คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เอาคร่าวๆที่จำได้ มีรายละเอียดมากกว่านี้เยอะ และพยายามไม่ใช่ศัพท์เทคนิคเยอะเกินความรู้ ม ปลาย
คาร์โบไฮเดรต ถูกดูดซึมในรูปของน้ำตาล ทำให้ความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นกว่าปกติ ในขั้นแรก จะกระตุ้นการหลั่งของอินซูลินจากตับอ่อน ให้มีการนำน้ำตาลไปใช้ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงสู่ระดับปกติ
ผลคือ
1. มีการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานสะสมพร้อมใช้งานในรูป ATP ผ่าน glycolysis -> TCA cycle -> electron transport
2. มีการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไกลโคเจน ที่ตับและกล้ามเนื้อ แต่เก็บได้จำกัด เพราะส่งผลต่อแรงดันออสโมซิสในเซลล์
3. หากปริมาณน้ำตาลในเลือดยังสูงอยู่ ไกลโคเจน ก็ถึงลิมิตแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนน้ำตาล เป็นไขมัน ที่ตับ(แล้วส่งออกไปสะสมที่เซลล์ไขมัน)และหรือผลิตที่เซลล์ไขมันเลย ซึ่งการเก็บพลังงานส่วนเกินในรูปไขมัน สามารถทำได้ แทบไม่จำกัด ต่างจากไกลโคเจน จึงไม่แปลกที่คนที่กินเยอะจะสะสมเป็นไขมัน ไม่ใช่ไกลโคเจนหรือโปรตีน
โปรตีน ถูกดูดซึมและนำไปใช้ในรูปกรดอะมิโนหรือเปปไทด์สายสั้น
จะถูกนำไปใช้สร้างโปรตีน แต่ไม่ทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะเข้า glycolysis + TCA cycle เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน แต่ถ้าพลังงานในเซลล์มีมากพอแล้ว ก็จะกลายเป็นไขมัน ด้วยกลไกคล้ายๆเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมัน เพราะ ร่างกายจะไม่สะสมกรดอะมิโนในปริมาณมากๆ
ดังนั้นการกินโปรตีนมากเกินที่ร่างกายต้องการคือการสะสมไขมัน และเงินที่สูญเปล่า หากอยากมีกล้าม
และถ้ากินมากเกินไปจริงๆ อาจจะมีผลเสียข้างเคียงคือตับและไต ทำงานหนัก เพราะการเปลี่ยนกรดอะมิโน เป็น กรดไขมัน จะเกิด แอมโมเนีย ซึ่งเป็นพิษ ต้องมีกระบวนการทำให้ไม่เป็นพิษและกำจัดออกจากร่างกาย
ไขมัน ก็ตรงตัวนะ ดูดซึมแล้วก็สะสมในรูปของไขมัน
ผมไม่รู้ว่า สะสมแต่ละอย่างสัดส่วนมากน้อยอย่างไร รู้แต่สะสมเป็นโปรตีนและไกลโคเจนได้จำกัด ที่เหลือไขมันล้วนๆ
คาร์โบไฮเดรต ถูกดูดซึมในรูปของน้ำตาล ทำให้ความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นกว่าปกติ ในขั้นแรก จะกระตุ้นการหลั่งของอินซูลินจากตับอ่อน ให้มีการนำน้ำตาลไปใช้ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงสู่ระดับปกติ
ผลคือ
1. มีการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานสะสมพร้อมใช้งานในรูป ATP ผ่าน glycolysis -> TCA cycle -> electron transport
2. มีการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไกลโคเจน ที่ตับและกล้ามเนื้อ แต่เก็บได้จำกัด เพราะส่งผลต่อแรงดันออสโมซิสในเซลล์
3. หากปริมาณน้ำตาลในเลือดยังสูงอยู่ ไกลโคเจน ก็ถึงลิมิตแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนน้ำตาล เป็นไขมัน ที่ตับ(แล้วส่งออกไปสะสมที่เซลล์ไขมัน)และหรือผลิตที่เซลล์ไขมันเลย ซึ่งการเก็บพลังงานส่วนเกินในรูปไขมัน สามารถทำได้ แทบไม่จำกัด ต่างจากไกลโคเจน จึงไม่แปลกที่คนที่กินเยอะจะสะสมเป็นไขมัน ไม่ใช่ไกลโคเจนหรือโปรตีน
โปรตีน ถูกดูดซึมและนำไปใช้ในรูปกรดอะมิโนหรือเปปไทด์สายสั้น
จะถูกนำไปใช้สร้างโปรตีน แต่ไม่ทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะเข้า glycolysis + TCA cycle เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน แต่ถ้าพลังงานในเซลล์มีมากพอแล้ว ก็จะกลายเป็นไขมัน ด้วยกลไกคล้ายๆเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมัน เพราะ ร่างกายจะไม่สะสมกรดอะมิโนในปริมาณมากๆ
ดังนั้นการกินโปรตีนมากเกินที่ร่างกายต้องการคือการสะสมไขมัน และเงินที่สูญเปล่า หากอยากมีกล้าม
และถ้ากินมากเกินไปจริงๆ อาจจะมีผลเสียข้างเคียงคือตับและไต ทำงานหนัก เพราะการเปลี่ยนกรดอะมิโน เป็น กรดไขมัน จะเกิด แอมโมเนีย ซึ่งเป็นพิษ ต้องมีกระบวนการทำให้ไม่เป็นพิษและกำจัดออกจากร่างกาย
ไขมัน ก็ตรงตัวนะ ดูดซึมแล้วก็สะสมในรูปของไขมัน
ผมไม่รู้ว่า สะสมแต่ละอย่างสัดส่วนมากน้อยอย่างไร รู้แต่สะสมเป็นโปรตีนและไกลโคเจนได้จำกัด ที่เหลือไขมันล้วนๆ
แสดงความคิดเห็น
ขอถามเรื่องขั้นตอนการสะสมพลังงานของร่างกายหน่อยค่ะ
เข้าใจว่าความรุ้ ม.ปลาย แต่เราทิ้งมาหลาย 10 ปีแล้วค่ะ เอาง่ายเลยคือลืมค่ะ