สวัสดีทุกๆท่าน ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะครับ เจ้าของกระทู้มีภารกิจต้องเดินทางไปทำงานที่ภาคอีสานเป็นเวลา 1 สัปดาห์ พร้อมเพื่อน 1 คน โดยมีเงื่อนไขว่า การเบิกค่าเดินทางนั้น จะต้องไม่เกิน คนละ 1,000 บาทต่อเที่ยว ดังนั้นในวันที่เราทำเรื่องเบิกงบจากบริษัทแล้ว พอตรวจสอบตารางการทำงาน เราจะไปที่แรกคือ จังหวัดอุบลราชธานี แห่งนี้นี่เองงงง
ก็รีบเช็คค่าตั๋วเครื่องบินเลย เจอในราคา 1,300 บาท++ เลยพับแผนที่จะบินไป พอไปดูสายรถทัวร์ ก็สงสารร่างกายตัวเอง เพราะตัวจขกท และเพื่อนร่วมทาง เราแบกน้ำหนักตัวเองมามากโข การเดินทางไกลคงลำบากแน่นอนฮะ ดังนั้น รถไฟจึงเป็นทางออกของปัญหานี้ แต่ช้าก่อน!!! มานั่งนึกๆดู ครั้งสุดท้ายที่จขกท ใช้บริการรถไฟไทย(ไม่นับแอร์พอร์ตลิงค์และ MRT นะครับ) ก็ประมาณ 25 ปีก่อนทีเดียวล่ะ ภาพความทรงจำเด่นชัดในเรื่องของบรรยากาศ กลิ่น และการบริการ แลัววันนี้การรถไฟไทยมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง ดังนั้น ขอเชิญทุกท่าน ติดตามชมกระทู้ รีวิว รถไฟไทย รถด่วนพิเศษอีสานวัฒนา พร้อมภาพกันเลยนะครับ
รูปสถานีรถไฟหัวลำโพง เวลาประมาณ 20.00 น.
1.
การจองตั๋วและการให้บริการของเจ้าหน้าที่
แน่นอนฮะ รถไฟ ไม่ใช่รถเมล์ ที่จะขึ้นแล้วไปจ่ายค่าเดินทางบนรถได้ เเราต้องจองตั๋วก่อนนะเออ อย่ารอช้า รีบๆเข้าไปจองตั๋วในลิงค์นี้ให้เร็วพลัน
https://www.thairailwayticket.com/ ซึ่งการเข้าไปตรวจสอบรอบการเดินทาง ควรจะต้องสมัครสมาชิกก่อนนะครับ ก็ยุ่งยากนิดนึงเนาะ แต่เอาน่ะ ยุคปัจจุบัน เราก็ต้องร่วมสมัย รูปแบบหน้าเว็ปจะออกมาแบบนี้ฮะ (ชี้แจงว่า รูปที่แคปมานี้ แคปวันที่ตั้งกระทู้นะครับ วันเดินทางจริงนั้นก่อนหน้าสัปดาห์นึง)
สวยงาม ไฉไล จ๊าบป่ะล่ะ
หลังจาก Reggister และ Loginเรียบร้อย เราก็ไปเลือกสายเส้นทาง จะมี สายเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และใต้ นะครับ จากนั้นก็จะมีสถานีที่เราจะลง ขึ้นมาให้เลือกเเพียบเลย อันนี้ต้องใช้ทักษะในการไล่ดูทีละนิดๆ เมื่อเลือกสถานีได้แล้ว ก็กด ค้นหาขบวนรถ ก็จะได้เที่ยวรถมาแบบหน้านี้ครับ
มีตัวเลือกให้เยอะเลย เป็นศัพท์ที่ไม่ค่อยเข้าใจอีกต่างหาก นั่งงงอยู่นาน อะไรคือด่วน อะไรคือด่วนพิเศษ มีขบวนเป็นตัวเลขมาอีก
ทางผมก็ได้เลือก ประเภทด่วนพิเศษ เพราะเราอยากเป็นคนพิเศษ เดี๋ยวๆๆ ไม่ใช่ๆ คือด่วนพิเศษเนี่ย จะเป็นตู้นอนฮะ เราควรนอนไป ขบวนที่ 23 อันนี้คงเป็นตัวเลขลำดับที่ของเขาล่ะนะ อ่ะ กดจองไป ก็จะเป็นแบบนี้
ขึ้นว่าเต็มซะงั้น ซึ่งในวันที่ผมจองคือวันที่ 5 ตุลาคม 61 ก็ขอยืนยันว่า ขึ้นว่าเต็มเหมือนกัน ยังไงก็จองไม่ได้ เครียดมาก กลัวการนั่งรถทัวร์สุดๆ
แต่เด็กขี้ฟ้องอย่างผม มีหรือจะยอมง่ายๆ เลยโทรหา Call Center 1690 บอกเลยว่า ติดต่อง่ายมาก กดต่อแค่1-2ครั้ง รอไม่นานก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่แล้ว เจ้าหน้าที่ เสียงหวาน ให้ข้อมูลดี ให้คำแนะนำครบถ้วน และบอกว่า อย่าไปยึดมั่นกับระบบออนไลน์ เพราะมันไม่เสถียร รอบที่ผมต้องการเดินทางนั้นว่างอยู่ แต่ไม่สามารถจองออนไลน์ได้ ต้องไปซื้อตั๋วที่สถานีเท่านั้น สถานีไหนก็ได้ที่ใกล้เราที่สุด ทางผมก็เลือกสถานีหัวหมากครับ เพราะใกล้ที่ทำงาน เมื่อไปถึง แจ้งรอบ และวันเดินทาง ซื้อได้เลย แต่ Remark 1 : ไว้ว่า เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบบัตรประชาชนทุกที่นั่งนะครับ คนก่อนหน้าผมไม่ได้เอาบัตรประชาชนมา เขาไม่ขายให้เลยอย่างสิ้นเชิงครับ การพูดจาให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่สุภาพมาก ใจเย็นมาก ขอชมเชยจากใจจริง
ได้ตั๋วมาแล้วครับ ระบุชื่อผู้เดินทางและรายละเอียดต่างๆ อย่างชัดเจน
2.
วันเดินทาง
จขกท เดินทางไปสถานีหัวลำโพงด้วย แอร์พอร์ตลิงค์หัวหมาก ลงที่มักกะสัน ต่อ MRT(ใต้ดิน) ไปถึงสถานีหัวลำโพงได้เลย ชีวิตดี๊ดีย์ ติดแค่ตอนนั่งแท็กซี่ไปสถานีรถไฟฟ้านี่แหละ เส้นศรีนครินทร์ ติดสาหัสมาก
บรรยากาศคลาสสิค สวยงามตามท้องเรื่อง
ช่องจำหน่ายตั๋วและบรรยากาศโดยรอบภายในสถานีรถไฟหัวลำโพง
Remark 2: มีบริษัทรับฝากกระเป๋า ซึ่งคิดราคาแพงและไม่สมเหตุสมผล จขกท มีกระเป๋าลากเล็ก 1 ใบ เขาคิด 60 บาท
มีป้ายดิจิตอล บอกรายละเอียดชัดเจน
ด้านนอกห้องโถง เป็นชานชลา มีผู้เดินทางไปรอเวลาขึ้นรถอยู่เยอะทีเดียว แต่ตรงนี้ขอแนะนำว่า อยากให้การรถไฟ เพิ่มแสงสว่างมากขึ้น เก้าอี้เป็นแถวๆ บุนวม แต่ชำรุดเยอะมาก ไม่สบายตา บรรยากาศเครียดๆ กลิ่นน้ำมันคละคลุ้ง
และแล้วก็เกิดเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดจนได้ครับ นั่นคือ!!!
รถไฟแจ้งว่ามีการดีเลย์จ้าาาา ถ้าไม่ดีเลย์ ไม่ใช่รถไฟไทย สมชื่อจริงๆ แต่ในเวลานั้นหากเราไปถามเจ้าหน้าที่ เขาจะให้ข้อมูลมาอย่างครบถ้วนเลย วันเดินทางนั้นเกิดเหตุ พายุเข้าในช่วงเย็น ทำให้มีต้นไม้ล้มไปทับราง รถไฟจึงออกจากท่ามาไม่ได้ ซึ่งพอเราได้ฟังเหตุผลแล้ว ก็สบายใจขึ้น รู้ว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆล่ะนะ เรื่องฟ้าฝน ใครจะไปคอนโทรลได้
3.
เมื่อรถไฟมาถึง และเริ่มเเดินทาง
ดีเลย์ไป 1 ชั่วโมงเต็มครับ รถไฟขบวนอีสานวัฒนาก็มา
ประตูเข้าโบกี้ ดูใหม่ๆ สวยดีเนอะ เจ้าหน้าที่กระซิบว่า รถไฟขบวนนี้อายุ 2 ขวบแล้วนะ แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ทู๊ยูวววว
ที่นั่ง ขนาดพอเหมาะกับร่างกาย ไม่เมื่อยมาก สบายๆ เด็กๆนั่ง2 คนได้ (ถ่ายรูปเบลอ ข้าน้อยสมควรตาย)
มีโต๊ะกางได้ พับได้ ให้วางสิ่งของ(ไม่ควรวางของหนักมาก อย่างกระเป๋าเดินทางงี้ ไม่ควร)
บรรยากาศในโบกี้ เห็นชั้นบน ล่างและยาวไป
อันนี้คือเหล็กพับได้เป็นบันได ใต่ขึ้นชั้นที่นอนบน
และที่เริ่ด ดีงามสุดๆ คือ มีปลั๊กไฟ 220 V ให้ทุกที่นั่ง บน ล่างด้วยจ้า หมดปัญหาแบตหมด ระหว่างการเดินทาง นอนเล่น ชาร์จไฟไปทั้งคืน ตื่นมาแบตเต็ม สบายใจ
มาดูในห้องน้ำกัน
ประตูเข้าเเป็นแบบผลัก ดันเข้าไป ระยะข้างในแคบๆ
แยกห้องโถปัสาวะชายแบบชัดเจน หมดปัญหา ฉี่ท่านชาย หยดลงฝารองนั่ง ห้องน้ำหญิง
ส่วนห้องถ่ายหนัก ใช้ห้องเดียวกับห้องน้ำสุภาพสตรี และห้องโถนั่ง มี2 ห้อง ใช้กัน 2 ตู้โบกี้นะจ๊ะ แบ่งๆกันไป
โถนั่ง สะอาดเอี่ยมอ่อง ไม่มีกลิ่นโชยออกมา
กลอนล็อค เปิดง่าย แข็งแรง
อ่างล้างมือ มีระบุ อย่าดื่มเชียว ไม่อร่อย
ปุ่มกดชักโครก ลองใช้แล้ว เป็นแรงดันลมดูดลงไปครับ
สายชำระ ก็ดูสะอาดสะอ้านดีนะครับ
อ่ะ มาดูจุด ล้างหน้า แปรงฟัน ด้านนอกกันบ้าง
มีอ่างชำระ 2 ช่อง ไม่ต้องแย่งกัน มีกระดาษชำระให้ในปริมาณที่เต็มเอี๊ยด
ไปดูตู้เสบียงกันครับ
ตู้เสบียงจะอยู่ตู้ที่ 7 จขกท อยู่ตู้ที่2ครับ เดินกันไปยาวๆ อาหารที่จำหน่ายจะมีคาว หวาน เครื่องดื่มร้อน เย็น ครบครัน มีที่นั่ง 8-10 โต๊ะ แต่ละโต๊ะนั่งได้ 2-4 คน มาเดี่ยวๆก็ขอนั่งกับท่านอื่น ที่โต๊ะว่างอยู่ก็ได้ อาหารสามารถสั่งให้ไปเสิร์ฟ ที่ ที่นั่งของเราได้ด้วยนะ มี Wifi ให้ด้วย เฉพาะตู้เสบียงเท่านั้น เปิดบริการตั้งแต่รถออก จนถึง 22.00 น. Remark 3 : ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำหน่ายนะครับ
กาแฟคาปูชิโนร้อน กับบรรยากาศยามเช้า 6.00 น. ที่ตู้เสบียงครับ สวยงาม สบายตา แต่กาแฟไม่อร่อยเลย จืดสนิท
4.
ถึงจุดหมาย อุบลราชธานี
โฉมหน้าหัวรถจักรที่พา จขกท เดินทางมาถึงจุดหมาย
บรรยากาศชานชลา อุบลฯ
ป้ายหน้าสถานี
มีภาษาประเทศเพื่อนบ้านด้วย น่ารักครับ
ขอเพิ่มเติมเกร็ดการเดินทางเล็กน้อยนะครับ
- ภายในสถานี และบนรถไฟ ห้ามเด็ดขาด คือ การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดครับ
- หลังจากพนักงานตรวจตั๋วแล้ว ควรเก็บตั๋วไว้ตลอดการเดินทางนะครับ
- พนักงานทุกคนสุภาพ คาดว่ามีการฝึกอบรมมาดี ปูเตียงไวเว่อร์ 1นาที 40 วินาที ปูเตียงบน ล่างเสร็จครับ
- ของมีค่า ระมัดระวังหายนะครับ
- ควรรักษาความสะอาด และรักษามารยาทในการอยู่ร่วมกันจะทำให้การเดินทางมีความสุขครับ
- ระหว่างการเดินทาง ตำรวจรถไฟ เดินตรวจถี่มากครับ
- อุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่แท็กซี่กดมิเตอร์ทุกคันครับ เริ่มที่40บาท แต่ถ้าโทรเข้าศูนย์เรียกรถ เราจะได้รถ100% รอไม่นาน แต่เสียเพิ่ม 20 บาท จากมิเตอร์ และมีแอพลิเคชั่นสำหรับเรียกแท็กซี่ด้วย มีคิดค่าบริการเพิ่ม
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ เรียนเชิญทุกท่าน สนทนากันในช่อง ความคิดเห็นได้เลยนะครับ
[CR] รีวิว รถไฟไทย รถด่วนพิเศษอีสานวัฒนา กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี
ก็รีบเช็คค่าตั๋วเครื่องบินเลย เจอในราคา 1,300 บาท++ เลยพับแผนที่จะบินไป พอไปดูสายรถทัวร์ ก็สงสารร่างกายตัวเอง เพราะตัวจขกท และเพื่อนร่วมทาง เราแบกน้ำหนักตัวเองมามากโข การเดินทางไกลคงลำบากแน่นอนฮะ ดังนั้น รถไฟจึงเป็นทางออกของปัญหานี้ แต่ช้าก่อน!!! มานั่งนึกๆดู ครั้งสุดท้ายที่จขกท ใช้บริการรถไฟไทย(ไม่นับแอร์พอร์ตลิงค์และ MRT นะครับ) ก็ประมาณ 25 ปีก่อนทีเดียวล่ะ ภาพความทรงจำเด่นชัดในเรื่องของบรรยากาศ กลิ่น และการบริการ แลัววันนี้การรถไฟไทยมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง ดังนั้น ขอเชิญทุกท่าน ติดตามชมกระทู้ รีวิว รถไฟไทย รถด่วนพิเศษอีสานวัฒนา พร้อมภาพกันเลยนะครับ
รูปสถานีรถไฟหัวลำโพง เวลาประมาณ 20.00 น.
1. การจองตั๋วและการให้บริการของเจ้าหน้าที่
แน่นอนฮะ รถไฟ ไม่ใช่รถเมล์ ที่จะขึ้นแล้วไปจ่ายค่าเดินทางบนรถได้ เเราต้องจองตั๋วก่อนนะเออ อย่ารอช้า รีบๆเข้าไปจองตั๋วในลิงค์นี้ให้เร็วพลัน https://www.thairailwayticket.com/ ซึ่งการเข้าไปตรวจสอบรอบการเดินทาง ควรจะต้องสมัครสมาชิกก่อนนะครับ ก็ยุ่งยากนิดนึงเนาะ แต่เอาน่ะ ยุคปัจจุบัน เราก็ต้องร่วมสมัย รูปแบบหน้าเว็ปจะออกมาแบบนี้ฮะ (ชี้แจงว่า รูปที่แคปมานี้ แคปวันที่ตั้งกระทู้นะครับ วันเดินทางจริงนั้นก่อนหน้าสัปดาห์นึง)
สวยงาม ไฉไล จ๊าบป่ะล่ะ
หลังจาก Reggister และ Loginเรียบร้อย เราก็ไปเลือกสายเส้นทาง จะมี สายเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และใต้ นะครับ จากนั้นก็จะมีสถานีที่เราจะลง ขึ้นมาให้เลือกเเพียบเลย อันนี้ต้องใช้ทักษะในการไล่ดูทีละนิดๆ เมื่อเลือกสถานีได้แล้ว ก็กด ค้นหาขบวนรถ ก็จะได้เที่ยวรถมาแบบหน้านี้ครับ
มีตัวเลือกให้เยอะเลย เป็นศัพท์ที่ไม่ค่อยเข้าใจอีกต่างหาก นั่งงงอยู่นาน อะไรคือด่วน อะไรคือด่วนพิเศษ มีขบวนเป็นตัวเลขมาอีก
ทางผมก็ได้เลือก ประเภทด่วนพิเศษ เพราะเราอยากเป็นคนพิเศษ เดี๋ยวๆๆ ไม่ใช่ๆ คือด่วนพิเศษเนี่ย จะเป็นตู้นอนฮะ เราควรนอนไป ขบวนที่ 23 อันนี้คงเป็นตัวเลขลำดับที่ของเขาล่ะนะ อ่ะ กดจองไป ก็จะเป็นแบบนี้
ขึ้นว่าเต็มซะงั้น ซึ่งในวันที่ผมจองคือวันที่ 5 ตุลาคม 61 ก็ขอยืนยันว่า ขึ้นว่าเต็มเหมือนกัน ยังไงก็จองไม่ได้ เครียดมาก กลัวการนั่งรถทัวร์สุดๆ
แต่เด็กขี้ฟ้องอย่างผม มีหรือจะยอมง่ายๆ เลยโทรหา Call Center 1690 บอกเลยว่า ติดต่อง่ายมาก กดต่อแค่1-2ครั้ง รอไม่นานก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่แล้ว เจ้าหน้าที่ เสียงหวาน ให้ข้อมูลดี ให้คำแนะนำครบถ้วน และบอกว่า อย่าไปยึดมั่นกับระบบออนไลน์ เพราะมันไม่เสถียร รอบที่ผมต้องการเดินทางนั้นว่างอยู่ แต่ไม่สามารถจองออนไลน์ได้ ต้องไปซื้อตั๋วที่สถานีเท่านั้น สถานีไหนก็ได้ที่ใกล้เราที่สุด ทางผมก็เลือกสถานีหัวหมากครับ เพราะใกล้ที่ทำงาน เมื่อไปถึง แจ้งรอบ และวันเดินทาง ซื้อได้เลย แต่ Remark 1 : ไว้ว่า เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบบัตรประชาชนทุกที่นั่งนะครับ คนก่อนหน้าผมไม่ได้เอาบัตรประชาชนมา เขาไม่ขายให้เลยอย่างสิ้นเชิงครับ การพูดจาให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่สุภาพมาก ใจเย็นมาก ขอชมเชยจากใจจริง
ได้ตั๋วมาแล้วครับ ระบุชื่อผู้เดินทางและรายละเอียดต่างๆ อย่างชัดเจน
2.วันเดินทาง
จขกท เดินทางไปสถานีหัวลำโพงด้วย แอร์พอร์ตลิงค์หัวหมาก ลงที่มักกะสัน ต่อ MRT(ใต้ดิน) ไปถึงสถานีหัวลำโพงได้เลย ชีวิตดี๊ดีย์ ติดแค่ตอนนั่งแท็กซี่ไปสถานีรถไฟฟ้านี่แหละ เส้นศรีนครินทร์ ติดสาหัสมาก
บรรยากาศคลาสสิค สวยงามตามท้องเรื่อง
ช่องจำหน่ายตั๋วและบรรยากาศโดยรอบภายในสถานีรถไฟหัวลำโพง
Remark 2: มีบริษัทรับฝากกระเป๋า ซึ่งคิดราคาแพงและไม่สมเหตุสมผล จขกท มีกระเป๋าลากเล็ก 1 ใบ เขาคิด 60 บาท
มีป้ายดิจิตอล บอกรายละเอียดชัดเจน
ด้านนอกห้องโถง เป็นชานชลา มีผู้เดินทางไปรอเวลาขึ้นรถอยู่เยอะทีเดียว แต่ตรงนี้ขอแนะนำว่า อยากให้การรถไฟ เพิ่มแสงสว่างมากขึ้น เก้าอี้เป็นแถวๆ บุนวม แต่ชำรุดเยอะมาก ไม่สบายตา บรรยากาศเครียดๆ กลิ่นน้ำมันคละคลุ้ง
และแล้วก็เกิดเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดจนได้ครับ นั่นคือ!!!
รถไฟแจ้งว่ามีการดีเลย์จ้าาาา ถ้าไม่ดีเลย์ ไม่ใช่รถไฟไทย สมชื่อจริงๆ แต่ในเวลานั้นหากเราไปถามเจ้าหน้าที่ เขาจะให้ข้อมูลมาอย่างครบถ้วนเลย วันเดินทางนั้นเกิดเหตุ พายุเข้าในช่วงเย็น ทำให้มีต้นไม้ล้มไปทับราง รถไฟจึงออกจากท่ามาไม่ได้ ซึ่งพอเราได้ฟังเหตุผลแล้ว ก็สบายใจขึ้น รู้ว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆล่ะนะ เรื่องฟ้าฝน ใครจะไปคอนโทรลได้
3. เมื่อรถไฟมาถึง และเริ่มเเดินทาง
ดีเลย์ไป 1 ชั่วโมงเต็มครับ รถไฟขบวนอีสานวัฒนาก็มา
ประตูเข้าโบกี้ ดูใหม่ๆ สวยดีเนอะ เจ้าหน้าที่กระซิบว่า รถไฟขบวนนี้อายุ 2 ขวบแล้วนะ แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ทู๊ยูวววว
ที่นั่ง ขนาดพอเหมาะกับร่างกาย ไม่เมื่อยมาก สบายๆ เด็กๆนั่ง2 คนได้ (ถ่ายรูปเบลอ ข้าน้อยสมควรตาย)
มีโต๊ะกางได้ พับได้ ให้วางสิ่งของ(ไม่ควรวางของหนักมาก อย่างกระเป๋าเดินทางงี้ ไม่ควร)
บรรยากาศในโบกี้ เห็นชั้นบน ล่างและยาวไป
อันนี้คือเหล็กพับได้เป็นบันได ใต่ขึ้นชั้นที่นอนบน
และที่เริ่ด ดีงามสุดๆ คือ มีปลั๊กไฟ 220 V ให้ทุกที่นั่ง บน ล่างด้วยจ้า หมดปัญหาแบตหมด ระหว่างการเดินทาง นอนเล่น ชาร์จไฟไปทั้งคืน ตื่นมาแบตเต็ม สบายใจ
มาดูในห้องน้ำกัน
ประตูเข้าเเป็นแบบผลัก ดันเข้าไป ระยะข้างในแคบๆ
แยกห้องโถปัสาวะชายแบบชัดเจน หมดปัญหา ฉี่ท่านชาย หยดลงฝารองนั่ง ห้องน้ำหญิง
ส่วนห้องถ่ายหนัก ใช้ห้องเดียวกับห้องน้ำสุภาพสตรี และห้องโถนั่ง มี2 ห้อง ใช้กัน 2 ตู้โบกี้นะจ๊ะ แบ่งๆกันไป
โถนั่ง สะอาดเอี่ยมอ่อง ไม่มีกลิ่นโชยออกมา
กลอนล็อค เปิดง่าย แข็งแรง
อ่างล้างมือ มีระบุ อย่าดื่มเชียว ไม่อร่อย
ปุ่มกดชักโครก ลองใช้แล้ว เป็นแรงดันลมดูดลงไปครับ
สายชำระ ก็ดูสะอาดสะอ้านดีนะครับ
อ่ะ มาดูจุด ล้างหน้า แปรงฟัน ด้านนอกกันบ้าง
มีอ่างชำระ 2 ช่อง ไม่ต้องแย่งกัน มีกระดาษชำระให้ในปริมาณที่เต็มเอี๊ยด
ไปดูตู้เสบียงกันครับ
ตู้เสบียงจะอยู่ตู้ที่ 7 จขกท อยู่ตู้ที่2ครับ เดินกันไปยาวๆ อาหารที่จำหน่ายจะมีคาว หวาน เครื่องดื่มร้อน เย็น ครบครัน มีที่นั่ง 8-10 โต๊ะ แต่ละโต๊ะนั่งได้ 2-4 คน มาเดี่ยวๆก็ขอนั่งกับท่านอื่น ที่โต๊ะว่างอยู่ก็ได้ อาหารสามารถสั่งให้ไปเสิร์ฟ ที่ ที่นั่งของเราได้ด้วยนะ มี Wifi ให้ด้วย เฉพาะตู้เสบียงเท่านั้น เปิดบริการตั้งแต่รถออก จนถึง 22.00 น. Remark 3 : ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำหน่ายนะครับ
กาแฟคาปูชิโนร้อน กับบรรยากาศยามเช้า 6.00 น. ที่ตู้เสบียงครับ สวยงาม สบายตา แต่กาแฟไม่อร่อยเลย จืดสนิท
4. ถึงจุดหมาย อุบลราชธานี
โฉมหน้าหัวรถจักรที่พา จขกท เดินทางมาถึงจุดหมาย
บรรยากาศชานชลา อุบลฯ
ป้ายหน้าสถานี
มีภาษาประเทศเพื่อนบ้านด้วย น่ารักครับ
ขอเพิ่มเติมเกร็ดการเดินทางเล็กน้อยนะครับ
- ภายในสถานี และบนรถไฟ ห้ามเด็ดขาด คือ การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดครับ
- หลังจากพนักงานตรวจตั๋วแล้ว ควรเก็บตั๋วไว้ตลอดการเดินทางนะครับ
- พนักงานทุกคนสุภาพ คาดว่ามีการฝึกอบรมมาดี ปูเตียงไวเว่อร์ 1นาที 40 วินาที ปูเตียงบน ล่างเสร็จครับ
- ของมีค่า ระมัดระวังหายนะครับ
- ควรรักษาความสะอาด และรักษามารยาทในการอยู่ร่วมกันจะทำให้การเดินทางมีความสุขครับ
- ระหว่างการเดินทาง ตำรวจรถไฟ เดินตรวจถี่มากครับ
- อุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่แท็กซี่กดมิเตอร์ทุกคันครับ เริ่มที่40บาท แต่ถ้าโทรเข้าศูนย์เรียกรถ เราจะได้รถ100% รอไม่นาน แต่เสียเพิ่ม 20 บาท จากมิเตอร์ และมีแอพลิเคชั่นสำหรับเรียกแท็กซี่ด้วย มีคิดค่าบริการเพิ่ม
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ เรียนเชิญทุกท่าน สนทนากันในช่อง ความคิดเห็นได้เลยนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้