น้ำตาลเป็นสารเสพติดแต่แค่ถูกกฏหมาย
ขาดก็หงุดหงิด ใช้แล้วก็เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ไม่จำเป็นและยังเป็นโทษต่อร่างกายอีก
จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคุณ ถ้าคุณงดน้ำตาลไปเลย
เป็นเวลาสองสัปดาห์ ลองมาดูกันดีกว่า
1. คุณจะพบว่าตัวเองไม่มีความอยากน้ำตาลแล้ว เหตุผลคือ ทุกครั้งที่คุณกินน้ำตาล ฮอร์โมน อินซูลิน จะหลั่งออกมาเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำลงในช่วงแรก ทำให้สมองเพิ่มความต้องการน้ำตาลเพิ่มขึ้น ดังนั้น การกำจัดน้ำตาลออกจากอาหารของคุณ คุณจะสามารถขจัดความอยากน้ำตาลที่มีอย่างต่อเนื่องได้
2. การลดน้ำตาลจะทำให้คุณรู้สึกหิวน้อยลง เมื่อคุณกำจัดน้ำตาลออกจากอาหาร ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณจะคงที่ และ เซลล์ของคุณจะได้รับสารอาหารที่เหมาะสม เนื่องจากน้ำตาลเป็นพิษต่อร่างกาย และ ทำให้ร่างกายปิดกั้นอินซูลิน และ จำกัดปริมาณน้ำตาลในเซลล์ การลดน้ำตาลจะทำให้การร่างกายหายดื้อต่ออินซูลิน และ ทำให้สามารถดูดซึมพลังงาน สารอาหารได้ดีขึ้น เช่น แร่ธาตุ และ วิตามิน ซึ่งถูกขัดขวางโดยภาวะดื้อต่ออินซูลินเช่นกัน
3. ลดความเหนื่อยล้า และ เพิ่มพลังงานให้กับคุณได้ การบริโภคน้ำตาลในปริมาณมากเป็นประจำ อาจทำให้ง่วงนอนหลังมื้ออาหาร เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลง และหากคุณลดปริมาณน้ำตาล สมองของคุณจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้าอีกต่อไปและจะตื่นตัวมากขึ้น นี่เป็นเพราะสมองไม่ได้สัมผัสกับน้ำตาลในระดับสูงที่อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนอีกต่อไป แต่จะได้รับน้ำตาลในระดับปกติที่ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้นและตื่นตัว
4. ลดน้ำหนักได้ ในช่วงสัปดาห์แรก คุณจะสูญเสียไขมันจำนวนหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะสูญเสียไขมันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณจะทึ่งกับปริมาณของไขมันที่สะสมในร่างกาย บางคนบอกว่าสูญเสียไขมันมากถึง 13 ปอนด์ ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ นั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าไขมันส่วนเกินพวกนี้ทำให้หัวใจของคุณเครียด และ ส่งผลต่อสุขภาพของคุณ คุณจะสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าของคุณหลวมขึ้นโดยเฉพาะบริเวณช่วงกลางลำตัว พุงและรอบเอวของคุณเป็นตัวบ่งชี้ที่ดี การลดปริมาณน้ำตาลจะทำให้กระเพาะของคุณหดตัว ในขณะที่การบริโภคน้ำตาลจะทำให้กระเพาะขยายตัว
5. อารมณ์ดีขึ้น: หากก่อนหน้านี้คุณรู้สึกหงุดหงิด ตอนนี้คุณจะผ่อนคลายมากขึ้น เครียดน้อยลง และมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ ๆ แฟนหรือครอบครัว นั่นเป็นข่าวดี. นอกจากนี้ ความสามารถในการรับรู้ของคุณจะดีขึ้น ทำให้คุณรู้สึกมีสติ และ มีสมาธิดีขึ้น คุณจะมีอาการ สมาธิสั้น น้อยลง และ สามารถใส่ใจกับงานของคุณได้ดีขึ้น
6. ผิวของคุณจะดีขึ้นอย่างมาก คุณจะพบปัญหาสิวอักเสบลดลง ผิวของคุณจะเปล่งปลั่งอย่างมีเลือดฝาด นี่เป็นผลมาจากการลดการบริโภคน้ำตาล เมื่อคุณบริโภคน้ำตาล มันทำให้ระดับอินซูลิน และ ฮอร์โมนแอนโดรเจนพุ่งสูงขึ้นในร่างกายของผู้หญิง แอนโดรเจนที่เพิ่มขึ้นนี้นำไปสู่การเกิดสิว ในทางกลับกัน ในเพศชาย การเพิ่มขึ้นของอินซูลินจะลดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งนำไปสู่ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระดับเทสโทสเตอโรนต่ำ ซึ่งทำให้ผู้ชายรู้สึกเหนื่อยล้า มีความสนใจในเรื่องเพศลดลง และ มวลกล้ามเนื้อลดลง
7. คุณจะมีอาการตึงน้อยลง อักเสบน้อยลง และ ปวดน้อยลง แต่เนื่องจากร่างกายของคุณกำลังเปลี่ยนจาก การใช้น้ำตาลเป็นเชื้อเพลิง เป็นการใช้ไขมันเชื้อเพลิง กระบวนการนี้ อาจทำให้คุณรู้สึกแย่ลง แต่ต้องให้เวลาร่างกายปรับตัวประมาณ 3 วัน แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยการ กินวิตามินบี และ โพแทสเซียม ร่างกายของคุณกำลังสร้างเอนไซม์ใหม่ เพื่อใช้ไขมันเป็นพลังงาน ซึ่งจะลดการอักเสบในหลอดเลือดแดง และ ลดความเสี่ยงของอาการหัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ การลดน้ำตาลจะส่งเสริมการเติบโตของเซลล์สมอง ส่งผลให้การทำงานของสมองดีขึ้น และตับจะเริ่มกำจัดไขมันสะสม การทำงานของไตที่ดีขึ้น สำหรับผู้ที่มีพุงโต มักเป็นสัญญาณของภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งจะดีขึ้นด้วย
น้ำตาล สารเสพติดอันตราย ถูกกฎหมาย
ขาดก็หงุดหงิด ใช้แล้วก็เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ไม่จำเป็นและยังเป็นโทษต่อร่างกายอีก
จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคุณ ถ้าคุณงดน้ำตาลไปเลย
เป็นเวลาสองสัปดาห์ ลองมาดูกันดีกว่า
1. คุณจะพบว่าตัวเองไม่มีความอยากน้ำตาลแล้ว เหตุผลคือ ทุกครั้งที่คุณกินน้ำตาล ฮอร์โมน อินซูลิน จะหลั่งออกมาเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำลงในช่วงแรก ทำให้สมองเพิ่มความต้องการน้ำตาลเพิ่มขึ้น ดังนั้น การกำจัดน้ำตาลออกจากอาหารของคุณ คุณจะสามารถขจัดความอยากน้ำตาลที่มีอย่างต่อเนื่องได้
2. การลดน้ำตาลจะทำให้คุณรู้สึกหิวน้อยลง เมื่อคุณกำจัดน้ำตาลออกจากอาหาร ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณจะคงที่ และ เซลล์ของคุณจะได้รับสารอาหารที่เหมาะสม เนื่องจากน้ำตาลเป็นพิษต่อร่างกาย และ ทำให้ร่างกายปิดกั้นอินซูลิน และ จำกัดปริมาณน้ำตาลในเซลล์ การลดน้ำตาลจะทำให้การร่างกายหายดื้อต่ออินซูลิน และ ทำให้สามารถดูดซึมพลังงาน สารอาหารได้ดีขึ้น เช่น แร่ธาตุ และ วิตามิน ซึ่งถูกขัดขวางโดยภาวะดื้อต่ออินซูลินเช่นกัน
3. ลดความเหนื่อยล้า และ เพิ่มพลังงานให้กับคุณได้ การบริโภคน้ำตาลในปริมาณมากเป็นประจำ อาจทำให้ง่วงนอนหลังมื้ออาหาร เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลง และหากคุณลดปริมาณน้ำตาล สมองของคุณจะไม่รู้สึกเหนื่อยล้าอีกต่อไปและจะตื่นตัวมากขึ้น นี่เป็นเพราะสมองไม่ได้สัมผัสกับน้ำตาลในระดับสูงที่อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนอีกต่อไป แต่จะได้รับน้ำตาลในระดับปกติที่ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้นและตื่นตัว
4. ลดน้ำหนักได้ ในช่วงสัปดาห์แรก คุณจะสูญเสียไขมันจำนวนหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะสูญเสียไขมันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณจะทึ่งกับปริมาณของไขมันที่สะสมในร่างกาย บางคนบอกว่าสูญเสียไขมันมากถึง 13 ปอนด์ ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ นั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าไขมันส่วนเกินพวกนี้ทำให้หัวใจของคุณเครียด และ ส่งผลต่อสุขภาพของคุณ คุณจะสังเกตเห็นว่าเสื้อผ้าของคุณหลวมขึ้นโดยเฉพาะบริเวณช่วงกลางลำตัว พุงและรอบเอวของคุณเป็นตัวบ่งชี้ที่ดี การลดปริมาณน้ำตาลจะทำให้กระเพาะของคุณหดตัว ในขณะที่การบริโภคน้ำตาลจะทำให้กระเพาะขยายตัว
5. อารมณ์ดีขึ้น: หากก่อนหน้านี้คุณรู้สึกหงุดหงิด ตอนนี้คุณจะผ่อนคลายมากขึ้น เครียดน้อยลง และมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ ๆ แฟนหรือครอบครัว นั่นเป็นข่าวดี. นอกจากนี้ ความสามารถในการรับรู้ของคุณจะดีขึ้น ทำให้คุณรู้สึกมีสติ และ มีสมาธิดีขึ้น คุณจะมีอาการ สมาธิสั้น น้อยลง และ สามารถใส่ใจกับงานของคุณได้ดีขึ้น
6. ผิวของคุณจะดีขึ้นอย่างมาก คุณจะพบปัญหาสิวอักเสบลดลง ผิวของคุณจะเปล่งปลั่งอย่างมีเลือดฝาด นี่เป็นผลมาจากการลดการบริโภคน้ำตาล เมื่อคุณบริโภคน้ำตาล มันทำให้ระดับอินซูลิน และ ฮอร์โมนแอนโดรเจนพุ่งสูงขึ้นในร่างกายของผู้หญิง แอนโดรเจนที่เพิ่มขึ้นนี้นำไปสู่การเกิดสิว ในทางกลับกัน ในเพศชาย การเพิ่มขึ้นของอินซูลินจะลดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งนำไปสู่ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระดับเทสโทสเตอโรนต่ำ ซึ่งทำให้ผู้ชายรู้สึกเหนื่อยล้า มีความสนใจในเรื่องเพศลดลง และ มวลกล้ามเนื้อลดลง
7. คุณจะมีอาการตึงน้อยลง อักเสบน้อยลง และ ปวดน้อยลง แต่เนื่องจากร่างกายของคุณกำลังเปลี่ยนจาก การใช้น้ำตาลเป็นเชื้อเพลิง เป็นการใช้ไขมันเชื้อเพลิง กระบวนการนี้ อาจทำให้คุณรู้สึกแย่ลง แต่ต้องให้เวลาร่างกายปรับตัวประมาณ 3 วัน แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยการ กินวิตามินบี และ โพแทสเซียม ร่างกายของคุณกำลังสร้างเอนไซม์ใหม่ เพื่อใช้ไขมันเป็นพลังงาน ซึ่งจะลดการอักเสบในหลอดเลือดแดง และ ลดความเสี่ยงของอาการหัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ การลดน้ำตาลจะส่งเสริมการเติบโตของเซลล์สมอง ส่งผลให้การทำงานของสมองดีขึ้น และตับจะเริ่มกำจัดไขมันสะสม การทำงานของไตที่ดีขึ้น สำหรับผู้ที่มีพุงโต มักเป็นสัญญาณของภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งจะดีขึ้นด้วย