ทนายยัน 'ปู' พร้อมให้อภัยคดี ว.5 เพื่อสำนึกให้โพสต์ขอโทษจนถึง 19 ต.ค.
https://www.thairath.co.th/content/1392762

ทนายปูยก "ยิ่งลักษณ์" พร้อมให้อภัย "ศิริโชค-ชวนนท์-เทพไท" คดี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ เพราะไม่อยากเห็นจำเลยเป็นทุกข์ แต่เพื่อให้สำนึกต้องให้โพสต์ขอโทษ จนครบกำหนด 19 ต.ค.

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.61 นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเจรจาเพื่อถอนคำฟ้องฎีกาในคดีหมิ่นประมาทโฟร์ซีซั่นส์ และนำมาซึ่งการหารือกันระหว่างทีมทนายกับจำเลยในวันนี้ว่า จำเลยทั้ง 3 คน คือนายศิริโชค โสภา นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต และนายเทพไท เสนพงศ์ ได้ติดต่อผ่านนายวัฒนา เมืองสุข โดยขอให้โจทก์ยื่นคำร้องถอนฎีกาในคดีหมิ่นประมาทที่จำเลยทั้ง 3 ถูกศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่ามีความผิดจริงตามฟ้อง สั่งลงโทษจำคุกและปรับ โดยจำเลยทั้ง 3 ได้สำนึกผิดในการกระทำที่เกิดขึ้น และขออภัยต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะโจทก์

ซึ่งเมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายศิริโชค โสภา จำเลยที่ 2 ได้เป็นตัวแทนจำเลยอีก 2 คน โพสต์ข้อความเป็นจดหมายเปิดผนึกแสดงความสำนึกผิดและขออภัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ผ่านเฟซบุ๊กเป็นระยะเวลา 7 วัน อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ฟ้องร้องเพื่อความเป็นธรรมและเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีส่วนบุคคล เมื่อศาลพิจารณาข้อเท็จจริงตัดสินว่า การกระทำของจำเลยมีความผิดจริง และจำเลยมาขอโทษด้วยความสำนึกผิดจริง พร้อมกับขอให้ให้อภัยต่อจำเลย ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมจะให้อภัย และไม่ปรารถนาที่จะเห็นครอบครัวของจำเลยทั้ง 3 ต้องเผชิญกับความทุกข์ เหมือนกรณีที่นักโทษทางการเมืองหลายคนได้รับไปก่อนหน้านี้ แม้แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์และครอบครัวที่ได้รับผลกระทบและได้รับความทุกข์ที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัวด้วยเหตุทางการเมือง

นายนรวิชญ์ กล่าวต่ออีกว่า ด้วยเหตุผลดังกล่าวในการเจรจาในวันนี้ ทางทนายประกอบไปด้วยตนกับนายสมหมาย กู้ทรัพย์ จึงต้องการให้จำเลยคงข้อความขอโทษผ่านเฟซบุ๊กของจำเลยที่ 2 จนกว่าจะพ้นกำหนดระยะเวลาของวันที่ 19 ต.ค. ซึ่งศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา เพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ใจของจำเลยทั้งสามว่ามีความสำนึกผิดและมีเจตนาที่จะให้โจทก์ให้อภัยต่อจำเลยทั้งสามอย่างแท้จริง ในส่วนขั้นตอนการดำเนินการถอนคำร้องฎีกาหลังจากได้มีการหารือและลงนามข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ทางทนายความจะได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอถอนฎีกา ภายในวันที่ 19 ต.ค. ต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้นการดำเนินการหลังจากยื่นจะขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของทางศาลในการพิจารณา.

---

ไร้วี่แววทนาย'ยิ่งลักษณ์'ยื่นขอถอนฎีกา 3'สายล่อฟ้า' หมิ่น'ปูว.5 โฟร์ซีซั่นส์'
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_1168501

ยังไร้วี่แววทนายยิ่งลักษณ์ยื่นขอถอนฎีกา 3″สายล่อฟ้า”หมิ่น “ปูว.5 โฟร์ซีซั่นส์” หลัง”ศิริโชค”โพสต์เฟซบุ๊กขออภัย ลุ้นยื่นทันก่อนนัดอ่านคำพิพากษา 19 ต.ค.นี้หรือไม่

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณีที่มีข่าว เมื่อวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะให้ทนายความผู้รับมอบอำนาจเดินทางมา ยื่นคำร้องขอถอนฎีกาในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ ในคดีที่พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องนายศิริโชค โสภา, นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต และนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และผู้ดำเนินรายการ “สายล่อฟ้า” ทางสถานี โทรทัศน์ดาวเทียมช่อง บลูสกาย ตกเป็นจำเลย ในความหมิ่นประมาทการทำภารกิจ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว.5 ที่โรงเเรมโฟร์ซีซั่นส์ ซึ่งคดีนี้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้รอลงอาญาคนละ 2 ปี ปรับคนละ 50,000 บาทนั้น

เมื่อสิ้นสุดเวลาราชการของศาลแล้ววันนี้ ในเวลา 16.30 น.ก็ปรากฏว่ายังไม่มีทนายความคนใดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มายื่นคำร้องขอถอนฎีกาในคดีดังกล่าว โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางทีมทนายความยังไม่ได้รับเอกสารที่จะดำเนินการเกี่ยวกับการขอถอนฎีกาให้ครบถ้วน จึงยังไม่ได้เดินทางมายื่นคำร้องขอถอนฎีกา

สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นข่าวโด่งดังที่สังคมให้ความสนใจ เมื่อมีการเผยแพร่เอกสารผ่านโซเชียลมีเดีย ในวันที่ 5 ตุลาคม ที่ นายศิริโชคได้โพสต์ภาพเอกสารที่เป็นจดหมายเปิดผนึก ลงชื่อนายศิริโชค ,นายเทพไทและนายชวนนท์ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งจดหมายเปิดผนึกของจำเลยทั้งสาม ได้บรรยายถึงความรู้สึกสำนึกผิด และได้ขออภัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่กล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาท โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้อภัยและได้ยื่นคำร้องขอถอนฎีกา นายศิริโชคกับพวก ซึ่งทั้งสามคนขอขอบคุณและถือโอกาสนี้แจ้งข่าวให้ทราบโดยทั่วไป

อย่างไรก็ตามคดีนี้เดิม พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 และน.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชวนนท์ จำเลยที่ 1 ,นายศิริโชค ที่ 2 และนายเทพไท ที่ 3 ในคดีหมายเลขดำ อ. 630/2557 ฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 328 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งต่อมาศาลอาญา และศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนให้จำคุกจำเลยทั้งสาม คนละ 1 ปี ปรับคนละ 50,000 บาทโดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี

แต่ต่อมาน.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ โจทก์ร่วมได้ยื่นฎีกาต่อ โดยศาลฎีกา อนุญาตฎีกาตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ขอให้ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกจำเลยทั้งสามโดยไม่รอการลงโทษ ขณะที่จำเลยทั้งสามก็ขออนุญาตฎีกาในคดีดังกล่าวด้วย โดยขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง ซึ่งเดิมศาลฎีกาก็ได้ทำคำพิพากษาคดีนี้เสร็จสิ้นแล้วพร้อมนัดอ่าน โดยกำหนดวันให้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาฎีกานี้ ในวันที่ 19 ตุลาคม เวลา 09.00 น.

ซึ่งตามขั้นตอนเเล้วหากทนายความได้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ โจทก์ร่วมในคดีนี้ ให้ยื่นคำร้องขอถอนฎีกาผ่านแผนกอุทธรณ์-ฎีกาของศาลอาญาที่เป็นศาลชั้นต้น ก็จะต้องรวบรวมเอกสารคำร้องพร้อมสำนวนคดีและซองคำพิพากษาศาลฎีกาที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน ส่งกลับไปให้ศาลฎีกาเพื่อพิจารณาคำขอถอนฎีกาของโจทก์ร่วม เพื่อมีคำสั่งใดๆ ต่อไป และระหว่างนั้นกำหนดนัดวันอ่านคำพิพากษาเดิม ก็จะต้องยกเลิกไปก่อนจนกว่าศาลฎีกาจะมีคำสั่งในเรื่องนี้ออกมาแล้วจึงจะกำหนดวันอ่านคำสั่งดังกล่าวต่อไป แต่ถ้าทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีการยื่นคำร้องขอถอนฎีกาใดๆ การกำหนดวันนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ก็ยังคงเดิมต่อไป

---

เปิดศูนย์"อนาคตใหม่"ตรัง สมัครสมาชิกคึกคัก คาดคนเบื่อพรรคการเมืองเก่า(ชมคลิป)
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1168767

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2561 ที่ทำการศูนย์ประสานงานทั้ง 3 เขต เลขที่ 6/11 ถ.ราษฎร์อุทิศ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง นายภูผา ทองนอก ประธานผู้ประสานงาน(ชั่วคราว)พรรคอนาคตใหม่ประจำจังหวัดตรัง เปิดที่ทำการศูนย์ประสานงานสาขาพรรคอนาคตใหม่จังหวัดตรัง ทั้ง 3 เขต พร้อมรับสมาชิกพรรค ท่ามกลางประชาชนเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอย่างคึกคักนายภูผา กล่าวว่า

พรรคเปิดรับสมาชิกเป็นครั้งแรกพร้อมกันทั่วประเทศตามแนวทางพรรคอนาคตใหม่ เพื่อให้สมาชิกเข้าสู่กระบวนการไพรมารีโหวตในการสรรหารับผู้สมัครจากการลงพื้นที่ มีคณะทำงานระดับหนึ่ง โดยทำงานทางการเมืองรูปแบบใหม่ คือ สร้างเครือข่ายสมาชิก มีคณะทำงานประจำเขตเลือกตั้ง จากการลงพื้นที่ได้รับผลตอบรับกลับมาดีมาก เพราะประชาชนค่อนข้างเบื่อการเมืองแบบเก่าๆ การเมืองแบบเดิม ๆ การเมืองที่ใช้เงินเพื่อให้หัวคะแนนเพื่อให้ได้มาถึงคะแนนเสียง แต่การเมืองแบบใหม่เพื่อให้คะแนนเสียงมาจากสมาชิก ไม่ได้ใช้เงินซื้อผู้แทนราษฎร เป็นการเมืองที่ทุกคนประชาชนมีส่วนร่วม

“ในการคัดสรรผู้สมัคร เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา มีการทำเวิร์คช็อปยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรค ในการคัดสรรผู้สมัคร เราพยายามเอาคนที่มีศักยภาพ มีความรู้ ความสามารถ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เปิดพื้นที่ เปิดโอกาสให้มาทำการเมือง อยากได้ผู้สมัครที่มีภาพลักษณ์ทางสังคมดี มีความรู้ความสามารถ ที่สำคัญ เป็นที่ยอมรับของสมาชิกพรรคมีอุดมการณ์ที่จะสร้างประชาธิปไตยไปด้วยกัน

การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า เชื่อว่าจังหวัดตรัง จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยเฉพาะคนตรังเริ่มเบื่อการเมืองแบบเดิมๆ เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น พรรคเดิมๆ คนเดิมๆ ยังดูถูกคนตรัง เหมือนคนตรังไม่มีทางเลือก เหมือนที่เคยพูดกันติดปากว่า จังหวัดตรังเอาเสาไฟฟ้ามาลงสมัคร ส.ส.พรรคดังก็ได้เป็น ส.ส. เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า คนตรังจะมีทางเลือกมากขึ้น จังหวัดตรังจะได้พัฒนาเท่าเทียมจังหวัดใกล้เคียง หลังจากล้าหลังจากจังหวัดที่กำลังพัฒนา มาเป็นจังหวัดด้อยพัฒนาเช่นทุกวันนี้” นายภูผา กล่าว