https://www.facebook.com/pichaichawlaofficialpage/posts/1685338735080950
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นี่คือ post สุดท้ายแล้วนะครับ
- แม้ว่าการคาดการณ์หุ้นระยะสั้นระยะกลางของผมจะผิดพลาดคลาดเคลื่อนไป แต่ระยะยาวเหมือนเดิมนะครับ เอาเป็นว่าเป้าหมาย ทั้ง1550และ2000จุด เลื่อนไป6เดือนถึง1ปีครับ
- เมื่อพบเจอเพื่อนๆ นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมาพูดคุยกันเรื่อง 1200 จุด แต่เป็นช่วงเวลาที่ควรจะพูดคุยกันเรื่อง 2000 จุด การกำหนดแผนเข้าซื้อเพิ่มเมื่อถึงจุดที่เราพอใจ การเลือกหุ้นที่ดี การถือ การยอมเสียรอบ ฯลฯ
- เนื่องจากsetเสียรอบไปหนึ่งจังหวะ การเริ่มตั้งไข่ขึ้นใหม่ย่อมใช้เวลา เวลาที่ทอดออกไปนานขึ้น ข่าวร้ายต่างๆอาจเพิ่มขึ้น กดดันเรามากขึ้น ขอให้รู้สึกเฉยๆนะครับ เพราะเข้าทางทฤษฎีเพิ่มขึ้น และเมื่อผ่านไปถึงจุดๆหนึ่งsetจะขึ้นเร็วและต่อเนื่องครับ ไม่นานเกินรอ ปีหน้านี่แหละครับ
- ทองคำและเงินeuro เหมือนเดิมครับ ต้องซื้อ
- ปีหน้าเมื่อเห็นset ที่1550 หรือทองคำที่1400เหรียญ ถือว่าทฤษฎียังกล้อมแกล้มไปได้ ผมจะกลับมาใหม่ครับ เมื่อถึงตอนนั้น ผมจะขอความร่วมมือ และอาสา จากคนที่เข้าใจทฤษฎีเป็นอย่างดี เพื่อร่วมสร้างทีมครับ การคาดการณ์ทิศทางราคาใดๆจะออกมาจากมติของที่ประชุม จะเป็นลักษณะของชมรม มีboard คณะกรรมการ หรืออย่างไรผมยังไม่ได้คิดครับ ผมยังต้องการ programmer เก่งๆ และคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ดี ที่เข้าใจทฤษฎีอยู่แล้วด้วยพอควร และvi ที่วิเคราะธุรกิจเก่งๆ มาร่วมทีมด้วย ส่วนคนอื่นๆก็ยังสามารถมีส่วนร่วมได้ทุกคน อาจมีการจัดประชุมเดือนละครั้งฯลฯ
คนที่เข้าใจทฤษฎีเป็นอย่างดี หรือมีsenseดี หรือเห็นจุดอ่อนของผม ของทฤษฎี (ซึ่งอาจมีหรือไม่มี ค่อยว่ากัน) แนะนำสิ่งที่ดีมีประโยชน์ ในpageนี้มีเยอะครับ ถ้าผมเอ่ยชื่อก็จะไม่ครบซึ่งไม่เป็นการดี หรือเป็นใครที่ไม่เคยcommentในที่นี้เลยก็ได้ ผมคิดว่าทฤษฎีนี้ไปได้ไกลเกินกว่าประเทศไทย เอาไว้เราค่อยคุยกันครับ
- หุ้นอินเดียยังคงต้องหลีกเลี่ยง upside ไม่มากเท่าdownside ซึ่งลึกและยืดเยื้อ ยังคงเป็นขาลงในระยะยาว เสี่ยงกับการเกิดวิกฤติในไม่เกิน2-5ปีข้างหน้า
- สัมมนาของผมยังคงเดิมนะครับ ปลายมกราคม ต้องขอโทษด้วย ไม่อาจยกเลิกได้ จะเกิดความเสียหายครับ
- ทฤษฎีผลประโยชน์คือการอธิบายว่าแท้จริงแล้วหุ้นเคลื่อนตัวไปด้วยหลักการณ์อะไร ผมเน้นการอธิบายทฤษฎีแค่นั้น ส่วนเรื่องการค้นหาเลือกซื้อหุ้นที่ดี ที่เติบโต ผมถือว่าเรารู้กันอยู่แล้ว และหาความรู้จากที่อื่นได้มากมาย จึงไม่ได้เน้นนะครับ แม้กลไกผลประโยชน์ทำงานทั้งในหุ้นดีและไม่ดีด้วยเช่นกัน แต่หน้าที่เราคือต้องซื้อหุ้นดี หรือหุ้นกลางๆก็พอได้ ถ้าapplyทฤษฎีแล้วเห็นว่าคนส่านใหญ่กลัว ไม่ซื้อ ซึ่งตรงนี้ แล้วแต่ว่าใครจะรับความเสี่ยงได้แค่ไหน แต่ถ้าเป็นvi ต้องซื้อหุ้นดีมากในราคาที่ถูก หรือเหมาะสมเท่านั้นครับ
- ทุกครั้งที่มีโอกาศผมจะพูดเสมอว่าการรวยจากหุ้นนั้นยากกว่ารวยจากธุรกิจหรืออสังหามาก และผมลงทุนในหุ้นแค่3-5%ของportเท่านั้น เต็มก็คือจบ ผมจึงไม่ได้เน้นเรื่อง money management ด้วยครับ
- ข้อนี้สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจทฤษฎีและไม่เข้าใจว่าผมจะคำนวนfactorsที่มากมายหลากหลายได้อย่างไร ว่าเหตุการณ์สถานการณ์อะไรจะเกิดขึ้นบ้างในโลกนี้ จึงย่อมไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางราคาได้อยู่แล้ว แท้จริงแล้วผมไม่ได้วิเคราะ factors ใดๆโดยตรง แต่ผมจะวิเคราะว่าคนทั่วไปจะวิเคราะ factors ต่างๆเหล่านี้อย่างไร และจะตัดสินใจอย่างไรต่างหาก ถ้าเป็นช่วงเวลาที่ผมอ่านแล้วเห็นว่าคนส่วนใหญ่หลังจากได้วิเคราะเหตุการณ์ สถานการณ์ ตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ แล้ว ตัดสินใจขายกันเป็นส่วนใหญ่ ผมก็จะซื้อ ถ้าซื้อกันเป็นส่วนใหญ่ ผมก็จะขาย แต่ถ้าคละๆกัน ผมก็ไม่take action แต่แน่นอนว่าการตีความความคิดคนก็อาจคลาดเคลื่อนได้ แต่ไม่ยากเกินไป เพราะความคิดคนเชิงเหตุผลนั้นมีระบบระเบียบ มีที่มาที่ไปของการคิด มีpattern จึงสามารถอ่านและคำนวนคาดการณ์ได้
ทฤษฎีผลประโยชน์นั้นอธิบายว่ากลไกทิศทางราคาในตลาดการเงิน เคลื่อนตัวไปบนหลักการของ ความคิดซ้อนความคิด ตรรกะซ้อนตรรกะ หรือระบบซ้อนระบบ ราคาไม่ได้สะท้อนหรือกระทบกันตรงๆกับข้อมูลข่าวสารเสมอไป ในเฉพาะหน้า
- ผมได้คุยกับคนหนึ่งซึ่งบอกว่าตามpageผมอยู่และซื้อหุ้นอยู่ ผมถามว่าซื้อทองด้วยหรือไม่เขาบอกว่าเขาไม่ชอบลงทุนในทอง ชอบแต่หุ้น ผมขอให้เขาซื้อทองด้วย นี่คือช่วงเวลาที่ดีมาก เขาบอกok จะซื้อหลังจากนั้นเลย เมื่อผมจากมาก็ได้คิดว่าทำไมเขาจึงไม่ใช้ทฤษฎีหรือเชื่อผมให้ครบถ้วน? ทำไมเลือกบางอย่าง ไม่เลือกบางอย่าง? ผมจึงอยากจะพูดว่าถ้าใครคิดว่าตัวเองเข้าใจทฤษฎีเป็นอย่างดีแล้วและตัดสินใจเองว่าจะซื้อหรือไม่ซื้ออะไรซึ่งอาจเหมือนหรือไม่ตรงกับผมก็ได้ อย่างนี้ok แต่ถ้าใครไม่ค่อยเข้าใจแต่ซื้อเพราะเชื่อใจผม ผมขอบอกว่าถ้าเชื่อต้องเชื่อให้หมดนะครับ อย่าเลือกเชื่อบางอย่างไม่เชื่อบางอย่างเป็นอันขาด เพราะถ้าคุณยังไม่ค่อยเข้าใจทฤษฎี และเลือกเรื่องเชื่อ คุณจะไปเลือกในอันที่ผมผิดหรือคลาดเคลื่อนเยอะ ซึ่งมันจะตรงใจคุณ แต่อันที่ผมถูกคุณจะไม่อยากซื้อเท่าไรเพราะมันจะไม่ตรงใจคุณ ดังนั้นถ้าเชื่อต้องเชื่อให้หมด และส่วนที่คุณและผมผิดพลาดคลาดเคลื่อนจะไม่ใช่ปัญหาเลย เมื่อเวลาผ่านไป เพราะจะมีกำไรจากสิ่งที่ถูกมาชดเชยซึ่งจะมากกว่ามากเสมอ เมื่อวัดกันยาวๆ ตัวหุ้นที่ผิดเกิดขึ้นได้เสมอครับ
ดังนั้นportใครมีแต่หุ้นเหมือนคนที่ผมเจอ ขอให้ไปซื้อทองเต็มportและถือซักปี2ปีด้วยนะครับ
- มีคนถามผมว่าติดdtac ราคาเกือบร้อยทำไงดี ผมตอบอย่างนี้ครับว่าช่วงเวลาแบบนี้ถ้าเราทะยอยซื้อหุ้นดีๆถูกตัวและถือยาวๆ จะกำไรซัก100-300%ไม่ใช่เรื่องยาก เท่าที่ผมรู้ก็เช่นหุ้นดีๆในกลุ่มอสังหามีหลายตัว แม้แต่true ถ้าถือ5-10ปี ผมว่า20-50บาทก็เป็นได้ bblก็เยี่ยม หรือปรึกษา vi ที่ประสบความสำเร็จจริงก็จะได้ ตัวหุ้นดีๆอีกเยอะครับ
เริ่มคิดอะไรไม่ออกแล้วครับ ถ้ามีอะไรสามารถต่อเนื่องได้อีกเล็กน้อยในcommentsครับ วันนี้ไม่ใช่วันของเรา แต่ความถูกต้องของทฤษฎีจะปรากฏชัดและเปิดเผยตัวออกมาเองเมื่อถึงเวลา ขอบคุณมากและสวัสดีครับ
คุณพิชัยประกาศหยุดโพสละครับ บอกถ้า1550จะกลับมาใหม่ ผมว่ามันจะอีก2-3ปีเลยครับกว่าจะหมดขาลงแล้วขึ้นรอบใหม่
จริงๆคน3%ที่คุณพิชัยว่ามีอยู่จริงแต่เป็นยิวและHedge fundระดับโลกที่หน้าตักมีไม่จำกัด เวลาเข้า-ออกก็สั่นสะเทือนทั้งแผ่นดิน
ปี57ที่คุณพิชัยว่ามีแต่ข่าวร้ายตลอดหุ้นก็ขึ้นก็เพราะQEเข้าตลอด ทั้งus, eu มาปีนี้fund flowกลับบ้าน ตลาดก็วายแบบนี้ล่ะครับ
ผมก็ตามคุณพิชัยมานาน ที่ทายถูกก็หลายเรื่อง เปิดแนวคิดใหม่ๆซึ่งถ้าเอามาใช้กับ Macroeconomic และดูfund flow, technical ก็คงดีครับ
คุณพิชัย จาวลา ประกาศหยุดโพสหลังsetต่ำกว่า1270
https://www.facebook.com/pichaichawlaofficialpage/posts/1685338735080950[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คุณพิชัยประกาศหยุดโพสละครับ บอกถ้า1550จะกลับมาใหม่ ผมว่ามันจะอีก2-3ปีเลยครับกว่าจะหมดขาลงแล้วขึ้นรอบใหม่
จริงๆคน3%ที่คุณพิชัยว่ามีอยู่จริงแต่เป็นยิวและHedge fundระดับโลกที่หน้าตักมีไม่จำกัด เวลาเข้า-ออกก็สั่นสะเทือนทั้งแผ่นดิน
ปี57ที่คุณพิชัยว่ามีแต่ข่าวร้ายตลอดหุ้นก็ขึ้นก็เพราะQEเข้าตลอด ทั้งus, eu มาปีนี้fund flowกลับบ้าน ตลาดก็วายแบบนี้ล่ะครับ
ผมก็ตามคุณพิชัยมานาน ที่ทายถูกก็หลายเรื่อง เปิดแนวคิดใหม่ๆซึ่งถ้าเอามาใช้กับ Macroeconomic และดูfund flow, technical ก็คงดีครับ