สวัสดีค่ะ หนูชื่อ เบญ ปัจจุบันหนูอายุ 16 ปี เป็นคนเชียงรายค่ะ แต่เรียนเชียงใหม่เพราะถูกส่งมาอยู่มูลนิธิที่เชียงใหม่ หนูก็อยู่ที่นี่มา 10 ปีแล้วนะ ตอนที่ถูกส่งมาอยู่ที่มูลนิธิแห่งนี้หนูยังเด็กมาก หลังจากที่พ่อติดคุกเพราะสารเสพติด ไม่นานแม่ก็เลิกกับพ่อ โดยนำหนูไปด้วย ซึ่งตอนนั้นหนูอายุเพียง 2 ขวบ ฐานะทางบ้านแม่ไม่ได้ร่ำรวย(ยากจนเลยอ่ะค่ะ) จากนั้นแม่ก็แต่งงานใหม่ แล้วหามูลนิธิให้หนูอยู่ หนูก็พยายามเข้าใจนะ ว่าคนที่เป็นแม่เขาไม่สามารถเลี้ยงดูหนูได้แต่หนูก็อยากอยู่กับแม่อยากช่วยงานแม่ ช่วงแรกๆที่มาอยู่มูลนิธิหนูไม่มีความสุขเลย หนูร้องไห้ตลอด แต่ก็ยังดีนะคะที่มีนักสังคมคอยปลอยใจ หลังจากที่หนูมาเรียนเชียงใหม่ แม่ก็มีลูกสองคนกับพ่อคนใหม่ แม่อยู่กับเขาได้ 5 ปีกว่า ตลอดที่แม่อยู่กับพ่อคนนั้น แม่มักจะโดนทำร้ายเพราะเขาชอบดื่มเหล้า พอเมาก็จะทำร้ายแม่ หนูเห็นแม่เจ็บช้ำเนื้อตัวบวมและร้องไห้เหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้า รู้สึกดีที่แม่เลิกกับผช.ที่เอาแต่ทำร้ายแม่ จนกระทั่งหนูอยู่ม.3แม่มีลูกกับผช.คนหนึ่งโดยที่ไม่ได้แต่งงานกัน เพราะผช.คนนั้นมีครอบครัวอยู่แล้ว ปัจจุบันน้อง2คนนั้น แม่ก็ส่งไปอยู่มูลนิธิค่ะ แต่เป็นคนละที่กับหนู น้องคนโตอยู่ป.3 คนเล็กอยู่ป.2 สรุปตอนนี้แม่ต้องเลี้ยงลูก 4 คน ฐานะทางบ้านยิ่งจนไปอีก ได้ยินแม่บอกจะส่งน้องคนสุดท้องไปอยู่มูลนิธิกับน้องสองคนนั้น เห้อ หนูคิดว่าแม่ไม่น่ามีหนูและน้องๆเลย เพราะแม่ยังไม่พร้อม ตอนนี้แม่ก็เช่าบ้านอยู่ นานๆทีหนูจะได้กลับบ้านช่วงปิดเทอม ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างหนูและแม่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
เข้าประเด็นเลยนะคะ มูลนิธิที่หนูอยู่นั้น กำลังจะปิดตัวลงค่ะ เพราะเจ้าของมูลนิธิแห่งนี้เป็นชาวต่างชาติและเสียชีวิตเมื่อสองปีที่แล้ว ทำให้ระบบการดูแลเปลี่ยนไป ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแล(ผู้จัดการแทน)เขาจะยุบมูลนิธิแห่งนี้ อีกอย่างเขาคิดว่าเด็กที่มาอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ก็อยู่เกือบ 8-11 ปี พ่อแม่ของเด็กน่าจะมีฐานะที่ดีขึ้น แต่โดยส่วนตัวหนูแล้ว ทางบ้านหนูยังไม่มีความพร้อมเลยจริงๆ แม่หนูไม่สนใจลูกๆ อีกอย่างแม่หนูติดโทรศัพท์มากค่ะ วันๆเอาแต่นั่งแชทกับคนโน้นคนนี้ แม่ไม่มีงานทำค่ะ เงินที่ใช้ในแต่ละเดือนเป็นเงินของพ่อน้องคนสุดท้องที่ส่งมาให้ เดือนละประมาณ 1000-2000 บาท แต่เงินก็ไม่พอใช้อยู่ดี ทุกวันนี้แม่ฝากชีวิตหนูไว้กับมูลนิธิอ่ะ แม่ไม่สนใจหนูเลย อย่างที่บอกมูลนิธินี้จะยุบ หนูจะต้องกลับบ้าน กลับบ้านก็คงไม่ได้เรียนแล้วอ่ะ เพราะทุกวันนี้แม่ก็บอกหนูว่าบ้านไม่มีเงินไม่ต้องเรียน (แม่หนูเรียนจบแค่ม.3) หนูคิดจะขอทุน กยศ.ค่ะ แต่ทางบ้านเราต้องมีคนรับรอง ซึ่งหนูไม่มีเลยค่ะ ทุกวันนี้แม่ก็ไม่เข้าใจหนู บอกให้หนูเลิกเรียน แม่ไม่เข้าใจหนูเลย แม่ชอบไล่ให้หนูไปหาคอบครัวที่พร้อมกว่า หนูเสียใจที่มีแม่แบบนี้ หนูอยากมีคนที่คอยรับดูแลหนู โดยส่วนตัวแล้ว หนูตั้งใจเรียนมากนะคะ ไม่เคยได้เกรดต่ำกว่า 3.5 เลิกเรียนก็ต้องนั่งรถเดือนกลับมูลนิธิไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนกับเพื่อน ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอยู่ในมูลนิธิโดยที่หนูไม่มีความสุขเลย หนูหวังที่จะได้ไปเจอโลกภายนอก ได้ไปเที่ยวกลับเพื่อน ไปเที่ยวกับครอบครัว ไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ การที่หนูอยู่ในมูลนิธิมันปิดกั้นหนูหลายๆอย่าง เราไม่สามารถทำตัวเหมือนเด็กทั่วไปได้ เราต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ หนูอยากมีคนที่คอยรับดูแลหนู เพราะ ไม่มีคนส่งหนูเรียน กู้ทุนก็มีแค่แม่ที่ต้องรับรอง แต่แม่ก็ไม่มีงานไม่มีเงิน อีกอย่าง แม่ไม่อยากให้หนูเรียนอยู่แล้วด้วย หนูเหนื่อยจังเลย ไปทางไหนก็ไม่ได้
อยากมีครอบครัวบุญธรรมค่ะ ลองเข้ามาอ่านก่อนก็ได้นะคะ
เข้าประเด็นเลยนะคะ มูลนิธิที่หนูอยู่นั้น กำลังจะปิดตัวลงค่ะ เพราะเจ้าของมูลนิธิแห่งนี้เป็นชาวต่างชาติและเสียชีวิตเมื่อสองปีที่แล้ว ทำให้ระบบการดูแลเปลี่ยนไป ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแล(ผู้จัดการแทน)เขาจะยุบมูลนิธิแห่งนี้ อีกอย่างเขาคิดว่าเด็กที่มาอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ก็อยู่เกือบ 8-11 ปี พ่อแม่ของเด็กน่าจะมีฐานะที่ดีขึ้น แต่โดยส่วนตัวหนูแล้ว ทางบ้านหนูยังไม่มีความพร้อมเลยจริงๆ แม่หนูไม่สนใจลูกๆ อีกอย่างแม่หนูติดโทรศัพท์มากค่ะ วันๆเอาแต่นั่งแชทกับคนโน้นคนนี้ แม่ไม่มีงานทำค่ะ เงินที่ใช้ในแต่ละเดือนเป็นเงินของพ่อน้องคนสุดท้องที่ส่งมาให้ เดือนละประมาณ 1000-2000 บาท แต่เงินก็ไม่พอใช้อยู่ดี ทุกวันนี้แม่ฝากชีวิตหนูไว้กับมูลนิธิอ่ะ แม่ไม่สนใจหนูเลย อย่างที่บอกมูลนิธินี้จะยุบ หนูจะต้องกลับบ้าน กลับบ้านก็คงไม่ได้เรียนแล้วอ่ะ เพราะทุกวันนี้แม่ก็บอกหนูว่าบ้านไม่มีเงินไม่ต้องเรียน (แม่หนูเรียนจบแค่ม.3) หนูคิดจะขอทุน กยศ.ค่ะ แต่ทางบ้านเราต้องมีคนรับรอง ซึ่งหนูไม่มีเลยค่ะ ทุกวันนี้แม่ก็ไม่เข้าใจหนู บอกให้หนูเลิกเรียน แม่ไม่เข้าใจหนูเลย แม่ชอบไล่ให้หนูไปหาคอบครัวที่พร้อมกว่า หนูเสียใจที่มีแม่แบบนี้ หนูอยากมีคนที่คอยรับดูแลหนู โดยส่วนตัวแล้ว หนูตั้งใจเรียนมากนะคะ ไม่เคยได้เกรดต่ำกว่า 3.5 เลิกเรียนก็ต้องนั่งรถเดือนกลับมูลนิธิไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนกับเพื่อน ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอยู่ในมูลนิธิโดยที่หนูไม่มีความสุขเลย หนูหวังที่จะได้ไปเจอโลกภายนอก ได้ไปเที่ยวกลับเพื่อน ไปเที่ยวกับครอบครัว ไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ การที่หนูอยู่ในมูลนิธิมันปิดกั้นหนูหลายๆอย่าง เราไม่สามารถทำตัวเหมือนเด็กทั่วไปได้ เราต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ หนูอยากมีคนที่คอยรับดูแลหนู เพราะ ไม่มีคนส่งหนูเรียน กู้ทุนก็มีแค่แม่ที่ต้องรับรอง แต่แม่ก็ไม่มีงานไม่มีเงิน อีกอย่าง แม่ไม่อยากให้หนูเรียนอยู่แล้วด้วย หนูเหนื่อยจังเลย ไปทางไหนก็ไม่ได้