- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
“สถานที่อันสวยงามและสุดแสนจะโรแมนติก เป็นเมืองที่ถูกสถาปนาขึ้นให้เป็นที่มั่นทางการค้า
ของประเทศอังกฤษแห่งดินแดนตะวันออกไกล และเกิดการผสมผสานวัฒนธรรมแห่ง 2 ซีกโลก
กันอย่างแยกไม่ออก ดึงดูดใจให้เราต้องมาเยือน!!”
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Photo by : Aukkanai Pimkoh
Device : Smartphone Xiaomi Redmi Note 5 Pro (Auto Mode)
Place : Penang, Malaysia
Date : 20-21 September 2018
Software : Adobe Photoshop Lightroom (Dark Matte Style) บางรูป
การเดินทางมาท่องเที่ยวยังรัฐปีนัง สหพันธรัฐมาเลเซียสามารถเลือกการเดินทางได้หลากหลายรูปแบบมากๆ ครับ
เพราะมีเที่ยวบินหลายภูมิภาคจากประเทศไทยหรือจะนั่งรถไฟ, นั่งรถตู้โดยสาร, และรถยนต์ส่วนตัว
ก็ตามแต่สะดวกเลยครับ สำหรับทริปเยือนมรดกโลกฯ ของเราครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณสายการบินไทยสไมล์
“รอยยิ้มคู่ฟ้า” #THAISmile #SmileEveryWhere ครับที่พาผมเดินทางมาถึงยังสถานที่แห่งนี้
ผมออกเดินทางจากบ้านมาถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลา 16.30 น.
สำหรับสายการบินไทยสมายล์เปิดให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) - ปีนัง สหพันธรัฐมาเลเซีย
ด้วยเที่ยวบิน WE425 กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ)-ปีนัง ออกเดินทางเวลา 19.25 น. ถึงเวลา 22.10 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
และเที่ยวบิน WE426 ปีนัง-กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) ออกเดินทางเวลา 08.00 น. ถึงเวลา 08.45 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
โดยเปิดให้บริการทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบินด้วยเครื่องบินแอร์บัส A320-200 ลำใหม่ ที่จะพาผู้เราบินลัดฟ้าสู่ทุกจุดหมาย
ที่ต้องการโดยสวัสดิภาพด้วยชั้นโดยสารพรีเมี่ยมอย่าง Smile PLUS และชั้นโดยสารแบบประหยัด Smile Class
ใครที่สนใจจะใช้บริการนะครับสามารถสำรองบัตรโดยสารผ่าน www.thaismileair.com
หรือ Smile Service Center 1181 และตัวแทนจำหน่าย Smile Travel Agents ได้เลยครับ
Let's Go พร้อมแล้วออกเดินทางกันครับ "เดินทางต่อ ไม่รอแล้วนะ" หลังจากผ่านพิธีการตรวจฯ
เราก็มารอกันที่ Gate C3 ครับ พร้อมออกเดินทางกันในเวลา 19.25 น. ตรงเวลาเป๊ะเลยครับ!!
มาถึงตรงเวลามากครับ บินไม่นานเท่าไหร่ นั่งสบาย อาหารอร่อย เวลานี้ที่ออกมารอรถเมล์หน้าสนามบินฯปีนัง
ก็เวลาประมาณ 22.30 น. ครับ เวลาที่นี่จะเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมงครับ ตอนแรกมั่นใจว่าจะได้นั่งรถเมล์เข้าเมือง
แต่สุดท้ายอดเลย เพราะคันสุดท้ายเพิ่งออกไปครับ ช้าไปนิดเดียวเอง แหะ แหะ มัวแต่รอรับกระเป๋าที่โหลดมาครับ
ไม่เป็นไร!!! ทำไงได้ล่ะ ก็ต้องแท๊กซี่ครับ จากสนามบินฯปีนัง ไปยังกลางเมืองจอร์จทาวน์ไกลพอสมควรครับ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เราก็มาถึงโรงแรมที่พักเวลาก็ดึกแล้วครับ ยังไงขอพักผ่อนก่อนนะครับ (-.-)...z...z..
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Good Morning เช้าอันสดใสวันแรกที่ปีนังครับ เราตื่นกันก็เวลา 05.30 น. ครับ
อาบน้ำ แต่งตัว และรับประทานอาหารเช้าของทางโรงแรมครับ อ่ะ!! ลืมบอกไปครับ ครั้งนี้เราพัก
โรงแรมระดับ 3 ดาวใจกลางเมืองจอร์จทาวน์เลยครับ Apollo Inn ครับ ราคาดีมาก จองผ่าน Agoda ครับ
และที่สำคัญมีอาหารเช้าด้วยครับแบบ มินิ บุฟเฟ่ต์ ครับ ชา กาแฟ ครบครัน มีน้ำเปล่าให้กดบริการฟรี!! ครับ
จากโรงแรมฯ ที่พักของเราเดินมายัง Komtar ซึ่งใกล้มากเลยครับ 750+ เมตรเองครับ
รอขึ้นรถเมล์สาย 204 (Pekan Air Itam) (ราคา RM 1.40 หรือประมาณ 11+ บาท.-)
ในภาพเป็นจอมอนิเตอร์คอยให้ข้อมูลสายรถเมล์ต่างๆ ครับ ว่าสายรถเมล์ไหนกำลังจะมาอีกกี่นาที
ดีมากเลยครับ ตรงเวลามาก เราจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที เพื่อเดินทางไปยัง Kek Lok Si Temple ครับ
เป็นสถานที่สำคัญของปีนังแห่งหนึ่งเลยครับไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนครับ
จะได้เป็นสิริมงคลครับ แต่รถเมล์จะวิ่งไม่ถึงวัดนะครับ แต่คนขับรถเมล์เขาจะบอกครับว่าลงป้ายนี้นะ!!
ถ่ายภาพแรกกับทางขึ้นวัดเลยครับ ขออธิบายพอสังเขปนะครับ วัดเก็กลกสี่ เป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุด
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหนึ่งในวัดดังของปีนังเลยครับ แต่เดิมเชื่อกันว่าเนินเขาในบริเวณนี้
ชื่อว่า "ฮีซาน" หรือเนินเขานกกระเรียน มีฮวงจุ้ยดีครับ และเหมาะกับการสร้างวัด วัดแห่งนี้ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจนะครับ
เช่น หอสวดมนต์, เจดีย์, หอระฆัง, และสระเต่า สำหรับสิ่งที่โดดเด่นที่สุดในวัดแห่งนี้คือเจดีย์สมเด็จพระรามหกครับ
หรือเจดีย์พระพุทธเจ้า 10,000 พระองค์ ภายในเจดีย์ตกแต่งด้วยพระพุทธรูปสำริดและพระพุทธรูปศิลาขาวทั้งหมด
10,000 องค์ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสามัคคีระหว่างนิกายมหายานและหินยาน ลักษณะของเจดีย์เกิดจากการ
ผสมผสานฐานเจดีย์แบบจีน ตัวเจดีย์ตามแบบไทย และยอดเจดีย์แบบพม่าเข้าด้วยกัน
ในภาพนี้จะแอบเห็นเจดีย์ตามข้อมูลดังกล่าวครับ เดี๋ยวเราพาเดินไล่ดูขึ้นไปเรื่อยๆ นะครับ เพราะเป็นการ
เดินดูแบบขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ครับ เหนื่อยเอาการอยู่ครับ แนะนำครับ พกร่ม, น้ำเปล่า, ยาดม มาด้วยนะครับ จริงจัง!!
หน้าซุ้มประตูทางเข้าวัดฯ ครับ ฟ้าแจ่ม อากาศร้อนมากครับ แต่เพื่อได้ภาพสวย สู้ตาย!! ครับ
หน้าบันไดทางขึ้นเพื่อไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครับ สำหรับส่วนนี้เข้าชมและสักการะฟรี!! ครับ
แต่จะมีส่วนของเจ้าแม่กวนอิมครับที่เสียค่าเข้าชมประมาณ 2 ริงกิต ครับ แต่เราไม่ได้เข้าไปชมครับ
แจกันเทียนครับ น่าจะเหมือนบ้านเราคือจุดเทียนเพื่อไหว้พระ หรือถ้าใครทราบรายละเอียด
ก็สามารถมาแบ่งปันข้อมูลกันได้ครับ เที่ยวสนุกและยังได้ความรู้อีกด้วยนะครับ
สักการะกันก่อนครับ เป็นสิริมงคลแก่ทริปนี้ครับ!!
พอเราไหว้สักการะกันเรียบร้อย ในพื้นที่ใกล้เคียงกันครับจะมีหางริบบิ้น(ตามภาพ) แบ่งสีไว้เยอะมาก
จัดเตรียมไว้ในช่องแต่ละช่องราคา 1 ริงกิตครับ มีจำนวนสีเยอะมากๆ ครับ แต่ละสีจะแทนความหมายดีๆ ครับ
เช่น เรื่องครอบครัว, เรื่องสุขภาพ, เรื่องหน้าที่การงาน, เรื่องโชค ฯลฯ อีกเยอะเลยครับ เราอยากได้เรื่องไหน
เราก็เลือกมาเขียนได้เลยครับ สำหรับผม ผมเลือกครอบครัวครับและเขียนอวยพรให้ "ครอบครัวมีความสุข" ครับ
พอเราเดินลงมาหลังจากไหว็เสร็จ เราก็จะเจอกับสถาปัตยกรรมจีนร่วมสมัยเต็มเลยครับ
ไปครับ เดินไปดูเรื่อยๆ กันครับ เดินขึ้นบ้าง เดินลงบ้างสลับกันไปตลอดทาง โซนที่ผมไปเข้าฟรี!! นะครับ
ถ่ายภาพผ่านมุมมองกรอบประตูครับ จะเห็นเจดีย์อยู่ไกลๆ ครับ
หลังจากเที่ยวชมจนพอใจเราแล้วครับ ก็นั่งรถเมล์สายเดิมครับ 204 กลับมายัง Komtar ครับ
เราแอบแวะกลับไปโรงแรมที่พักแปปนึงไปเติมน้ำเปล่าใส่ขวดครับ เพราะต่อจากนี้จะเดินกันยาวๆ ครับ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
จอร์จทาวน์เป็นเมืองเล็กๆ ที่น่ารัก เราสามารถเดินเท้าได้จนทั่วเมืองเลยครับ ขออธิบายเมืองจอร์จทาวน์นะครับ
จอร์จทาวน์(George Town) เมืองหลวงของรัฐปีนังเป็นเมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโน-โปรตุกีส
ทั่วทั้งเมือง นอกจากนั้นยังมี Street Arts บนกำแพงให้ชมกันตลอดเส้นทางเลยครับ แต่เดิมรัฐปีนังเคยเมืองที่เคยรุ่งเรืองในอดีต
ด้วยเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศมาเลเซียจึงทำให้รัฐปีนังได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมจากชาติอื่นๆโดยเฉพาะยุโรปผสมผสาน
กับวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนท้องถิ่น รัฐปีนังจึงมีเอกลักษณ์ของตัวเองครับ
ภาพเมืองจอร์จทาวน์จากละแวกโรงแรมที่พักครับ
ภาพถ่ายอาคารฝั่งตรงข้ามจากหน้าโรงแรมที่พักครับ
ออกเดินทางกันครับ สถานที่ที่เราจะไปคือ "บ้านสกุลคู" ครับหรือ Khoo Kongsi
เราเดินไปตามถนนหน้าโรงแรมที่พักนิดนึงแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนน Lebuh Kimberley เดินตรงไปจนเจอสี่แยก
แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Lebuh Carnavon เดินตรงไปนิดนึง เลี้ยวขวาเข้าถนน Lebuh Acheh เดินไปประมาณอีก 500 เมตร
แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนน Lebuh Cannon สถานที่แห่งนี้จะตั้งอยู่เยื้องร้าน Fruitmade ครับหาไม่ยากครับสังเกตุจากคนหน้าร้าน
เลยครับ คนแน่นมาก แล้วเยื้องๆ กันจะเป็น "บ้านสกุลคู" ครับหรือ Khoo Kongsi นี่เองครับ
อาคารแรกด้านหน้าเลยครับ เห็นเด่นชัด สวยงามสง่า เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนผสมผสานครับ
พอเราเดินเข้ามาภายในอาคารรู้สึกว่าสวยมากครับ หน้าบันไดทางขึ้นครับ สำหรับความเป็นมา
ของสถานที่แห่งนี้นะครับ เมื่อชาวจีนกลุ่มแรกจากมณฑลฮกเกี้ยนของจีนเดินทางเข้ามาในปีนัง
สิ่งที่พวกเขาทำเป็นอย่างแรกคือสร้างบ้านประจำตระกูลที่โอ่โถงที่สุดในปีนัง บ้านประจำตระกูลหลังนี้
สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1890 กล่าวกันว่าหรูหราเทียบเท่าพระราชวังของจักรพรรดิจีนกันเลยทีเดียว
ตัวบ้านใช้เสาไม้ขนาดย่อมรองรั
[CR] เยือนเมืองมรดกโลก “ปีนัง ไข่มุกแห่งดินแดนตะวันออกของมาเลเซีย”
Device : Smartphone Xiaomi Redmi Note 5 Pro (Auto Mode)
Place : Penang, Malaysia
Date : 20-21 September 2018
Software : Adobe Photoshop Lightroom (Dark Matte Style) บางรูป
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น