ชีสต์ก้อนไขมันจะกลายเป็นเนื้อร้ายได้หรือไม่

เมื่อ 8 ปีที่แล้ว มีอาการเหมือนเป็นฝีอักเสบ บวมแดง แต่ไม่มีหัวฝี จึงได้ทานยาเอง หลังจากหายอักเสบ ก็ยังคงเป็นไตๆ ก้อนแข็งๆ จึงไปหาหมอผิวหนังแล้วส่งต่อให้ไปผ่าออก หลังจากผ่าเสร็จหมอก็ส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ ซึ่งไม่พบความปกติของเนื้อเเต่อย่างใด

ต่อมาเมื่อเดือนที่แล้ว คลำเจอเม็ดขนาดเท่าเม็ดแมงลักบริเวณหน้าท้อง (ใกล้ตำแหน่งเดิม) ซึ่งเรามีนัดกับหมอผิวหนังอยู่แล้ว จึงปรึกษาหมอเรื่องเม็ดนี้ด้วย แต่หมอบอกว่า ยังไม่ต้องทำอะไร ปล่อยไปก่อน ถ้ามันโตขึ้นหรืออักเสบค่อยมาใหม่ และแล้วผ่านไป 1 เดือน เจ้าก้อนดังกล่าวก็อักเสบ บวมแดง วัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางได้ 1 ซม. ประมาณเหรียญบาท เราจึงไปหาคลินิค หมอก็จ่ายยามาให้ ความอักเสบ บวมแดงลดลง สัปดาห์ต่อมาก็ยังสังเกตเห็นว่าเจ้าก้อนนี้ยังไม่ยุบไป จึงตัดสินใจไป รพ หาหมอศัลยกรรม หมอก็เลยผ่าให้ตอนบ่าย หลังจากที่เราชำระเงินเสร็จ ก็ดูใบเสร็จ ปรากฏว่าไม่มีค่าส่งตรวจชิ้นเนื้อ... พอผ่าเสร็จเราก็ถามหมอว่า ต้องส่งชิ้นเนื้อตรวจหรือไม่ หมอตอบว่า ปกติไม่ได้ส่งตรวจ ซึ่งตอนนั้นเรางงๆ ก็เลยบอกไปว่า แล้วแต่หมอพิจารณา จากนั้นหมอก็ลองตัดเจ้าชิ้นเนื้อนั้น ปรากฏว่าข้างในเหมือนมีน้ำสีเหลือง (เหมือนหนอง) แล้วหมอก็บอกว่า นี่แร่ะทำให้มันอักเสบ แล้วก็ไม่ได้บอกอะไร เราก็เข้าใจว่า โอเคไม่ต้องส่งชิ้นเนื้อตรวจ แล้วก็ออกใบนัดให้ มาดูแผลอีกทีวันศุกร์หน้า

มาวันนี้รู้สึกเป็นกังวลใจที่หมอไม่ได้ส่งชิ้นเนื้อไปตรวจว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ แล้วเหมือนว่า เค้าจะโยนชิ้นเนื้อทิ้งไปแล้วด้วย

หากชิ้นเนื้อนั้นเป็นเนื้อร้าย แล้วเราจะมีวิธีสังเกตตนเองอย่างไร

ใครมีประสบการณ์การผ่าชีสต์ก้อนไขมันแบบนี้บ้าง แล้วหมอส่งตรวจชิ้นเนื้อเสมอไปหรือไม่

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และขอบคุณทุกคอมเม้นต์ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่