...รีรัน: "ยิ่งลักษณ์ไม่ใช่ "นารีขี่ม้าขาว" คนแรกจากเชียงใหม่.../วชรน.

กระทู้คำถาม
ราชวงศ์เม็งรายมีพญาเม็งรายเป็นปฐมกษัตริย์แห่งเชียงใหม่   พระองค์ทรงพาไพร่ฟ้าประชาชนเสาะแสวงหาทำเลเพื่อ "สร้างบ้านแปงเมือง" ตั้งแต่เชียงราย  เมืองฝาง เวียงกุมกาม   ลำพูน   สุดท้ายพระองค์ก็ทรงได้ที่ราบลุ่มแม่น้ำปิงตอนบนเป็นจุดศูนย์กลางแล้วแผ่อาณาจักรไปอย่างกว้างขวางดั่งสมญานามของชื่อแคว้น "ล้านนา"   มีการสืบราชวงศ์มาอย่างยาวนานหลายพระองค์และหลายร้อยปี (จนมาถึงยุค ร.๕)   บางรัชสมัยบ้านเมืองก็ออกศึกสงคราม  บางรัชสมัยก็สงบรื่นรมย์จึงมาถึงยุคของพระเมืองเกษเกล้าที่มีพระนางมหาเทวีจิระประภาเป็นมเหสี    เหตุการณ์บ้านเมืองในเชียงใหม่ตอนนั้นปั่นป่วน   ด้วยว่าเหล่ามุขมนตรีมหาอำมาตย์แตกแยกมีใจฝักใฝ่แคว้นอื่นๆ อยู่  เพราะเชียงใหม่ขนาบด้วยแคว้นเชียงแสนและหลวงพระบาง  ด้านตะวันออก  ด้านเหนือก็เมืองแสนหวีลงไปจนถึงพุกาม ตองอู  ใต้ลงมาแคว้นอยุธยา   สุดท้ายพระเมืองเกษเกล้าฯก็ถูกลอบปลงพระชนม์(ความจริงพระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นครั้งที่สอง)    การสรรหาผู้สืบสันตติวงศ์ก็เป็นไปอยางปั่นป่วน   อำมาตย์ฝ่ายนั้นก็จะเอาพระองค์นั้นมาสืบราชฯ  ฝ่ายหนึ่งก็จะเอาอีกพระองค์ฯ   สุดท้ายก็ตกลงพร้อมใจกันเห็นว่าพระนางมหาเทวีจิระประภาเจ้าควรเสด็จขึ้นครองราชย์ต่อจากพระสวามี    ตรงนี้ก็น่าชื่นชมนะครับ  แม้จะขัดแย้งกันจะเป็นจะตาย   สุดท้ายก็โหวตกันว่าจะเอาพระนางจิระประภาตามเสียง "ส่วนใหญ่"   ก็ยอมตามกันโดยไม่เกี่ยงว่าเป็นผู้หญิง      ตรงนี้ใครที่เคยเหยียดหยามคนอื่นว่าไม่รู้จักประชาธิปไตย  ว่าเสียงโหวตไม่มีค่าเท่าคนกรุงก็คิดเสียใหม่นะครับ   อย่าลืมว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นมาแล้วหลายร้อยปีแล้ว (ว่าไปทำไมมี?  อย่าว่าแต่โหวตเลือกผู้นำเลยครับ  โหวตขับไล่ผู้นำก็เคยมีมาแล้วในสมัยนั้น  แต่ผมไม่กล้านำมาเล่า กลัวอมยิ้มปลิว)



พระนางจิระประภาเจ้าทรงเป็น "กษัตรีย์" พระองค์แรกแห่งอาณาจักรเชียงใหม่ (ไม่เกี่ยวกับพระนางจามเทวีที่เล่าเมื่อวานนะครับอย่าสับสน)  ช่วงที่ครองราชสมบัติก็มีเหตุการณ์วุ่นวายให้ต้องแก้ไขไม่ว่างเว้น   "ศึกใน" ก็คือเหล่ามหาอำมาตย์มุขมนตรีก็ยังฮึมๆ ใส่กันอยู่  "ศึกนอก" ยิ่งหนักกว่าเมื่อกองทัพของพระไชยราชาธิราชจากอยุธยายกทัพหลวงหมายจะเข้าตีเชียงใหม่     ในภาวะคับขันเช่นนี้...พระนางจะพึ่งใครก็คงพึ่งได้ยากและมีแนวโน้มว่าคงจะพ่ายกองทัพอยุธยาเป็นแน่      บาทหลวงชาวฮอลันดา(ปินโต)บันทึกเอาไว้ว่า   กองทัพอยุธยาที่ยกมาล้อมเชียงใหม่ครานี้มีทหารรับจ้างชาวโปรตุเกสหนึ่งกองร้อยพร้อมปืนไฟทำให้เป็นต่อเชียงใหม่อยู่หลายขุม      สุดท้าย...พระนางตัดสินใจใช้ "น้ำเย็น" เข้าลูบ   โดยแต่งพานพุ่มออกมาแสดงความสวามิภักดิ์ต่อพระไชยราชาธิราชและเปิดประตูเมืองเชียงใหม่ให้ทัพอยุธยาเข้าอย่างง่ายดาย   ด้วยเหตุว่าไม่เห็นวิธีอื่นใดในการที่จะรักษาเมืองไว้มากไปกว่าวิธีนี้    หากใครได้เคยดูหนังเรื่อง "สุริโยทัย"   คงเห็นฉากที่คุณเพ็ญพักตร์   แต่งชุดเจ้านางของเชียงใหม่ออกมาต้อนรับพระไชยราชาธิราช(แสดงโดยคุณพงพัฒน์)นั่นแหละครับพระนางมหาเทวีจิระประภา   ในเรื่องอาจจะไม่เด่น  เพราะเป็นหนังที่สร้างเพื่อเชิดชูอยุธยาโดยเฉพาะ


เมืองเชียงใหม่จึงรอดพ้นจากกองทัพอยุธยา   ซึ่งต่อมาพระนางจิระประภาก็ติดต่อกับทางล้านช้างหลวงพระบาง   ซึ่งมีพระเจ้าโพธิสาราชอันเป็นพระลูกเขยของพระนางจิระประภาเองให้มาช่วยเสริมกำลัง  เผื่อว่าอยุธยาจะย้อนทัพกลับมาอีก    จริงดั่งคาด....อยุธยาย้อนกลับมาอีกครา   คราวนี้สู้รบกันอย่างแข็งขัน   สมเด็จพระไชยราชาธิราชได้รับบาดเจ็บ   จึงยกทัพกลับอยุธยา...ซึ่งต่อมาพระองค์ก็เสด็จสวรรค์คต    นัยว่าโดนลอบวางยาพิษจากแม่หยัวเมืองศรีสุดาจันทร์(ตามหนังเรื่องสุริโยทัย)


หลังจากเสร็จศึกกับอยุธยาแล้ว   พระนางจิระประภาก็สละราชย์โดยทรงโปรดให้พระเจ้าหลานเธอคือ "พระไชยเชษฐาธิราช" จากหลวงพระบางมาสืบราชย์ต่อจากพระนาง   พระนางครองราชย์ได้เพียงปีกว่า   ส่วนพระไชยเชษฐาธิราชก็ครองราชย์ได้ไม่นานคือปีกว่าๆ เช่นกันก็ต้องเสด็จกลับหลวงพระบางด้วยว่าพระราชบิดาเสด็จสวรรคตอย่างกระทันหัน(ตำราฝั่งลาวบอกว่าช้างล้มทับพระองค์)    ช่วงที่เสด็จกลับนี้พระองค์ก็ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปด้วย   ส่วนพระนางจิระประภาก็เสด็จตามด้วย   แล้วพระนางก็สิ้นพระชนม์ที่เมืองหลวงพระบางนั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่