เย้เย...
รอบนี้เดินทางไกลไปจี้ปุ่นนนนนนนน เรียกว่าทริปไปแต่ตัว...เพราะไปทำงานแจ้ เลยไม่ต้องเสียเงิน 55555555555+
แต่ไหนๆ ก็ต้องไปทำงานแล้ว ก็เลยได้ถ่ายรูปกลับมาฝาก พร้อมทั้งจะมารีวิวของกินในเมืองโอซาก้าและอาโกะให้ทุกคนได้เที่ยวไปด้วยกันจ้า
เนื่องจากพาสปอร์ตที่เอมถือเป็นแบบ Official เลยผ่าน ตม. ง่ายฝุดๆ เรียกได้ว่าเชิญผ่าน เชิญผ่าน กันเลยทีเดียว
พอลงเครื่องที่สนามบินโอซาก้า KIX จะต้องนั่งรถไฟต่อไปเอากระเป๋า พอได้มาก็นั่งรถไฟต่อไปยังสถานี namba เพื่อฝากกระเป๋า
ตอนแรกเดินหาล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าอยู่นานมาก แต่พอเจอทีนึง ก็จะเจอเรื่อยๆ มาตลอดทาง 555555+
แอบมีทริคมาฝาก คือพอล็อคไปแล้วรอบนึง อย่าไปเปิดมันอีกนะคะ เพราะจะต้องหยอดเงินใหม่ อิอิ
สิ่งแรกที่กินคือ Americano เอมเป็นประเภทที่จะไม่ตื่นเต็มตาถ้ายังไม่ได้กาเฟอีนเข้าเส้นเลือด แก้วแรกจากร้าน Beer&Coffee งงใจความไม่เข้ากันของสองเครื่องดื่มในร้านเดียว คือเดินเข้าไปปุ๊บ กลิ่นบุหรี่ตลบอบอวลเลย ดีนะที่เราจะ takeaway อยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาอะไร
เมนูที่สั่งคือ Iced Americano without sugar ย้ำนะคะ without sugar จ่ายเงินปุ๊บ ดูดหลอดปั๊บ! หวานจ้า....
เข้าอีกร้านเลย! สั่งใหม่ รอบนี้ย้ำสามรอบเลยว่า NO SUGAR!! ก็เลยได้แก้วใหม่ เสียเงินสองรอบ แต่คุ้ม เพราะถูกมากเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มอื่นๆ ที่คนในทริปสั่งมา อิอิ
สถานที่แรกที่ต้องไปเลย เพราะเป็น Landmark ของโอซาก้า แน่นอนว่าคือ...ปราสาทโอซาก้า
จำค่าตั๋วไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่าถ้ามีตั๋วรถไฟแบบ one day จะลดราคาค่าเข้าได้ ซึ่งเอมกับคนที่ไปด้วยมีกันทุกคน เลยได้แซงคิวไม่ต้องต่อแถวนานเลย
ด้านนอกปราสาทถ่ายรูปสวยดี แต่พอเข้าไปด้านใน...ก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า...ฉันมาทำอะไรที่นี่ 5555555555555+ คือไม่เห็นมีอะไรเลย นอกจากเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ที่คิดว่ายูทูปก็น่าจะมี
แต่ยังไงก็ตามเนอะ วิวตอนขึ้นไปชั้นบน ถ่ายจากระเบียงปราสาทก็สวยงามดี
มื้อจริงจังมื้อแรกที่โอซาก้า คือร้านตามข้างทางในตลาดที่ดึงดูดความสนใจของแก๊งทัวร์ฟรีด้วยก้ามปูทาราบะใหญ่ยักษ์
แต่!!! ก็พบกับความผิดหวัง 555+ คือมีความเหมือนปูอัด และแห้งมากเกิ๊น! แต่.....ข้าวหน้าแซลมอนและอิคุระของเอม ดีงามมาก แซลมอนเฉยๆ แต่ไข่ปลาเป๊าะแป๊ะและเค็มกำลังดี ฟินไปเบาๆ แต่คือความอร่อยแบบนี้สามารถหาได้อยู่แล้วใน กทม. ให้ดาวร้านนี้ 6/10 เฉยๆ มาก
มื้อเย็น เรามาจริงจังกันกับร้านแนะนำในเน็ต isomaru suisan คือเปิดเว็บไหนก็จะมีแนะนำร้านนี้ตลอด เมนูเด็ดคือ...มันปู!! และใช่จ้ะ มันเด็ดสมชื่อ!!!!!!! ส่วนเมนูอื่นๆ มีความเน้นเค็ม ร้านนี้ทำให้เอมกับชาวแก๊งเริ่มตระหนักว่าชาวญี่ปุ่นนี่เค้าเน้นเกลือกันมากๆ เพราะเมนูอื่นนอกจากมันปูจะเน้นเค็มหมด โดยเฉพาะปลา...เค็มเว่อ น้องๆ ปลาเค็มเลยง่ะ
ส่วนปลาดิบ...ทูน่าเนื้อแดงกับเนื้อขาว มีความเป็นเกล็ดน้ำแข็ง บ่งบอกถึงความไม่สดซักเท่าไหร่ แต่ไม่แย่มาก ที่เด็ดสุดคือวาซาบิ โคตรชอบ ดีกว่าในไทยทุกร้านเลยแหละจ้า
ไข่หวาน...ไม่หวาน กินไปก็งงไป คือสรุปที่ไทยทำผิดใช่ไหม? ปกติมันต้องไม่หวานสินะ 555+
ร้านนี้เอมให้ 7/10 จากมันปูและวาซาบิล้วนๆ ฮี่ๆๆๆ
วันที่สอง ย้ายเมือง! มาอยู่อาโกะ สถานที่ที่ต้องทำงานจริงจัง
เป็นร้านอาหารเป็นคอร์สอิตาเลี่ยนในญี่ปุ่น ก็งงๆ ว่าตกลงมาประเทศอะไร 5555+
ถ้าจะไม่ผิดคือชื่อร้าน M's dinning เปิดเมนูด้วยผ้าอุ่นเช็ดมือ มาพร้อมกับสลัดแซลมอนรมควัน บอกเลยว่าเค็ม! แต่ดี! เหมือน salt เลย 5555+ ที่อร่อยสุดในจานคือบล็อคโคลี่ อิอิ แต่รวมๆ ไม่แย่นะ เปิดมื้อได้อร่อยเลยทีเดียว
ถัดมาเป็นเมนคอร์ส สปาเกตตีซอสครีมกุ้ง อันนี้จืดๆ เอมไม่ค่อยชอบอ่า มันเลี่ยน กินเฉพาะกุ้งหมดก็หันไปหาพิซซ่าที่มาต่อในเวลาใกล้เคียงกัน พออิ่มแปล้ ทางร้านก็เอาของหวานมาเสิร์ฟ เป็นเชอร์เบทบลูเบอร์รี่ที่โคตรอร่อย! เพิ่มเปรี้ยวอีกนิดจะสุดให้สิบเต็มไปเลย
และสุดท้าย...คือเครื่องดื่ม มีทั้งน้ำผลไม้ ชา กาแฟ แน่นอนว่าสายกาเฟอีนอย่างเอมก็เลือก coffee no sugar
ร้านนี้เอมค่อนข้างชอบ คือที่จริงจะให้ 7 แต่บวกนิดหน่อยให้เชอร์เบท 555+ ชอบเว่อ จัดไป 7.5/10
มื้อเย็น มาเป็นคอร์สอีกแล้ว ร้าน masaya (คนญี่ปุ่นเลือกร้านให้นะคะ เค้าพามา เราก็ไม่ขัดศรัทธา)
เปิดมื้อด้วยเซตเรียกน้ำย่อย เอมชอบสุดก็ปลาดิบอะ ร้านนี้วาซาบิอร่อยกว่า isomaru อีก! จี๊ดดี อิอิอิ ชอบ! ตอนเอมโบกวาซาบิบนปลาดิบนี่คนญี่ปุ่นตาโตเลยนะ เค้าบอกว่าใส่เยอะอะไรขนาดนั้นเดี๋ยวก็จี๊ดแย่ แต่พอเห็นเอมกินหมดแบบชิลๆ เรียกได้ว่าจะขอเพิ่มกันเลยทีเดียว เค้าก็เลยยิ้มเจื่อนให้ซะอย่างนั้น 5555+ ส่วนของอย่างอื่นในจานเรียกน้ำย่อย มันดูจะสับสนว่าเป็นของคาวหรือของหวานกันแน่ ฮ่าๆ
จานต่อไปคือซุป ตักกินปลาแล้วก็ปล่อยอย่างอื่นไป เพราะไม่ชอบกลิ่นเลยแม้แต่น้อย พร้อมทั้งสงสัยด้วยว่าไอ้ของหยุ่นๆ คล้ายโมจินี่เค้าใส่มาทำไมกัน?
จานที่สามเหมือนของหวาน...อร่อยมาก! มีความมัน หอม หวาน ด้านในเป็นครีมๆ จำไม่ได้แล้วว่าอะไร อาจเป็นฟักทอง อร่อยยยย
จานที่สี่ก็ยังกระจุ๊กกระจิ๊ก แต่โคตรดี!!! ทุกชิ้นอร่อยมาก มีความเหมือนกล้วยทอดมันทอดของไทย แต่...ดีกว่า ด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่มนวล หวาน และหอม ยกเว้นพริกหวานนะ ที่เอมสงสัยว่ามีมันทำไม?
จานต่อไป...เมนคอร์ส จ้ะ เมนจ้ะ จานแค่นี้แหละ แต่เพราะอิ่มจากจานอื่นไง เลยไม่สงสัยอะไร 5555+
ปิดท้ายกับของหวานเป็นทิรามิสุกับพุดดิ้ง ทิรามิสุหวานเว่อ แต่พุดดิ้งหอมงา ไม่หวานมาก กำลังดี
ร้านนี้เอาไปเลย 8/10 ควรลอง!
วันต่อมา...เป็นเบรคฟาสต์ของโรงแรม Ako Park Hotel มีของกินให้เลือกสรรเยอะแยะพอสมควร
และเป็นการตอกย้ำด้วยว่า ชาวญี่ปุ่นโคตรชอบกินเค็ม 555555555555+
จัดไป 6.5/10
กลางวันเป็นเบ็นโตะของบริษัทที่เค้าเอามาเสิร์ฟ ออกไปตะลอนไม่ได้เพราะมีงานติดพัน 55555+
ข้าว 8 ก้อนนี่แน่นมาก เอมกินไปได้แค่ครึ่งเดียวเอง ส่วนกับข้าวคือดีนะ ไม่ว่าจะพวกของทอดอย่างปลา กุ้ง รากบัว ผักต่างๆ คือเข้ากันหมด เป็นมื้อง่ายๆ ที่ดีจริง แถมมีของหวานเป็นมันหวานด้วย ลงตัวเลยอะ
ให้เบ็นโตะกล่องนี้ 7/10
ตกเย็น เดินหาร้านกินกันจนขาลาก เข้าไป 3 ร้านจนมาจบอยู่กับร้านนี้... (สองร้านแรกคือกลับไปไม่ได้อะ เพราะทำเนียนเข้าไปนั่งแล้วก็เดินออก โคตรน่ามึน คือเข้าไปอ่านเมนูแล้วไม่โอเคไง 555+)
ชื่อร้านคือ inahoya เป็นแบบกริลล์ต่อหน้าให้เห็นเลย ไปกัน 5 คนแต่สั่งจริงจังกันมาก นอกจากในรูปยังมีมาอีกเรื่อยๆ 5555+
เนื้อวัว...มาแบบมีเดียมแรร์ ที่ถ้าไม่โอเคก็สามารถนาบกับกระทะเพิ่มความสุกได้ รสชาติดีเว่อเพียงแค่ราดมะนาวลงไป
ทีเด็ดอีกอย่างคือไก่ย่างไส้ไข่ปลา ความเค็มและมันจากไข่ปลาทำให้ไก่ย่างมีรสชาติที่สุดยอดมากกว่าที่เคยลอง ไม่รู้ว่าที่ไทยได้มีการทำเมนูแบบนี้บ้างหรือเปล่า แต่ถ้าไม่มีคือมันต้องมีนะ ดีมากกกกกกกกกก
ที่จริงไก่ย่างมีไส้ชีสด้วย แต่แพ้อะ แพ้ไส้ไข่ปลา ไปเลย โอโคโนมิยากิ ก็ปกติเนอะ คนชอบก็ชอบไปเลย แต่เอมว่าหวานไปหน่อย ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือทงคัตสึ...ที่เหมือนโอโคโนมิยากิ 5555+ ไม่มีความเป็นหมูเลยจ้า
ปิดท้ายมื้อด้วยไอติม รสชาติหวานไปหน่อย แต่ก็อร่อยใช้ได้ ไม่แย่อะไรจ้า
ร้านนี้บอกเลยว่าชอบจริง เนื้อกับไข่ปลาทำให้ฟินสุดอะไรสุด จัดไปโลด 8.5/10
เช้าวันต่อมาก็ยังอยู่กับเบรคฟาสต์ของโรงแรม ติดอกติดใจความเค็มกันไปจ้า
ตอนกลางวัน เค้าพาไปกินอาหารของร้านหรูในสนามกอล์ฟเมือง Ako วิวหลักล้านมากกกกกกกกกกกกกกกก ด้านนึงเห็นทะเล อีกด้านนึงเป็นสนามกอล์ฟ เขียวขจีสุดสายตาเลยทีเดียว
เมนูเรียกน้ำย่อยเป็นกุ้งทอด ก็ปกติทั่วๆ ไปไม่โดดเด่น ร่วมกับหอยนางรมทอด (เค้าว่ากันว่าเป็นของเด็ดของเมือง) แต่เอมว่า...ของไทยดีงามกว่า 555+
เมนูจริงของเอมคือกิวด้ง ...โคตรดี!! ชอบเว่อ... หวาน หอม ผสมกับกลิ่นเนื้อ นี่รสชาติยังติดในความรู้สึกอยู่เลย ฟินนนนนน
ส่วนอีกเมนูของคนร่วมทริปนะคะ 5555+ ไม่ได้ชิม ร้านนี้เอมให้ 8/10 จากเนื้อและวิวเลยจ้า
ตกเย็นแวะไปปราสาทฮิเมจิ
เกือบตัดใจแล้วเพราะรู้ว่าปิดตอน 4 โมง เวลานั้นก็เลยเวลาแน่นอนแล้ว แต่คิดได้ว่าแวะไปเดินเล่นก็ได้
ผลคือ...โคตรสวย!! ขอบคุณตัวเองมากเลยที่ตัดสินใจไป คนน้อยด้วยแหละที่สำคัญ ที่ดีสุดๆ คือพระอาทิตย์สาดมายังปราสาทแบบพอดิบพอดี รูปสวยมาก!!!! สีทองผ่องอำไพกันเลยทีเดียว บรรยากาศรอบนอกระหว่างทางก็ดี!!!
เดินออกจากปราสาทก็แวะร้าน...อิตาเลี่ยน
5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
ฉันมาทำอะไรญี่ปุ่น...
เมนูเอมเป็นแฮมเบิร์กเนื้อ รสชาติดีเลยแหละ กินกับสลัดโรยชีส ดี๊ดีจ้า 7/10
วันสุดท้าย เดินทางมายังโอซาก้าอีกครั้ง ก็ไม่มีมื้อหลักแล้วจ้า มีแค่เดินร่อนหาของอร่อยกิน
อันแรกเป็น soft cream รสชาอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ กลิ่นชาทำเอาเอียน 5555+ ไม่ค่อนโดนใจ ชิมไปนิดเดียวก็ให้พี่ที่ไปด้วยกินแทน 6/10
อันที่สองคือ Lobster&Crab ที่ร้าน Luke's Lobster ที่ชาวเน็ตแนะนำกันเหลือเกิน บวกกับเอมชอบดูช่อง Rubsarb อะ พี่จอร์จแนะนำว่าดี ว่าเด็ด เฮาก็เลยอยากกินบ้าง พอลองก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า...ทำไมเย็น? คือถ้าร้อนนี่โคตรดีแน่นอน ลอปสเตอร์นี่มาเป็นชิ้น แน่นๆเลย ส่วนปูก็หวาน ดีมากเลย ถ้าร้อนคงได้คะแนนเยอะกว่านี้มาก 8/10
ส่งท้ายทริปนี้ด้วย soft cream ของ Cremia เค้าเคลมว่าเป็นนมฮอกไกโด บอกเลยโคตรดี!! หอม หวาน มัน แต่ถ้าลดความหวานลงอีกนิดจะดีเว่อ 8/10
จบแล้ววววววว
ขอลากันก่อน ไว้เจอกันใหม่นะจ๊ะ
จุ๊บ!
ไปแต่ตัว ทัวร์โอซาก้า... รีวิวของกินในแถบโอซาก้า อาโกะ JAPAN
รอบนี้เดินทางไกลไปจี้ปุ่นนนนนนนน เรียกว่าทริปไปแต่ตัว...เพราะไปทำงานแจ้ เลยไม่ต้องเสียเงิน 55555555555+
แต่ไหนๆ ก็ต้องไปทำงานแล้ว ก็เลยได้ถ่ายรูปกลับมาฝาก พร้อมทั้งจะมารีวิวของกินในเมืองโอซาก้าและอาโกะให้ทุกคนได้เที่ยวไปด้วยกันจ้า
เนื่องจากพาสปอร์ตที่เอมถือเป็นแบบ Official เลยผ่าน ตม. ง่ายฝุดๆ เรียกได้ว่าเชิญผ่าน เชิญผ่าน กันเลยทีเดียว
พอลงเครื่องที่สนามบินโอซาก้า KIX จะต้องนั่งรถไฟต่อไปเอากระเป๋า พอได้มาก็นั่งรถไฟต่อไปยังสถานี namba เพื่อฝากกระเป๋า
ตอนแรกเดินหาล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าอยู่นานมาก แต่พอเจอทีนึง ก็จะเจอเรื่อยๆ มาตลอดทาง 555555+
แอบมีทริคมาฝาก คือพอล็อคไปแล้วรอบนึง อย่าไปเปิดมันอีกนะคะ เพราะจะต้องหยอดเงินใหม่ อิอิ
สิ่งแรกที่กินคือ Americano เอมเป็นประเภทที่จะไม่ตื่นเต็มตาถ้ายังไม่ได้กาเฟอีนเข้าเส้นเลือด แก้วแรกจากร้าน Beer&Coffee งงใจความไม่เข้ากันของสองเครื่องดื่มในร้านเดียว คือเดินเข้าไปปุ๊บ กลิ่นบุหรี่ตลบอบอวลเลย ดีนะที่เราจะ takeaway อยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาอะไร
เมนูที่สั่งคือ Iced Americano without sugar ย้ำนะคะ without sugar จ่ายเงินปุ๊บ ดูดหลอดปั๊บ! หวานจ้า....
เข้าอีกร้านเลย! สั่งใหม่ รอบนี้ย้ำสามรอบเลยว่า NO SUGAR!! ก็เลยได้แก้วใหม่ เสียเงินสองรอบ แต่คุ้ม เพราะถูกมากเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มอื่นๆ ที่คนในทริปสั่งมา อิอิ
สถานที่แรกที่ต้องไปเลย เพราะเป็น Landmark ของโอซาก้า แน่นอนว่าคือ...ปราสาทโอซาก้า
จำค่าตั๋วไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่าถ้ามีตั๋วรถไฟแบบ one day จะลดราคาค่าเข้าได้ ซึ่งเอมกับคนที่ไปด้วยมีกันทุกคน เลยได้แซงคิวไม่ต้องต่อแถวนานเลย
ด้านนอกปราสาทถ่ายรูปสวยดี แต่พอเข้าไปด้านใน...ก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า...ฉันมาทำอะไรที่นี่ 5555555555555+ คือไม่เห็นมีอะไรเลย นอกจากเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ที่คิดว่ายูทูปก็น่าจะมี
แต่ยังไงก็ตามเนอะ วิวตอนขึ้นไปชั้นบน ถ่ายจากระเบียงปราสาทก็สวยงามดี
มื้อจริงจังมื้อแรกที่โอซาก้า คือร้านตามข้างทางในตลาดที่ดึงดูดความสนใจของแก๊งทัวร์ฟรีด้วยก้ามปูทาราบะใหญ่ยักษ์
แต่!!! ก็พบกับความผิดหวัง 555+ คือมีความเหมือนปูอัด และแห้งมากเกิ๊น! แต่.....ข้าวหน้าแซลมอนและอิคุระของเอม ดีงามมาก แซลมอนเฉยๆ แต่ไข่ปลาเป๊าะแป๊ะและเค็มกำลังดี ฟินไปเบาๆ แต่คือความอร่อยแบบนี้สามารถหาได้อยู่แล้วใน กทม. ให้ดาวร้านนี้ 6/10 เฉยๆ มาก
มื้อเย็น เรามาจริงจังกันกับร้านแนะนำในเน็ต isomaru suisan คือเปิดเว็บไหนก็จะมีแนะนำร้านนี้ตลอด เมนูเด็ดคือ...มันปู!! และใช่จ้ะ มันเด็ดสมชื่อ!!!!!!! ส่วนเมนูอื่นๆ มีความเน้นเค็ม ร้านนี้ทำให้เอมกับชาวแก๊งเริ่มตระหนักว่าชาวญี่ปุ่นนี่เค้าเน้นเกลือกันมากๆ เพราะเมนูอื่นนอกจากมันปูจะเน้นเค็มหมด โดยเฉพาะปลา...เค็มเว่อ น้องๆ ปลาเค็มเลยง่ะ
ส่วนปลาดิบ...ทูน่าเนื้อแดงกับเนื้อขาว มีความเป็นเกล็ดน้ำแข็ง บ่งบอกถึงความไม่สดซักเท่าไหร่ แต่ไม่แย่มาก ที่เด็ดสุดคือวาซาบิ โคตรชอบ ดีกว่าในไทยทุกร้านเลยแหละจ้า
ไข่หวาน...ไม่หวาน กินไปก็งงไป คือสรุปที่ไทยทำผิดใช่ไหม? ปกติมันต้องไม่หวานสินะ 555+
ร้านนี้เอมให้ 7/10 จากมันปูและวาซาบิล้วนๆ ฮี่ๆๆๆ
วันที่สอง ย้ายเมือง! มาอยู่อาโกะ สถานที่ที่ต้องทำงานจริงจัง
เป็นร้านอาหารเป็นคอร์สอิตาเลี่ยนในญี่ปุ่น ก็งงๆ ว่าตกลงมาประเทศอะไร 5555+
ถ้าจะไม่ผิดคือชื่อร้าน M's dinning เปิดเมนูด้วยผ้าอุ่นเช็ดมือ มาพร้อมกับสลัดแซลมอนรมควัน บอกเลยว่าเค็ม! แต่ดี! เหมือน salt เลย 5555+ ที่อร่อยสุดในจานคือบล็อคโคลี่ อิอิ แต่รวมๆ ไม่แย่นะ เปิดมื้อได้อร่อยเลยทีเดียว
ถัดมาเป็นเมนคอร์ส สปาเกตตีซอสครีมกุ้ง อันนี้จืดๆ เอมไม่ค่อยชอบอ่า มันเลี่ยน กินเฉพาะกุ้งหมดก็หันไปหาพิซซ่าที่มาต่อในเวลาใกล้เคียงกัน พออิ่มแปล้ ทางร้านก็เอาของหวานมาเสิร์ฟ เป็นเชอร์เบทบลูเบอร์รี่ที่โคตรอร่อย! เพิ่มเปรี้ยวอีกนิดจะสุดให้สิบเต็มไปเลย
และสุดท้าย...คือเครื่องดื่ม มีทั้งน้ำผลไม้ ชา กาแฟ แน่นอนว่าสายกาเฟอีนอย่างเอมก็เลือก coffee no sugar
ร้านนี้เอมค่อนข้างชอบ คือที่จริงจะให้ 7 แต่บวกนิดหน่อยให้เชอร์เบท 555+ ชอบเว่อ จัดไป 7.5/10
มื้อเย็น มาเป็นคอร์สอีกแล้ว ร้าน masaya (คนญี่ปุ่นเลือกร้านให้นะคะ เค้าพามา เราก็ไม่ขัดศรัทธา)
เปิดมื้อด้วยเซตเรียกน้ำย่อย เอมชอบสุดก็ปลาดิบอะ ร้านนี้วาซาบิอร่อยกว่า isomaru อีก! จี๊ดดี อิอิอิ ชอบ! ตอนเอมโบกวาซาบิบนปลาดิบนี่คนญี่ปุ่นตาโตเลยนะ เค้าบอกว่าใส่เยอะอะไรขนาดนั้นเดี๋ยวก็จี๊ดแย่ แต่พอเห็นเอมกินหมดแบบชิลๆ เรียกได้ว่าจะขอเพิ่มกันเลยทีเดียว เค้าก็เลยยิ้มเจื่อนให้ซะอย่างนั้น 5555+ ส่วนของอย่างอื่นในจานเรียกน้ำย่อย มันดูจะสับสนว่าเป็นของคาวหรือของหวานกันแน่ ฮ่าๆ
จานต่อไปคือซุป ตักกินปลาแล้วก็ปล่อยอย่างอื่นไป เพราะไม่ชอบกลิ่นเลยแม้แต่น้อย พร้อมทั้งสงสัยด้วยว่าไอ้ของหยุ่นๆ คล้ายโมจินี่เค้าใส่มาทำไมกัน?
จานที่สามเหมือนของหวาน...อร่อยมาก! มีความมัน หอม หวาน ด้านในเป็นครีมๆ จำไม่ได้แล้วว่าอะไร อาจเป็นฟักทอง อร่อยยยย
จานที่สี่ก็ยังกระจุ๊กกระจิ๊ก แต่โคตรดี!!! ทุกชิ้นอร่อยมาก มีความเหมือนกล้วยทอดมันทอดของไทย แต่...ดีกว่า ด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่มนวล หวาน และหอม ยกเว้นพริกหวานนะ ที่เอมสงสัยว่ามีมันทำไม?
จานต่อไป...เมนคอร์ส จ้ะ เมนจ้ะ จานแค่นี้แหละ แต่เพราะอิ่มจากจานอื่นไง เลยไม่สงสัยอะไร 5555+
ปิดท้ายกับของหวานเป็นทิรามิสุกับพุดดิ้ง ทิรามิสุหวานเว่อ แต่พุดดิ้งหอมงา ไม่หวานมาก กำลังดี
ร้านนี้เอาไปเลย 8/10 ควรลอง!
วันต่อมา...เป็นเบรคฟาสต์ของโรงแรม Ako Park Hotel มีของกินให้เลือกสรรเยอะแยะพอสมควร
และเป็นการตอกย้ำด้วยว่า ชาวญี่ปุ่นโคตรชอบกินเค็ม 555555555555+
จัดไป 6.5/10
กลางวันเป็นเบ็นโตะของบริษัทที่เค้าเอามาเสิร์ฟ ออกไปตะลอนไม่ได้เพราะมีงานติดพัน 55555+
ข้าว 8 ก้อนนี่แน่นมาก เอมกินไปได้แค่ครึ่งเดียวเอง ส่วนกับข้าวคือดีนะ ไม่ว่าจะพวกของทอดอย่างปลา กุ้ง รากบัว ผักต่างๆ คือเข้ากันหมด เป็นมื้อง่ายๆ ที่ดีจริง แถมมีของหวานเป็นมันหวานด้วย ลงตัวเลยอะ
ให้เบ็นโตะกล่องนี้ 7/10
ตกเย็น เดินหาร้านกินกันจนขาลาก เข้าไป 3 ร้านจนมาจบอยู่กับร้านนี้... (สองร้านแรกคือกลับไปไม่ได้อะ เพราะทำเนียนเข้าไปนั่งแล้วก็เดินออก โคตรน่ามึน คือเข้าไปอ่านเมนูแล้วไม่โอเคไง 555+)
ชื่อร้านคือ inahoya เป็นแบบกริลล์ต่อหน้าให้เห็นเลย ไปกัน 5 คนแต่สั่งจริงจังกันมาก นอกจากในรูปยังมีมาอีกเรื่อยๆ 5555+
เนื้อวัว...มาแบบมีเดียมแรร์ ที่ถ้าไม่โอเคก็สามารถนาบกับกระทะเพิ่มความสุกได้ รสชาติดีเว่อเพียงแค่ราดมะนาวลงไป
ทีเด็ดอีกอย่างคือไก่ย่างไส้ไข่ปลา ความเค็มและมันจากไข่ปลาทำให้ไก่ย่างมีรสชาติที่สุดยอดมากกว่าที่เคยลอง ไม่รู้ว่าที่ไทยได้มีการทำเมนูแบบนี้บ้างหรือเปล่า แต่ถ้าไม่มีคือมันต้องมีนะ ดีมากกกกกกกกกก
ที่จริงไก่ย่างมีไส้ชีสด้วย แต่แพ้อะ แพ้ไส้ไข่ปลา ไปเลย โอโคโนมิยากิ ก็ปกติเนอะ คนชอบก็ชอบไปเลย แต่เอมว่าหวานไปหน่อย ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือทงคัตสึ...ที่เหมือนโอโคโนมิยากิ 5555+ ไม่มีความเป็นหมูเลยจ้า
ปิดท้ายมื้อด้วยไอติม รสชาติหวานไปหน่อย แต่ก็อร่อยใช้ได้ ไม่แย่อะไรจ้า
ร้านนี้บอกเลยว่าชอบจริง เนื้อกับไข่ปลาทำให้ฟินสุดอะไรสุด จัดไปโลด 8.5/10
เช้าวันต่อมาก็ยังอยู่กับเบรคฟาสต์ของโรงแรม ติดอกติดใจความเค็มกันไปจ้า
ตอนกลางวัน เค้าพาไปกินอาหารของร้านหรูในสนามกอล์ฟเมือง Ako วิวหลักล้านมากกกกกกกกกกกกกกกก ด้านนึงเห็นทะเล อีกด้านนึงเป็นสนามกอล์ฟ เขียวขจีสุดสายตาเลยทีเดียว
เมนูเรียกน้ำย่อยเป็นกุ้งทอด ก็ปกติทั่วๆ ไปไม่โดดเด่น ร่วมกับหอยนางรมทอด (เค้าว่ากันว่าเป็นของเด็ดของเมือง) แต่เอมว่า...ของไทยดีงามกว่า 555+
เมนูจริงของเอมคือกิวด้ง ...โคตรดี!! ชอบเว่อ... หวาน หอม ผสมกับกลิ่นเนื้อ นี่รสชาติยังติดในความรู้สึกอยู่เลย ฟินนนนนน
ส่วนอีกเมนูของคนร่วมทริปนะคะ 5555+ ไม่ได้ชิม ร้านนี้เอมให้ 8/10 จากเนื้อและวิวเลยจ้า
ตกเย็นแวะไปปราสาทฮิเมจิ
เกือบตัดใจแล้วเพราะรู้ว่าปิดตอน 4 โมง เวลานั้นก็เลยเวลาแน่นอนแล้ว แต่คิดได้ว่าแวะไปเดินเล่นก็ได้
ผลคือ...โคตรสวย!! ขอบคุณตัวเองมากเลยที่ตัดสินใจไป คนน้อยด้วยแหละที่สำคัญ ที่ดีสุดๆ คือพระอาทิตย์สาดมายังปราสาทแบบพอดิบพอดี รูปสวยมาก!!!! สีทองผ่องอำไพกันเลยทีเดียว บรรยากาศรอบนอกระหว่างทางก็ดี!!!
เดินออกจากปราสาทก็แวะร้าน...อิตาเลี่ยน
5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
ฉันมาทำอะไรญี่ปุ่น...
เมนูเอมเป็นแฮมเบิร์กเนื้อ รสชาติดีเลยแหละ กินกับสลัดโรยชีส ดี๊ดีจ้า 7/10
วันสุดท้าย เดินทางมายังโอซาก้าอีกครั้ง ก็ไม่มีมื้อหลักแล้วจ้า มีแค่เดินร่อนหาของอร่อยกิน
อันแรกเป็น soft cream รสชาอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ กลิ่นชาทำเอาเอียน 5555+ ไม่ค่อนโดนใจ ชิมไปนิดเดียวก็ให้พี่ที่ไปด้วยกินแทน 6/10
อันที่สองคือ Lobster&Crab ที่ร้าน Luke's Lobster ที่ชาวเน็ตแนะนำกันเหลือเกิน บวกกับเอมชอบดูช่อง Rubsarb อะ พี่จอร์จแนะนำว่าดี ว่าเด็ด เฮาก็เลยอยากกินบ้าง พอลองก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า...ทำไมเย็น? คือถ้าร้อนนี่โคตรดีแน่นอน ลอปสเตอร์นี่มาเป็นชิ้น แน่นๆเลย ส่วนปูก็หวาน ดีมากเลย ถ้าร้อนคงได้คะแนนเยอะกว่านี้มาก 8/10
ส่งท้ายทริปนี้ด้วย soft cream ของ Cremia เค้าเคลมว่าเป็นนมฮอกไกโด บอกเลยโคตรดี!! หอม หวาน มัน แต่ถ้าลดความหวานลงอีกนิดจะดีเว่อ 8/10
จบแล้ววววววว
ขอลากันก่อน ไว้เจอกันใหม่นะจ๊ะ
จุ๊บ!