สวัสดีครับ ผมเป็นเด็กคนหนึ่งครับอายุ 14ปีเเล้วครับ ตอนนี้ผมอยู่ ม.2ผมจะเล่าเรื่อง
ความรู้สึกตั้งเเต่ที่ผมเริ่มจะเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม
"เรื่องมันอาจจะยาวนิดหน่อยผมจะเล่าเอาน้ำด้วย ผมขอเล่าเรื่องราวตั้งเเต่เด็กของผมเลยนะครับTT ตั้งใจอ่านก่อนนะครับ หลังๆพี่จะเข้าใจสาเหตุเอง
ตอนเด็กผมโตมาใน หมู่บ้านเเห่งหนึ่ง ฐานะปลานกลาง พ่อรายได้ประมาณหมื่นกว่าบาท
เเม่รายได้ประมาณ2หมื่นกว่าบาท
บ้านผมเป็นคนครัวเล็ก มีคนอยู่ 4คน
มี พ่อ เเม่ พี่สาวอยู่ม.5 เเละผม
ช่วงชีวิตเเรกของผมที่เกิดมาผมเรียนร.รวัดอยู่ใกล้บ้านผม
ช่วงเเรกเริ่มต้นของชีวิตของผมที่โรงเรียนวัด
ตอนอนุบาลผมจำความได้ผมไม่ค่อยเขิน หรือ ไม่อยากเข้าหาเพื่อนอะไรตอนอนุบาล
ทุกคนเท่าเทียมกันหมด ผมก็จะจำได้เเต่ความซวนเเละประสบการณ์เเย่ๆตอนผมท้องเสียอะนะ555 เเต่ตอนเด็กก็ไม่อายหรอก
ตอนเด็กผมเป็นคนชั่งสังเกตุที่ได้นิสัยมาจากพ่อเวลาพ่อขับรถไปเที่ยวผมนั่งอยู่ข้างหน้ารถ
จะชอบถามนู่นถามนี้ระหว่างทางอยู่ตลอด
พ่อผมก็ชอบชมว่าผมเป็นคนชั่งสังเกตุ มันเลยทำให้ผมจำความได้ ตอนอนุบาล2-3ผมเริ่มมีสติ ครั้งเเรก เหมือนผมเริ่มมีควาทรู้สึกนึกคิด สามารถควบคุมตัวเองได้ ขยับร่างกายเองได้
เเบบใจอยาก
ผมเริ่มเห็นการพัฒนาของตัวเองเห็นคนอื่นจับช้อนกินข้าวหน้าผม เห็นมือตัวเองตักข้าวเข้าปาก เห็นรอยขอบตาของเพื่อน เห็นเเววตาของเพื่อน
เริ่มมีความฝัน เริ่มมีความจำเกิดขึ้นมาในหัวสมองของผม
ผมใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากช่วงอนุบาล
จบอนุบาล3 ความรู้สึกกลัวการเข้าสังคมก้ได้เกิดขึ้นครั้วเเรก คือเป็นตอนบ่ายวันนั้นที่ผม เห็นเลโก้ของเล่น ที่ครูเอามาสำหรับห้อง
ให้เด็กๆเล่นกัน เพื่อนผมก็เล่นเป็นวงล้อมมากมาย
ผมตัดสินใจลองเข้าไปหยิบเล่นของเล่นต่อเลโก้มั้ง เเต่ทันได้นั้น เพื่อนผมก็บ่นว่าเลโก้ตัวนี้มันหายไปไหนวะ มันคืออันที่ผมหยิบอยู่
มันก็เลยว่าผมเเย่ง อะไรสักอย่างผมเริ่มเกิดความเสียใจครั้งเเรก
เเล้วสิ่งที่ไม่ขาดคิดก้เกิดขึ้นผมต้องจากเพื่อน ที่เรียนมาตั้งเเต่ อนุบาล 1-ป.2
ผมโดนเเม่ให้ย้ายมาร.รประถ.เอกชน ร.รใหญ่ วันเเรกที่ผมเข้ามา เจอครูนิ้วเเกเขาเเก่เเล้ว เป็นครูประจำชั้น อายุประมาณ
60กว่าได้มั้ง เขาก็เเนะนำผม เพื่อนก็ต้อนรับ
เเต่ช่วงเป็นเด็กก็ไม่ได้มีใครเข้ามาทักทายผมหรอก
มีเเต่ไอ่ต้นหอม วันเเรกผมจำได้เลยมันมาขอเงินผม 5บาท หรือ 10บาท จริงๆก็เรียกว่าไถ่เงินก็ได้เหอะ
ด้วยความตอนนั้นพ่อผมก็สอนเเล้วว่าอย่างนี้เขาเรียกว่าไถ่เงิน เป็นสิ่งไม่ดี ตอนพักเที่ยงมันมาไถ่เงินผม สั*นั้นวันเเรกของกุเลยนะหนะ ต่อมาทุกๆพักเที่ยงผมก็เลยไม่ลงไปำกนมีเเต่ลงไปซื้อขนมเเล้วขค้นมากินข้าว กีบพวกครูนั่งล้อมวงกินข้าวคุยกัน
ผมไม่มีเพื่อนเลย ป.2 ครูเขาก็หาเพื่อนให้นะ
ชวนผมไปเเตะบอล เล่นซ่อนเเอบด้วย
เเต่ไม่รู้ทำไมผมถึงทุกเที่ยงไม่ไปเล่นกับพวกเขาเลย เหมือนผมมีปมไม่ชอบเข้าสังคมอะไรสักอย่าง
จนมาป.3ผมได้เพื่อนสนิท มันเป็นคนตลกมากๆๆ มันชอบพูดอะไรไรสาระเเต่ก็ฮาอะ เหมือนเจออะไรข้างทางก็เล่า ดันเเปลงให้ตลกมั้งกับคำว่า สมติว่า หรือไม่ก็ ชอบปรึกษาผมเรื่องทางบ้านของเขา เพื่อนสนิทผมชื่อว่า "โย่"
ตั้งเเต่ป.3-ป.6ผมอยู่ด้วยกันมาตลอด 3คน มี ผม โย่ พีท พีทนี้เพื่อนโย่คนก็ตลกด้วยเเหละ
โย่คือคนตลก โย่คือคนอ่อนเเอ ไม่สู้คน เพียงเเต่เป็นคนหัวร้อนง่าย ในขณะที่เพื่อนห้องผู้ชายหลายๆคน เรื่องที่จะมีสไตล์ คำพูด นิสัยของตัวเอง ที่เเมนๆกัน ว่าง่ายๆนิสัยนักเลงฟันน้ำนมหน่อยอะ เเต่ผม.. อยู่กับโย่มาตลอด
โย่เป็นคนติดเเม่มาก เเล้วนิสัยเเม่เขาอ่อนโยนมากก ไงโย่ไม่ค่อยอยู่กับพ่อนะ เเล้วก็ผมได้นั่งโต๊ะเดียวกับโย่2คนมาตลอด ทำให้ผมติดนิสัยมันไปเลย
คือ! 1.เป็นคนชอบคิดอะไรกลับหัวกลับด้าน เปลี่ยนอารมณ์ให้เป็นเรื่องฮาได้ เเล้วก็เป็นคนยิ้มง่ายมากๆๆ เหมือนคนไม่รู้จักกาลเทศะอะ คุยกับคนอื่นหน้านิ่งเเต่ผมยิ้มนิดหน่อย เหมือนรอเรื่องตลกเข้ามาให้ขำ
2.นิสัยผมไม่ชอบเรื่องการชกต่อย ไม่ชอบด่าคนอื่นเช่น ทำไมโง่จัง, ไปไกลๆกูดิ้ , ไอ่ควาย, พูดอะไรของ, ปัญญาอ่อน,
ผมมองว่าการที่เพื่อนไม่รู้อะไรเเล้วถาม
ถึงมันจะด่าเล่นๆเหมือนเพื่อนสนิทกันเเล้วก็เหอะ มันก็ทำให้รู้สึกน้อยใจเหมือนกัน
คือกลัวการปฏิเสธของเพื่อน ห้องผมอะผู้หญิงทำงานเก่งมาก ผู้ชายก็บางคน
เเต่ผม3คนอะดิ โย่ พีท ผม ทำงานเเย่มาก วาดรูปไม่สวย ออกเเบบหน้าคนไม่เก่งเลย วาดผู้หญิงก็ไม่เป็นไม่มีนม รูปทรงก็ไม่ได้ห่าำรเลย เเค่เติมผมให้มันยาวๆก็หมายถึงผู้หญิงสำหรับพวกผม 555+
รู้ไหม ผมรู้สึกทุกข์ใจมากที่สุดตอนประถมคืออะไร
ตอนที่ครูให้จับกลุ่มทำงานเเล้วไม่มีเพื่อนคนไหนเอาผมเข้ากลุ่มเลย เขามองว่าผมไม่ทำงาน เอาจริงๆผมเป็นคนตั้งใจช่วย เเต่ผมไม่มีความสามารถวาดรูป อะไรเลย ไม่กล้าออกเเบบ ไม่ชอบเป็นผู้นำเลย มีเเต่ระบายสีเเละซื้อของเท่านั้น อย่าว่าเเต่พรีเซ็นงานเลยนะ ไม่!
นับตั้งเเต่ป.2ถึงป.6 เป็นช่วงเวลาสังคมคนอื่นที่เเย่มาก ผมไม่ชอบคุยกับคนอื่นบ้าวเลย ผมชอบมองเขาว่าเป็นนักเลง เเต่เอาจริงๆความหมายตอนนี้ก็คือ เป็นเรื่อวปกติที่เพศชายเขาจะมีนิสัยชอบเถียงชอบปกป้อวตัวเอง มีเพื่อนมาคุ้มกัน กล้าด่าคนอื่น เออนั้นเเหละกล้าด่าคนอื่น
เเละเเล้วชีวิตผมก็ได้เริ่มต้นขึ้น ผมขึ้นม.1 ที่โรงเรียนรัฐบาลชื่อดัง
ผมมาพร้อมกับปมด้อยการเข้าสังคมเพื่อนที่ชอบ ด่า ล้อ นินทาเพื่อนตัวเอง หรือด่ากันขำๆ
หรือชอบวัดความมั่นใจ ตัวไม่สั่นเวลาด่าคนอื่น
ม.1ผมมีชีวิตที่เงียบเหงามาก ตอนกินข้าวผมนั่งกินข้าวคนเดียวในโรงิาหารใหญ่มาตลอด
เเต่ข้อดี ความสามารถที่ผมเป็นคนตลกติดตัวมาจาก ประถมก็ทำให้ผมเข้ากับเพื่อนที่ตลกได้อย่างดี
เเต่เพื่อนกลั่มพวกนั้นก็มากินข้าวกับผมบ้าง เ้ล่วก็ไป ส่วนมากผมกินข้าวคนเดียว
ชีวิตผมไม่ได้มีคนเดินตามข้างหลัง คอยชวนคุย หรือ ได้รับโอกาส เป็นคนเด่นๆในห้อง
เหมือนหัวหน้าชั้นที่กล้าเต้นสายย่อ หน้าชั้นเรียกต่อหน้าเพื่อน
หรือคนที่กล้าชอบพูดทำให้คนทั้งห้องหัวเราะกัน
เเละเเล้วบทพิสูจน์ เรียนวันเเรกก็ได้เริ่มขึ้น มันคือช่วงของการคัดเพื่อน เกาะกลุ่มคุยกัน ด้วยความเป็นวัยรุ่นเเล้วมันก็จะ การชกต่อยกัน ผู้หญิงเเรดๆ เเรงๆ ก็เริ่มมี
ผมกลัว ผมกลัวเหลือเกินตอนที่เพื่อนนิสัยเเรงๆเข้ามาคุย มันเป็นโมเม้นของคนไม่เข้าสังคมคือ ชอบหลบอยู่หลังห้อง กลัวการเด่นกว่าคนอื่น กลัวเรียกไปพูดหน้าชั้นเรียนคนเดียว กลัวสายตาของคนอื่นมาจ้องที่เรา
กลัวเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของเพื่อน
เเต่พวกพี่ๆ น้องๆ อย่าคิดว่าชีวิต ผมจะไม่มีการเปลี่ยนเเปลงอะไรนะครับ
คุณเคยรู้จัก เอาความเจ็บปวดมาเป็นพลังไหมครับ ประสบการณ์เเย่ๆ ตอนประถม ไม่กล้าเเสดงออกอะไร ผมเอามาเป็นเชื้อไฟ
พลักดันตัวเอง ให้กล้าเเสดงออกบ้างเรืาองเช่น เริ่มกล้าเเสดงออกกับเพื่อนที่ผมคิดว่าปลอดภัยจากคำ ดูถูก ว่าปัญญาอ่อน ผมกล้าเเสดงท่าทาง ตอนที่ผมเล่าเรื่องตลก หรือ ผมกล้า ที่จะเรียกชื่อว่าไอ่ เถอะ คำหยาบกับเพื่อน เเต่ก็ไม่เคย ด่ามันให้ตกต่ำเพื่อที่ให้ตัวเองสูงขึ้นเหมือนคนอื่นๆเลยนะ
ชีวิต ม.1ผมจบมา เเย่ลงกว่า ประถมเพราะผมไม่มีเพื่อนสนิทที่หล่อเลี้ยง ความสุขผมตลอดมา
ผมกลายเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนที่เห็นค่าเท่าไหร่
ตอนปิดเทอม เฟสผมก็เล่นนะ เเต่ไม่กล้าโพสมุกเสี้ยว หรือ ไม่กล้าถ่ายรูปตัวเอง เเบบคนเดียวเเบบเท่ๆ โชว์คนอื่นให้รู้สึกว่าดูดี มีราคาในสังคม เพื่อนผู้หญิงหลายคน เริ่มโพส อัพโปรฟาย เขียนเหงากันใหญ่อยากมีเเฟนกัน
เเต่ผมไม่ตั้งสถานะอะไรเลย
ผมก็อยากมีเเฟนเหมือนกันนะเเต่ผมคิดว่า ผมคงรับมือไม่ได้กับพวกผู้หญิงที่เอาเเต่ใจ ชอบให้ที่รักซื้อของนู่นนี้ให้ เเต่งตัวสวยๆ
เป็นคนดังมีคนกดไลค์เยอะในเฟส
ผมอยากมีเเฟนที่รักกันจริง ไม่ใช่ หลงเสน่ห์ความเท่ อะไรของผู้ชาย เหมือนเรารักษาดูเเลสุขภาพร่างกายคนอื่น เเฟนเป็นผู้หญิงที่ตั้งใจเรียน ปรึกษาได้
................................................................
ปิดเทอม ม.1 เป็นเวลา3เดือน เเล้วร.รเขาจะคัดเด็กอีกที ให้มีการอยู่ห้อง ต้น เเบบ เด็กเก่ง เด็กเกเรียน มี/อยู่ที่หมด 15ทับ /1คือ ห้องกิ๊บเต็ดห้องลูกคนรวย สมองฉลาด
ผมโดนย้ายมาอยู่/6 ก่อนคืนขึ้นวันเรียกครั้วเเรกของม.2นั้น ผมรู้ดีว่าต้องมีเพื่อนใหม่อีกเเล้ว
ผมเริ่มเครียดเเละกังวลมากคืนนั้น ผมเครียดเริ่มคิดถึง ผมเป็นคนที่ไม่มีเพื่อน ไม่มีคำพูดที่เปรียบดังพิษของงู ที่เป็นคนที่มีพิษมีภัยสะบ้าง ผมไม่มีเอกลักษณ์ สไตล์ ความนักเลง ที่เป็นตัวของตัวเองบ้าง
เเต่มีเพียงนิสัยที่ผมมีคือ
1.เป็นคนวิชาการมาก ชอบพูดบรรยายในหัวตัวเอง มีความคิดที่คุยกับตัวเอง มีคำถามพุดสงสัยขึ้นมาให้ผมหาคำตอบมันอยู่เสมอ
2.เป็นคนชอบคิดวิว ที่มันเศร้าๆได้ดี
3.เป็นคนทักทายทำความรู้จักกับคนอื่นไม่เป็น
นอกจากโชคชะตามันนำผม กับคนที่เป็นคนตลกตามสเปคเพื่อนสนิทผมมาเจอกัน
4.ผมเป็นคนที่ดูคลิปให้กำลังใจมาเยอะมากก
dr.pop ขุนเขา pro chan ฌอน
5.คลิปพวกนั้นทำให้ผมเอาความเจ็บปวดมาเป็นพลังคือ!!
ม.2 วันเเรกผม เดินเข้ามาร.รตอนเช้า อย่างมั่นใจยิ้มเเช้ง เดินเข้าเเถว นั่งหลังตรง
วันเเรกเรียนคาบอังกฤษคาบเเรก
ครูให้ออกมาเเนะนำตัวภาษาอังกฤษ
ผมมองว่าคนอื่น พูดเเนะนำตัวอังกฤษไม่ดีเท่าผม ด้วยความที่อยู่บ้านผมเป็นคน คุยกับพี่ คุยกับ พ่อ เเม่ อยู่บ่อยๆ เเม่ผมก็พูดอังกฤษได้..
ผมจึงหยิบไมค์จากครูเเล้ว ออกไปเเนะนำตัวภาษา อังกฤษอย่างมั่นใจมาก ผมเห็นเเววตาคนอื่นที่มองผม หลังจากจบการนำเสนออย่างประทับใจ ทั้งผู้หญิง ทั้งผู้ชายบอกว่าสุดยอดวะนาย เสียงตบมือดังลั่น
.
เเละในสายตาคนอื่นเขามองผมเป็นคน เด่นของห้อง เป็นที่ยอมรับผมเข้าใจดีว่า มันเป็นเพียง คำชื่นชม ผมมีความสุขมากๆ ที่ชีวิตผมไม่เคยออกมาทำอะไรอย่างนี้เลย
เเละก็มีคาบภาษาไทยอยู่คาบหนึ่งตอนนั้นครูเขาให้นักเรียนทุกคนออกมาพรีเซ็น นำเสนอข้อมูลดีๆ เช่น ความรู้จากที่อ่านหนังสือมา หรือทจะเป็น เว็ปดีๆ บทกลอนดีๆ หรืออะไรก็ได้ที่เป็นประโยชน์
คืนนั้นผมรู้ดีว่าโอกาสของผมกำลังมาถึง
ผมเอาเรื่อง การท้องก่อนวัยอันควรครับ
เพราะผมเห็นว่า ร.ร ผู้ใหญ่ไม่ค่อย ออกมาพูดให้ความรู้เรื่อวนี้กันสักเท่าไหร่ เเล้วก็เรื่องเพศเด็กมันจะชอบตลก ขำ เขิน อายกัน มันเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่ผมจะเผชิญหน้า
คืนนั้นผมทำไม่เหมือนคนอื่น ผมไปเสพข้อมูลมาเยอะๆ เเล้วก็เขียนลงในกระดาษ อารมณ์เหมือนทำหนังสือความเข้าใจของตัวเองขึ้นมาอะ
ผมจำวันนั้นได้ดีเลย พอถึงคาบภาษาไทยครูเขาให้ ออกมาพรีเซ็นเเล้วไม่มี
ผมเลยลุก ออกมาคนเเรก เเล้วเพื่อนทุกคนในห้องก็ดีใจ กันใหญ่เพราะไม่โดนครูสุ่มเลือก
ผมพูดได้ดีมาก เหมือนนักพูดในฝันผมเลย
ผมจำได้ดีตอนผมพูดขอบคุณคร้าบบ จบ เงือยหน้าขึ้นมาทุกคนตบมือดังลั่น เป็นช่วงที้ผมฮิตมากเลยครับ ทุกคมเข้ามาหาผม
เเต่ก็อย่างว่าเเละครับ ลึกๆนิสัยผมเป็นคนไม่เข้าสังคม ผมรู้สึกเสียใจมาก เหมือนกับว่าทุกคนเขามาเเล้วก็รู้สึกว่าผมมันไม่น่าค้นหา ไม่น่าสนใจอะไรเลย
จริงๆทุกคนครับผมอยากจะบอกว่ามันไม่ได้เกี่ยวเลยว่าเราต้องทำตัวให้คนอื่นเห็นค่า
ความสุขที่ต้องพึ่งรอจากคนอื่น มันยากเเละทรมาน
เราควรจะมีความสุขด้วยตัวเอง
เเต่ผมีปัญหาTT ผมอยากเเก้ไขปมด้อยของผมสักที..
คือผมเป็นคน ไม่มีพิษมีภัย มันคือยังไงอะ ผมอธิบายไม่ถูก ผมโดนเเกล้ง โดนล้อ เเต่ผมเป็น มันเเกล้งเเล้ว มันก็รู้สึกสะใจ มันรู้สึกว่าไม่ต้องไปกลัวว่าจะเสียอะไร ผมคงเป็นคนไม่เอาจริงจังกับคนมั้ง จิตใจผมคงจะอ่อนเเอเกินไป เลยทำให้มันสามารถ มาล้อ มาด่า ผมได้
ผมคงเป็นคนยอมคนง่ายเกินไป อยากรู้วิธี หรือ เทคนิกที่ชนะใจคนพวกนี้สักที ใครก็ได้ช่วยผมทีด้วยครับ ผมอยากจะเเก้ปมในใจของผมสักทีTT
ปล. สุดท่ายผมขอขอบคุณอย่างซึ้งใจเลยนะครับ ขอบคุณทั้งคนที่อ่านจบ เเละอ่านไม่จบ ขอบคนที่มีคนบนโลกนี้มาเห็นโพสของเด็กคนหนึงในประเทศไทย ผมดีใจมากๆเเละขอบคุณสำหรับ คอมเม้นนะครับ
สวัสดีครับนี้คือกระทู้เเรกในชีวิตของผม.. "ใครก็ได้ช่วยผมที ผมมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคมกับกลุ่มเพื่อน"
ความรู้สึกตั้งเเต่ที่ผมเริ่มจะเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม
"เรื่องมันอาจจะยาวนิดหน่อยผมจะเล่าเอาน้ำด้วย ผมขอเล่าเรื่องราวตั้งเเต่เด็กของผมเลยนะครับTT ตั้งใจอ่านก่อนนะครับ หลังๆพี่จะเข้าใจสาเหตุเอง
ตอนเด็กผมโตมาใน หมู่บ้านเเห่งหนึ่ง ฐานะปลานกลาง พ่อรายได้ประมาณหมื่นกว่าบาท
เเม่รายได้ประมาณ2หมื่นกว่าบาท
บ้านผมเป็นคนครัวเล็ก มีคนอยู่ 4คน
มี พ่อ เเม่ พี่สาวอยู่ม.5 เเละผม
ช่วงชีวิตเเรกของผมที่เกิดมาผมเรียนร.รวัดอยู่ใกล้บ้านผม
ช่วงเเรกเริ่มต้นของชีวิตของผมที่โรงเรียนวัด
ตอนอนุบาลผมจำความได้ผมไม่ค่อยเขิน หรือ ไม่อยากเข้าหาเพื่อนอะไรตอนอนุบาล
ทุกคนเท่าเทียมกันหมด ผมก็จะจำได้เเต่ความซวนเเละประสบการณ์เเย่ๆตอนผมท้องเสียอะนะ555 เเต่ตอนเด็กก็ไม่อายหรอก
ตอนเด็กผมเป็นคนชั่งสังเกตุที่ได้นิสัยมาจากพ่อเวลาพ่อขับรถไปเที่ยวผมนั่งอยู่ข้างหน้ารถ
จะชอบถามนู่นถามนี้ระหว่างทางอยู่ตลอด
พ่อผมก็ชอบชมว่าผมเป็นคนชั่งสังเกตุ มันเลยทำให้ผมจำความได้ ตอนอนุบาล2-3ผมเริ่มมีสติ ครั้งเเรก เหมือนผมเริ่มมีควาทรู้สึกนึกคิด สามารถควบคุมตัวเองได้ ขยับร่างกายเองได้
เเบบใจอยาก
ผมเริ่มเห็นการพัฒนาของตัวเองเห็นคนอื่นจับช้อนกินข้าวหน้าผม เห็นมือตัวเองตักข้าวเข้าปาก เห็นรอยขอบตาของเพื่อน เห็นเเววตาของเพื่อน
เริ่มมีความฝัน เริ่มมีความจำเกิดขึ้นมาในหัวสมองของผม
ผมใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากช่วงอนุบาล
จบอนุบาล3 ความรู้สึกกลัวการเข้าสังคมก้ได้เกิดขึ้นครั้วเเรก คือเป็นตอนบ่ายวันนั้นที่ผม เห็นเลโก้ของเล่น ที่ครูเอามาสำหรับห้อง
ให้เด็กๆเล่นกัน เพื่อนผมก็เล่นเป็นวงล้อมมากมาย
ผมตัดสินใจลองเข้าไปหยิบเล่นของเล่นต่อเลโก้มั้ง เเต่ทันได้นั้น เพื่อนผมก็บ่นว่าเลโก้ตัวนี้มันหายไปไหนวะ มันคืออันที่ผมหยิบอยู่
มันก็เลยว่าผมเเย่ง อะไรสักอย่างผมเริ่มเกิดความเสียใจครั้งเเรก
เเล้วสิ่งที่ไม่ขาดคิดก้เกิดขึ้นผมต้องจากเพื่อน ที่เรียนมาตั้งเเต่ อนุบาล 1-ป.2
ผมโดนเเม่ให้ย้ายมาร.รประถ.เอกชน ร.รใหญ่ วันเเรกที่ผมเข้ามา เจอครูนิ้วเเกเขาเเก่เเล้ว เป็นครูประจำชั้น อายุประมาณ
60กว่าได้มั้ง เขาก็เเนะนำผม เพื่อนก็ต้อนรับ
เเต่ช่วงเป็นเด็กก็ไม่ได้มีใครเข้ามาทักทายผมหรอก
มีเเต่ไอ่ต้นหอม วันเเรกผมจำได้เลยมันมาขอเงินผม 5บาท หรือ 10บาท จริงๆก็เรียกว่าไถ่เงินก็ได้เหอะ
ด้วยความตอนนั้นพ่อผมก็สอนเเล้วว่าอย่างนี้เขาเรียกว่าไถ่เงิน เป็นสิ่งไม่ดี ตอนพักเที่ยงมันมาไถ่เงินผม สั*นั้นวันเเรกของกุเลยนะหนะ ต่อมาทุกๆพักเที่ยงผมก็เลยไม่ลงไปำกนมีเเต่ลงไปซื้อขนมเเล้วขค้นมากินข้าว กีบพวกครูนั่งล้อมวงกินข้าวคุยกัน
ผมไม่มีเพื่อนเลย ป.2 ครูเขาก็หาเพื่อนให้นะ
ชวนผมไปเเตะบอล เล่นซ่อนเเอบด้วย
เเต่ไม่รู้ทำไมผมถึงทุกเที่ยงไม่ไปเล่นกับพวกเขาเลย เหมือนผมมีปมไม่ชอบเข้าสังคมอะไรสักอย่าง
จนมาป.3ผมได้เพื่อนสนิท มันเป็นคนตลกมากๆๆ มันชอบพูดอะไรไรสาระเเต่ก็ฮาอะ เหมือนเจออะไรข้างทางก็เล่า ดันเเปลงให้ตลกมั้งกับคำว่า สมติว่า หรือไม่ก็ ชอบปรึกษาผมเรื่องทางบ้านของเขา เพื่อนสนิทผมชื่อว่า "โย่"
ตั้งเเต่ป.3-ป.6ผมอยู่ด้วยกันมาตลอด 3คน มี ผม โย่ พีท พีทนี้เพื่อนโย่คนก็ตลกด้วยเเหละ
โย่คือคนตลก โย่คือคนอ่อนเเอ ไม่สู้คน เพียงเเต่เป็นคนหัวร้อนง่าย ในขณะที่เพื่อนห้องผู้ชายหลายๆคน เรื่องที่จะมีสไตล์ คำพูด นิสัยของตัวเอง ที่เเมนๆกัน ว่าง่ายๆนิสัยนักเลงฟันน้ำนมหน่อยอะ เเต่ผม.. อยู่กับโย่มาตลอด
โย่เป็นคนติดเเม่มาก เเล้วนิสัยเเม่เขาอ่อนโยนมากก ไงโย่ไม่ค่อยอยู่กับพ่อนะ เเล้วก็ผมได้นั่งโต๊ะเดียวกับโย่2คนมาตลอด ทำให้ผมติดนิสัยมันไปเลย
คือ! 1.เป็นคนชอบคิดอะไรกลับหัวกลับด้าน เปลี่ยนอารมณ์ให้เป็นเรื่องฮาได้ เเล้วก็เป็นคนยิ้มง่ายมากๆๆ เหมือนคนไม่รู้จักกาลเทศะอะ คุยกับคนอื่นหน้านิ่งเเต่ผมยิ้มนิดหน่อย เหมือนรอเรื่องตลกเข้ามาให้ขำ
2.นิสัยผมไม่ชอบเรื่องการชกต่อย ไม่ชอบด่าคนอื่นเช่น ทำไมโง่จัง, ไปไกลๆกูดิ้ , ไอ่ควาย, พูดอะไรของ, ปัญญาอ่อน,
ผมมองว่าการที่เพื่อนไม่รู้อะไรเเล้วถาม
ถึงมันจะด่าเล่นๆเหมือนเพื่อนสนิทกันเเล้วก็เหอะ มันก็ทำให้รู้สึกน้อยใจเหมือนกัน
คือกลัวการปฏิเสธของเพื่อน ห้องผมอะผู้หญิงทำงานเก่งมาก ผู้ชายก็บางคน
เเต่ผม3คนอะดิ โย่ พีท ผม ทำงานเเย่มาก วาดรูปไม่สวย ออกเเบบหน้าคนไม่เก่งเลย วาดผู้หญิงก็ไม่เป็นไม่มีนม รูปทรงก็ไม่ได้ห่าำรเลย เเค่เติมผมให้มันยาวๆก็หมายถึงผู้หญิงสำหรับพวกผม 555+
รู้ไหม ผมรู้สึกทุกข์ใจมากที่สุดตอนประถมคืออะไร
ตอนที่ครูให้จับกลุ่มทำงานเเล้วไม่มีเพื่อนคนไหนเอาผมเข้ากลุ่มเลย เขามองว่าผมไม่ทำงาน เอาจริงๆผมเป็นคนตั้งใจช่วย เเต่ผมไม่มีความสามารถวาดรูป อะไรเลย ไม่กล้าออกเเบบ ไม่ชอบเป็นผู้นำเลย มีเเต่ระบายสีเเละซื้อของเท่านั้น อย่าว่าเเต่พรีเซ็นงานเลยนะ ไม่!
นับตั้งเเต่ป.2ถึงป.6 เป็นช่วงเวลาสังคมคนอื่นที่เเย่มาก ผมไม่ชอบคุยกับคนอื่นบ้าวเลย ผมชอบมองเขาว่าเป็นนักเลง เเต่เอาจริงๆความหมายตอนนี้ก็คือ เป็นเรื่อวปกติที่เพศชายเขาจะมีนิสัยชอบเถียงชอบปกป้อวตัวเอง มีเพื่อนมาคุ้มกัน กล้าด่าคนอื่น เออนั้นเเหละกล้าด่าคนอื่น
เเละเเล้วชีวิตผมก็ได้เริ่มต้นขึ้น ผมขึ้นม.1 ที่โรงเรียนรัฐบาลชื่อดัง
ผมมาพร้อมกับปมด้อยการเข้าสังคมเพื่อนที่ชอบ ด่า ล้อ นินทาเพื่อนตัวเอง หรือด่ากันขำๆ
หรือชอบวัดความมั่นใจ ตัวไม่สั่นเวลาด่าคนอื่น
ม.1ผมมีชีวิตที่เงียบเหงามาก ตอนกินข้าวผมนั่งกินข้าวคนเดียวในโรงิาหารใหญ่มาตลอด
เเต่ข้อดี ความสามารถที่ผมเป็นคนตลกติดตัวมาจาก ประถมก็ทำให้ผมเข้ากับเพื่อนที่ตลกได้อย่างดี
เเต่เพื่อนกลั่มพวกนั้นก็มากินข้าวกับผมบ้าง เ้ล่วก็ไป ส่วนมากผมกินข้าวคนเดียว
ชีวิตผมไม่ได้มีคนเดินตามข้างหลัง คอยชวนคุย หรือ ได้รับโอกาส เป็นคนเด่นๆในห้อง
เหมือนหัวหน้าชั้นที่กล้าเต้นสายย่อ หน้าชั้นเรียกต่อหน้าเพื่อน
หรือคนที่กล้าชอบพูดทำให้คนทั้งห้องหัวเราะกัน
เเละเเล้วบทพิสูจน์ เรียนวันเเรกก็ได้เริ่มขึ้น มันคือช่วงของการคัดเพื่อน เกาะกลุ่มคุยกัน ด้วยความเป็นวัยรุ่นเเล้วมันก็จะ การชกต่อยกัน ผู้หญิงเเรดๆ เเรงๆ ก็เริ่มมี
ผมกลัว ผมกลัวเหลือเกินตอนที่เพื่อนนิสัยเเรงๆเข้ามาคุย มันเป็นโมเม้นของคนไม่เข้าสังคมคือ ชอบหลบอยู่หลังห้อง กลัวการเด่นกว่าคนอื่น กลัวเรียกไปพูดหน้าชั้นเรียนคนเดียว กลัวสายตาของคนอื่นมาจ้องที่เรา
กลัวเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของเพื่อน
เเต่พวกพี่ๆ น้องๆ อย่าคิดว่าชีวิต ผมจะไม่มีการเปลี่ยนเเปลงอะไรนะครับ
คุณเคยรู้จัก เอาความเจ็บปวดมาเป็นพลังไหมครับ ประสบการณ์เเย่ๆ ตอนประถม ไม่กล้าเเสดงออกอะไร ผมเอามาเป็นเชื้อไฟ
พลักดันตัวเอง ให้กล้าเเสดงออกบ้างเรืาองเช่น เริ่มกล้าเเสดงออกกับเพื่อนที่ผมคิดว่าปลอดภัยจากคำ ดูถูก ว่าปัญญาอ่อน ผมกล้าเเสดงท่าทาง ตอนที่ผมเล่าเรื่องตลก หรือ ผมกล้า ที่จะเรียกชื่อว่าไอ่ เถอะ คำหยาบกับเพื่อน เเต่ก็ไม่เคย ด่ามันให้ตกต่ำเพื่อที่ให้ตัวเองสูงขึ้นเหมือนคนอื่นๆเลยนะ
ชีวิต ม.1ผมจบมา เเย่ลงกว่า ประถมเพราะผมไม่มีเพื่อนสนิทที่หล่อเลี้ยง ความสุขผมตลอดมา
ผมกลายเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนที่เห็นค่าเท่าไหร่
ตอนปิดเทอม เฟสผมก็เล่นนะ เเต่ไม่กล้าโพสมุกเสี้ยว หรือ ไม่กล้าถ่ายรูปตัวเอง เเบบคนเดียวเเบบเท่ๆ โชว์คนอื่นให้รู้สึกว่าดูดี มีราคาในสังคม เพื่อนผู้หญิงหลายคน เริ่มโพส อัพโปรฟาย เขียนเหงากันใหญ่อยากมีเเฟนกัน
เเต่ผมไม่ตั้งสถานะอะไรเลย
ผมก็อยากมีเเฟนเหมือนกันนะเเต่ผมคิดว่า ผมคงรับมือไม่ได้กับพวกผู้หญิงที่เอาเเต่ใจ ชอบให้ที่รักซื้อของนู่นนี้ให้ เเต่งตัวสวยๆ
เป็นคนดังมีคนกดไลค์เยอะในเฟส
ผมอยากมีเเฟนที่รักกันจริง ไม่ใช่ หลงเสน่ห์ความเท่ อะไรของผู้ชาย เหมือนเรารักษาดูเเลสุขภาพร่างกายคนอื่น เเฟนเป็นผู้หญิงที่ตั้งใจเรียน ปรึกษาได้
................................................................
ปิดเทอม ม.1 เป็นเวลา3เดือน เเล้วร.รเขาจะคัดเด็กอีกที ให้มีการอยู่ห้อง ต้น เเบบ เด็กเก่ง เด็กเกเรียน มี/อยู่ที่หมด 15ทับ /1คือ ห้องกิ๊บเต็ดห้องลูกคนรวย สมองฉลาด
ผมโดนย้ายมาอยู่/6 ก่อนคืนขึ้นวันเรียกครั้วเเรกของม.2นั้น ผมรู้ดีว่าต้องมีเพื่อนใหม่อีกเเล้ว
ผมเริ่มเครียดเเละกังวลมากคืนนั้น ผมเครียดเริ่มคิดถึง ผมเป็นคนที่ไม่มีเพื่อน ไม่มีคำพูดที่เปรียบดังพิษของงู ที่เป็นคนที่มีพิษมีภัยสะบ้าง ผมไม่มีเอกลักษณ์ สไตล์ ความนักเลง ที่เป็นตัวของตัวเองบ้าง
เเต่มีเพียงนิสัยที่ผมมีคือ
1.เป็นคนวิชาการมาก ชอบพูดบรรยายในหัวตัวเอง มีความคิดที่คุยกับตัวเอง มีคำถามพุดสงสัยขึ้นมาให้ผมหาคำตอบมันอยู่เสมอ
2.เป็นคนชอบคิดวิว ที่มันเศร้าๆได้ดี
3.เป็นคนทักทายทำความรู้จักกับคนอื่นไม่เป็น
นอกจากโชคชะตามันนำผม กับคนที่เป็นคนตลกตามสเปคเพื่อนสนิทผมมาเจอกัน
4.ผมเป็นคนที่ดูคลิปให้กำลังใจมาเยอะมากก
dr.pop ขุนเขา pro chan ฌอน
5.คลิปพวกนั้นทำให้ผมเอาความเจ็บปวดมาเป็นพลังคือ!!
ม.2 วันเเรกผม เดินเข้ามาร.รตอนเช้า อย่างมั่นใจยิ้มเเช้ง เดินเข้าเเถว นั่งหลังตรง
วันเเรกเรียนคาบอังกฤษคาบเเรก
ครูให้ออกมาเเนะนำตัวภาษาอังกฤษ
ผมมองว่าคนอื่น พูดเเนะนำตัวอังกฤษไม่ดีเท่าผม ด้วยความที่อยู่บ้านผมเป็นคน คุยกับพี่ คุยกับ พ่อ เเม่ อยู่บ่อยๆ เเม่ผมก็พูดอังกฤษได้..
ผมจึงหยิบไมค์จากครูเเล้ว ออกไปเเนะนำตัวภาษา อังกฤษอย่างมั่นใจมาก ผมเห็นเเววตาคนอื่นที่มองผม หลังจากจบการนำเสนออย่างประทับใจ ทั้งผู้หญิง ทั้งผู้ชายบอกว่าสุดยอดวะนาย เสียงตบมือดังลั่น
.
เเละในสายตาคนอื่นเขามองผมเป็นคน เด่นของห้อง เป็นที่ยอมรับผมเข้าใจดีว่า มันเป็นเพียง คำชื่นชม ผมมีความสุขมากๆ ที่ชีวิตผมไม่เคยออกมาทำอะไรอย่างนี้เลย
เเละก็มีคาบภาษาไทยอยู่คาบหนึ่งตอนนั้นครูเขาให้นักเรียนทุกคนออกมาพรีเซ็น นำเสนอข้อมูลดีๆ เช่น ความรู้จากที่อ่านหนังสือมา หรือทจะเป็น เว็ปดีๆ บทกลอนดีๆ หรืออะไรก็ได้ที่เป็นประโยชน์
คืนนั้นผมรู้ดีว่าโอกาสของผมกำลังมาถึง
ผมเอาเรื่อง การท้องก่อนวัยอันควรครับ
เพราะผมเห็นว่า ร.ร ผู้ใหญ่ไม่ค่อย ออกมาพูดให้ความรู้เรื่อวนี้กันสักเท่าไหร่ เเล้วก็เรื่องเพศเด็กมันจะชอบตลก ขำ เขิน อายกัน มันเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่ผมจะเผชิญหน้า
คืนนั้นผมทำไม่เหมือนคนอื่น ผมไปเสพข้อมูลมาเยอะๆ เเล้วก็เขียนลงในกระดาษ อารมณ์เหมือนทำหนังสือความเข้าใจของตัวเองขึ้นมาอะ
ผมจำวันนั้นได้ดีเลย พอถึงคาบภาษาไทยครูเขาให้ ออกมาพรีเซ็นเเล้วไม่มี
ผมเลยลุก ออกมาคนเเรก เเล้วเพื่อนทุกคนในห้องก็ดีใจ กันใหญ่เพราะไม่โดนครูสุ่มเลือก
ผมพูดได้ดีมาก เหมือนนักพูดในฝันผมเลย
ผมจำได้ดีตอนผมพูดขอบคุณคร้าบบ จบ เงือยหน้าขึ้นมาทุกคนตบมือดังลั่น เป็นช่วงที้ผมฮิตมากเลยครับ ทุกคมเข้ามาหาผม
เเต่ก็อย่างว่าเเละครับ ลึกๆนิสัยผมเป็นคนไม่เข้าสังคม ผมรู้สึกเสียใจมาก เหมือนกับว่าทุกคนเขามาเเล้วก็รู้สึกว่าผมมันไม่น่าค้นหา ไม่น่าสนใจอะไรเลย
จริงๆทุกคนครับผมอยากจะบอกว่ามันไม่ได้เกี่ยวเลยว่าเราต้องทำตัวให้คนอื่นเห็นค่า
ความสุขที่ต้องพึ่งรอจากคนอื่น มันยากเเละทรมาน
เราควรจะมีความสุขด้วยตัวเอง
เเต่ผมีปัญหาTT ผมอยากเเก้ไขปมด้อยของผมสักที..
คือผมเป็นคน ไม่มีพิษมีภัย มันคือยังไงอะ ผมอธิบายไม่ถูก ผมโดนเเกล้ง โดนล้อ เเต่ผมเป็น มันเเกล้งเเล้ว มันก็รู้สึกสะใจ มันรู้สึกว่าไม่ต้องไปกลัวว่าจะเสียอะไร ผมคงเป็นคนไม่เอาจริงจังกับคนมั้ง จิตใจผมคงจะอ่อนเเอเกินไป เลยทำให้มันสามารถ มาล้อ มาด่า ผมได้
ผมคงเป็นคนยอมคนง่ายเกินไป อยากรู้วิธี หรือ เทคนิกที่ชนะใจคนพวกนี้สักที ใครก็ได้ช่วยผมทีด้วยครับ ผมอยากจะเเก้ปมในใจของผมสักทีTT
ปล. สุดท่ายผมขอขอบคุณอย่างซึ้งใจเลยนะครับ ขอบคุณทั้งคนที่อ่านจบ เเละอ่านไม่จบ ขอบคนที่มีคนบนโลกนี้มาเห็นโพสของเด็กคนหนึงในประเทศไทย ผมดีใจมากๆเเละขอบคุณสำหรับ คอมเม้นนะครับ