หลังจากที่เห็นข่าวนายกปูถอนฎีกา ศิริโชค เทพไท ชวนนท์ ในคดีหมิ่น ว.5 โฟล์ซีซั่นนั้น และทั้งสามเกลอได้ส่งตัวแทนคือ ศิริโชคโพสต์ขอโทษ  ซึ่งเป็นเหมือนการสำนึกที่เป็นการสำนึกในเวลาสั้นๆ  ดังที่เห็นนั้น  ก็ขอบอกว่าถึงแม้จะไม่ค่อยเห็นด้วยแต่ ดิฉันไม่ขอก้าวล่วงการตัดสินใจของนายกปูในทุกๆเรื่องค่ะ ทุกอย่างคือสิ่งที่นายกปูท่านคงคิดแล้วว่า ทำแล้วดีก็ขอเคารพการตัดสินใจของท่าน   เป็นธรรมดาของคนมีจิตใจเมตตา ปราณี แม้แต่กับคนที่คิดไม่ดีกับท่าน แต่ก็ไม่เก็บมาเป็นขยะในหัวใจ  แถมยังให้อภัยทานด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์

ย้อนนึกไปตอนที่ 3 เกลอคะนองปาก จัดรายการทางทีวี และแกนนำกปปส.บางคน พูดถึงผู้นำหญิงของประเทศในเวลานั้น เสียดสี กล่าวหาอย่างหยาบคาย  แต่ท่านก็ไม่เคยอ่อนไหวต่อคำกล่าวหาต่างๆ  ด้วยความมุ่งมั่นแก้ปัญหาประเทศอย่างเดียว เลยไม่ไปเสียเวลากับคำใส่ร้ายป้ายสีต่างๆนั้น  อยากถามว่า ผู้ชายใส่ร้ายผู้หญิงใช้ถ้อยคำที่รุนแรงชนิดคนฟัง ฟังแล้วอึ้ง แบบไม่อยากเชื่อว่า นี่คือผู้ชายพูด และแถมเป็นผู้ชายที่เป็นตัวแทนของประชาชน มีฐานะทางสังคม มีการศึกษา  ถ้าเป็นผู้หญิงอื่นบางคน เค้าคงไม่ให้อภัยหรอกค่ะ กับการถูกเสียดสีแบบนั้น  แต่นายกปูเธอจิตใจสูงส่งจริงๆ  จิตใจของเธอช่างแมน ที่ยังคิดห่วงอนาคตของ 3 เกลอ เกรงจะติดคุกและถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง  เพียงขอแค่คำขอโทษเพื่อแสดงให้เห็นว่าสำนึกผิดแล้ว เท่านั้น

แต่คนเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะสำนึกแค่เพียงระยะเวลาสั้นๆ ที่รีบลบคำขอโทษอย่างไว  แต่ถึงอย่างไร โลกก็ได้รับรู้ถึง ความมีศักดิ์ศรีของผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของเธอเมื่อสังคมได้รับรู้แล้วว่าเธอไม่ได้เป็นอย่างที่คนใส่ร้าย เธอก็ยอมหยุดอาฆาตมาดร้าย   กับอีกฝ่ายนึงคือ ผู้ชาย 3 คนที่ยอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อรักษาอนาคตทางการเมือง หุหุ

ดิฉันนึกย้อนไปถึงคุณจตุพร แกนนำนปช. ที่เคยติดคุกที่ไปกล่าวหามาร์ค  นั่นคือ เรื่องระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย ผู้ชายคนนึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้อีกฝ่ายต้องถูกจองจำ  และผู้ชายอีกคนไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี  และยอมรับกับผลของการกระทำ แบบยอมหักไม่ยอมงอ  ด้วยการยอมเดินเข้าคุก  

คิดแล้ว มันต่างกันมากเลยค่ะ ระหว่าง มาร์คกับนายกปู  และ  จตุพร กับ สามเกลอสายล่อฟ้า   จิตใจของพวกคุณสูงต่ำ ผิดกัน ศักดิ์ศรีก็ผิดกันจริงๆค่ะ

...ริมคันนา...