ขออนุญาตแชร์จากที่คุณพิชัยโพสลงเฟสบุคเมื่อไม่กี่ชม.นี้
....
....
ใครที่ไม่ได้ลงทุนหุ้นต่างประเทศ ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ เมื่อประมาณ 3ปีทีแล้ว ตรงนี้เริ่มกลับมาเข้าทาง ผมดูhski ก่อน ที่เหลือยังไม่ได้ดูดีๆ downside ต่ำแล้ว upside เปิดกว้าง ลงทุนได้ทั้งกลางและยาว หรือบรรยากาศน่ากลัวแบบนี้ เลือกประเทศ แนวไหน แล้วแต่ชอบและศึกษามาเลยครับ
ช่วงนี้คนเริ่มพูดเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจกันเยอะขึ้น ผมอธิบายอย่างนี้ ช่วงset อยู่1200-1400 ปี 57 และอีกครั้ง ไม่กี่ปีถัดไป คนพูดเรื่องให้ระวังวิกฤตเศรษฐกิจกันตลอดเวลา และคิดว่าหุ้นไทยอย่างเก่งก็ sideway ออกข้าง ช่วงนั้นผมไม่กลัววิกฤตเลย เพราะคนส่วนใหญ่กลัว แม้ถูกต้องตามเหตุผล คือหุ้นขึ้นมาสูง QE ลด ดบ ขึ้น และหุ้นก็เริ่มตกแรงให้เห็นแล้ว แต่ถ้าเกิดจริง คนส่วนใหญ่จะถูกทาง และไม่เสียหายจากวิกฤติ จึงเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายหุ้นก็ขึ้นต่อจากกลไก ช่วงที่2 ที่set break 1600 ขึ้นไปถึง1850 และจนถึงปัจจุบัน คนพูดเรื่องวิกฤตกันน้อยลง เหลือ50% มีเป็นช่วงๆ ผมก็เริ่มระวังวิกฤตขึ้นมาซัก 20% ไว้ในใจ และผมจะระวังวิกฤต และกลัวขึ้นมาตอนไหนหรือครับ (เพราะสภาพโป่งพองอย่างนี้ ซักวันก็คงเกิดได้จริงๆนั่นแหละ ) ก็ตอนที่fed ได้ขึ้น ดบ จนครบแล้ว และประกาศว่าจะไม่ขึ้นอีกแล้ว และถ้าหลังจากนั้นหุ้นทั่วโลกโดยรวมก็ยังไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆไปอีก1-2-3 ปี ถ้าเป็นแบบนั้น เวลานั้น คนส่วนใหญ่จะหายกลัววิกฤตเนื่องจากข่าวร้ายชิ้นสุดท้ายได้ผ่านไปแล้ว หนี้สูงก็สูงอยู่ตลอดอยู่แล้ว และจะเริ่มชะล่าใจ ผมจึงจะเริ่มกลัวครับ ก็คงอีก+-5ปี ไม่ใช่ช่วงเวลาแบบนี้
ดูWarrant buffet ที่ผ่านมาเขาไม่เคยให้สัมภาษณ์ที่แสดงออกถึงความไม่เชื่อมั่นในตลาดหุ้น djia เลย เขา เจ้าของวลี จงกล้าในเวลาที่คนส่วนใหญ่กลัว คือผู้เข้าใจกลไกอย่างแท้จริง
Djia รอบนี้ คนกลัวว่าจะลงระดับ1000 จุดหลายๆวันเหมือนรอบที่แล้ว เพราะvaluation ก็ตึงมาก นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากในอเมริกาเตือนให้ระวังมาตลอดกันหมด ผมจึงคิดว่าไม่น่ากลัว คงลงได้ 1-3 วันก็หยุดและsideway ออกข้างอยู่ในกรอบมากกว่าจะดิ่งลงแรงต่อเนื่อง หรือไม่นาน อาจมีnew high อีกก็ได้
หุ้นไทยสบายๆครับ ไว้เจอกันที่1800 แล้วดูอีกทีว่าจะมีรอบวนเวียนหรือไม่อย่างไร มีหุ้นบางกลุ่ม ดูupside ต่ำ แม้ downside ก็ต่ำ แต่ก็ไม่น่าลงทุนเพราะเสียโอกาส แต่ก็มีหุ้นบางกลุ่ม upsideสูง downside ต่ำโดยไม่ได้เกี่ยวกับset มากนักเลย
!!.. ทรรศนะจาก คุณพิชัย เจ้าของ"ทฤษฎีผลประโยชน์"เผยว่า.. .. ..วิกฤตยังไม่มา..!!
....
....
ใครที่ไม่ได้ลงทุนหุ้นต่างประเทศ ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ เมื่อประมาณ 3ปีทีแล้ว ตรงนี้เริ่มกลับมาเข้าทาง ผมดูhski ก่อน ที่เหลือยังไม่ได้ดูดีๆ downside ต่ำแล้ว upside เปิดกว้าง ลงทุนได้ทั้งกลางและยาว หรือบรรยากาศน่ากลัวแบบนี้ เลือกประเทศ แนวไหน แล้วแต่ชอบและศึกษามาเลยครับ
ช่วงนี้คนเริ่มพูดเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจกันเยอะขึ้น ผมอธิบายอย่างนี้ ช่วงset อยู่1200-1400 ปี 57 และอีกครั้ง ไม่กี่ปีถัดไป คนพูดเรื่องให้ระวังวิกฤตเศรษฐกิจกันตลอดเวลา และคิดว่าหุ้นไทยอย่างเก่งก็ sideway ออกข้าง ช่วงนั้นผมไม่กลัววิกฤตเลย เพราะคนส่วนใหญ่กลัว แม้ถูกต้องตามเหตุผล คือหุ้นขึ้นมาสูง QE ลด ดบ ขึ้น และหุ้นก็เริ่มตกแรงให้เห็นแล้ว แต่ถ้าเกิดจริง คนส่วนใหญ่จะถูกทาง และไม่เสียหายจากวิกฤติ จึงเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายหุ้นก็ขึ้นต่อจากกลไก ช่วงที่2 ที่set break 1600 ขึ้นไปถึง1850 และจนถึงปัจจุบัน คนพูดเรื่องวิกฤตกันน้อยลง เหลือ50% มีเป็นช่วงๆ ผมก็เริ่มระวังวิกฤตขึ้นมาซัก 20% ไว้ในใจ และผมจะระวังวิกฤต และกลัวขึ้นมาตอนไหนหรือครับ (เพราะสภาพโป่งพองอย่างนี้ ซักวันก็คงเกิดได้จริงๆนั่นแหละ ) ก็ตอนที่fed ได้ขึ้น ดบ จนครบแล้ว และประกาศว่าจะไม่ขึ้นอีกแล้ว และถ้าหลังจากนั้นหุ้นทั่วโลกโดยรวมก็ยังไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆไปอีก1-2-3 ปี ถ้าเป็นแบบนั้น เวลานั้น คนส่วนใหญ่จะหายกลัววิกฤตเนื่องจากข่าวร้ายชิ้นสุดท้ายได้ผ่านไปแล้ว หนี้สูงก็สูงอยู่ตลอดอยู่แล้ว และจะเริ่มชะล่าใจ ผมจึงจะเริ่มกลัวครับ ก็คงอีก+-5ปี ไม่ใช่ช่วงเวลาแบบนี้
ดูWarrant buffet ที่ผ่านมาเขาไม่เคยให้สัมภาษณ์ที่แสดงออกถึงความไม่เชื่อมั่นในตลาดหุ้น djia เลย เขา เจ้าของวลี จงกล้าในเวลาที่คนส่วนใหญ่กลัว คือผู้เข้าใจกลไกอย่างแท้จริง
Djia รอบนี้ คนกลัวว่าจะลงระดับ1000 จุดหลายๆวันเหมือนรอบที่แล้ว เพราะvaluation ก็ตึงมาก นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากในอเมริกาเตือนให้ระวังมาตลอดกันหมด ผมจึงคิดว่าไม่น่ากลัว คงลงได้ 1-3 วันก็หยุดและsideway ออกข้างอยู่ในกรอบมากกว่าจะดิ่งลงแรงต่อเนื่อง หรือไม่นาน อาจมีnew high อีกก็ได้
หุ้นไทยสบายๆครับ ไว้เจอกันที่1800 แล้วดูอีกทีว่าจะมีรอบวนเวียนหรือไม่อย่างไร มีหุ้นบางกลุ่ม ดูupside ต่ำ แม้ downside ก็ต่ำ แต่ก็ไม่น่าลงทุนเพราะเสียโอกาส แต่ก็มีหุ้นบางกลุ่ม upsideสูง downside ต่ำโดยไม่ได้เกี่ยวกับset มากนักเลย