่งในระดับ Super Massive เป็นหลุมดำขนาดยักษ์ ที่มีมวลมากมายมหาศาลถึง 5 เท่าของหลุมดำที่ใจกลางทางช้างเผือก นักวิทยาศาสตร์ขนานนามว่า "Monster Black" หรือสัตว์ประหลาดสีดำนั่นเอง
ในขณะที่หลุมดำที่ใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือกของเรานั้นมีมวลราว 4 ล้านเท่าของดวงอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นเพียง 0.01% ของมวลรวมทั้งกาแล็กซีเท่านั้น แต่หลุมดำขนาดยักษ์ที่ศูนย์กลางของกาแล็กซีแคระ M60-UCD1 นั้น มีมวลมากถึง 21 ล้านเท่าของดวงอาทิตย์ และมวลของมันมากถึง 15% ของมวลรวมทั้งกาแล็กซี M60-UCD1 เลยทีเดียว
คำอธิบายหนึ่ง คือ M60-UCD1 ครั้งหนึ่งเคยเป็นกาแลคซีขนาดปกติที่มีดาวกว่าหมื่นล้านดวง แต่แล้วมันกลับเคลื่อนผ่านกาแลคซีที่มีขนาดใหญ่กว่าคือ M60 (NGC 4649) ทำให้ดวงดาวและสสารมืดในส่วนด้านนอกของกาแลคซี M60-UCD1 ถูกดึงให้ฉีกขาดออกไป และกลายเป็นส่วนหนึ่งของ M60
ทีมงานเชื่อว่า แม้ในเวลานี้ กาแล็กซีทั้งคู่ยังมีระยะห่างอยู่ราว 50 ล้านปีแสง แต่ในวันหนึ่งข้างหน้า กาแล็กซีแคระ M60-UCD1 อาจถูกดึงดูดต่อไปจนเข้าไปผสมรวมเป็นส่วนหนึ่งของ กาแล็กซี M60 อย่างสมบูรณ์ โดยใจกลางของกาแล็กซี่ M60 นั้นมีหลุมดำขนาดมหายักษ์ที่มีมวลกว่า 4,500 ล้านเท่าของดวงอาทิตย์ ขนาดใหญ่กว่าหลุมดำใจกลางทางช้างเผือกถึง 1,000 เท่า และเมื่อถึงเวลานั้น หลุมดำทั้ง 2 จะเข้ารวมกันเป็นหลุมดำเดียว
Cr.
https://mrvop.wordpress.com
4U1630-47
ไอพ่นจากหลุมดำยักษ์ เกิดมาจาก หลุมดำจำนวนมากในระบบดาวฤกษ์ถูกล้อมรอบโดยดิสก์ของก๊าซและพลาสมา ดึงดูดด้วยแรงโน้มถ่วง จากดาวคู่ที่อยู่ใกล้ๆ บางส่วนของวัสดุนี้หลังจากที่เข้าใกล้หลุมดำลงเอยด้วยการถูกขับออกจากระบบดาวในรูปแบบไอพ่นของอนุภาค ที่เล็ดลอดออกมาจากแกนของหลุมดำ
หลักฐานล่าสุดบ่งชี้ว่าไอพ่นเหล่านี้ไม่เพียงแค่ประกอบด้วยอิเล็กตรอนและโปรตอนเท่านั้น แต่ยังมีนิวเคลียสของธาตุหนัก เช่น เหล็กและนิกเกิลอีกด้วย นักดาราศาสตร์ค้นพบมวลสารเหล่านี้ในระบบดาว 4U1630-47 โดยการใช้เครื่องมือขนาดกะทัดรัด CSIRO ของกล้องโทรทรรศน์วิทยุในภาคตะวันออกของประเทศออสเตรเลียและดาวเทียม XMM - นิวตัน ขององค์การอวกาศยุโรป พบว่าระบบดาวฤกษ์ 4U1630-47 ดังภาพข้างต้นเป็นภาพวาดการแสดงออกของศิลปินที่มีดาวสีฟ้า ขนาดใหญ่อยู่ด้านขวาและไอพ่นที่เล็ดลอดออกมาจากหลุมดำในศูนย์กลางของขอบฟ้าเหตการณ์ทางด้านซ้าย แม้ว่าระบบดาวฤกษ์ 4U1630-47 เป็นความคิดที่มีเพียงหลุมดำขนาดเล็ก (ไม่กี่เท่าของมวลดวงอาทิตย์ของเรา) แต่ความหมายของผลลัพธ์ระบบที่มีขนาดใหญ่ : แสดงว่าหลุมดำที่มีขนาดใหญ่อาจจะสร้างไอพ่น ของนิวเคลียสจำนวนมากในกาแล็กซี
Cr.
http://www.narit.or.th
หลุมดำมวลยิ่งยวด (Supermassive black hole)
หลุมดำขนาดยักษ์นี้อยู่ห่างจากโลกกว่า 12,000 ล้านปีแสง มีมวลเท่ากับดวงอาทิตย์ 20,000 ล้านดวง และเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยอัตราการขยายตัว 1% ในทุก 1 ล้านปี
ดร.คริสเตียน วูล์ฟ ผู้นำทีมนักดาราศาสตร์ที่ค้นพบหลุมดำดังกล่าวระบุว่า การที่มันดูดกลืนมวลสารปริมาณมากเข้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการปลดปล่อยความร้อนและพลังงานมหาศาลออกมาบริเวณจานสะสมกลุ่มฝุ่นและก๊าซที่หมุนวนอยู่โดยรอบ (Accretion disc) โดยส่วนใหญ่เป็นการปลดปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลตและรังสีเอกซ์
ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดแสงสว่างเจิดจ้าในระดับสูงรอบหลุมดำมวลยิ่งยวด จนจัดได้ว่าเป็น "เควซาร์" หรือวัตถุส่องสว่างพลังงานสูงที่มักพบในห้วงอวกาศลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนแกนกลางของดาราจักรที่มีอายุเก่าแก่
"หากหลุมดำนี้ตั้งอยู่ที่ใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือก กลุ่มก๊าซมีประจุไฟฟ้าที่อยู่โดยรอบจะส่องสว่างเจิดจ้าบนท้องฟ้ายิ่งกว่าพระจันทร์เต็มดวงถึง 10 เท่า แต่ความรุนแรงของรังสีเอกซ์ที่แผ่ออกมา ก็จะทำให้โลกไม่สามารถมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้เช่นกัน" ดร. วูล์ฟกล่าว
ทีมนักวิจัยใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ SkyMapper และข้อมูลจากดาวเทียม Gaia ขององค์การอวกาศยุโรป ในการระบุตำแหน่งของหลุมดำมวลยิ่งยวดดังกล่าว โดยชี้ว่าการที่มันมีอายุเก่าแก่กว่าหมื่นล้านปีเช่นนี้ แสดงว่าได้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงแรก ๆ หลังการระเบิดครั้งใหญ่หรือบิ๊กแบงเลยทีเดียว ซึ่งนักดาราศาสตร์จะสามารถใช้แสงจากเควซาร์รอบหลุมดำนี้เพื่อการศึกษาความเป็นมาของจักรวาลในยุคเริ่มต้นที่ยังไม่มีดาวฤกษ์หรือ "ยุคมืด" ได้
Cr.
https://www.bbc.com/thai/features-44166551
NLS1 PG1244+026
หลุมดำที่น่าทึ่งนี้เป็นรูปแบบเกลียวหมุนได้ และอยู่ห่างจากโลกออกไปกว่า 500 ล้านปีแสง
นักดาราศาสตร์และนักบินอวกาศได้ให้ความสนใจกับหลุมดำนี้เป็นอย่างมาก มันสอนให้เรียนรู้เกี่ยวกับการวัดการหมุนของหลุมดำ
Cr.
http://www.meepanda.com
Markarian 509
หลุมดำใจกลางกาแล๊คซี่ Markarian 509 หลุมดำนี้มันน่าทึ่งสุดๆ มันมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ถึง 300 เท่าและมีขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ตลอดเวลา มันขยายตัวออกไปเรื่อยๆกินบริเวณพื้นที่รอบข้างตัวมัน
เพราะมันดูดกลืนวัตถุต่างๆรอบตัวมันเข้าไปและเปลี่ยนเป็นจานหมุนคล้ายแผ่นซีดีรอบๆตัวที่สามารถเรืองแสงได้ด้วย
Cr.
http://www.meepanda.com
NGC 3783
หลุมดำมวลมหาศาลที่เป็นหัวใจของแกแล๊คซี่ NGC 3783 ในกลุ่มดาว Centaurus มีหลุมดำที่สวยงามอยู่ตรงกลาง โดยมันมีความแปลกประหลาดตรงที่มีทั้งความร้อนและความเย็น จากการสำรวจของกลุ่มนักสำรวจดวงดาวจากยุโรปใต้ในที่หอสังเกตุการณ์ ในประเทศชิลีได้แสดงให้เห็นว่าหลุมดำนี้ได้ถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มฝุ่นที่มีความร้อน ซึ่งหลังจากที่มันดูดกลืนดาวเข้าไปความร้อนในหลุมจะทำการละลายดาวให้เป็นผง และหลังจากนั้นลมเย็นๆ ก็จะช่วยพัดเอาผงเหล่านั้นหายไป
Cr.
http://www.meepanda.com
Cygnus X-1
Cygnus X-1 วัตถุที่ปลดปล่อยรังสีเอกซ์ในกลุ่มดาวหงส์ หรือเรียกว่าดาวฤกษ์มวลหลุมดำ (Stellar-Mass Black Hole) เป็นการล่มสลายของดาว HDE 226868 ประเภทดาวยักษ์ใหญ่สีน้ำเงิน (Blue Supergiant) กำลังถูกดูดกลืนสู่หลุมดำ
เป็นหลุมดำที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด เพียงแค่ 6000 ปีแสงเท่านั้น ซึ่งมนุษย์สามารถเดินทางไปสำรวจได้แต่มันอันตรายมาก เพราะรอบหลุมดำเต็มไปด้วยอุกกาบาตมากมายห้อมล้อมอยู่ด้วยความเร็ว 800 รอบต่อวินาทีเลยทีเดียว
ระบบดังกล่าวประกอบด้วยดาวยักษ์ และดาวอีกดวงซึ่งมองไม่เห็น! พวกมันโคจรรอบกันและกันด้วยคาบการโคจร 5.6 วัน มวลสารจากดาวยักษ์ไหลเข้าสู่คู่ของมันอย่างรุนแรงแล้วเกิดการหมุนวนพอกพูนขึ้นเรื่อยๆจนมีลักษณะเหมือนจาน เรียกว่า จานรวมมวล (accretion disk) ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเส้นผ่านศูนย์กลางวงโคจรของโลกไปยังดวงจันทร์ถึง 5 เท่า!! ที่สำคัญจานรวมมวลดังกล่าวร้อนมาก บริเวณใจกลางของจานมีอุณหภูมิมากถึง 2ล้านเคลวินซึ่งมากพอจะปลดปล่อยรังสีเอกซ์ออกมาอย่างรุนแรง
Cr.
http://www.narit.or.th/
หลุมดำที่คอยยับยั้งการก่อตัวของดวงดาว
หลุมดำที่คอยยับยั้งการก่อตัวของดวงดาว โดยในกาแล๊คซี่รูปไข่ หลุมดำไม่ได้มีไว้เพียงดูดกลืนเท่านั้น แต่มันยังทำการยุติการก่อตัวของดาวดวงใหม่อีกด้วย โดยจะทำการระเบิดการรวมตัวของดาวนั่นเอง
Cr.
https://bkkleader.weebly.com
PKS 0521-36
หลุมดำสร้างแสงในกาแล๊คซี่ PKS 0521-36 เป็นหลุมดำที่มีความสวยงามมาก โดยมีลำแสงสีฟ้าตัดผ่านหลุมดำตลอดเวลา ซึ่งลำแสงสีฟ้านี้เกิดขึ้นจากแก๊สและดาวที่ถูกดูดกลืนเข้าไปผสมกับอุณฆภูมิที่สูงรวมถึงความดันของหลุมดำ ทำให้เกิดเป็นแสงสีฟ้าที่มีความเร็วเท่ากับแสงนั่นเอง
Cr.
https://bkkleader.weebly.com/
ภาพประกอบทั้งหมดจาก buzzfeed
สุดยอดหลุมดำอันน่าทึ่งในจักรวาล
หลุมดำ (Black Hole) เป็นอีกหนึ่งปริศนาของจักรวาลที่ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้แน่ชัดว่าข้างในมีอไรอยู่กันแน่ แต่ที่แน่ๆ มันอันตรายมากและมันสามารถทำลายดาวทั้งดวงให้แหลกเป็นผุยผงได้ภายในวินาที โดยในทางวิทยาศาสตร์นั้นหลุมดำเป็นซากที่สิ้นสลายของดาวกฤษ์ที่ถึงอายุขัยแล้ว
ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์หลายต่อหลายรุ่นด้วยกันพยายามที่จะศึกษาและค้นคว้าหาคำตอบรวมถึงข้อมูลของหลุมดำให้มากที่สุด ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าหลุมดำมีจำนวนมากเท่าไหร่ และนี่คือสุดยอดหลุมดำที่มีอยู่จริงในจักรวาล
M60-UCD1
นี่คือหลุมดำมวลยอดยิ่งในระดับ Super Massive เป็นหลุมดำขนาดยักษ์ ที่มีมวลมากมายมหาศาลถึง 5 เท่าของหลุมดำที่ใจกลางทางช้างเผือก นักวิทยาศาสตร์ขนานนามว่า "Monster Black" หรือสัตว์ประหลาดสีดำนั่นเอง
ในขณะที่หลุมดำที่ใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือกของเรานั้นมีมวลราว 4 ล้านเท่าของดวงอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นเพียง 0.01% ของมวลรวมทั้งกาแล็กซีเท่านั้น แต่หลุมดำขนาดยักษ์ที่ศูนย์กลางของกาแล็กซีแคระ M60-UCD1 นั้น มีมวลมากถึง 21 ล้านเท่าของดวงอาทิตย์ และมวลของมันมากถึง 15% ของมวลรวมทั้งกาแล็กซี M60-UCD1 เลยทีเดียว
คำอธิบายหนึ่ง คือ M60-UCD1 ครั้งหนึ่งเคยเป็นกาแลคซีขนาดปกติที่มีดาวกว่าหมื่นล้านดวง แต่แล้วมันกลับเคลื่อนผ่านกาแลคซีที่มีขนาดใหญ่กว่าคือ M60 (NGC 4649) ทำให้ดวงดาวและสสารมืดในส่วนด้านนอกของกาแลคซี M60-UCD1 ถูกดึงให้ฉีกขาดออกไป และกลายเป็นส่วนหนึ่งของ M60
ทีมงานเชื่อว่า แม้ในเวลานี้ กาแล็กซีทั้งคู่ยังมีระยะห่างอยู่ราว 50 ล้านปีแสง แต่ในวันหนึ่งข้างหน้า กาแล็กซีแคระ M60-UCD1 อาจถูกดึงดูดต่อไปจนเข้าไปผสมรวมเป็นส่วนหนึ่งของ กาแล็กซี M60 อย่างสมบูรณ์ โดยใจกลางของกาแล็กซี่ M60 นั้นมีหลุมดำขนาดมหายักษ์ที่มีมวลกว่า 4,500 ล้านเท่าของดวงอาทิตย์ ขนาดใหญ่กว่าหลุมดำใจกลางทางช้างเผือกถึง 1,000 เท่า และเมื่อถึงเวลานั้น หลุมดำทั้ง 2 จะเข้ารวมกันเป็นหลุมดำเดียว
Cr.https://mrvop.wordpress.com
4U1630-47
ไอพ่นจากหลุมดำยักษ์ เกิดมาจาก หลุมดำจำนวนมากในระบบดาวฤกษ์ถูกล้อมรอบโดยดิสก์ของก๊าซและพลาสมา ดึงดูดด้วยแรงโน้มถ่วง จากดาวคู่ที่อยู่ใกล้ๆ บางส่วนของวัสดุนี้หลังจากที่เข้าใกล้หลุมดำลงเอยด้วยการถูกขับออกจากระบบดาวในรูปแบบไอพ่นของอนุภาค ที่เล็ดลอดออกมาจากแกนของหลุมดำ
หลักฐานล่าสุดบ่งชี้ว่าไอพ่นเหล่านี้ไม่เพียงแค่ประกอบด้วยอิเล็กตรอนและโปรตอนเท่านั้น แต่ยังมีนิวเคลียสของธาตุหนัก เช่น เหล็กและนิกเกิลอีกด้วย นักดาราศาสตร์ค้นพบมวลสารเหล่านี้ในระบบดาว 4U1630-47 โดยการใช้เครื่องมือขนาดกะทัดรัด CSIRO ของกล้องโทรทรรศน์วิทยุในภาคตะวันออกของประเทศออสเตรเลียและดาวเทียม XMM - นิวตัน ขององค์การอวกาศยุโรป พบว่าระบบดาวฤกษ์ 4U1630-47 ดังภาพข้างต้นเป็นภาพวาดการแสดงออกของศิลปินที่มีดาวสีฟ้า ขนาดใหญ่อยู่ด้านขวาและไอพ่นที่เล็ดลอดออกมาจากหลุมดำในศูนย์กลางของขอบฟ้าเหตการณ์ทางด้านซ้าย แม้ว่าระบบดาวฤกษ์ 4U1630-47 เป็นความคิดที่มีเพียงหลุมดำขนาดเล็ก (ไม่กี่เท่าของมวลดวงอาทิตย์ของเรา) แต่ความหมายของผลลัพธ์ระบบที่มีขนาดใหญ่ : แสดงว่าหลุมดำที่มีขนาดใหญ่อาจจะสร้างไอพ่น ของนิวเคลียสจำนวนมากในกาแล็กซี
Cr.http://www.narit.or.th
หลุมดำมวลยิ่งยวด (Supermassive black hole)
หลุมดำขนาดยักษ์นี้อยู่ห่างจากโลกกว่า 12,000 ล้านปีแสง มีมวลเท่ากับดวงอาทิตย์ 20,000 ล้านดวง และเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยอัตราการขยายตัว 1% ในทุก 1 ล้านปี
ดร.คริสเตียน วูล์ฟ ผู้นำทีมนักดาราศาสตร์ที่ค้นพบหลุมดำดังกล่าวระบุว่า การที่มันดูดกลืนมวลสารปริมาณมากเข้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการปลดปล่อยความร้อนและพลังงานมหาศาลออกมาบริเวณจานสะสมกลุ่มฝุ่นและก๊าซที่หมุนวนอยู่โดยรอบ (Accretion disc) โดยส่วนใหญ่เป็นการปลดปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลตและรังสีเอกซ์
ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดแสงสว่างเจิดจ้าในระดับสูงรอบหลุมดำมวลยิ่งยวด จนจัดได้ว่าเป็น "เควซาร์" หรือวัตถุส่องสว่างพลังงานสูงที่มักพบในห้วงอวกาศลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนแกนกลางของดาราจักรที่มีอายุเก่าแก่
"หากหลุมดำนี้ตั้งอยู่ที่ใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือก กลุ่มก๊าซมีประจุไฟฟ้าที่อยู่โดยรอบจะส่องสว่างเจิดจ้าบนท้องฟ้ายิ่งกว่าพระจันทร์เต็มดวงถึง 10 เท่า แต่ความรุนแรงของรังสีเอกซ์ที่แผ่ออกมา ก็จะทำให้โลกไม่สามารถมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้เช่นกัน" ดร. วูล์ฟกล่าว
ทีมนักวิจัยใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ SkyMapper และข้อมูลจากดาวเทียม Gaia ขององค์การอวกาศยุโรป ในการระบุตำแหน่งของหลุมดำมวลยิ่งยวดดังกล่าว โดยชี้ว่าการที่มันมีอายุเก่าแก่กว่าหมื่นล้านปีเช่นนี้ แสดงว่าได้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงแรก ๆ หลังการระเบิดครั้งใหญ่หรือบิ๊กแบงเลยทีเดียว ซึ่งนักดาราศาสตร์จะสามารถใช้แสงจากเควซาร์รอบหลุมดำนี้เพื่อการศึกษาความเป็นมาของจักรวาลในยุคเริ่มต้นที่ยังไม่มีดาวฤกษ์หรือ "ยุคมืด" ได้
Cr.https://www.bbc.com/thai/features-44166551
NLS1 PG1244+026
หลุมดำที่น่าทึ่งนี้เป็นรูปแบบเกลียวหมุนได้ และอยู่ห่างจากโลกออกไปกว่า 500 ล้านปีแสง
นักดาราศาสตร์และนักบินอวกาศได้ให้ความสนใจกับหลุมดำนี้เป็นอย่างมาก มันสอนให้เรียนรู้เกี่ยวกับการวัดการหมุนของหลุมดำ
Cr.http://www.meepanda.com
Markarian 509
หลุมดำใจกลางกาแล๊คซี่ Markarian 509 หลุมดำนี้มันน่าทึ่งสุดๆ มันมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ถึง 300 เท่าและมีขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ตลอดเวลา มันขยายตัวออกไปเรื่อยๆกินบริเวณพื้นที่รอบข้างตัวมัน
เพราะมันดูดกลืนวัตถุต่างๆรอบตัวมันเข้าไปและเปลี่ยนเป็นจานหมุนคล้ายแผ่นซีดีรอบๆตัวที่สามารถเรืองแสงได้ด้วย
Cr.http://www.meepanda.com
NGC 3783
หลุมดำมวลมหาศาลที่เป็นหัวใจของแกแล๊คซี่ NGC 3783 ในกลุ่มดาว Centaurus มีหลุมดำที่สวยงามอยู่ตรงกลาง โดยมันมีความแปลกประหลาดตรงที่มีทั้งความร้อนและความเย็น จากการสำรวจของกลุ่มนักสำรวจดวงดาวจากยุโรปใต้ในที่หอสังเกตุการณ์ ในประเทศชิลีได้แสดงให้เห็นว่าหลุมดำนี้ได้ถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มฝุ่นที่มีความร้อน ซึ่งหลังจากที่มันดูดกลืนดาวเข้าไปความร้อนในหลุมจะทำการละลายดาวให้เป็นผง และหลังจากนั้นลมเย็นๆ ก็จะช่วยพัดเอาผงเหล่านั้นหายไป
Cr.http://www.meepanda.com
Cygnus X-1
Cygnus X-1 วัตถุที่ปลดปล่อยรังสีเอกซ์ในกลุ่มดาวหงส์ หรือเรียกว่าดาวฤกษ์มวลหลุมดำ (Stellar-Mass Black Hole) เป็นการล่มสลายของดาว HDE 226868 ประเภทดาวยักษ์ใหญ่สีน้ำเงิน (Blue Supergiant) กำลังถูกดูดกลืนสู่หลุมดำ
เป็นหลุมดำที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด เพียงแค่ 6000 ปีแสงเท่านั้น ซึ่งมนุษย์สามารถเดินทางไปสำรวจได้แต่มันอันตรายมาก เพราะรอบหลุมดำเต็มไปด้วยอุกกาบาตมากมายห้อมล้อมอยู่ด้วยความเร็ว 800 รอบต่อวินาทีเลยทีเดียว
ระบบดังกล่าวประกอบด้วยดาวยักษ์ และดาวอีกดวงซึ่งมองไม่เห็น! พวกมันโคจรรอบกันและกันด้วยคาบการโคจร 5.6 วัน มวลสารจากดาวยักษ์ไหลเข้าสู่คู่ของมันอย่างรุนแรงแล้วเกิดการหมุนวนพอกพูนขึ้นเรื่อยๆจนมีลักษณะเหมือนจาน เรียกว่า จานรวมมวล (accretion disk) ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเส้นผ่านศูนย์กลางวงโคจรของโลกไปยังดวงจันทร์ถึง 5 เท่า!! ที่สำคัญจานรวมมวลดังกล่าวร้อนมาก บริเวณใจกลางของจานมีอุณหภูมิมากถึง 2ล้านเคลวินซึ่งมากพอจะปลดปล่อยรังสีเอกซ์ออกมาอย่างรุนแรง
Cr.http://www.narit.or.th/
หลุมดำที่คอยยับยั้งการก่อตัวของดวงดาว
หลุมดำที่คอยยับยั้งการก่อตัวของดวงดาว โดยในกาแล๊คซี่รูปไข่ หลุมดำไม่ได้มีไว้เพียงดูดกลืนเท่านั้น แต่มันยังทำการยุติการก่อตัวของดาวดวงใหม่อีกด้วย โดยจะทำการระเบิดการรวมตัวของดาวนั่นเอง
Cr.https://bkkleader.weebly.com
PKS 0521-36
หลุมดำสร้างแสงในกาแล๊คซี่ PKS 0521-36 เป็นหลุมดำที่มีความสวยงามมาก โดยมีลำแสงสีฟ้าตัดผ่านหลุมดำตลอดเวลา ซึ่งลำแสงสีฟ้านี้เกิดขึ้นจากแก๊สและดาวที่ถูกดูดกลืนเข้าไปผสมกับอุณฆภูมิที่สูงรวมถึงความดันของหลุมดำ ทำให้เกิดเป็นแสงสีฟ้าที่มีความเร็วเท่ากับแสงนั่นเอง
Cr.https://bkkleader.weebly.com/
ภาพประกอบทั้งหมดจาก buzzfeed