จากกระทู้ก่อนหน้านี้นะคะ
https://ppantip.com/topic/37868970
เหตุการณ์หลังจากตั้งกระทู้นั้นจนถึงวันนี้เรื่องราวก็ยังไม่จบนะคะ
👉 เราแจ้งความเรื่องที่น้องโดนเด็กคู่กรณีและพ่อของคู่กรณีที่เอามีดมาดักน้องแถว รร แล้ว วันนั้น้องไป รร สายค่ะ เราตามหาวงจรปิดแถวนั้นแล้วไม่มีหลักฐาน ตำรวจเข้าไปขอวงจรปิดจากเด็กอีกโรงเรียนนึงมาประกอบเรื่องเวลาการเข้าออกโรงเรียนด้วย (ตรงนี้เราเป็นห่วงเรื่ิองคงามยุติธรรมมี่จะได้รับมาก เพราะมีช่องโหว่มาก) เราจะขอวงจรปิดตลอดเส้นทางเดินทางจาก รร เราถึง รร คู่กรณีก็ทำได้ยากมากเพราะเราต้องไปสืบว่าตรงไหนมีวงจรปิดบ้างและวงจรปิดอันนี้เป็นของใคร จึงค่อยทำเรื่องให้ ตร ทำจดหมายขออนุญาต เราจึงจะขอเข้าไปดูกล้องได้ สุดท้ายก็ไม่ได้มาค่ะ
👉 อย่างที่เคยเล่าไป เด็กต้นเรื่องเขามีความสามารถในการหาแนวร่วมได้อย่างยอดเยี่ยมค่ะ ในกระทู้เดิม คนที่ร่วมมือด้วยและออกตัวในตอนนั้นคือ ล ปัจจุบันจากคำบอกเล่าของตัว กก และผู้เข้าร่วมขบวนการใหม่เอง ลไม่ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องตรงนี้อีก
👉 หลังจากเราแจ้งความเรื่องโดนดักขข่มขู่แล้ว สองพ่อลูกก็ยังไม่เลิกนะคะ แอบไปแถวบ้านเรา ไปดักฟังว่าบ้านเราทำอะไร คุยอะไรกันอยู่หลายครั้ง ที่ทราบเพราะมันจะแชทมาค่ะ เจตนาหวังให้ครอบครัวเรารู้สึกไม่ปลอดภัย
ครั้งหนึ่งเราเคยประกาศเสียงตามสายในหมู่บ้านให้ค่าหัวมัน จนมันออกจากหมู่บ้านไม่ได้ พอมืดคนเริ่มแยกย้ายกันเข้าบ้าน มันจึงแอบหนีออกไปค่ะ หมู่บ้านที่เราอาศัยไม่มียามค่ะ
👉 ขบวนการของ กก ในปัจจุบันมีผู้กระทำการก่อเหตุอยู่ 2 คน เป็นอย่างน้อยค่ะ คือ น1 และ น2 สามคนนี้จะสลับกันสร้างเฟซปลอมขึ้นมาก่อกวนน้องกวางเรื่อย ๆ และตอนหลังก็มีเหยื่อเพิ่มคือน้องตูน
👉 เราเคยเจรจาพักศึกกับ กก มาครั้งหนึ่งมันก็เล่าเรื่องอะไรให้ฟังหลายอย่างจริงบ้างเท็จบ้างปนกันไปค่ะ + เด็กกลุ่มนี้ชอบโอ้อวดตนค่ะ จึงชอบบอกแผนการมาบางส่วน รวมถึงกล้าพูดว่าตนเป็นใครในไอดีปลอมที่สร้างขึ้นมา เพราะมันมั่นใจว่ายังไงก็ไม่มีใครจับมันได้ ถ้าโดนสอบสวนก็ใช้วิธีการอ้างว่าตนโอนคนปลอมเฟซ โดนคนแอบอ้างและปฏิเสธว่าตนไม่ได้ทำอย่างเดียว สุดท้ายพอผ่านเรื่องนั้นมาได้ มันก็จะเอามาอวดเยาะเย้ยค่ะ ว่าเห็นไหมใครก็เชื่อมัน
👉 น้องกวาง ตูน น1 น2 อยู่ห้องเดียวกันค่ะ
👉 น1 ไม่ชอบน้องตูนตั้งแต่แรกเห็น ประกอบกับเป็นจังหวะที่ กก กำลังหาคนร่วมขบวนการเพิ่ม จึงทักแชทจากเพื่อน ๆ ใน รร ของน้องกวางอีกที สุดท้ายมาเจอ น1 ซึ่งเคยเป็นเพื่อนเล่น รู้จักกันมาก่อนหย้าเพราะ ย่าหรือยายของ น1 อยู่หมู่บ้านเดียวกับ กก
👉 น1 พยายามเข้ามาตีสนิทน้องตูน แล้วทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดี พอกลับบ้านก็มาสร้างเฟซปลอมด่าน้องกวางกับตูน บอกว่าวันนี้ไปขโมยของใครเอาไปยัดใส่กระเป๋ากวางบ้าง ขโมยสมุดใครไปบ้าง ช่วงแรก น2 ยังไม่ออกตัวค่ะ
👉 ช่วงที่ น1 เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเหตุเกิดจาก กก ไม่สามารถสร้างเฟซปลอมขึ้นมาได้ใหม่เรื่อย ๆ ถึงสร้างมาได้ก็อยู่ได้ไม่นานค่ะ จึงเปลี่ยนมาใช้มือถือของ น1 และตอนหลังก็เป็น น2
👉 เราให้น้องบล็อกเฟซพวกนี้ ให้เลิกเล่นเฟซไประยะหนึ่ง หลัง ๆ เฟซพวกนี้ส่งข้อความอะไรมาเราก็ไปรีพอร์ต อ่านที่พวกมันมาโม้นิดหน่อยแล้วพวกมันก็บินไปค่ะ
👉 ช่วงประมาณเดือนสิงหาคม ก่อนหยุดยาววันแม่ เป็นช่วงวันที่เราไปหาหลักฐานกล้องวงจรปิด วันนั้น น1+ น2 แอบไปขโมยมือถทอเพื่อนในห้องคนนึง ส่งแชทไปหาน้องกวางกับตูน แล้วเอาโทรศัพท์ของน้องคนนั้นมายัดใส่กระเป๋าน้องกวางค่ะ วันนั้นน้องกวางโดนครูรื้อกระเป๋าและสอบสวนอยู่นาน ดูแชทที่ส่งจากเครื่องต้นเหตุ กับเครื่องน้องสาวเรา (กง่าเราจะเข้าไปถึงตรงนั้นมือถือโดนครูจับกันเละเทะหมดแล้วค่ะ ไม่ต้องถามถึงขั้นตอนการตรวจลายนิ้วมือนะคะ)
สุดท้ายครูก็ขอยึดมือถือน้องเอาไว้ตรวจสอบ ซึ่งการตรวจสอบนั้นทำอะไรไม่ทราบ แต่ก็มีเฟซปลอมทักมาหาเรา ประมาณว่าทำไมกวางไม่อ่านหรือไม่ออนเฟซเลย (แปลว่ามันเป็นเพื่อนน้องกวางในเฟซจริง)
วันเปิดเรียนครูก็ขอมือถือเด็กที่เกี่ยวข้องทุกคนไปตรวจสอบ โดยส่งไปให้เจ้าหน้าที่จากกระทรวง ICT ตรวจสอบค่ะ (เป็นเวลาสองเดือนแล้วยังไม่ได้คำตอบ)
👉 หลังจากโดนยึดมือถือไป เด็กพวกนั้นยังไม่ลด ละ เลิกนะคะ หามือถือมาสร้างเฟซใหม่จนได้ และเข้ามาโอ้อวดความฉลาดของตนตามเดิมค่ะ
👉 มันบอกว่ามันไม่กลัวหรอกนะเรื่องที่โดนยึดมือถือไป เพราะก่อนหน้านี้มันเคยให้น้องเราแชร์ฮอตสปอต มันก็เอาไปสร้างเฟซปลอมขึ้นมาด่าคน เคยยืมมือถือน้องเราไปเล่น เอาไปสร้างเฟซปลอมและล็อกอินค้างที่ browser ในมือถือของน้องสาวเรา (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่ามันเข้าร่วมขบวนการแล้ว) รวมถึงมือถือของน้องตูนก็โดนพวกมันหลอกเอาไปใช้เช่นกัน
พฤติกรรมเช่นนี้ กก ก็ทำมาตั้งแต่ ป.๖ แล้วค่ะ สร้างอีเมล ยืนยันตนและสร้างเฟซปลอม โดยใช้มือถือของเพื่อน ๆ ในห้อง เพื่อที่ว่าเวลาโดนสอบสวน หาเรื่องมันแดงความผิดจะตกไปที่คนอื่นค่ะ
พวกมันเคยบอกว่า เวลา กก จะสร้างเฟซปลอม
มันจะให้พ่อขับรถไประแวกบ้านเราเพื่อสมัครเฟซและเอามาด่าเรากับน้องค่ะ (อ่านถึงตรงนี้ท่านที่มีความรู้เรื่อง ip address อาจหลุดขำออกมานะคะ ทุกวันนี้มันก็ยังเข้าใจว่าเขาตรวจเฉพาะตำแหน่ง)
👉 สำหรับโรงเรียนมีการเชิญ จนท จากกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาดูแลเรื่องสภาพจิตใจค่ะ และมีการดำเนินเรื่องตามที่แจ้งด้านบน เราเข้าใจถึงความเหนื่อยยากที่อาจารย์หลาย ๆ ท่านต้องมาเผชิญนะคะ แต่คนทำมันไม่เคยลดลาวาศอก มีแต่จะกระทำการให้หนักขึ้นเรื่อย ๆ
💢💢💢 ทางเราอดทนอดกลั้นมาตลอด มีตอบโต้ด่าทอกันบ้างมันทักแชทมาเราก็เมินเฉย💢💢💢
💥💥มันมีช่วงเหตุการณ์หลังจากไปเข้าค่าย เมื่อวันที่ 5-7 ตุลาคมที่ผ่านมานี้ค่ะ หลังจากกลับมาช่วงเย็นวันนั้นมันก็ทักแชทมาหาน้องตูน บอกว่าถึงวิทยากรจะยึดมือถือไป แต่มันมีมือถือแอบไว้อีกเครื่อง มันแอบไปดูน้องตูนเปลี้ยนเสื้อผ้าและแอบถ่ายรูปเหล่านั้นไว้ พน้อมทั้งข่มขู่ตูนว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น ไม่เช่นนั้นมันจะเผยแพร่รูปเหล่านั้น + ลิ้งก์เฟซของน้องตูนลงในเพจหื่น💥💥 พร้อมทั้งจะส่งไปให้พ่อของ กก ดูด้วย (พ่อ กก เอามีดมาข่มขู่น้องกวางเพื่อจะให้เอาตัวน้องตูนมาให้)
💥💥💥 และเฟซปลอมก็ส่งข้อคงามบางอย่างมาหาน้องสาวเราเมื่อวาน (9 ตุลาคม 2561) น้องสาวเราได้อ่านและเครียดมานั่งร้องไห้อยู่เป็นชั่วโมง น้องไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร บอกแค่ว่า น1 เป็นต้นเหตุ เราไม่อยู่บ้านมา ตจว น้องชายเราไปทำธุระบนบ้านช่วงเวลาไม่นาน ลงมาอีกทีเห็นน้องกำมีดไว้ในมือแล้ว ถึงตรงนี้เรายิ่งอยากรู้สาเหตุ แต่น้องก็ยังไม่ยอมเล่าค่ะ สุดท้ายน้องชายกล่อมให้น้องสาวคลายเครียดไปบ้าง และวันนี้ก็พาน้องไปเที่ยวนอกบ้านให้สบายใจค่ะ 💥💥💥
ถ้าถามว่าทำไมเรารู้ว่าใครทำ ก็ต้องบอกว่าเราตามเรื่องนี้มานาน เด็กพวกนี้แสดงตน เราก็ยังไม่ปักใจเชื่อนะคะ แต่มันจะมีการมาเล่าว่าที่ รร มันไปทำอะไรกับน้องตูนน้องกวางบ้าง เรื่องบางเรื่องน้องไม่เคยเล่าให้ใครฟังค่ะ หรือยังไม่มันจะมาเล่า เฟซปลอมมันก็เอามาบรรยายให้หมดแล้ว จึงไม่เป็นการยากที่เราจะตีกรอบไปว่ามันเป็นใคร
อีกทั้งมีการทดสอบเรื่องเฉพาะตัว คำตอบมันก็ออกมาชัดเจนค่ะว่าใครเป็นคนทำ ซึ่งในเฟซปลอมพวกมันก็ยอมรับอยู่แล้ว เพียงแต่ชีวิตจริงมันก็จะโกหกต่อไป
👉 เราบอกครูไปนะคะว่าเรารู้ว่าใครทำ แต่ครูบอกว่าหลักฐานยังไม่ชัดเจนเอาผิดไม่ได้
"ในเมื่อยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน ครูก็ยังมองว่านักเรียนทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนค่ะ"
แต่ทราบไหมคะที่ รร น้องเราโดนอาจารย์ท่านหนุ่งกดดันอยู่ตลอดเวลา ประหนึ่งว่าน้องเราเป็นคนสร้างเรื่องทั้งหมดนี้เอง เวลาเฟซปลอมมา น้องเราจะโดนเรียกไปคุย ไปถามในเชิงกดดัน วันนึงเขาให้น้องเราชี้ตัวคนทำผิดต่อหน้าเพื่อนในห้อง แน่นอนค่ะว่าคนทำผิดย่อมไม่ยอมรับผิดอยู่แล้ว น้องเราโดนครูตำหนิเรื่องที่มาบอกพี่ว่าทำงานกลุ่มแล้วเพื่อนคนนึงไม่ยอมมาช่วยงาน พอเรากับน้องชายไปบอกครู ครูคนนี้ก็พูดประมาณว่าน้องเรามีอะไรก็ชอบไปฟ้องพี่ สุดท้ายวันนั้นน้องเครียดและเสียใจมาก จะร้องไห้ก็ไม่กล้าร้อง หลังครูปล่อยน้องก็หนีไปแอบในห้องน้ำ ร้องไห้คนเดียว และโทรมาหาให้เราไปรับน้องกลับบ้าน
จริง ๆ มันมีเรื่องราวยิบย่อยอีกมากที่น้องเราโดนกดดัน จนน้องเราเอามาคิดมากและระแวงครูไปหมด ไม่ไว้ใจครู หลัง ๆ ชอบเรียกน้องเราไปหลังเลิกเรียนเอามือถือไปแล้วก็ถามอะไรเยอะแยะ จนช่วงหลังน้องเราต้องแอบหนีกลับบ้านมาก่อน
เราก็แปลกใจเหมือนกันนะคะกับคำว่า เด็กทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ทำไมกลายเป็นน้องเราที่โดนกดดันขนาดนี้ คำง่ายุติธรรมที่น้องเราคงจะได้รับมันคือแบบนี้เหรอ
คนรังแกกับคนโดนรังแกมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน
แต่คนโดนรังแกต้องไปหาหลักฐานมาบอกทุกคนให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ ระหว่างที่หาหลักฐานก็จะโดนตีตราไปว่าเป็นตัวต้นเหตุทำให้คนอื่นเดือดร้อน พร้อมทั้งยังโดนรังแกเพิ่มทุกวัน ๆ
ตอนแรกเราจะให้น้องออก แต่ ผอ กับครูบอกว่าอยากให้อยู่สู้กันก่อน บวกกับให้สู้ไปกับน้องตูน อย่างน้อยก็มีคนที่เข้าใจกัน
เรื่องมาถึงตอนนี้เราก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อแล้วค่ะ
👇👇👇👇👇👇👇👇
ผู้ใหญ่หลายท่านชอบคิดว่าเด็กอายุ 12-13 ปีคงทำอะไรไม่ได้มากหรอก คงคิดแผนซับซ้อนไม่ได้มาก ทุกวันนี้สื่อมีมากมายหลายแบบ มันไม่ยากเลยค่ะถ้าจิตใจคนมันใฝ่การจะหาวิธีการหรือลอกเลียนแบบวิธีการมาใช้ในชีวิตจริง
การที่มองว่าเด็กทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์นั้นเป็นเรื่องดีค่ะ แต่เด็กที่ตกเป็นเหยื่อก็โดนกระทำอยู่ทุกวัน จิตใจก็บอบช้ำลงไปเรื่อย ๆ รอการระเบิดหรือแตกสลาย ส่วนคนทำก็ลอยนวลสบายใจไปค่ะ
เราก็สงสัยนะคะว่าวิธีการแบบนี้มันเป็นการส่งเสริมคนชั่วทางอ้อมและเป็นการทำร้ายเหยื่อต่อไปอย่างต่อเนื่องหรือไม่ เพราะคนผิดทำผิดได้ต่อไป คนเป็นเหยื่อมีสองทางคือดิ้นรนหาหลักฐานมาเอาผิดมันกับยอมทำตามที่มันต้องการ
สุดท้ายถ้าไม่ได้ตัวคนทำผิดออกมารับโทษ มันก็ยังคงไปใช้พฤติกรรมแบบเดิมกับคนอื่นอีก ถ้าเหยื่อลุกขึ้นมาเอาคืนด้วยวิธีการรุนแรง ในมุมมองคนทั่วไปมองแล้วมันดูสาสมค่ะ แต่สำหรับตัวเหยื่อและครอบครัวเองอาจต้องได้รับโทษทางกฎหมายจากการกระทำรุนแรงนั้นก็ได้ ยังไม่นับผลกระทบทางจิตใจระหว่างเกิดคดีความอีก
สุดท้ายเราก็ไม่รู้นะคะว่าเรื่องของเราผลจะออกมาในทางไหน ท่านใดมีวิธีการหรือคำแนะนำใดก็คอมเม้นต์มาได้นะคะ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
จากกรณีน้องสาวเราที่โดน Cybrrbullying วันนี้เรามาขอความเห็นอีกครั้งค่ะ
เหตุการณ์หลังจากตั้งกระทู้นั้นจนถึงวันนี้เรื่องราวก็ยังไม่จบนะคะ
👉 เราแจ้งความเรื่องที่น้องโดนเด็กคู่กรณีและพ่อของคู่กรณีที่เอามีดมาดักน้องแถว รร แล้ว วันนั้น้องไป รร สายค่ะ เราตามหาวงจรปิดแถวนั้นแล้วไม่มีหลักฐาน ตำรวจเข้าไปขอวงจรปิดจากเด็กอีกโรงเรียนนึงมาประกอบเรื่องเวลาการเข้าออกโรงเรียนด้วย (ตรงนี้เราเป็นห่วงเรื่ิองคงามยุติธรรมมี่จะได้รับมาก เพราะมีช่องโหว่มาก) เราจะขอวงจรปิดตลอดเส้นทางเดินทางจาก รร เราถึง รร คู่กรณีก็ทำได้ยากมากเพราะเราต้องไปสืบว่าตรงไหนมีวงจรปิดบ้างและวงจรปิดอันนี้เป็นของใคร จึงค่อยทำเรื่องให้ ตร ทำจดหมายขออนุญาต เราจึงจะขอเข้าไปดูกล้องได้ สุดท้ายก็ไม่ได้มาค่ะ
👉 อย่างที่เคยเล่าไป เด็กต้นเรื่องเขามีความสามารถในการหาแนวร่วมได้อย่างยอดเยี่ยมค่ะ ในกระทู้เดิม คนที่ร่วมมือด้วยและออกตัวในตอนนั้นคือ ล ปัจจุบันจากคำบอกเล่าของตัว กก และผู้เข้าร่วมขบวนการใหม่เอง ลไม่ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องตรงนี้อีก
👉 หลังจากเราแจ้งความเรื่องโดนดักขข่มขู่แล้ว สองพ่อลูกก็ยังไม่เลิกนะคะ แอบไปแถวบ้านเรา ไปดักฟังว่าบ้านเราทำอะไร คุยอะไรกันอยู่หลายครั้ง ที่ทราบเพราะมันจะแชทมาค่ะ เจตนาหวังให้ครอบครัวเรารู้สึกไม่ปลอดภัย
ครั้งหนึ่งเราเคยประกาศเสียงตามสายในหมู่บ้านให้ค่าหัวมัน จนมันออกจากหมู่บ้านไม่ได้ พอมืดคนเริ่มแยกย้ายกันเข้าบ้าน มันจึงแอบหนีออกไปค่ะ หมู่บ้านที่เราอาศัยไม่มียามค่ะ
👉 ขบวนการของ กก ในปัจจุบันมีผู้กระทำการก่อเหตุอยู่ 2 คน เป็นอย่างน้อยค่ะ คือ น1 และ น2 สามคนนี้จะสลับกันสร้างเฟซปลอมขึ้นมาก่อกวนน้องกวางเรื่อย ๆ และตอนหลังก็มีเหยื่อเพิ่มคือน้องตูน
👉 เราเคยเจรจาพักศึกกับ กก มาครั้งหนึ่งมันก็เล่าเรื่องอะไรให้ฟังหลายอย่างจริงบ้างเท็จบ้างปนกันไปค่ะ + เด็กกลุ่มนี้ชอบโอ้อวดตนค่ะ จึงชอบบอกแผนการมาบางส่วน รวมถึงกล้าพูดว่าตนเป็นใครในไอดีปลอมที่สร้างขึ้นมา เพราะมันมั่นใจว่ายังไงก็ไม่มีใครจับมันได้ ถ้าโดนสอบสวนก็ใช้วิธีการอ้างว่าตนโอนคนปลอมเฟซ โดนคนแอบอ้างและปฏิเสธว่าตนไม่ได้ทำอย่างเดียว สุดท้ายพอผ่านเรื่องนั้นมาได้ มันก็จะเอามาอวดเยาะเย้ยค่ะ ว่าเห็นไหมใครก็เชื่อมัน
👉 น้องกวาง ตูน น1 น2 อยู่ห้องเดียวกันค่ะ
👉 น1 ไม่ชอบน้องตูนตั้งแต่แรกเห็น ประกอบกับเป็นจังหวะที่ กก กำลังหาคนร่วมขบวนการเพิ่ม จึงทักแชทจากเพื่อน ๆ ใน รร ของน้องกวางอีกที สุดท้ายมาเจอ น1 ซึ่งเคยเป็นเพื่อนเล่น รู้จักกันมาก่อนหย้าเพราะ ย่าหรือยายของ น1 อยู่หมู่บ้านเดียวกับ กก
👉 น1 พยายามเข้ามาตีสนิทน้องตูน แล้วทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดี พอกลับบ้านก็มาสร้างเฟซปลอมด่าน้องกวางกับตูน บอกว่าวันนี้ไปขโมยของใครเอาไปยัดใส่กระเป๋ากวางบ้าง ขโมยสมุดใครไปบ้าง ช่วงแรก น2 ยังไม่ออกตัวค่ะ
👉 ช่วงที่ น1 เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเหตุเกิดจาก กก ไม่สามารถสร้างเฟซปลอมขึ้นมาได้ใหม่เรื่อย ๆ ถึงสร้างมาได้ก็อยู่ได้ไม่นานค่ะ จึงเปลี่ยนมาใช้มือถือของ น1 และตอนหลังก็เป็น น2
👉 เราให้น้องบล็อกเฟซพวกนี้ ให้เลิกเล่นเฟซไประยะหนึ่ง หลัง ๆ เฟซพวกนี้ส่งข้อความอะไรมาเราก็ไปรีพอร์ต อ่านที่พวกมันมาโม้นิดหน่อยแล้วพวกมันก็บินไปค่ะ
👉 ช่วงประมาณเดือนสิงหาคม ก่อนหยุดยาววันแม่ เป็นช่วงวันที่เราไปหาหลักฐานกล้องวงจรปิด วันนั้น น1+ น2 แอบไปขโมยมือถทอเพื่อนในห้องคนนึง ส่งแชทไปหาน้องกวางกับตูน แล้วเอาโทรศัพท์ของน้องคนนั้นมายัดใส่กระเป๋าน้องกวางค่ะ วันนั้นน้องกวางโดนครูรื้อกระเป๋าและสอบสวนอยู่นาน ดูแชทที่ส่งจากเครื่องต้นเหตุ กับเครื่องน้องสาวเรา (กง่าเราจะเข้าไปถึงตรงนั้นมือถือโดนครูจับกันเละเทะหมดแล้วค่ะ ไม่ต้องถามถึงขั้นตอนการตรวจลายนิ้วมือนะคะ)
สุดท้ายครูก็ขอยึดมือถือน้องเอาไว้ตรวจสอบ ซึ่งการตรวจสอบนั้นทำอะไรไม่ทราบ แต่ก็มีเฟซปลอมทักมาหาเรา ประมาณว่าทำไมกวางไม่อ่านหรือไม่ออนเฟซเลย (แปลว่ามันเป็นเพื่อนน้องกวางในเฟซจริง)
วันเปิดเรียนครูก็ขอมือถือเด็กที่เกี่ยวข้องทุกคนไปตรวจสอบ โดยส่งไปให้เจ้าหน้าที่จากกระทรวง ICT ตรวจสอบค่ะ (เป็นเวลาสองเดือนแล้วยังไม่ได้คำตอบ)
👉 หลังจากโดนยึดมือถือไป เด็กพวกนั้นยังไม่ลด ละ เลิกนะคะ หามือถือมาสร้างเฟซใหม่จนได้ และเข้ามาโอ้อวดความฉลาดของตนตามเดิมค่ะ
👉 มันบอกว่ามันไม่กลัวหรอกนะเรื่องที่โดนยึดมือถือไป เพราะก่อนหน้านี้มันเคยให้น้องเราแชร์ฮอตสปอต มันก็เอาไปสร้างเฟซปลอมขึ้นมาด่าคน เคยยืมมือถือน้องเราไปเล่น เอาไปสร้างเฟซปลอมและล็อกอินค้างที่ browser ในมือถือของน้องสาวเรา (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่ามันเข้าร่วมขบวนการแล้ว) รวมถึงมือถือของน้องตูนก็โดนพวกมันหลอกเอาไปใช้เช่นกัน
พฤติกรรมเช่นนี้ กก ก็ทำมาตั้งแต่ ป.๖ แล้วค่ะ สร้างอีเมล ยืนยันตนและสร้างเฟซปลอม โดยใช้มือถือของเพื่อน ๆ ในห้อง เพื่อที่ว่าเวลาโดนสอบสวน หาเรื่องมันแดงความผิดจะตกไปที่คนอื่นค่ะ
พวกมันเคยบอกว่า เวลา กก จะสร้างเฟซปลอม
มันจะให้พ่อขับรถไประแวกบ้านเราเพื่อสมัครเฟซและเอามาด่าเรากับน้องค่ะ (อ่านถึงตรงนี้ท่านที่มีความรู้เรื่อง ip address อาจหลุดขำออกมานะคะ ทุกวันนี้มันก็ยังเข้าใจว่าเขาตรวจเฉพาะตำแหน่ง)
👉 สำหรับโรงเรียนมีการเชิญ จนท จากกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาดูแลเรื่องสภาพจิตใจค่ะ และมีการดำเนินเรื่องตามที่แจ้งด้านบน เราเข้าใจถึงความเหนื่อยยากที่อาจารย์หลาย ๆ ท่านต้องมาเผชิญนะคะ แต่คนทำมันไม่เคยลดลาวาศอก มีแต่จะกระทำการให้หนักขึ้นเรื่อย ๆ
💢💢💢 ทางเราอดทนอดกลั้นมาตลอด มีตอบโต้ด่าทอกันบ้างมันทักแชทมาเราก็เมินเฉย💢💢💢
💥💥มันมีช่วงเหตุการณ์หลังจากไปเข้าค่าย เมื่อวันที่ 5-7 ตุลาคมที่ผ่านมานี้ค่ะ หลังจากกลับมาช่วงเย็นวันนั้นมันก็ทักแชทมาหาน้องตูน บอกว่าถึงวิทยากรจะยึดมือถือไป แต่มันมีมือถือแอบไว้อีกเครื่อง มันแอบไปดูน้องตูนเปลี้ยนเสื้อผ้าและแอบถ่ายรูปเหล่านั้นไว้ พน้อมทั้งข่มขู่ตูนว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น ไม่เช่นนั้นมันจะเผยแพร่รูปเหล่านั้น + ลิ้งก์เฟซของน้องตูนลงในเพจหื่น💥💥 พร้อมทั้งจะส่งไปให้พ่อของ กก ดูด้วย (พ่อ กก เอามีดมาข่มขู่น้องกวางเพื่อจะให้เอาตัวน้องตูนมาให้)
💥💥💥 และเฟซปลอมก็ส่งข้อคงามบางอย่างมาหาน้องสาวเราเมื่อวาน (9 ตุลาคม 2561) น้องสาวเราได้อ่านและเครียดมานั่งร้องไห้อยู่เป็นชั่วโมง น้องไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร บอกแค่ว่า น1 เป็นต้นเหตุ เราไม่อยู่บ้านมา ตจว น้องชายเราไปทำธุระบนบ้านช่วงเวลาไม่นาน ลงมาอีกทีเห็นน้องกำมีดไว้ในมือแล้ว ถึงตรงนี้เรายิ่งอยากรู้สาเหตุ แต่น้องก็ยังไม่ยอมเล่าค่ะ สุดท้ายน้องชายกล่อมให้น้องสาวคลายเครียดไปบ้าง และวันนี้ก็พาน้องไปเที่ยวนอกบ้านให้สบายใจค่ะ 💥💥💥
ถ้าถามว่าทำไมเรารู้ว่าใครทำ ก็ต้องบอกว่าเราตามเรื่องนี้มานาน เด็กพวกนี้แสดงตน เราก็ยังไม่ปักใจเชื่อนะคะ แต่มันจะมีการมาเล่าว่าที่ รร มันไปทำอะไรกับน้องตูนน้องกวางบ้าง เรื่องบางเรื่องน้องไม่เคยเล่าให้ใครฟังค่ะ หรือยังไม่มันจะมาเล่า เฟซปลอมมันก็เอามาบรรยายให้หมดแล้ว จึงไม่เป็นการยากที่เราจะตีกรอบไปว่ามันเป็นใคร
อีกทั้งมีการทดสอบเรื่องเฉพาะตัว คำตอบมันก็ออกมาชัดเจนค่ะว่าใครเป็นคนทำ ซึ่งในเฟซปลอมพวกมันก็ยอมรับอยู่แล้ว เพียงแต่ชีวิตจริงมันก็จะโกหกต่อไป
👉 เราบอกครูไปนะคะว่าเรารู้ว่าใครทำ แต่ครูบอกว่าหลักฐานยังไม่ชัดเจนเอาผิดไม่ได้
"ในเมื่อยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน ครูก็ยังมองว่านักเรียนทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคนค่ะ"
แต่ทราบไหมคะที่ รร น้องเราโดนอาจารย์ท่านหนุ่งกดดันอยู่ตลอดเวลา ประหนึ่งว่าน้องเราเป็นคนสร้างเรื่องทั้งหมดนี้เอง เวลาเฟซปลอมมา น้องเราจะโดนเรียกไปคุย ไปถามในเชิงกดดัน วันนึงเขาให้น้องเราชี้ตัวคนทำผิดต่อหน้าเพื่อนในห้อง แน่นอนค่ะว่าคนทำผิดย่อมไม่ยอมรับผิดอยู่แล้ว น้องเราโดนครูตำหนิเรื่องที่มาบอกพี่ว่าทำงานกลุ่มแล้วเพื่อนคนนึงไม่ยอมมาช่วยงาน พอเรากับน้องชายไปบอกครู ครูคนนี้ก็พูดประมาณว่าน้องเรามีอะไรก็ชอบไปฟ้องพี่ สุดท้ายวันนั้นน้องเครียดและเสียใจมาก จะร้องไห้ก็ไม่กล้าร้อง หลังครูปล่อยน้องก็หนีไปแอบในห้องน้ำ ร้องไห้คนเดียว และโทรมาหาให้เราไปรับน้องกลับบ้าน
จริง ๆ มันมีเรื่องราวยิบย่อยอีกมากที่น้องเราโดนกดดัน จนน้องเราเอามาคิดมากและระแวงครูไปหมด ไม่ไว้ใจครู หลัง ๆ ชอบเรียกน้องเราไปหลังเลิกเรียนเอามือถือไปแล้วก็ถามอะไรเยอะแยะ จนช่วงหลังน้องเราต้องแอบหนีกลับบ้านมาก่อน
เราก็แปลกใจเหมือนกันนะคะกับคำว่า เด็กทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ทำไมกลายเป็นน้องเราที่โดนกดดันขนาดนี้ คำง่ายุติธรรมที่น้องเราคงจะได้รับมันคือแบบนี้เหรอ
คนรังแกกับคนโดนรังแกมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน
แต่คนโดนรังแกต้องไปหาหลักฐานมาบอกทุกคนให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ ระหว่างที่หาหลักฐานก็จะโดนตีตราไปว่าเป็นตัวต้นเหตุทำให้คนอื่นเดือดร้อน พร้อมทั้งยังโดนรังแกเพิ่มทุกวัน ๆ
ตอนแรกเราจะให้น้องออก แต่ ผอ กับครูบอกว่าอยากให้อยู่สู้กันก่อน บวกกับให้สู้ไปกับน้องตูน อย่างน้อยก็มีคนที่เข้าใจกัน
เรื่องมาถึงตอนนี้เราก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อแล้วค่ะ
👇👇👇👇👇👇👇👇
ผู้ใหญ่หลายท่านชอบคิดว่าเด็กอายุ 12-13 ปีคงทำอะไรไม่ได้มากหรอก คงคิดแผนซับซ้อนไม่ได้มาก ทุกวันนี้สื่อมีมากมายหลายแบบ มันไม่ยากเลยค่ะถ้าจิตใจคนมันใฝ่การจะหาวิธีการหรือลอกเลียนแบบวิธีการมาใช้ในชีวิตจริง
การที่มองว่าเด็กทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์นั้นเป็นเรื่องดีค่ะ แต่เด็กที่ตกเป็นเหยื่อก็โดนกระทำอยู่ทุกวัน จิตใจก็บอบช้ำลงไปเรื่อย ๆ รอการระเบิดหรือแตกสลาย ส่วนคนทำก็ลอยนวลสบายใจไปค่ะ
เราก็สงสัยนะคะว่าวิธีการแบบนี้มันเป็นการส่งเสริมคนชั่วทางอ้อมและเป็นการทำร้ายเหยื่อต่อไปอย่างต่อเนื่องหรือไม่ เพราะคนผิดทำผิดได้ต่อไป คนเป็นเหยื่อมีสองทางคือดิ้นรนหาหลักฐานมาเอาผิดมันกับยอมทำตามที่มันต้องการ
สุดท้ายถ้าไม่ได้ตัวคนทำผิดออกมารับโทษ มันก็ยังคงไปใช้พฤติกรรมแบบเดิมกับคนอื่นอีก ถ้าเหยื่อลุกขึ้นมาเอาคืนด้วยวิธีการรุนแรง ในมุมมองคนทั่วไปมองแล้วมันดูสาสมค่ะ แต่สำหรับตัวเหยื่อและครอบครัวเองอาจต้องได้รับโทษทางกฎหมายจากการกระทำรุนแรงนั้นก็ได้ ยังไม่นับผลกระทบทางจิตใจระหว่างเกิดคดีความอีก
สุดท้ายเราก็ไม่รู้นะคะว่าเรื่องของเราผลจะออกมาในทางไหน ท่านใดมีวิธีการหรือคำแนะนำใดก็คอมเม้นต์มาได้นะคะ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ