เห็นมีคนถามถึงการไปพบจิตแพทย์บ่อยมากๆ เราเลยอยากจะมาแนะนำ ศูนย์บริการสาธารณสุข ของกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นอีกทางเลือกของคนอยากพบจิตแพทย์ค่ะ

        ขอเกริ่นก่อนนะคะว่า เรามีปัญหาความเครียดสะสมจากการทำงานมาหลายปี มันสะสมเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว ยิ่งหน้าที่ความรับผิดชอบมากขึ้น ความเครียดก็มากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ส่วนหนึ่งเพราะเราเหมือน HUB ของออฟฟิศ ที่ทุกคนเชื่อมทุกสิ่งทุกอย่างกับเราหมด เพราะเราเป็นคนที่มุษยสัมพันธ์ดีในระดับนึง และเป็นคนไม่ค่อยปฏิเสธใคร ทำให้เหมือนทุกคนโยนทุกสิ่งทุกอย่างมาที่เรา แล้วเราก็แบกรับทุกอย่างไว้แบบไม่รู้ตัว อาทิ จองร้านอาหาร ซื้อขนมให้ลูกค้า หากิจกรรมให้ออฟฟิศ โดนใช้ให้คุยกับลูกค้า หรือ ใช้ให้เราไปคุยกับเจ้านายเวลาเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นมา ซึ่งทุกอย่างมันไม่ใช่หน้าที่เราเลย

        ที่แย่ไปกว่านั้นคือ พอเป็นออฟฟิศเล็กๆ และเจ้านายเป็นคนบ้างานมากๆแล้ว ทำให้ ทุกเวลาของเจ้านายคือ งาน งาน งาน เช่น เที่ยงกำลังจะกินข้าวก็เรียกประชุมซะอย่างนั้น หรืออยากจะได้ข้อมูลอะไรจะโทรถามโดยไม่ดูว่ากี่โมง หรือวันนั้นเราลาหรือเปล่า แย่สุดคือ เวลาไปเที่ยว เราจะทะเลาะกับแฟนประจำ เพราะต้องจอดรถคุยโทรศัพท์เรื่องงานตลอดเวลา เดี๋ยวคนนั้นโทรมา คนนี้โทรมา ประสาทจะเสียไปหมด

         ซึ่งนอกจากจะเครียดเรื่องงานแล้ว ยังมีเครียดเรื่องเพื่อนร่วมงานที่ไม่ใช่พนักงานประจำอีกด้วย เพราะอายุค่อนข้างห่างกัน แต่ต้องทำการร่วมกันตลอด แถมเค้ายังพูดจา Bully ใส่เราบ่อยมาก บวกกับงานที่มีปัญหา ทำให้เราเครียด กดดัน เกิดความกังวล หนักสุดคือ นอนไม่หลับ ไม่อยากไปทำงาน นอนร้องไห้ พูดแต่ไม่อยากทำงานๆๆๆ และสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจพบจิตแพทย์เพราะ ไม่นานมานี้ โกรธกับเพื่อนร่วมงาน แล้วระเบิดอารมณืกลางออฟฟิศ โกรธจนมือสั่นมากๆ ขนาดกดโทรศัพท์มือถือไม่ได้ ต้องไปนั่งสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะหาย เลยรู้ตัวแล้วว่าอาการมันหนักขึ้นจริงๆ

         ตอนแรกตัดสินใจว่าจะไปพบแพทย์ที่ รพ.รามา แต่พอโทรสอบถาม ปรากฏว่าคิวยาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ก็เลยหาข้อมูลใหม่ กะว่าจะไปหาที่ รพ.นพรัตน์ เพราะไม่ไกลบ้านนัก ซึ่งโทรสอบถามก็พบว่าจองคิวไม่ได้และต้องรีบไปเนื่องจากคนไข้เยอะมากๆและจะใช้เวลานาน ส่วน รพ. ที่เรามีประกันสังคมอยู่นั้นเป็น รพ.เอกชน ต้องไปพบแพทย์ทั่วไปก่อน และให้หมอลงความเห็นว่าควรพบจิตแพทย์ถึงจะได้ส่งตัวไปจิตเวช ก็เลยตัดทั้ง 3 รพ. นี้ออกไป แล้วหาข้อมูลอีกครั้ง และมาสะดุดที่ "ศูนย์บริการสาธารณสุข 24 บางเขน" เพราะตอนแรกคิดว่าเป็นอนามัยทั่วไปปกติ แต่ไม่รู้เลยว่า มีแผนกจิตเวชด้วย ที่สำคัญใกล้กับที่พักเรามากๆ ก็เลยโทรไปสอบถาม พบว่า จิตแพทย์จะเข้าตรวจทุกวันอังคารและพฤหัส ถ้าเป็นคนไข้ใหม่ให้รีบไปเช้าหน่อย เพราะต้องซักประวัตินาน

         สารภาพว่า เราผ่าน ศูนย์บริการสาธารณสุข 24 บางเขน บ่อยมากๆ แต่ไม่เคยสังเกตว่ามีศูนย์ตรงนี้ วันที่เราไปตรวจ ไปถึงที่ศูนย์ตอน 7 โมงครึ่ง ภาพที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ มารอคิวตรวจ ความดัน เบาหวาน ส่วนคนไข้ใหม่ ต้องเดินผ่านจุดคัดกรองไปเอาบัตรคิวด้านใน พร้อมบัตรประชาขน ไปยื่นที่ตู้จุดคัดกรอง แล้วเค้าจะถามว่ามาหาหมอเป็นอะไร จากนั้นก็จะได้ใบกรอกประวัติ แล้วก็รอเรียกชื่อ

         พอเจ้าหน้าที่จุดคัดกรองบันทึกประวัติเราแล้ว จะให้เรานำเอกสารไปวางที่โต๊ะด้านในเพื่อวัดความดันค่ะ หลังวัดความดันเสร็จ เจ้าหน้าที่จะให้นำเอกสารไปยื่นที่ห้องทะเบียน ก็จะเป็นการรอรับบัตรผู้ป่วยค่ะ ซึ่งถึงตรงนี้เราใช้เวลาไปประมาณ ครึ่งชั่วโมง จากจุดแรกค่ะ ตอนรับบัตรเจ้าหน้าที่จะถามว่า มีโรคประจำตัวมั๊ย สูบบุหรี่ ดื่มสุรามั๊ย คนในครอบครัวสูบบุหรี่มั๊ย ประมาณนี้ค่ะ เมื่อได้บัตรแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้ไปที่ชั้น 2 ที่เป็นแผนกจิตเวชค่ะ

         ตอนขึ้นมาที่แผนกจิตเวชก็ไม่ต้องทำอะไรค่ะ นั่งรอตามคิวที่นั่งรอเลย ภาพที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเล็กหลายคน คาดว่า โรงเรียนน่าจะแนะนำให้ผู้ปกครองมา ที่เหลือก็จะเป็นวัยรุ่นกับวัยกลางคน ทีนี้พอเรานั่งไปสักพัก จะมีนักสังคมสงเคราะห์เรียกเราไปพูดคุยเบื้องต้น ซักประวัติครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง แฟน อะไรประมาณนี้ ก็จะซักเราไปเรื่อยๆ แล้วเขียนรายงานส่งจิตแพทย์ (ขั้นตอนนี้ เราเสียน้ำตาไปหนึ่งกระบุง 555) จากนั้นก็จะให้ออกไปรอคุณหมอค่ะ

         พอถึงคิวเราเข้าพบจิตแพทย์ พี่นักสังคมสงเคราะห์จะเข้าไปพูดคุยกับหมอก่อน ซึ่งเรามองผ่านกระจก คาดว่าน่าจะพูดคุยอาการเบื้องต้นของเรา จากนั้นเราก็จะได้พบแพทย์ค่ะ ซึ่งคำถามแรกก็คือ "วันนี้มีอะไรจะมาปรึกษา อยากเล่าให้ฟัง หรืออยากให้หมอช่วยอะไร" จากนั้น เราก็พรั่งพรู ความรู้สึกทุกอย่างออกไป (เสียน้ำตาไปหลายกระบุง) คุณหมอก็ฟังเราอย่างใจเย็น แล้วค่อยๆให้คำแนะนำค่ะ โดยคุณหมอบอกว่า เคสของเรายังไม่ถึงขั้นซึมเศร้า มีบางอาการที่ใกล้เคียงแต่ไม่ทั้งหมด ให้ลองปรับตัวตามคำแนะนำ และเบื้องต้นให้ยาไปทานก่อน 1 ตัวค่ะ และนัดติดตามอาการอีกทีเดือนหน้า ซึ่งเราใช้เวลาคุยกับคุณหมอไปประมาณครึ่งชั่วโมง ออกจากห้องคุณหมอประมาณ 10 โมงนิดๆค่ะ จากนั้นคุณหมอจะให้เอกสารไปยื่นที่เจ้าหน้าที่หน้าห้อง แล้วเจ้าหน้าที่จะให้เอกสารไปยื่นห้องยาค่ะ

         ตอนที่เราลงมาห้องยา ไม่มีคิวรออยู่เลย พอเราไปยื่นเอกสารไม่ถึง 5 นาที เจ้าหน้าที่ก็เรียกไปจ่ายเงินและรับยา แล้วก็กลับบ้านได้ค่ะ ค่าเสียหายของเรา 85 บาท ค่ะ เป็นค่ายา 35 บาท ค่าบริการ 50 บาท ตอนรู้ราคานี่ขำกับแฟนเลย เพราะว่าตอนจะมา ไปกดตังเตรียมไว้ 1500 เป็นค่ายา แต่เสียไปไม่ถึง 100 บาท ยังพูดกับแฟนว่า ค่ารถมาแพงกว่าอีก

         สรุปนะคะ ก่อนมายอมรับว่าค่อนข้างกังวลเรื่องการบริการ เพราะเคยมีภาพจำไม่ดีกับหน่วยงานรัฐ แต่ที่นี่ไม่ใช่เลย เจ้าหน้าที่ทุกคนพูดจาดีมากๆๆๆๆๆ ยิ้มแย้ม แนะนำดีมากๆ ตั้งแต่จุดคัดกรอง ยันห้องรับยา มันทำให้เรารู้สึกดีและสบายใจในการเข้ารับบริการ แถมราคาไม่แพงมาก คนใช้บริการไม่เยอะ มาก (อาจจะแล้วแต่วันด้วย) รอไม่นานอย่างที่คิด ที่สำคัญ ศูนย์แบบนี้มีหลายจุดทั่วกรุงเทพค่ะ ไม่ต้องเสียเวลาไปโรงพยาบาลใหญ่ๆ ก็สามารถพบจิตแพทย์ได้เช่นกันค่ะ

         ปล. ไม่แน่ใจว่าเข้ารับบริการได้เฉพาะผู้มีภูมิลำเนาใน กทม. รึเปล่านะคะ และหากเข้ารับการรักษาเป็นครั้งแรก แนะนำว่าควรไปถึงไม่เกิน 7.30 น. ค่ะ เพราะคุณหมอมีท่านเดียว และจะรับผู้ป่วยใหม่ได้ไม่เยอะค่ะ