สวัสดีค่ะ วันนี้เราตั้งใจอยากจะแชร์วิธีการบำบัดทางเลือกและให้กำลังใจคนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ใครที่คิดว่าเป็นมะเร็งแล้วไม่มีโอกาสหายต้องตายอย่างเดียวอย่าเพิ่งหมดกำลังใจค่ะ ยิ่งถ้าตรวจเจอตั้งแต่แรกๆ ยิ่งไม่ต้องกังวลเลยค่ะ

ตอนนี้อายุ 36 ปี เราเป็นคนที่ใส่ใจสุขภาพของตัวเองพอสมควร เราตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปีรวมถึงตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยซึ่งผลออกมาก็ปกติตลอด จนเมื่อ 2 ปีที่แล้วผลตรวจมะเร็งปากมดลูกออกมาเป็น positive คือมันผิดปกติ เราก็ลองไปตรวจอีกโรงพยาบาลนึงเพื่อความแน่ใจ ผลออกมาก็เหมือนเดิมคือพบเซลล์ผิดปกติที่จะกลายเป็นมะเร็งมากขึ้น (HSIL)/CIN2

หมอบอกว่าต้องผ่าออกคือเราไม่สบายใจมาก กลัวไปหมดทุกอย่าง กลัวการผ่าตัด แล้วเราก็มีความเชื่อว่าใครที่เป็นเหยื่อของโรคมะเร็ง หนทางการรักษามันยากมากๆ ที่จะหายขาด ตอนนั้นเราค่อนข้างเครียดเพราะไม่อยากผ่าตัด แต่ก็ยังใช้ชีวิตปกติ กินนอน ทำงานหนักเหมือนเดิม แต่จะระวังการกิน เลือกกินของดีและสะอาด ไม่กินอาหารแปรรูป กับงดเนื้อแดงให้น้อยลง และเริ่มหาวิธีการรักษาทางเลือกอื่นนอกจากการผ่าตัด

เราขอหมอเลื่อนการผ่าตัดไปอีก 2 เดือน เพราะจะหาทางว่ามีทางเลือกอื่นรึป่าวที่จะไม่ให้เราต้องผ่าตัด เราก็ลองหาข้อมูลของต่างประเทศดูไปเรื่อยๆ เพราะเชื่อมั่นในเทคโนโยลีของเค้า ดูว่าอันไหนเราสามารถปฏิบัติตามได้บ้าง

เราให้ความสนใจไปที่การรักษามะเร็งด้วยการเพิ่มความแข็งแรงของภูมิคุ้มกันร่างกาย เพราะวิธีนี้มีการวิจัยที่มีชื่อเสียงและได้ผลจริงค่อนข้างมากในตปท. เราเลือกว่าจะไปทางนี้แล้วกัน

เริ่มปฏิบัติการเพิ่มภูมิคุ้มกันดังนี้
1. เราทานอาหารที่เค้าเรียกว่า Super Food เสริมคู่กับอาหารปกติ เพื่อเพิ่มโปรตีน ไขมันดี วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เพื่อความแข็งแรงของร่างกาย เช่น ธัญพืชรวมต้ม แยกน้ำไว้ตื่มต่อ (เราเลี่ยงถั่วลิสง เพราะมีสารก่อมะเร็ง), ผสมเมล็ดควินัวลงไปในข้าวด้วยตอนหุง
2. บังคับตัวเองให้ทานผักผลไม้หลายสี ไม่ทำอาหาร ก็ปั่นทาน และเห็ดนี่ต้องมีในเมนูอาหารด้วยตลอด
3. ออกกำลังกายมากขึ้น แต่เราเองงานเยอะ นานๆทีถ้ามีโอกาสก็จะออกกำลังกาย แต่บังคับให้ตัวเองเดินเยอะกว่าที่เคย อย่างน้อยก็ถือว่าออกกำลังกายแล้ว
4. งดปาร์ตี้ ดื่มแอลกอฮอร์ และไปสถานที่บันเทิงที่แต่มีควันบุหรี่ ถ้านัดเพื่อนก็จะเป็นที่ร้านอาหารแทน
5. ทานอาหาเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย อันนี้คือทานเพื่อความอุ่นใจและความคาดหวังล้วนๆว่ามันน่าจะช่วยได้บ้าง

และเรื่องอาหารเสริมนี่แหละ เราเชื่อว่าน่าจะมีส่วนที่เซลล์มะเร็งของเราหายไปนะ แต่ก็ต้องทำตามด้านบนให้เคร่งครัดด้วยค่ะ เพราะก่อนหน้านี้เราพอรู้เรื่องบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันแล้วล่ะ และก็พอรู้ว่ามีอะไรบ้างที่เราจะหามาทานเสริม เลย search หาข้อมูล และถามคนรู้จักบ้าง มีป่ะป๊าของเพื่อนเราแนะนำให้เราทานเบต้ากลูแคน (โอเค ข้อมูลตรงกัน!) เราเองจมอยู่กับการหาข้อมูลของไอ้เจ้าเบต้ากลูแคนอยู่เป็นสัปดาห์นะ เราอ่านข้อมูลจากทุกแหล่ง ส่วนใหญ่อ่านจากเว็บ ตปท. เพราะดูน่าเชื่อถือกว่า จนตัดสินใจที่จะใช้เบต้ากลูแคน ซึ่งหลักๆคือ ดูที่แหล่งตั้งต้นว่าสกัดมาจากอะไร เลือกเบต้ากลูแคน Beta 1,3/1,6 glucan (ต้องเป็นโครงสร้างนี้ถึงจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวได้ดีที่สุด) และดูที่ตัวเลข % ความบริสุทธิ์ยิ่งสูงยิ่งดี ที่เหือก็น่าจะเป็นเรื่องราคาแล้ว

ด้วยความที่เราไม่อยากผ่าตัดจริงๆ ถ้ามันช่วยเราได้และมันไม่เป็นอันตรายใดๆ เราเลยตัดสินใจลองทานเบต้ากลูแคนสักที...

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ประโยชน์ของเบต้ากลูแคน(ตามงานวิจัย) คือช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว โดยเฉพาะแมคโครฟาจ  (Macrophage) มันเป็นเซลล์เม็ดเลือดมีหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย งานวิจัยอ้างอิงว่าถ้าร่างกายได้รับเบต้ากลูแคนจะไปกระตุ้นแมคโคฟาจให้ทำงานได้แม่นยำ แล้วเมื่อแมคโครฟาจถูกกระตุ้นจากเบต้ากลูแคน จะทำให้ Helper T cell ซึ่งเป็นเซลล์ผู้ช่วยปล่อยสารแอนติบอดี้ออกมา แอนติบอดี้จะเข้าไปจับผนังเซลล์มะเร็ง แล้วเรียก T killer cell เข้าไปกำจัดเซลล์มะเร็งนั้น อันนี้คืออธิบายแบบย่อที่สุดให้เข้าใจกลไกหลักๆของมัน เข้าทางกับวิธีการที่เราเลือก

เราตัดสินใจเลือกเบต้ากลูแคนยี่ห้อที่คุณพ่อเพื่อนเราแนะนำ เอาจริงๆ ถ้าพ่อของเพื่อนไม่แนะนำ เราคงไม่กล้าซื้อนะ เพราะ search google ไม่เจอข้อมูลเลย แต่โอเคที่ใน fb page มีข้อมูลเพียงพอ และอย่างน้อยก็มีผลลัพธ์การันตีจากคนรู้จัก ปริมาณโดสที่เราทานคือสูงเลยค่ะ วันละ 12 แคปซูล (เบต้ากลูแคน 300 มก./แคปซูล) ทานสม่ำเสมอตลอดเวลา 2 เดือนกว่าๆ ที่รอผ่าตัด


และแล้ววันที่หมอนัดก็มาถึง..ผลตรวจเป็นลบค่ะ หมองงเลย เราเองก็งง แต่แอบมีหวังอยู่แล้วล่ะ นี่คือผลตรวจของจริงของเรา



แต่หมอก็ยังไม่แน่ใจเลยนัดตรวจแลปใหม่อีก 5 เดือน ผลตรวจออกมายังคงปกติเหมือนเดิม เราดีใจและโล่งใจมาก ทีนี้หมอเลยนัดอีก 7 เดือนถัดไป ผลออกมาก็ไม่พบความผิดปกติใดๆอีก ยืนยันจากผลด้านล่างค่ะ

ตรวจครั้งหลังสุดคือเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็ปกติทุกอย่างค่ะ ตลอดเวลา 2 ปีกว่าๆเราก็ดูแลตัวเองตามปกติ กินเบต้ากลูแคนต่อเนื่องมาตลอด เซลล์มะเร็งหายไปแล้ว เราก็ป่วยยากขึ้นด้วย ไอจาม เป็นหวัดนี่เกิดขึ้นน้อยมาก ถือเป็นผลพลอยได้ที่ดีเลยทีเดียว ที่แชร์ในวันนี้จะบอกว่าเราตัดสินใจลองทานเบต้ากลูแคนควบคู่ไปกับการดูแลตัวเอง (แบบขาดๆหายๆ) เพราะเราอยากพิสูจน์ว่ามันจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน แต่ก่อนจะลองเราก็ศึกษาอ่านทุกอย่าง สิ่งนึงแต่ทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นคือ เบต้ากลูแคนไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ลองหน่อยก็ไม่เสียหาย และตอนนี้มันก็ไม่เสียหายจริงๆด้วย มันได้ผล!

ตอนนี้เราหายแล้วเลยอยากแนะนำคนที่กำลังเป็นโรคนี้อยู่หรือหมดกำลังใจ ต้องหาสักทางที่มันจะยับยั้งศัตรูร้ายตัวนี้ให้ได้ แต่อย่าดูที่ผลลัพธ์อย่างเดียว ให้ดูที่ผลข้างเคียงด้วยนะคะ ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล


นี่แหละคือวิธีของเรา เราไม่ได้เปอร์เซ็นต์ค่านายหน้าอะไรทั้งสิ้น เพราะไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องเอาผลตรวจออกมาโชว์เพื่อแลกกับเงินค่ะ เราเห็นว่าการทานเบต้ากลูแคนเพื่อกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันมันจัดการกับเซลล์มะเร็งเองมันโอเคกับเรามาก เลยอยากแชร์ค่ะ แต่ถ้าใครไม่เห็นด้วย ได้โปรดอย่าถล่มกันเลยค่ะ เรารู้กันเนอะ ว่ามันคืออาหารเสริม ไม่ใช่ยา ถ้าคาดหวังว่ามันจะรักษาให้หาย 100% แน่นอน อันนี้อาจไม่ใช่แนวทางนั้นนะคะ มันเป็นแค่วิธีหนึ่งที่ดีสำหรับเราจริงๆ ถ้าใครมีวิธีอื่นมาแชร์ก็ยินดีค่ะ เพราะใครไม่เป็นไม่รู้หรอกกรอกว่า ทุกวันคือความหวังที่จะหาย ถ้ามีอะไรดีๆ ช่วยได้ก็ช่วยกันค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ