หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
"1,095 วัน >>ผมโยนหัวใจให้เด็กๆ...โดยไม่รู้ตัว!! (อะคาเดมี่เล็กๆ..ของเด็กบ้านนอก)"
กระทู้สนทนา
นักกีฬา
กีฬา
ฟุตบอล
ฟุตบอลไทย
จิตอาสา
ผ่านเวลามาแล้ว 3 ปีเต็มๆ (1,095 วัน) กับต้นกล้าต้นน้อยๆและความตั้งใจ..ที่เราหว่านลงไปในสนาม
มันเป็นจุดเริ่มต้นของ อะคาเดมี่เล็กๆ..ของเด็กบ้านนอก ที่หลายๆคนได้ช่วยกันทำ มาร่วมกันสร้างจินตนาการในสมัยเด็กๆให้เป็นความจริง จนวันนี้หลายๆท่านก็ยังคงอยู่ช่วยกันกับเรา..โดยไม่หายไปไหน ผมขออนุญาตแบ่งปันและบอกต่อ..เรื่องราว เรื่องเล่า และความตั้งใจของเรา เพื่อเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง-เพื่อน-พี่-น้อง ที่ร่วมกันทำอะคาเดมี่จิตอาสาเล็กๆ แห่งนี้นะครับ
อะคาเดมี่ที่พวกเราทำ...น่าจะเป็นที่เดียว
ที่มาจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาล ตำรวจ ปลัดอำเภอ นายช่างประปา ที่ช่วยกันเข้ามาทำ เราไม่ใช่นักบอลอาชีพ ซึ่งเราก็ยังต้องศึกษาและปรับทัศนคติอยู่เรื่อยๆในหลายๆเรื่อง เราไปอบรมผู้ฝึกสอนบ้าง ในหลักสูตรระยะสั้น ศึกษาจากยูทูปบ้าง ดูเขาทำบ้าง แล้วเอามาปรับให้เข้ากับเด็กๆของเรา พวกเราอาจเล่นบอลไม่เก่งแต่พอสามารถสอนและถ่ายทอดต่อได้ครับ
เราเป็นอะคาเดมี่เล็กๆในต่างจังหวัด จากเด็ก 4 คน..ในวันที่หลายๆคนมองว่า
“อาจไปได้ไม่ไกล หรืออยู่ได้ไม่นาน วันนี้..เรามีเด็กๆประมาณ 90-100 คน ที่มาฝึกซ้อมกับเราเกือบทุกวัน”
เราอาศัยสนามฟุตบอลโรงเรียนเป็นที่ฝึกซ้อม จากใช้พื้นที่ริมๆสนาม เริ่มขยับเป็นครึ่งสนาม ตอนนี้เรายึดเป็นสนามของเราเรียบร้อยแล้วครับ จากสอนอาทิตย์ละ 2-3 วัน ก็เพิ่มจำนวนวันขึ้น เป็นทุกวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 17.30-19.30 น. (แต่ส่วนใหญ่วันเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นวันที่เราจะพาเด็กๆไปแข่งขันมากกว่า)
อุปกรณ์การฝึกซ้อมต่างๆของเด็กๆ
เราเน้นทำเอง ใช้เอง..เป็นหลักครับ
เอาที่ประหยัดแต่ใช้ประโยชน์ได้ จากวันแรกจนถึงวันนี้ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ภาพและอุปกรณ์การฝึกซ้อมแบบนี้ เราจะยังเห็นอยู่เสมอๆในสนามซ้อมของเรา....
สิ่งหนึ่งที่เราภูมิใจ คือการได้สนามหญ้าให้เด็กๆได้เล่นฟุตบอล เราใช้เวลาตัดสินใจระยะหนึ่งในการทำสนามใหม่ เนื่องจากสนามเดิม พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินลูกรัง มีหิน แข็ง หญ้าตาย ประกอบกับเด็กๆที่มาซ้อม เกิดอุบัติเหตุหกล้มนิ้วหัก แขนหัก ทีมโค้ชจึงตัดสินใจทำทำสนามหญ้าใหม่ ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เราก็สามารถปลูกหญ้าเรียบร้อย ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกๆคน
ด้วยความที่เราใช้สนามแห่งนี้เป็นสนามซ้อมที่ต้องใช้ซ้อม 6 วัน/ สัปดาห์ ปลูกหญ้าดีขนาดไหนก็ไม่รอดครับ ถึงแม้จะรดน้ำหลังซ้อมเสร็จในทุกๆวัน เรื่องพื้นสนามไม่ต้องพูดถึง..จนหลายๆคนตั้งชื่อว่า
"ขลุกขลัก สเตเดี้ยม"
แต่มันก็เป็นความได้เปรียบของทีมเรา เวลาทีมจากในเมือง ที่เล่นสนามหญ้าเทียมมาแข่ง..เจอสนามแบบนี้มีเล่นไม่ออกบ้างแหละครับ แต่สภาพสนามที่ไม่ดี มีผลต่อเบสิคฟุตบอลของเด็กๆอย่างมาก ผมเคยมองข้ามนะ แต่พอไปลุยแข่งสนามดีๆในเมืองกรุง เราเห็นค่อนข้างชัดเจน
การปรับปรุงสนามแต่ละครั้ง ต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งเราก็เคยระดมทุนจากผู้ปกครอง คนในชุมชน คนละเล็กละน้อยจนได้สนามหญ้าใหม่.. แต่อายุการใช้งานได้ไม่นานครับ ยิ่งเป็นสนามของชุมชนที่มีกิจกรรมก็ต้องใช้
หลายครั้งเห็นสภาพสนามเราก็แทบจะร้องไห้...(หือๆๆๆๆ)
*
ลดน้ำสนามหญ้า..แต่สดชื่นถึงหัวใจ
เรามีเด็กๆหลายรุ่นครับ ไหนๆก็ตั้งใจทำกันแล้ว ก็ต้องช่วยกันทำให้ดีที่สุด
เริ่มตั้งแต่ชุดกระตอย (U5-7)/ ชุด U8/ ชุด U9-10/ ชุด U11-12 และ U13-16 และชุดผู้รักษาประตูอีกหนึ่งชุดใหญ่
ในทุกๆวัน..ต้องมีทีมโค้ชอย่างน้อย 6 ท่านที่เข้ามาสอนเด็กๆ ยิ่งเด็กมากๆ พื้นที่ยิ่งไม่เพียงพอ หลายครั้งเราก็ต้องมาเด็กๆเดินมาซ้อมที่สนามโรงพยาบาลสามร้อยยอด ที่ๆพวกเราทำงานกันครับ ก็ซ้อมในช่วงเย็นสำหรับเด็กเล็กๆไม่เกิน 10 ปีครับ เพราะพื้นที่มีน้อยและไม่มีที่กั้น เกรงจะสร้างความเสียหายได้...
ด้วยความที่เราสอนเด็กๆฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ผู้ฝึกสอนเด็กๆก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันนะ บางคนสามารถมาได้ทุกวัน บางคนได้มาสัปดาห์ละ 1-2 วัน หรือบางคนไม่แน่นอน ส่วนหนึ่งเพราะทุกคนมีงานประจำครับ แต่ทุกๆวันก็มีทีมโค้ชเข้าสนาม 6 ท่านทุกวัน
บางท่านนี่ ผมนับถือน้ำใจ และความเสียสละเลยนะ เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล มีขึ้นเวรเช้าต่อดึก หรือเป็นเจ้าหน้าที่ที่ต้องขึ้นเวร แต่ถ้าว่างช่วงเย็นๆ ก็ต้องมาสอนเด็กๆที่สนามทุกครั้ง ปีก่อน..มีน้องปลัดอำเภอมาบรรจุใหม่ (มาจากนครศรีธรรมราชเลย) ได้ยินข่าวว่ามีสอนบอลเด็กๆฟรี ขับมอไซด์มานั่งดูอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ขอเข้ามาช่วยสอนเด็กๆ โดยที่เราไม่ได้ร้องขอเลย (ชอบๆๆ) หรือมีครูอาสาของคริสตจักร ที่เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน...
มีหลายคนเคยบอกว่า
"เวลาอยู่กับเด็กๆ..เราจะได้รับความสดใสจากพวกเขา”
จนหลายๆครั้ง เราก็อยากได้พื้นที่เล็กๆ ให้เราได้เป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่..เหมือนกัน เด็กๆชอบเล่นสนุกและชอบการแข่งขัน โดยพวกเขาไม่ได้สนใจถึงผลแพ้-ชนะ เหมือนที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆสนใจ เขาแค่อยากได้เล่น ได้สนุกกับสิ่งที่เขาชอบ ก็เท่านั้น
วันนี้...เราได้สัมผัสความสดใสของเด็กๆ ได้เห็น
“รอยยิ้ม ความมุ่งมั่นของเด็กๆที่มาเล่นฟุตบอลอยู่เต็มสนาม”
มันเป็นบรรยากาศของอะคาเดมี่เล็กๆในต่างจังหวัดครับ ที่มีอากาศดีๆ มีความสดใสน่ารักของเด็กๆ และความมีน้ำใจของผู้ปกครอง ผมนั่งนึกย้อนกลับไปในวันแรกๆ..ที่เราสอนบอลเด็กๆมาจนถึงวันนี้..ครบ 3 ปีเต็มๆแล้วเหรอ??? จากที่ทำกันเล่นๆ มีเด็กๆ 4-5 คน มาวันนี้เรามีเด็กๆที่เข้ามาฝึกเป็นร้อยคน...
เราเคยทำแบบสอบถามความคิดเห็นกับผู้ปกครองเด็กๆ ก็เอาแบบเข้าใจง่ายๆ ถึงการฝึกสอนฟุตบอลของพวกเรา หลายๆอย่างเรานำมาปรับเพิ่มในตารางสอนเด็กๆ หลายอย่างก็ถือเป็นกำลังใจให้กับเรา
และบางส่วนก็เอามาเป็นรอยยิ้มเวลาอ่านข้อความเห็นเหล่านั้น....
วันซ้อมเบาๆในทุกวัน วันไหนไม่ได้ไปสอน บอกเลยครับว่า..เหงามาก ได้มาเจอเพื่อน พี่ น้อง และเด็กๆ ได้ผ่อนคลายความเครียดจากงานไปอีกแบบ...
จากปีแรกๆที่เราคิดว่า เราจะเน้นการออกกำลังกายให้เด็กๆ จะซ้อมอย่างเดียว เน้นสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสังคมให้เด็กๆ ไม่ไปแข่งขันที่ไหน จนวันหนึ่งเราก็ถูกเชิญไปแข่งขันครับ ไปเจอกับอะคาเดมี่และโรงเรียนดังจากต่างอำเภอ เราส่งเด็กที่เรามีซึ่งส่วนใหญ่อายุ 6-10 ปี ลงแข่งขันในรุ่น 12 ปี บอกเลย..เราแพ้เยอะครับ แต่เด็กๆ ผู้ปกครอง และพวกเราไม่ได้ถอดใจเลย (ไปแข่งครบทุกนัด) เด็กๆได้ลงสนามเกือบทุกคน ผู้ปกครองขนกันไปเชียร์มากมาย..ประหนึ่งว่าเราจะเป็นผู้ชนะ..แต่ป่าวเลยครับ เขาไปให้กำลังใจเด็กตัวเล็กๆที่มีโอกาสได้ลงสนามแข่งขันเป็นครั้งแรก ในครั้งนี้..เราถือว่าเราได้สร้างเด็กที่ไม่เป็นบอลให้ได้มีประสบการณ์ในเกมการแข่ง...ก็พอใจในระดับหนึ่งแล้ว เรากลับมาวางแผน คุยกันใหม่ ศึกษาวิธีการทำทีม โทรถามอะคาเดมี่ต่างๆ เพื่อศึกษาข้อมูล.....
ถึงแม้เราเป็นอะคาเดมี่จิตอาสา แต่เราก็พยายามจะทำให้ของฟรีที่เราทำ..เป็นของที่มีคุณภาพ อาจได้ไม่หมดทุกเรื่อง แต่ก็จะทำให้ได้มากที่สุด บางทีมันก็เหมืนการจินตนาการในสมัยเด็กๆของเราเหมือนกันนะ อยากทำทีมบอล อยากมีสนามเป็นของตัวเอง อยากมีธงแลกเปลี่ยน อยากมีชุดประจำทีมที่เป็นชุดและโลโก้ของเราเอง นึกถึงทีไร..ก็แอบ..
อมยิ้มทุกครั้ง
เราออกแบบตราโลโก้ประจำทีมเป็นรูปน่ารักๆให้เหมาะกับที่เราสอนเด็กๆ เป็นรูปสับปะรด ผลไม้ชื่อดังของบ้านเรา แต่ดูจะคิขุไปหน่อยเลยต้องเติมดาบเข้าไป กลายเป็น
นักรบพันตา ไร่ใหม่อะคาเดมี่
เราทำธงแลกเปลี่ยน แรกๆก็ทำเองครับ ที่บ้านโค้ชท่านหนึ่งเป็นร้านเย็บผ้า ก็ฝากให้ทำ ค่าจ้างไม่ต้องพูดถึง..ไม่มีจ่าย อิอิ
การสอนบอลเด็กๆ มีค่าใช้จ่ายอยู่นะครับ ในช่วงแรกๆ ก็ไม่เท่าไร..เพราะเด็กๆเรามีไม่กี่คน เราก็เน้นสอนฟรีๆ ไปแข่งขันเฉพาะใกล้ๆ แต่ทุกวันนี้ เด็กๆของเราเยอะขึ้นครับ
แต่เจตนาของเรายังเหมือนเดิม คือการเป็นจิตอาสา
ทีมผู้ปกครองและโค้ช จึงหาข้อตกลงร่วมกันเพื่อให้อะคาเดมี่อยู่รอด โดยไม่เป็นภาระทั้งทีมโค้ชและผู้ปกครอง จึงมีข้อตกลงร่วมกันว่า ผู้ปกครองสามารถสนับสนุนเงินให้อะคาเดมี่ได้ที่ 100 บาท/คน มีทีมผู้ปกครองช่วยกันดูแลเงินในส่วนนี้ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของอะคาเดมี่ เนื่องจากเรามีกิจกรรมหลายๆอย่างที่มีค่าใช้จ่าย เงินส่วนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อกิจกรรมของเด็กๆ...
>>รู้สึกชอบการทำงาน แบบจิตอาสา..นะ ยิ่งได้ทำกับเพื่อน-พี่-น้อง ที่ไร่ใหม่อะคาเดมี่ แล้วยิ่งรู้สึกดี
จากโค้ชไม่กี่คนกลายมาเป็นทีมงาน จากเด็กเพียงหยิบมือ
ก็กลายเป็น..ครอบครัวใหญ่
2 ปีที่ผ่านมา เราพาเด็กๆไปแข่งขันมากขึ้น อย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่ก็เน้นในพื้นที่ก่อน หลายๆครั้งเราก็พาเด็กๆไปแข่งที่กรุงเทพฯ ก็เพื่อประสบการณ์ใหม่ของเด็กๆ
การส่งแข่งขันในแต่ละรายการ เราไม่ได้หวังว่าเด็กๆจะชนะหรือได้แชมป์อะไรนะ
แค่เล่นได้เต็มที่ สนุกกับเกม แพ้ได้แต่อย่าเยอะ แค่นี้..พวกเราก็พอใจแล้ว
หลายครั้ง..เราแพ้กลับมา เราไม่เคยโทษเด็กๆนะ แต่โทษตัวเองมากกว่าที่สอนไม่ดี ก็ต้องกลับมาฝึกซ้อมกันใหม่
ขออนุญาต..ต่อด้านล่างนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อะคาเดมี่จิตอาสา.."จากกิจกรรมยามว่าง กลายเป็นช่วงเวลาหลัก...แห่งความสุข"
ขออนุญาตแบ่งปันเรื่องราว..เพื่อเป็นกำลังใจให้กับตัวเองและพี่-น้อง-พองเพื่อน ที่ร่วมกันทำกิจกรรมอยู่นะครับ >>ในอำเภอของเราไม่มีอะคาเดมี่ฝึกสอนฟุตบอล ซึ่งหากเด็กๆจะเรียนก็ต้องไปเรียนอีกอำเภอหนึ่ง
สมาชิกหมายเลข 3530736
"สนามเหย้า"..ของอะคาเดมี่เด็กบ้านนอก
สำหรับทีมฟุตบอลการมีสนามเหย้า..ก็เหมือนมีบ้านเป็นของตัวเอง วันนี้..ผมจะพาไปดูสนามเหย้าที่เราภูมิใจ ของทีมเรากันครับ เราเป็นทีมอะคาเดมี่เล็กๆในต่างจังหวัด..ทำมาสองปีกว่า จากเด็กเพียง 4 คนในวันแรกๆ วันน
นายระบาด สามร้อยยอด
ปรับแผน!!!💥 ไม่ซ้อมหญ้าเทียมแล้ว “อิชิอิ”ห่วงบาดเจ็บ🥰🇯🇵🇹🇭
ทีมชาติไทย จะกลับมาซ้อมที่สนามหญ้าจริง ที่ บีจี ตามเดิมในวันนี้ การไปซ้อมที่สนามหญ้าเทียมเมื่อวานคือการซ้อมเอาฟีลลิ่ง ✅ 👉 “อิชิอิ” ให้ความสำคัญกับเรื่องอาการบาดเจ็บมาก เพราะหากไปซ้อมแต่หญ
สมาชิกหมายเลข 8444838
I มีข่าวว่า 'กัปตันหน้าเครียด ผมเรียบแปล้ ' ทีมเคยใหญ่ไทยลีก 1 ยังไม่ขยายสัญญา !!! ที่จะหมดสิ้นเดือนนี้
Big match ล่าสุด เจ็บ ต้องแยกซ้อม ไม่ได้ออนทัวร์กับเขา แฟนๆ หัวหมุนแข่งกับ ตุ๊กตายองฮี ร้องเพลงโกโกวา --รอ-- บทสรุปแบบสมหวัง หรือจะรอเก้อ ขอให้ จบสวยได้ข่าวดี ยังไม่มีมือที่ 3 เด็กอะคาเดมี่เก่าว่
ฮันเทซก
ทำอะคาเดมี่จิตอาสา..ความสุขเล็กๆของคนชอบฟุตบอล
ผมและเพื่อนๆรวมตัวกันทำ.."อะคาเดมี่ จิตอาสา" มันไม่ใช่ความฝันนะครับ แต่มันเป็นความสุขของเราทุกๆคน เราอาศัยช่วงเวลาว่างๆของเพื่อนๆในกลุ่มมาช่วยกันสอนเด็ก ก็ตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงหกโมงครึ่ง ทุก
นายระบาด สามร้อยยอด
🧒 โค้ช ศิวิไล เอฟซี แจงเป็นแท็กติกที่วางไว้ 👍 หลังโดนดราม่า ลูกทีม "ไม่พยายามเล่นบอล"
🗣️ “แท็กติกผมมาแบบนี้ครับ จะให้ผมเปิดหน้าสู้ เบสิคพื้นฐานผมคงสู้ทีม ธ.เจริญทรัพย์ ไม่ได้ และสนามแมตช์ชิงก็ใหญ่ขึ้น ผมก็ต้องใช้ผู้รักษาประตูในการเปิดเกม เพื่อที่จะชิงความได้เปรียบตัวผู้เล่น&rdquo
สมาชิกหมายเลข 7793648
เป็นนักกีฬาแบดมินตัน แต่ไม่ทนเหนื่อย
คืออยากได้ความอึด เวลาแข่งแรงหมดง่าย เวลาซ้อม ต้องซ้อมวิ่งแบบไหนดีครับ -วิ่งสนามบอล ความเร็วประมาณเท่าไหร่ กี่รอบ แล้วกี่วันต่อสัปดาห์ครับ -วิ่งสปีด ??? -วิ่งคอร์ท ??? ฝีมือพอมี แต่ร่างกายไม่ทน
สมาชิกหมายเลข 8037800
อะคาเดมี่ที่เด็กอยากเข้ามากที่สุด
โอกาสแทบจะไม่ถึง 1 % ณ สนามฝึกซ้อมช้างเทรนนิ่งกราวด์ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่มีทางลัด มีแต่ทางตรง ผ่านรอบนี้ ต้องไปต่อ ที่แคมป์ เก็บตัวและคัดรอบไฟนอล ที่สโม
สมาชิกหมายเลข 6773802
สวัสดีครับมีคำถามเกี่ยวกับฟุตบอล
คือผมเริ่มเล่นบอลตอน7-8ขวบยังไม่จริงจังเท่าไหร่นักตอนนั้นเริ่มจริงจังตอน12ปี ตอนน้ผม14ปีผมตื่นมาวิ่งตอน5:00 เเล้วก็ซ้อมเบสิกพื้นฐาน พอตกเย็นมาประมาณ16:30ผมมาซ้อมกับอคาเดมี่ พื้นฐาน เเล้วลงทีม ลงกับคนใ
สมาชิกหมายเลข 8463696
อายุ15เป็นนักบอลทันไหม
ผมอายุ15เป็นนักบอลทันไหมครับ มีพื้นฐานฟุตบอลหมด เล่นบอลตั้งแต่อายุ10ขวบ เล่นกับเพื่อนแต่ไม่เคยลงสนามจริง เคยมีโค้ชอคาเดมี่ ในไทยลีคมาติดต่อให้ไปคัดตัวตอนอายุ13 เพราะเคยเล่นบอลกับลูกเขาที่สนิทกัน แต่ต
สมาชิกหมายเลข 7254568
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
นักกีฬา
กีฬา
ฟุตบอล
ฟุตบอลไทย
จิตอาสา
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 17
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
"1,095 วัน >>ผมโยนหัวใจให้เด็กๆ...โดยไม่รู้ตัว!! (อะคาเดมี่เล็กๆ..ของเด็กบ้านนอก)"
ผ่านเวลามาแล้ว 3 ปีเต็มๆ (1,095 วัน) กับต้นกล้าต้นน้อยๆและความตั้งใจ..ที่เราหว่านลงไปในสนาม มันเป็นจุดเริ่มต้นของ อะคาเดมี่เล็กๆ..ของเด็กบ้านนอก ที่หลายๆคนได้ช่วยกันทำ มาร่วมกันสร้างจินตนาการในสมัยเด็กๆให้เป็นความจริง จนวันนี้หลายๆท่านก็ยังคงอยู่ช่วยกันกับเรา..โดยไม่หายไปไหน ผมขออนุญาตแบ่งปันและบอกต่อ..เรื่องราว เรื่องเล่า และความตั้งใจของเรา เพื่อเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง-เพื่อน-พี่-น้อง ที่ร่วมกันทำอะคาเดมี่จิตอาสาเล็กๆ แห่งนี้นะครับ
อะคาเดมี่ที่พวกเราทำ...น่าจะเป็นที่เดียว ที่มาจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาล ตำรวจ ปลัดอำเภอ นายช่างประปา ที่ช่วยกันเข้ามาทำ เราไม่ใช่นักบอลอาชีพ ซึ่งเราก็ยังต้องศึกษาและปรับทัศนคติอยู่เรื่อยๆในหลายๆเรื่อง เราไปอบรมผู้ฝึกสอนบ้าง ในหลักสูตรระยะสั้น ศึกษาจากยูทูปบ้าง ดูเขาทำบ้าง แล้วเอามาปรับให้เข้ากับเด็กๆของเรา พวกเราอาจเล่นบอลไม่เก่งแต่พอสามารถสอนและถ่ายทอดต่อได้ครับ
เราเป็นอะคาเดมี่เล็กๆในต่างจังหวัด จากเด็ก 4 คน..ในวันที่หลายๆคนมองว่า “อาจไปได้ไม่ไกล หรืออยู่ได้ไม่นาน วันนี้..เรามีเด็กๆประมาณ 90-100 คน ที่มาฝึกซ้อมกับเราเกือบทุกวัน” เราอาศัยสนามฟุตบอลโรงเรียนเป็นที่ฝึกซ้อม จากใช้พื้นที่ริมๆสนาม เริ่มขยับเป็นครึ่งสนาม ตอนนี้เรายึดเป็นสนามของเราเรียบร้อยแล้วครับ จากสอนอาทิตย์ละ 2-3 วัน ก็เพิ่มจำนวนวันขึ้น เป็นทุกวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 17.30-19.30 น. (แต่ส่วนใหญ่วันเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นวันที่เราจะพาเด็กๆไปแข่งขันมากกว่า)
อุปกรณ์การฝึกซ้อมต่างๆของเด็กๆ เราเน้นทำเอง ใช้เอง..เป็นหลักครับ เอาที่ประหยัดแต่ใช้ประโยชน์ได้ จากวันแรกจนถึงวันนี้ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ภาพและอุปกรณ์การฝึกซ้อมแบบนี้ เราจะยังเห็นอยู่เสมอๆในสนามซ้อมของเรา....
สิ่งหนึ่งที่เราภูมิใจ คือการได้สนามหญ้าให้เด็กๆได้เล่นฟุตบอล เราใช้เวลาตัดสินใจระยะหนึ่งในการทำสนามใหม่ เนื่องจากสนามเดิม พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินลูกรัง มีหิน แข็ง หญ้าตาย ประกอบกับเด็กๆที่มาซ้อม เกิดอุบัติเหตุหกล้มนิ้วหัก แขนหัก ทีมโค้ชจึงตัดสินใจทำทำสนามหญ้าใหม่ ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เราก็สามารถปลูกหญ้าเรียบร้อย ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกๆคน
ด้วยความที่เราใช้สนามแห่งนี้เป็นสนามซ้อมที่ต้องใช้ซ้อม 6 วัน/ สัปดาห์ ปลูกหญ้าดีขนาดไหนก็ไม่รอดครับ ถึงแม้จะรดน้ำหลังซ้อมเสร็จในทุกๆวัน เรื่องพื้นสนามไม่ต้องพูดถึง..จนหลายๆคนตั้งชื่อว่า "ขลุกขลัก สเตเดี้ยม" แต่มันก็เป็นความได้เปรียบของทีมเรา เวลาทีมจากในเมือง ที่เล่นสนามหญ้าเทียมมาแข่ง..เจอสนามแบบนี้มีเล่นไม่ออกบ้างแหละครับ แต่สภาพสนามที่ไม่ดี มีผลต่อเบสิคฟุตบอลของเด็กๆอย่างมาก ผมเคยมองข้ามนะ แต่พอไปลุยแข่งสนามดีๆในเมืองกรุง เราเห็นค่อนข้างชัดเจน
การปรับปรุงสนามแต่ละครั้ง ต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งเราก็เคยระดมทุนจากผู้ปกครอง คนในชุมชน คนละเล็กละน้อยจนได้สนามหญ้าใหม่.. แต่อายุการใช้งานได้ไม่นานครับ ยิ่งเป็นสนามของชุมชนที่มีกิจกรรมก็ต้องใช้ หลายครั้งเห็นสภาพสนามเราก็แทบจะร้องไห้...(หือๆๆๆๆ)
*ลดน้ำสนามหญ้า..แต่สดชื่นถึงหัวใจ
เรามีเด็กๆหลายรุ่นครับ ไหนๆก็ตั้งใจทำกันแล้ว ก็ต้องช่วยกันทำให้ดีที่สุด เริ่มตั้งแต่ชุดกระตอย (U5-7)/ ชุด U8/ ชุด U9-10/ ชุด U11-12 และ U13-16 และชุดผู้รักษาประตูอีกหนึ่งชุดใหญ่ ในทุกๆวัน..ต้องมีทีมโค้ชอย่างน้อย 6 ท่านที่เข้ามาสอนเด็กๆ ยิ่งเด็กมากๆ พื้นที่ยิ่งไม่เพียงพอ หลายครั้งเราก็ต้องมาเด็กๆเดินมาซ้อมที่สนามโรงพยาบาลสามร้อยยอด ที่ๆพวกเราทำงานกันครับ ก็ซ้อมในช่วงเย็นสำหรับเด็กเล็กๆไม่เกิน 10 ปีครับ เพราะพื้นที่มีน้อยและไม่มีที่กั้น เกรงจะสร้างความเสียหายได้...
ด้วยความที่เราสอนเด็กๆฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้ฝึกสอนเด็กๆก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันนะ บางคนสามารถมาได้ทุกวัน บางคนได้มาสัปดาห์ละ 1-2 วัน หรือบางคนไม่แน่นอน ส่วนหนึ่งเพราะทุกคนมีงานประจำครับ แต่ทุกๆวันก็มีทีมโค้ชเข้าสนาม 6 ท่านทุกวัน
บางท่านนี่ ผมนับถือน้ำใจ และความเสียสละเลยนะ เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล มีขึ้นเวรเช้าต่อดึก หรือเป็นเจ้าหน้าที่ที่ต้องขึ้นเวร แต่ถ้าว่างช่วงเย็นๆ ก็ต้องมาสอนเด็กๆที่สนามทุกครั้ง ปีก่อน..มีน้องปลัดอำเภอมาบรรจุใหม่ (มาจากนครศรีธรรมราชเลย) ได้ยินข่าวว่ามีสอนบอลเด็กๆฟรี ขับมอไซด์มานั่งดูอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ขอเข้ามาช่วยสอนเด็กๆ โดยที่เราไม่ได้ร้องขอเลย (ชอบๆๆ) หรือมีครูอาสาของคริสตจักร ที่เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน...
มีหลายคนเคยบอกว่า "เวลาอยู่กับเด็กๆ..เราจะได้รับความสดใสจากพวกเขา” จนหลายๆครั้ง เราก็อยากได้พื้นที่เล็กๆ ให้เราได้เป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่..เหมือนกัน เด็กๆชอบเล่นสนุกและชอบการแข่งขัน โดยพวกเขาไม่ได้สนใจถึงผลแพ้-ชนะ เหมือนที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆสนใจ เขาแค่อยากได้เล่น ได้สนุกกับสิ่งที่เขาชอบ ก็เท่านั้น
วันนี้...เราได้สัมผัสความสดใสของเด็กๆ ได้เห็น “รอยยิ้ม ความมุ่งมั่นของเด็กๆที่มาเล่นฟุตบอลอยู่เต็มสนาม”
มันเป็นบรรยากาศของอะคาเดมี่เล็กๆในต่างจังหวัดครับ ที่มีอากาศดีๆ มีความสดใสน่ารักของเด็กๆ และความมีน้ำใจของผู้ปกครอง ผมนั่งนึกย้อนกลับไปในวันแรกๆ..ที่เราสอนบอลเด็กๆมาจนถึงวันนี้..ครบ 3 ปีเต็มๆแล้วเหรอ??? จากที่ทำกันเล่นๆ มีเด็กๆ 4-5 คน มาวันนี้เรามีเด็กๆที่เข้ามาฝึกเป็นร้อยคน...
เราเคยทำแบบสอบถามความคิดเห็นกับผู้ปกครองเด็กๆ ก็เอาแบบเข้าใจง่ายๆ ถึงการฝึกสอนฟุตบอลของพวกเรา หลายๆอย่างเรานำมาปรับเพิ่มในตารางสอนเด็กๆ หลายอย่างก็ถือเป็นกำลังใจให้กับเรา และบางส่วนก็เอามาเป็นรอยยิ้มเวลาอ่านข้อความเห็นเหล่านั้น....
วันซ้อมเบาๆในทุกวัน วันไหนไม่ได้ไปสอน บอกเลยครับว่า..เหงามาก ได้มาเจอเพื่อน พี่ น้อง และเด็กๆ ได้ผ่อนคลายความเครียดจากงานไปอีกแบบ...
จากปีแรกๆที่เราคิดว่า เราจะเน้นการออกกำลังกายให้เด็กๆ จะซ้อมอย่างเดียว เน้นสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสังคมให้เด็กๆ ไม่ไปแข่งขันที่ไหน จนวันหนึ่งเราก็ถูกเชิญไปแข่งขันครับ ไปเจอกับอะคาเดมี่และโรงเรียนดังจากต่างอำเภอ เราส่งเด็กที่เรามีซึ่งส่วนใหญ่อายุ 6-10 ปี ลงแข่งขันในรุ่น 12 ปี บอกเลย..เราแพ้เยอะครับ แต่เด็กๆ ผู้ปกครอง และพวกเราไม่ได้ถอดใจเลย (ไปแข่งครบทุกนัด) เด็กๆได้ลงสนามเกือบทุกคน ผู้ปกครองขนกันไปเชียร์มากมาย..ประหนึ่งว่าเราจะเป็นผู้ชนะ..แต่ป่าวเลยครับ เขาไปให้กำลังใจเด็กตัวเล็กๆที่มีโอกาสได้ลงสนามแข่งขันเป็นครั้งแรก ในครั้งนี้..เราถือว่าเราได้สร้างเด็กที่ไม่เป็นบอลให้ได้มีประสบการณ์ในเกมการแข่ง...ก็พอใจในระดับหนึ่งแล้ว เรากลับมาวางแผน คุยกันใหม่ ศึกษาวิธีการทำทีม โทรถามอะคาเดมี่ต่างๆ เพื่อศึกษาข้อมูล.....
ถึงแม้เราเป็นอะคาเดมี่จิตอาสา แต่เราก็พยายามจะทำให้ของฟรีที่เราทำ..เป็นของที่มีคุณภาพ อาจได้ไม่หมดทุกเรื่อง แต่ก็จะทำให้ได้มากที่สุด บางทีมันก็เหมืนการจินตนาการในสมัยเด็กๆของเราเหมือนกันนะ อยากทำทีมบอล อยากมีสนามเป็นของตัวเอง อยากมีธงแลกเปลี่ยน อยากมีชุดประจำทีมที่เป็นชุดและโลโก้ของเราเอง นึกถึงทีไร..ก็แอบ..อมยิ้มทุกครั้ง
เราออกแบบตราโลโก้ประจำทีมเป็นรูปน่ารักๆให้เหมาะกับที่เราสอนเด็กๆ เป็นรูปสับปะรด ผลไม้ชื่อดังของบ้านเรา แต่ดูจะคิขุไปหน่อยเลยต้องเติมดาบเข้าไป กลายเป็น นักรบพันตา ไร่ใหม่อะคาเดมี่ เราทำธงแลกเปลี่ยน แรกๆก็ทำเองครับ ที่บ้านโค้ชท่านหนึ่งเป็นร้านเย็บผ้า ก็ฝากให้ทำ ค่าจ้างไม่ต้องพูดถึง..ไม่มีจ่าย อิอิ
การสอนบอลเด็กๆ มีค่าใช้จ่ายอยู่นะครับ ในช่วงแรกๆ ก็ไม่เท่าไร..เพราะเด็กๆเรามีไม่กี่คน เราก็เน้นสอนฟรีๆ ไปแข่งขันเฉพาะใกล้ๆ แต่ทุกวันนี้ เด็กๆของเราเยอะขึ้นครับ แต่เจตนาของเรายังเหมือนเดิม คือการเป็นจิตอาสา ทีมผู้ปกครองและโค้ช จึงหาข้อตกลงร่วมกันเพื่อให้อะคาเดมี่อยู่รอด โดยไม่เป็นภาระทั้งทีมโค้ชและผู้ปกครอง จึงมีข้อตกลงร่วมกันว่า ผู้ปกครองสามารถสนับสนุนเงินให้อะคาเดมี่ได้ที่ 100 บาท/คน มีทีมผู้ปกครองช่วยกันดูแลเงินในส่วนนี้ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของอะคาเดมี่ เนื่องจากเรามีกิจกรรมหลายๆอย่างที่มีค่าใช้จ่าย เงินส่วนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อกิจกรรมของเด็กๆ...
>>รู้สึกชอบการทำงาน แบบจิตอาสา..นะ ยิ่งได้ทำกับเพื่อน-พี่-น้อง ที่ไร่ใหม่อะคาเดมี่ แล้วยิ่งรู้สึกดี
จากโค้ชไม่กี่คนกลายมาเป็นทีมงาน จากเด็กเพียงหยิบมือ ก็กลายเป็น..ครอบครัวใหญ่
2 ปีที่ผ่านมา เราพาเด็กๆไปแข่งขันมากขึ้น อย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่ก็เน้นในพื้นที่ก่อน หลายๆครั้งเราก็พาเด็กๆไปแข่งที่กรุงเทพฯ ก็เพื่อประสบการณ์ใหม่ของเด็กๆ
การส่งแข่งขันในแต่ละรายการ เราไม่ได้หวังว่าเด็กๆจะชนะหรือได้แชมป์อะไรนะ แค่เล่นได้เต็มที่ สนุกกับเกม แพ้ได้แต่อย่าเยอะ แค่นี้..พวกเราก็พอใจแล้ว หลายครั้ง..เราแพ้กลับมา เราไม่เคยโทษเด็กๆนะ แต่โทษตัวเองมากกว่าที่สอนไม่ดี ก็ต้องกลับมาฝึกซ้อมกันใหม่
ขออนุญาต..ต่อด้านล่างนะครับ