เมื่อค่ำวันที่ 19 / 10 / 2018 ที่ ผ่านมา คุณท่าน แสนดี ผู้นำทางจิตวิญญาณ
ได้มีโอกาส ออกไปชม ภาพยนตร์ เรื่อง First Man (2018) มนุษย์คนแรกบนดวงจันทร์
ในโรงภาพยนตร์ IMAX Westgate Cineplex รอบ 21.00 เลขที่นั่ง H16
First Man มนุษย์คนแรกบนดวงจันทร์
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ความคิดเห็นต่อไปนี้เกิด จากความรู้สึกส่วนบุคคล
หลังจากที่ได้รับชมภาพยนตร์ เรื่อง First Man จบ และ เดินออกมาจาก โรงภาพยนตร์
เริ่มต้นเรื่องของตัว ภาพยนตร์
ทำให้ตัว คุณท่าน แสนดี ผู้นำทางจิตวิญญาณ
รู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้อยู่ในช่วงของวัยแห่งคนยุค Gen-B
พอรับชมมาได้สักพักเริ่มจะเข้ามาเกือบกลางเรื่องแล้ว
ดันมีความรู้สึกเหมือนว่า ตัว คุณท่าน แสนดี ผู้นำทางจิตวิญญาณ
ได้อยู่ในช่วงของวัยแห่งคนยุค เจเนอเรชั่น เอ็กซ์ (Generation X) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Gen-X
ตัวภาพยนตร์ ค่อนข้างที่จะ ให้ความรู้สึกดูออกแนวเศร้านิดๆ
แต่ก็มีกลิ่นอายของความรัก ความเสียสละ สายใยความสัมพันธ์ ความผูกพัน ที่ถักทอด้วยหัวใจ
หล่อหลอมให้เกิดเป็นความหวังและแรงเชื่อมั่นแรงจูงใจในสิ่ง ที่ตนเอง บากบั่น มุ่งมั่น
เพื่อ คนที่รัก และเพื่อนร่วมงานที่เสียสละชีวิต ประเทศชาติ และ มวลมนุษยชาติทั่วทั้งโลก
จนเกิดกลายเป็นพลัง ที่ทำให้ตนเองก้าวข้ามขีดจำกัด ทั้งร่างกาย และ จิตใจ ร่วมถึงความเชื่อ
ที่ทำให้สามารถ ก้าว ผ่านเหตุการณ์อุปสรรค ต่างๆ ในช่วงชีวิตเหล่านี้มาได้
มันเป็นเรื่องราวที่ทำให้ตัว คุณท่าน แสนดี ผู้นำทางจิตวิญญาณ
ต้องมองย้อนกลับไปในช่วงที่โลกเรายังไม่มีอะไร คนที่เสียสละเวลา เพื่อ ค้นคว้า หาเหตุและผล
ที่ต้องแลกด้วยชีวิต เพื่อหาความหมายบางอย่างของชีวิต และ เพื่อการดำรงอยู่
หาความกระจ่าง เพื่อลบล้างความเชื่อในมุมมองความคิดที่ผิดๆ ที่ถูกปลูกฝังกันมายาวนาน
ระหว่างที่ดูมันยิ่งทำให้ มีความ แบบว่า มโนภาพขึ้นมาเลย
อยากถามกลับไปว่า แล้วมันทำให้ ท่านผู้อ่าน มีความรู้สึกเช่นนี้ไหม ?
สำหรับท่านผู้อ่านที่ได้ดูแล้ว เกิดความฉงนใจหรือไม่ ?
ว่าที่พวกเราอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ มีเทคโนโลยี ดีๆใช้
มีความรู้มากมายที่สามารถค้นหาได้ เพียงแค่กระดิกนิ้ว
เดินทางได้เร็วขึ้นสูงขึ้นไกลขึ้น มีแสงสว่างมากมาย ส่องสว่างเกิดขึ้นในเวลากลางคืน
หรือแม้นแต่ มี Pantip ให้ใช้ มี Faceebok ให้เล่น มี Youtube ให้ดู มี iPhone ไว้เป็นผู้จัดการส่วนตัว
ทุกสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ เกิดจากความเสียสละ ของคนรุ่นเก่าเพื่อ มวลมนุษยชาติทั่วทั้งโลก
นี้สงสัย คุณท่าน แสนดี ผู้นำทางจิตวิญญาณ จะเข้าถึงมากจนเกินไป เริ่มจะหลุดพ้นแล้ว อิอิฮ่าๆ
ในตัวตัวภาพยนตร์ เราจะเห็นว่าผู้กำกับจะ สื่อถึง วิถีการแก้ปัญหาต่างๆ ความเป็นมา จาก อะนาล็อก สู่ ดิจิตอล
เพื่อให้ ภาพยนตร์ ดู เรียล และเข้าถึงกลิ่นอาย บรรยากาศ ของความสามารถ ของผู้คนในยุคนั้น
****** สิ่งที่ชอบ ในภาพยนตร์ เรื่อง First Man ********
คือชอบการ ลำดับภาพ ภาพที่ออกมาสวยมากนุ่มลึกคมชัด
แสง มุมกล้อง สำคัญมาก คือเราคนดูรู้เลยว่า ผู้กำกับเค้าใส่ใจทุกรายละเอียด
การลำดับเสียง มันทำให้เข้าถึงความรู้สึกทุกฉาก
เสียง กับ ภาพ และ บทพูด การสื่ออารมณ์ของตัวนักแสดงเอง
มันค่อน ข้างที่จะออกมาได้ สมบูรณ์แบบ คือมันทำให้ไม่อยากคลาดสายตา
รู้สึกว่า คุ้มค่า กับเงิน 210 บาท ที่จ่ายไปเหลือเกิน คุ้มจริงๆ
ไครที่ยังไม่ได้ดูก็รีบไปดูซะน่ะ เพราะว่าการดู ในภาพยนตร์ มันโคตรจะให้ความรู้สึกแบบ
ว่า สะเทือนจิตมากๆ เวลา เสียง กับ ภาพ มันลงตัวกัน ทีมถ่ายทำและลำดับภาพโคตรเก่งอะ
ยิ่งตอน ออกมาจากยานแล้วมาอยู่ในสภาวะแวดล้อม ของดวงจันทร์ มันเงียบสนิทดีจัง อิอิ พีคสุดๆ
หนังดีมากควรได้รับรางวัล
%%%%%%%% สิ่งที่ยากให้เพิ่มเติมหรืออยากให้มีให้เป็น %%%%%%%%
ฉากบนดวงจันทร์ น้อยไปนะ น่าจะมี รายละเอียดมากกว่านี้ ที่มันสมควรจะมี
เช่น ยังไง ทำไร ตรวจสอบอะไร ทดสอบหลักการ หรือ ทดสอบ ทฤษฎี อะไรทำนองนี้
ท้ายเรื่องมันน้อยเกินไปนะน่าจะ เพิ่มได้มากกว่านี้อีก ถ้าจะสุดมากกว่านี้อีกเยอะเลยครับ
แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ สมบูรณ์แบบ รู้สึกรักภาพยนตร์เรื่องนี้เลย ครับจากใจ
ถึงแม้นจะโดนสกิลสตั้นนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร
เป็นภาพยนตร์ชีวประวัติ
สร้างจากหนังสือของ James R. Hansen เรื่อง First Man: The Life of Neil A. Armstrong
[ เผยแพร่ครั้งแรก 1 / 10 / 2005 ]
ผู้กำกับภาพยนตร์ = Damien Chazelle
******************************************************************
ผู้เขียนบทภาพยนตร์
Josh Singer
James R. Hansen
***************************************************************
นักแสดงนำ
Ryan Gosling
Claire Foy
Jason Clarke
Christopher Abbott
Ethan Embry
********************************************************************
ความยาว = 141 นาที
ปี ค.ศ = 2018
ประเภทของภาพยนตร์ = Biography , Drama , History
สตูดิโอ = Amblin Entertainment
ผู้สร้าง = DreamWorks
ผู้จัดจำหน่าย = Perfect World Pictures
โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับ ภารกิจของนาซ่าในการส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์
โดยเน้นเล่าเรื่องนีล อาร์มสตรอง ในช่วงระหว่างปี 1961-1969
เรื่องราวของมนุษย์คนแรกที่เดินทางไปถึงดวงจันทร์
โดยภาพยนตร์จะเผยเรื่องราวการเสียสละและความสำคัญที่มีต่ออาร์มสตรองและต่อชาติ
ความรู้วันละนิด
ช่วงวัยแห่งคนยุค Gen-B คือ ?
ช่วงวัยแห่งคนยุค Gen-B หมายถึงคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2489 – 2507
หรือในยุคสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 สาเหตุ ที่เรียกว่า "เบบี้บูมเมอร์"
ก็เพราะว่าหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง บ้านเมืองที่ผ่านการสู้รบได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ประชากรที่เหลืออยู่ในแต่ละประเทศจึงต้องเร่งฟื้นฟูประเทศให้กลับมาแข็ง แกร่งมั่นคงอีกครั้ง
แต่ทว่า...สงครามที่ผ่านพ้นไปก็ได้คร่ากำลังพล และแรงงานไปเป็นจำนวนมาก
ประเทศเหล่านี้จึงขาดแรงงานในการขับเคลื่อน ประเทศ คนในยุคนั้นจึงมีค่านิยมที่จะต้องมีลูกหลาย ๆ คน
เพื่อสร้างแรงงานขึ้นมาพัฒนาประเทศชาติ จึงเป็นที่มาของคำว่า "เบบี้บูมเมอร์" นั่นเอง
ปัจจุบันนี้ คนยุคเบบี้บูมเมอร์คือคนที่มีอายุตั้งแต่ 49 ปีขึ้นไป และเริ่มเข้าสู่วัยชราแล้ว
คนกลุ่มนี้จึงเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อการทำงาน เคารพกฎเกณฑ์ กติกา มีความอดทนสูง ทุ่มเทให้กับการทำงาน
และองค์กรมาก สู้งาน พยายามคิดและทำอะไรด้วยตัวเอง เป็นเจ้าคนนายคน ถูกครอบครัวสั่งสอนมาให้เป็นคนประหยัด อดออม
จึงมีการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และระมัดระวัง คน ในยุคอื่น ๆ อาจจะมองคนยุคเบบี้บูมเมอร์ว่าเป็นพวก "อนุรักษนิยม"
เป็นคนที่เคร่งครัดในขนบธรรมเนียมประเพณี แต่คนกลุ่มนี้ถือว่าน่าจะมีจำนวนมากที่สุดในสังคมปัจจุบันเลยทีเดียว
เหตุการณ์สำคัญที่คนในรุ่นนี้เคยประสบ หรือเคยได้ยินก็คือ ข่าวความสำเร็จของการส่งนักบินอวกาศไปเหยียบดวงจันทร์
ข่าวการทำสงครามเวียดนาม เป็นต้น
เจเนอเรชั่น เอ็กซ์ (Generation X) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Gen-X คือ ?
ความเป็นมาของยุคคน Gen-X คือหลัง จากยุคเบบี้บูมเมอร์ส่งผลให้เด็กเกิดมากขึ้น
ปัญหาที่ตามมาก็คือ ทรัพยากรที่มีอยู่ในโลกนี้ไม่เพียงพอที่จะจัดสรรให้ได้ทุกคน เมื่อเป็นเช่นนี้
ประชาชนจึงกลับมานั่งคิดว่า หากไม่ควบคุมอัตราการเกิดไว้ สุดท้ายแล้วคนทั้งโลกก็จะขาดแคลนอาหาร
ดังนั้น จึงเกิดเป็นยุค "เจเนอเร ชั่น เอ็กซ์" (Generation X) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "Gen-X"
ที่เป็นกระแสตีกลับจากยุคเบบี้บูมเมอร์ มีการควบคุมอัตราการเกิดของประชากร
อย่างเช่นในประเทศจีนก็มีการรณรงค์ให้คนมีลูกได้เพียง 1 คนเท่านั้น
คนยุคนี้จะเกิดอยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2508-2522 อาจเรียกอีกชื่อว่า "ยับปี้" (Yuppie)
ย่อมาจาก Young Urban Professionals เพราะ เกิดมาพร้อมในยุคที่โลกมั่งคั่งแล้ว
จึงใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เติบโตมากับการพัฒนาของวิดีโอเกม, คอมพิวเตอร์,
สไตล์เพลงแบบฮิปฮอป และอาจทันดูทีวีจอขาวดำด้วย
ปัจจุบัน คนยุค Gen-X เป็นคนวัยทำงาน มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปแล้ว
พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ที่เด่นชัดมากก็คือ ชอบอะไรง่าย ๆ ไม่ต้องเป็นทางการ
ให้ความสำคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว (Work–life balance)
มีแนวคิดและการทำงานในลักษณะรู้ทุกอย่างทำทุกอย่างได้เพียงลำพังไม่พึ่งพาใคร
เป็นตัวของตัวเองสูง มีความคิดเปิดกว้าง มีความคิดสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตาม
หลายคนใน Gen-X มีแนวโน้มที่จะต่อต้านสังคม ไม่ได้เชื่อเรื่องศาสนา
และ ไม่ได้ยึดขนบธรรมเนียมประเพณีมากนัก เป็นคนที่มีความยืดหยุ่น
ในการปรับตัวกับวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป อย่างเช่นมองว่าการอยู่ก่อนแต่ง
หรือการหย่าร้างก็เป็นเรื่องปกติ เช่นเดียวกับเรื่องเพศที่ 3
ซึ่งต่างจากกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่มองเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องผิดจารีตประเพณี เป็นอย่างยิ่ง
[CR] First Man (2018) มนุษย์คนแรกบนดวงจันทร์ หนังดีเกินจินตนาการ !!!
เมื่อค่ำวันที่ 19 / 10 / 2018 ที่ ผ่านมา คุณท่าน แสนดี ผู้นำทางจิตวิญญาณ
ได้มีโอกาส ออกไปชม ภาพยนตร์ เรื่อง First Man (2018) มนุษย์คนแรกบนดวงจันทร์
ในโรงภาพยนตร์ IMAX Westgate Cineplex รอบ 21.00 เลขที่นั่ง H16
First Man มนุษย์คนแรกบนดวงจันทร์
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ความคิดเห็นต่อไปนี้เกิด จากความรู้สึกส่วนบุคคล
หลังจากที่ได้รับชมภาพยนตร์ เรื่อง First Man จบ และ เดินออกมาจาก โรงภาพยนตร์
เริ่มต้นเรื่องของตัว ภาพยนตร์
ทำให้ตัว คุณท่าน แสนดี ผู้นำทางจิตวิญญาณ
รู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้อยู่ในช่วงของวัยแห่งคนยุค Gen-B
พอรับชมมาได้สักพักเริ่มจะเข้ามาเกือบกลางเรื่องแล้ว
ดันมีความรู้สึกเหมือนว่า ตัว คุณท่าน แสนดี ผู้นำทางจิตวิญญาณ
ได้อยู่ในช่วงของวัยแห่งคนยุค เจเนอเรชั่น เอ็กซ์ (Generation X) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Gen-X
ตัวภาพยนตร์ ค่อนข้างที่จะ ให้ความรู้สึกดูออกแนวเศร้านิดๆ
แต่ก็มีกลิ่นอายของความรัก ความเสียสละ สายใยความสัมพันธ์ ความผูกพัน ที่ถักทอด้วยหัวใจ
หล่อหลอมให้เกิดเป็นความหวังและแรงเชื่อมั่นแรงจูงใจในสิ่ง ที่ตนเอง บากบั่น มุ่งมั่น
เพื่อ คนที่รัก และเพื่อนร่วมงานที่เสียสละชีวิต ประเทศชาติ และ มวลมนุษยชาติทั่วทั้งโลก
จนเกิดกลายเป็นพลัง ที่ทำให้ตนเองก้าวข้ามขีดจำกัด ทั้งร่างกาย และ จิตใจ ร่วมถึงความเชื่อ
ที่ทำให้สามารถ ก้าว ผ่านเหตุการณ์อุปสรรค ต่างๆ ในช่วงชีวิตเหล่านี้มาได้
มันเป็นเรื่องราวที่ทำให้ตัว คุณท่าน แสนดี ผู้นำทางจิตวิญญาณ
ต้องมองย้อนกลับไปในช่วงที่โลกเรายังไม่มีอะไร คนที่เสียสละเวลา เพื่อ ค้นคว้า หาเหตุและผล
ที่ต้องแลกด้วยชีวิต เพื่อหาความหมายบางอย่างของชีวิต และ เพื่อการดำรงอยู่
หาความกระจ่าง เพื่อลบล้างความเชื่อในมุมมองความคิดที่ผิดๆ ที่ถูกปลูกฝังกันมายาวนาน
ระหว่างที่ดูมันยิ่งทำให้ มีความ แบบว่า มโนภาพขึ้นมาเลย
อยากถามกลับไปว่า แล้วมันทำให้ ท่านผู้อ่าน มีความรู้สึกเช่นนี้ไหม ?
สำหรับท่านผู้อ่านที่ได้ดูแล้ว เกิดความฉงนใจหรือไม่ ?
ว่าที่พวกเราอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ มีเทคโนโลยี ดีๆใช้
มีความรู้มากมายที่สามารถค้นหาได้ เพียงแค่กระดิกนิ้ว
เดินทางได้เร็วขึ้นสูงขึ้นไกลขึ้น มีแสงสว่างมากมาย ส่องสว่างเกิดขึ้นในเวลากลางคืน
หรือแม้นแต่ มี Pantip ให้ใช้ มี Faceebok ให้เล่น มี Youtube ให้ดู มี iPhone ไว้เป็นผู้จัดการส่วนตัว
ทุกสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ เกิดจากความเสียสละ ของคนรุ่นเก่าเพื่อ มวลมนุษยชาติทั่วทั้งโลก
นี้สงสัย คุณท่าน แสนดี ผู้นำทางจิตวิญญาณ จะเข้าถึงมากจนเกินไป เริ่มจะหลุดพ้นแล้ว อิอิฮ่าๆ
ในตัวตัวภาพยนตร์ เราจะเห็นว่าผู้กำกับจะ สื่อถึง วิถีการแก้ปัญหาต่างๆ ความเป็นมา จาก อะนาล็อก สู่ ดิจิตอล
เพื่อให้ ภาพยนตร์ ดู เรียล และเข้าถึงกลิ่นอาย บรรยากาศ ของความสามารถ ของผู้คนในยุคนั้น
****** สิ่งที่ชอบ ในภาพยนตร์ เรื่อง First Man ********
คือชอบการ ลำดับภาพ ภาพที่ออกมาสวยมากนุ่มลึกคมชัด
แสง มุมกล้อง สำคัญมาก คือเราคนดูรู้เลยว่า ผู้กำกับเค้าใส่ใจทุกรายละเอียด
การลำดับเสียง มันทำให้เข้าถึงความรู้สึกทุกฉาก
เสียง กับ ภาพ และ บทพูด การสื่ออารมณ์ของตัวนักแสดงเอง
มันค่อน ข้างที่จะออกมาได้ สมบูรณ์แบบ คือมันทำให้ไม่อยากคลาดสายตา
รู้สึกว่า คุ้มค่า กับเงิน 210 บาท ที่จ่ายไปเหลือเกิน คุ้มจริงๆ
ไครที่ยังไม่ได้ดูก็รีบไปดูซะน่ะ เพราะว่าการดู ในภาพยนตร์ มันโคตรจะให้ความรู้สึกแบบ
ว่า สะเทือนจิตมากๆ เวลา เสียง กับ ภาพ มันลงตัวกัน ทีมถ่ายทำและลำดับภาพโคตรเก่งอะ
ยิ่งตอน ออกมาจากยานแล้วมาอยู่ในสภาวะแวดล้อม ของดวงจันทร์ มันเงียบสนิทดีจัง อิอิ พีคสุดๆ
หนังดีมากควรได้รับรางวัล
%%%%%%%% สิ่งที่ยากให้เพิ่มเติมหรืออยากให้มีให้เป็น %%%%%%%%
ฉากบนดวงจันทร์ น้อยไปนะ น่าจะมี รายละเอียดมากกว่านี้ ที่มันสมควรจะมี
เช่น ยังไง ทำไร ตรวจสอบอะไร ทดสอบหลักการ หรือ ทดสอบ ทฤษฎี อะไรทำนองนี้
ท้ายเรื่องมันน้อยเกินไปนะน่าจะ เพิ่มได้มากกว่านี้อีก ถ้าจะสุดมากกว่านี้อีกเยอะเลยครับ
แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ สมบูรณ์แบบ รู้สึกรักภาพยนตร์เรื่องนี้เลย ครับจากใจ
ถึงแม้นจะโดนสกิลสตั้นนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร
เป็นภาพยนตร์ชีวประวัติ
สร้างจากหนังสือของ James R. Hansen เรื่อง First Man: The Life of Neil A. Armstrong
[ เผยแพร่ครั้งแรก 1 / 10 / 2005 ]
ผู้กำกับภาพยนตร์ = Damien Chazelle
******************************************************************
ผู้เขียนบทภาพยนตร์
Josh Singer
James R. Hansen
***************************************************************
นักแสดงนำ
Ryan Gosling
Claire Foy
Jason Clarke
Christopher Abbott
Ethan Embry
********************************************************************
ความยาว = 141 นาที
ปี ค.ศ = 2018
ประเภทของภาพยนตร์ = Biography , Drama , History
สตูดิโอ = Amblin Entertainment
ผู้สร้าง = DreamWorks
ผู้จัดจำหน่าย = Perfect World Pictures
โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับ ภารกิจของนาซ่าในการส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์
โดยเน้นเล่าเรื่องนีล อาร์มสตรอง ในช่วงระหว่างปี 1961-1969
เรื่องราวของมนุษย์คนแรกที่เดินทางไปถึงดวงจันทร์
โดยภาพยนตร์จะเผยเรื่องราวการเสียสละและความสำคัญที่มีต่ออาร์มสตรองและต่อชาติ
ความรู้วันละนิด
ช่วงวัยแห่งคนยุค Gen-B คือ ?
ช่วงวัยแห่งคนยุค Gen-B หมายถึงคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2489 – 2507
หรือในยุคสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 สาเหตุ ที่เรียกว่า "เบบี้บูมเมอร์"
ก็เพราะว่าหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง บ้านเมืองที่ผ่านการสู้รบได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ประชากรที่เหลืออยู่ในแต่ละประเทศจึงต้องเร่งฟื้นฟูประเทศให้กลับมาแข็ง แกร่งมั่นคงอีกครั้ง
แต่ทว่า...สงครามที่ผ่านพ้นไปก็ได้คร่ากำลังพล และแรงงานไปเป็นจำนวนมาก
ประเทศเหล่านี้จึงขาดแรงงานในการขับเคลื่อน ประเทศ คนในยุคนั้นจึงมีค่านิยมที่จะต้องมีลูกหลาย ๆ คน
เพื่อสร้างแรงงานขึ้นมาพัฒนาประเทศชาติ จึงเป็นที่มาของคำว่า "เบบี้บูมเมอร์" นั่นเอง
ปัจจุบันนี้ คนยุคเบบี้บูมเมอร์คือคนที่มีอายุตั้งแต่ 49 ปีขึ้นไป และเริ่มเข้าสู่วัยชราแล้ว
คนกลุ่มนี้จึงเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อการทำงาน เคารพกฎเกณฑ์ กติกา มีความอดทนสูง ทุ่มเทให้กับการทำงาน
และองค์กรมาก สู้งาน พยายามคิดและทำอะไรด้วยตัวเอง เป็นเจ้าคนนายคน ถูกครอบครัวสั่งสอนมาให้เป็นคนประหยัด อดออม
จึงมีการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และระมัดระวัง คน ในยุคอื่น ๆ อาจจะมองคนยุคเบบี้บูมเมอร์ว่าเป็นพวก "อนุรักษนิยม"
เป็นคนที่เคร่งครัดในขนบธรรมเนียมประเพณี แต่คนกลุ่มนี้ถือว่าน่าจะมีจำนวนมากที่สุดในสังคมปัจจุบันเลยทีเดียว
เหตุการณ์สำคัญที่คนในรุ่นนี้เคยประสบ หรือเคยได้ยินก็คือ ข่าวความสำเร็จของการส่งนักบินอวกาศไปเหยียบดวงจันทร์
ข่าวการทำสงครามเวียดนาม เป็นต้น
เจเนอเรชั่น เอ็กซ์ (Generation X) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Gen-X คือ ?
ความเป็นมาของยุคคน Gen-X คือหลัง จากยุคเบบี้บูมเมอร์ส่งผลให้เด็กเกิดมากขึ้น
ปัญหาที่ตามมาก็คือ ทรัพยากรที่มีอยู่ในโลกนี้ไม่เพียงพอที่จะจัดสรรให้ได้ทุกคน เมื่อเป็นเช่นนี้
ประชาชนจึงกลับมานั่งคิดว่า หากไม่ควบคุมอัตราการเกิดไว้ สุดท้ายแล้วคนทั้งโลกก็จะขาดแคลนอาหาร
ดังนั้น จึงเกิดเป็นยุค "เจเนอเร ชั่น เอ็กซ์" (Generation X) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "Gen-X"
ที่เป็นกระแสตีกลับจากยุคเบบี้บูมเมอร์ มีการควบคุมอัตราการเกิดของประชากร
อย่างเช่นในประเทศจีนก็มีการรณรงค์ให้คนมีลูกได้เพียง 1 คนเท่านั้น
คนยุคนี้จะเกิดอยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2508-2522 อาจเรียกอีกชื่อว่า "ยับปี้" (Yuppie)
ย่อมาจาก Young Urban Professionals เพราะ เกิดมาพร้อมในยุคที่โลกมั่งคั่งแล้ว
จึงใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เติบโตมากับการพัฒนาของวิดีโอเกม, คอมพิวเตอร์,
สไตล์เพลงแบบฮิปฮอป และอาจทันดูทีวีจอขาวดำด้วย
ปัจจุบัน คนยุค Gen-X เป็นคนวัยทำงาน มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปแล้ว
พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ที่เด่นชัดมากก็คือ ชอบอะไรง่าย ๆ ไม่ต้องเป็นทางการ
ให้ความสำคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว (Work–life balance)
มีแนวคิดและการทำงานในลักษณะรู้ทุกอย่างทำทุกอย่างได้เพียงลำพังไม่พึ่งพาใคร
เป็นตัวของตัวเองสูง มีความคิดเปิดกว้าง มีความคิดสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตาม
หลายคนใน Gen-X มีแนวโน้มที่จะต่อต้านสังคม ไม่ได้เชื่อเรื่องศาสนา
และ ไม่ได้ยึดขนบธรรมเนียมประเพณีมากนัก เป็นคนที่มีความยืดหยุ่น
ในการปรับตัวกับวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป อย่างเช่นมองว่าการอยู่ก่อนแต่ง
หรือการหย่าร้างก็เป็นเรื่องปกติ เช่นเดียวกับเรื่องเพศที่ 3
ซึ่งต่างจากกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่มองเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องผิดจารีตประเพณี เป็นอย่างยิ่ง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น