เข้าเรื่องเลยนะคะ คือเราหลงรักผู้ชายคนนึงเข้าแต่เขามีแฟนแล้ว เรากับเขารู้จักกันผ่านเพื่อนของเราทั้งคู่อีกทีคือเพื่อนของเรากับเพื่อนของเขาเป็นเพื่อนมาก่อนแล้ว ช่วงนั้นเราอกหักอยู่เพื่อนเราเลยแนะนำว่าลองคุยกับคนนี้ดูไหม แก้เหงาจะได้ไม่เศร้ามาก แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สนใจอะไร พอผ่านไปซักวันสองวัน เขาก็แอดเฟสมาหาเราซึ่งเราก็งงว่าแอดมาได้ยังไง เพราะเราไม่ได้รู้จักกับเขามากก่อน สรุปคือเพื่อนเราให้เขาแอดมาเพื่อคุยกับเรา เขาก็ทักมาหาเรา แต่เรานานๆทีตอบ พอเขาทักมาบ่อยๆเข้า เราก็รู้สึกว่าคุยกับเขาก็สนุกดี เลยคุยกับเขาไปเรื่อยๆ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรมองเขาเป็นเพื่อน เราตกลงกับเขาว่าเราคุยกันในฐานะเพื่อนนะ เพราะเขาเองก็มีแฟนแล้ว เขาก็โอเค เขาเป็นคนแฟร์ๆค่ะ คือมีอะไรขอให้พูดกันตรงๆชอบอะไรไม่ชอบอะไรบอกได้เลย จากนั้นเรากับเขาก็คุยกันมาเรื่อยๆ คุยกันได้ซักเดือนกว่าๆเราก็เริ่มรู้สึกดีกับเขาแต่เราไม่เคยบอกเขานะคะ แต่เขาเองที่เป็นคนบอกรักเราก่อนซึ่งเราเองก็ไม่แน่ใจเพราะคนๆนึงจะรักผู้หญิง 2 คนพร้อมกันได้จริงหรอ จากนั้นก็มีเหตุให้เราต้องไปต่างจังหวัดพร้อมกันทั้งคู่ เพราะบริษัทที่เราและเขาทำงานอยู่จริงๆก็คือบริษัทเดียวกันค่ะ แค่คนละสาขาเท่านั้น เขาอยู่สาขาใหญ่เราอยู่สาขาย่อย บริษัทของเราให้ตัวแทนพนักงานไปประชุมที่ต่างจังหวัดซึ่งสาขาเราก็คือเราเอง ส่วนสาขาเขาก็คือเขา เขาก็เลยชวนไปพร้อมกันโดยที่เขาจะมารับเราแล้วไปพร้อมกัน ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกันหลังจากคุยกันมาตลอด 2 เดือนกว่าๆ วันนั้นเขามารับเราที่หอตอนเย็นเพื่อเข้าที่พักที่นครปฐม วันนั้นเราใช้เวลาเดินทางกันนานมากจากกทม.เพราะรถติดมาก เราเลยมีเวลาพูดคุยและอยู่ด้วยกัน 2 คนพอสมควร เราได้เห็นทัศนะคติเรื่องต่างๆของเขา เขาเป็นคนมีเสน่ห์มาก เป็นผู้ชายรักความสะอาด ตัวหอม อารมณ์ขัน เขาเห็นเราเกร็งๆก็พยายามทำให้เราผ่อนคลาย ชวนคุยเรื่อยเปื่อย ซึ่งเรายอมรับว่าเราแพ้ผู้ชายแบบนี้มาก ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่าเรารู้สึกกับเขาไปมากแล้ว เขาดึงดูดเราได้ตลอดเวลา พอเราถึงที่พักที่บริษัทไว้ให้แล้ว เราก็แยกย้ายกันไปเก็บของแล้วออกไปกินข้าวกัน ระหว่างที่เราไปกินข้าวกันแฟนเขาก็โทรมา เขาก็ให้เราเงียบเพื่อคุยโทรศัพท์ เราก็โอเคเข้าใจเขาคงไม่อยากให้แฟนเขารู้สึกไม่ดีที่เขามากับผู้หญิงคนอื่นสองต่อสอง ถึงแม้จะเรียกว่าเพื่อนก็เถอะ พอเขาคุยโทรศัพท์เสร็จเขาก็เดินมาหาเราแล้วทำตัวปกติเหมือนเดิม พอเรากินข้าวกันเสร็จเราก็กลับที่พักแล้วแยกย้ายกันเพื่อเข้านอน พอตอนเช้าเรากับเขาก็เข้าประชุม พอประชุมเสร็จเขาก็ชวนเราไปเที่ยวต่อแล้วค่อยกลับกทม. เขาบอกนานๆทีจะได้พักก็เลยอยากชวนเราเที่ยว พวกเราก็เลยไปเที่ยวกันต่อเขาก็รุกเราหนักขึ้น เช่น ขอจับมือ บอกชอบเรา บอกอยากอยู่กับเรานานๆ เราก็ได้แต่ห้ามใจตัวเองบอกตัวเองว่าเขามีแฟนแล้ว พอกลับมาถึงกทม.เขาก็ชวนเราไปดื่มก่อนกลับหอ หลังจากดื่มเสร็จเขาก็มาส่งเราแล้วบอกเราว่าเมา ขอนอนด้วย เราก็อ่ะนอนก็นอนก่อนนอนเราก็ได้คุยกับเขานิดหน่อย เขาก็ถามเราว่ารู้สึกยังไงกับเขา ด้วยความที่เราก็เมาเราก็บอกไปตรงๆว่าเราก็ชอบเขาเหมือนกัน เราก็บอกความรู้สึกจริงๆที่เรารู้สึกให้เขาฟังทั้งหมด ซึ่งมันเป็นทั้งความรู้สึกแย่ ความรู้สึกผิด แล้วก็ความรู้สึกดี แต่ก็โล่งที่ได้บอก แล้วเรากับเขาก็มีอะไรกันในคืนนั้น พอช่วงบ่ายๆเขาก็กลับซึ่งความรู้สึกเราตอนนั้นคือคิดถึงเขามาก เรายอมรับเลยว่ามันแย่กับสิ่งที่เราทำไป เขาเองก็ทำดีกับเราเสมอต้นเสมอปลาย ให้เวลากับเราตลอด ดูแลเราเสมอ ทำให้เราไม่ได้รู้สึกด้อยกับสถานะแบบนี้เลย แต่ถ้าวันไหนที่เขาต้องไปหาแฟนเขาก็จะบอกเราก่อน เพื่อที่เราจะไม่ต้องทักไป แต่หลังจากที่เขาแยกกับแฟน เขาจะรีบโทรหาเราทันที เรายอมรับเลยว่าตอนนี้เรารักเขามาก เขาดีกับเรามาตลอด ดูแลเราตลอด เขามาหาเราบ่อยขึ้น อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ทั้งๆที่เขาเจอแฟนแค่อาทิตย์ละครั้ง ตอนนี้ก็เกือบ 6 เดือนแล้ว ทุกๆคนรอบตัวเขารู้เรื่องเราหมด ทั้งครอบครัว เพื่อน หรือญาติบางคน เรามีความสุขมากเวลาที่มีเขา เรากับเขาไม่เคยทะเลาะหรือมีปัญหากันเลย แต่ถึงเราจะมีความสุขแต่ในใจลึกๆแล้วเราก็รู้สึกผิด รู้สึกว่าเราจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน แล้วถ้าต่อไปเขากับแฟนแต่งงานกันล่ะ เราจะอยู่ตรงไหน เรารู้ว่ามันไม่ควร มันผิด แต่ตอนนี้มันยากจะตัดใจ เราควรทำไงดีค่อยๆถอยออกมา ลืมความสุขแบบผิดๆไปเลย หรือยังไงดี ตอนนี้เราสับสนมาก
รู้ว่าผิดแต่ก็ห้ามใจไม่ได้