สวัสดีค้าบ นักเดินทางทุกคน พบกับเฟิร์สคนเดิมค้าบ วันนี้เฟิร์สจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวเชียงใหม่ ด้วยงบ 2500 บาท กันคับ ไปกันเลย
จุดเริ่มต้นของเรา ก็ยังคงที่เดิมคับ สถานีรถไฟชุมทางฉะเชิงเทรา สำหรับวันนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปนั่งรถไฟขบวนใหม่ของสายตะวันออก ที่จะมีวิ่งแค่ เสาร์ - อาทิตย์ เท่านั้น นั่นก็คือ ขบวนรถเร็วดีเซลรางปรับอากาศที่ 997/998 กรุงเทพ - บ้านพลูตาหลวง - กรุงเทพ ใครอยากเดินทางไปเที่ยวพัทยา สัตหีบ ในราคาสบายกระเป๋าเพียงแค่ 170 บาท/คน ไป-กลับแค่ 340 บาท/คน เองนะ แถมสามารถจองล่วงหน้าได้ 60 วัน ก่อนวันเดินทางผ่านสายด่วน 1690 ได้ด้วย แต่ใครจะไปแค่ฉะเชิงเทรา ราคาก็จะถูกลงครึ่งต่อครึ่งเลยนะเพียงแค่ 80 บาท/คน ไป-กลับแค่ 160 บาท/คน แต่สามารถจองล่วงหน้าได้แค่ 2 วันก่อนวันเดินทางนะ รถแอร์เย็นๆ ราคาก็สบายกระเป๋า อย่าลืมไปนั่งกันล่ะค้าบบ
ประมาณ 5 โมงครึ่ง ขบวนรถที่เราจะเดินทางเข้ากรุงเทพก็มาถึงแล้วค้าบ ในวันนี้รถมาตามเวลาด้วย ใครบอกว่ารถไฟช้ากันล่ะ คิกๆๆ
บรรยากาศภายในขบวนรถ มันก็จะหนาวๆหน่อย แอร์เย็นมากเลยบอกตรงๆ คิกๆๆๆ ระยะเวลาการเดินทางจาก ฉะเชิงเทรา - กรุงเทพ ใช้เวลาเเค่เพียง 1 ชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที คับผม
เวลาประมาณ 19.20 น. ช้าเพียงแค่ 15 นาทีเอง เราก็มาถึงสถานีรถไฟกรุงเทพ หรือ คำพูดติดปากของใครหลายๆคนคือ สถานีรถไฟหัวลำโพง
กันแล้วค้าบ รอให้คนลงหมดก่อนผมค่อยลง เพราะอยากตากแอร์ คิกๆๆ
เมื่อขบวนรถมาส่งผู้โดยสารถึงปลายทางเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำไปตรวจเช็คระบบเพื่อทำขบวนในวันต่อไปคับ
หลังจากเรามาถึงกรุงเทพเเล้วเเล้ว ก็เริ่มหิวแล้วสิ ไปหาอะไรรองท้องกันก่อนดีกว่า ข้างๆชานชาลาที่ 12 จะเป็นป้ายรถเมล์ ผมก็นั่งรถเมล์สาย 29 ไปลง มาบุญครอง เเล้วเดินมาชั้น 2 ในคืนนี้ผมจะพามาร้านโปรดของผมเองค้าบ นั่นก็คือ ร้านมนต์นมสด สาขา ห้างมาบุญครอง ค้าบ ในคืนนี้ผมสั่ง นมจืด 1 แก้ว ขนมปังเนย - นม 2 ชิ้น และ ขนมปังเนย - น้ำตาล 2 ชิ้น รวมค่าเสียหายก็เกือบๆ 200 บาท คิกๆๆๆ
พ่ามมม นี่คือหน้าตาของ ขนมปังที่เฟิร์สสั่งมาค้าบบ เป็นไงมั่ง น่าทานกันหรือป่าวค้าบ
หลังจากนั้นก็นั่งรถเมล์สายเดิม กลับมาที่สถานีรถไฟค้าบ ก็อดไม่ได้ที่จะกดชัตเตอร์ถ่ายรูปสถานีรถไฟยามค่ำคืนสักหน่อย
ซึ่งขบวนที่จะพาเราเดินทางไปสู่ภาคเหนือของประเทศไทยก็คือ อดีตรถเร็วปรับศักดิ์ขบวนรถด่วนที่ 51 กรุงเทพ - เชียงใหม่ เที่ยวเวลา 22.00 น.
หรือคำพูดติดปากของคนรถไฟเรียกว่า ด่วนชมวิว ด่วนขี้เลท ด่วนสี่ทุ่ม ต่างๆนาๆนั่นแหละค้าบ
ขณะนี้ขบวนรถของเราก็เข้าเทียบชานชาลาเรียบร้อยแล้ว รอพนักงานมาทำความสะอาดรถก่อน เราค่อยขึ้นไปเก็บกระเป๋ากันคับ
นี่คือหน้าตาของรถที่ผมจะใช้บริการในวันนี้ รถนอนชั้น 2 ตัวย่อคือ บนท. คับผม
ในการเดินทางครั้งนี้เราได้รถเบอร์ 1031 ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค้าบ คิกๆๆๆ
เราอยู่คันที่ 11 คับ รองสุดท้ายเลย เวลารถเข้าโค้งนี่ต้องสวยแน่ๆ
ก่อนขึ้นรถ ผมก็ต้องมาขอพร พ่อหลวงร.5 เพื่อเป็นสิริมงคลหน่อย
ถึงเวลาขึ้นรถละ ภายในรถตอนนี้จะเป็นเตียง 2 ชั้น ทั้งหมด 32 เตียง เตียงล่าง 16 เตียงบน 16 ใครขี้ร้อนก็นอนเตียงล่าง เปิดหน้าต่าง
เลย คิกๆๆๆ
ใครติดพัดลมก็มานอนเตียงบนคับ ในการเดินทางครั้งนี้ผมใช้บริการเตียงล่างคับ
นี่คือที่นอนของเราในคืนนี้ ขอบ่นเรื่องหมอนนิดนึงนะ มันไม่มีความเป็นหมอนเลย คิกๆๆๆ
เวลา 22.00 น. ตามเวลาของขบวนรถ ก็ถึงเวลาออกเดินทางคับ บ๊ายบาย เมืองบางกอก ไว้จะกลับมาใหม่นะ
รถออกปุ๊บก็หิวปั๊บ ขอใช้บริการครัวเสบียงหน่อย ชุดข้าวผัดกระเพราหมู 140 บาท + ไข่ดาว 10 บาท รวมค่าเสียหายไป 150 บาทถ้วนค้าบผม แพงไม่ว่าขอแค่ได้ทาน คิกๆๆ
ทานข้าวกันเพลินๆ รถของเราก็มาถึง สถานีรถไฟดอนเมืองกันแล้ว ใครจะไปสนามบินก็ได้นะค้าบ อยู่ติดกันเลย
ทานข้าวอิ่ม หนังตาก็เริ่มหย่อน รถของเราก็มาถึงสถานีรถไฟลพบุรี มาพร้อมกับสายฝนที่แรงมากๆ สำหรับคืนนี้คงถึงแค่ลพบุรี เพราะดึกแล้ว นอนก่อน อิอิ
ตื่นเช้ามา อากาศมันก็จะหนาวๆหน่อย เราก็มาถึง สถานีรถไฟอุตรดิตถ์ กันแล้วคับผม
ออกจากสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ ก็มาจอดที่สถานีรถไฟศิลาอาสนต์ที่อยู่ใกล้ๆกัน เพื่อมาเติมน้ำมัน เตรียมตัวก่อนจะออกเดินทางขึ้นเขาอันสูงชั้นกันคับ ครั้งนี้เราได้หัวรถจักร Alstom 4134 เครื่องยนต์ MTU ทำขบวนครับผม
ออกจาก สถานีศิลาอาสน์ มาแล้ว เราก็จะขึ้นเขากันคับ มีหมอกจางๆด้วย
วิ่งสักพัก เราก็เจอ 1 ใน 4 อุโมงค์รถไฟลอดในเส้นทางสายเหนือ แห่งแรกคับคือ อุโมงค์ปางตูบขอบ
ขึ้นเขาไปเรื่อยๆ กับหมอกบางๆ แถมกับ อากาศเย็นๆ เราก็มาเจอกับอุโมงค์แห่งที่ 2 นั่นก็คือ.....
นั่นก็คือ อุโมงค์เขาพลึง คับ ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก สำหรับอุโมงค์แห่งที่ 3 ผมไม่ได้ถ่ายไว้ นั่นก็คือ อุโมงค์ห้วยแม่ลาน คับผม
สักพัก รถของเราก็แล่นผ่าน สถานีรถไฟห้วยไร่ บ้านของ ก้อง ห้วยไร่ หรือป่าวนะ คิกๆๆๆ โดยมีขบวนรถน้ำมันใส จอดรอหลีกอยู่คับ
และแล้วเราก็มาถึงสถานีรถไฟที่สามารถต่อรถเข้าไปในตัวจังหวัดแพร่คับ นั่นก็คือ.....
นั่นก็คือ สถานีรถไฟเด่นชัย นั่นเอง ใครจะเข้าเมืองแพร่ มีรถสองแถวให้บริการ ด้วยนะค้าบ
โดยมีเจ้าขบวนรถเร็วที่ 112 เด่นชัย - กรุงเทพ ทำขบวนโดย Alstom 4228 เครื่องเดิมๆ รอเวลาออกอยู่ค้าบ
ออกจากสถานีรถไฟเด่นชัยได้สักพัก เราก็จะพบกับจุดยอดฮิตในเส้นทางสายเหนือกัน นั้นก็คือ แก่งหลวง ทางรถไฟเลียบแม่น้ำยม อีกด้านเป็นหน้าผา ในวันนี้น้ำนิ่งมาก สีเขียวมรกต กับมีหมอกบางๆให้พอเห็นนิดหน่อยค้าบ
แล้วรถก็ตีโค้งก่อนที่จะเข้าสู่สถานีรถไฟแก่งหลวง คับ บริเวณนี้จะมีศาลเพียงตาอยู่ เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์รถไฟตกแม่น้ำยมคับ
อีกมุมยอดฮิตของใครหลายๆคนคับ โค้งแก่งหลวง
ออกจากสถานีบ้านปินไป ก็มีความหิวแล้ว คิกๆๆๆ ขอใช้บริการครัวเสบียงอีกรอบ ในชุดอาหารเช้าในราคา 190 บาท ค้าบ มีอะไรมั่งเนี่ย มี โกโก้ 1 แก้ว น้ำส้ม 1 แก้ว ไส้กรอก 3 ชิ้น ไข่ดาว 2 ฟอง แฮม 1 แผ่น พร้อมซอสมะเขือเทศ 1 ถ้วย ขนมปังปิ้ง 2 ชิ้น พร้อม แยมสัปปะรด เค้กกล้วยหอม 1 ชิ้น และกล้วย 2 ลูก อะไรจะเยอะแบบนี้ คิกๆๆๆ
นั่งทานอาหารไปเรื่อยๆ เราก็ผ่านสถานีรถไฟผาคัน สถานีนี้ต้องหยุดทานอาหารสักครู่เพราะมันจะมีมุมสวยๆอีก 1 จุด เมื่อผ่านสถานีไปนิดหน่อยคับ นั่นก็คือ......
พ่ามม!!! โค้งสถานีผาคันนั้นเอง โค้งสวยๆ กับริ้วขบวนยาวๆ
และแล้ว ขบวนรถของเราก็มาถึง สถานีรถไฟนครลำปางค้าบ เร็วจริงๆ ที่นี่ รถของเราจะตัดรถนั่งชั้น 3 ไว้ที่ 1 คันคับ แล้วจะกลับมารับใหม่ในตอนขากลับ
เมื่อออกจากสถานีรถไฟลำปางไปแล้ว ก็จะเข้าสู่การขึ้นสู่พื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล คับผม
สักพัก เราก็ข้ามสะพานคอมโพสิต สะพานข้ามเหวลึกที่เราพบเป็นแห่งแรกคับ
ตามด้วย สะพาน 3 หอ
และแห่งสุดท้าย สะพาน 2 หอ
สักพัก เราก็ถึง อุโมงค์รถไฟลอดแห่งสุดท้ายในเส้นทางสายเหนือ นั่นก็คือ.....
อุโมงค์ขุนตาน อุโมงค์รถไฟลอดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ค้าบ ที่แห่งนี้ยังเป็นรอยต่อรถหว่างจังหวัดลำปางกับจังหวัดลำพูนด้วยนะ
เมื่อขบวนรถมาถึงสถานีรถไฟขุนตาน ก็จะทำการรอหลีกขบวนรถดีเซลรางท้องถิ่นที่ 408 เชียงใหม่ - นครสวรรค์ ค้าบ
พูดถึง ก็มาพอดีเลย แหะๆๆ รถดีเซลราง 3 คัน สั้นๆ น่ารักๆ ตะมุตะมิ
ออกจากสถานีรถไฟขุนตาน ก็จะเจอ สถานีที่สุดฮิตที่สุดท้ายในเส้นทางสายเหนือนั่นก็คือ สะพานขาวทาชมภู คับผม
ในตอนนี้บริเวณโดยรอบ...กลายเป็นสนามกอล์ฟซะแล้ว
และแล้ว เราก็มาถึง สุดปลายทางรถไฟในเส้นทางสายเหนือ นั่นก็คือ สถานีรถไฟเชียงใหม่นั่นเอง
ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพเรียบร้อย ขบวนรถของเราก็เข้าเทียบในชานชาลาที่ 4 ก่อนที่จะนำไปทำความสะอาด แล้วนำกลับมาเทียบชานชาลาอีกครั้งเพื่อทำขบวนรถด่วนที่ 52 กลับเข้ากรุงเทพต่อคับ [ ติดตามต่อใน PART II ]
LINK PART II :
https://ppantip.com/topic/38129684
[CR] ALONE TRIP ลุยเดี่ยว...เที่ยวรถไฟ : เดิน กิน ชิม ช๊อป ไหว้พระ ณ เมืองเชียงใหม่ PART I
จุดเริ่มต้นของเรา ก็ยังคงที่เดิมคับ สถานีรถไฟชุมทางฉะเชิงเทรา สำหรับวันนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปนั่งรถไฟขบวนใหม่ของสายตะวันออก ที่จะมีวิ่งแค่ เสาร์ - อาทิตย์ เท่านั้น นั่นก็คือ ขบวนรถเร็วดีเซลรางปรับอากาศที่ 997/998 กรุงเทพ - บ้านพลูตาหลวง - กรุงเทพ ใครอยากเดินทางไปเที่ยวพัทยา สัตหีบ ในราคาสบายกระเป๋าเพียงแค่ 170 บาท/คน ไป-กลับแค่ 340 บาท/คน เองนะ แถมสามารถจองล่วงหน้าได้ 60 วัน ก่อนวันเดินทางผ่านสายด่วน 1690 ได้ด้วย แต่ใครจะไปแค่ฉะเชิงเทรา ราคาก็จะถูกลงครึ่งต่อครึ่งเลยนะเพียงแค่ 80 บาท/คน ไป-กลับแค่ 160 บาท/คน แต่สามารถจองล่วงหน้าได้แค่ 2 วันก่อนวันเดินทางนะ รถแอร์เย็นๆ ราคาก็สบายกระเป๋า อย่าลืมไปนั่งกันล่ะค้าบบ
ประมาณ 5 โมงครึ่ง ขบวนรถที่เราจะเดินทางเข้ากรุงเทพก็มาถึงแล้วค้าบ ในวันนี้รถมาตามเวลาด้วย ใครบอกว่ารถไฟช้ากันล่ะ คิกๆๆ
บรรยากาศภายในขบวนรถ มันก็จะหนาวๆหน่อย แอร์เย็นมากเลยบอกตรงๆ คิกๆๆๆ ระยะเวลาการเดินทางจาก ฉะเชิงเทรา - กรุงเทพ ใช้เวลาเเค่เพียง 1 ชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที คับผม
เวลาประมาณ 19.20 น. ช้าเพียงแค่ 15 นาทีเอง เราก็มาถึงสถานีรถไฟกรุงเทพ หรือ คำพูดติดปากของใครหลายๆคนคือ สถานีรถไฟหัวลำโพง
กันแล้วค้าบ รอให้คนลงหมดก่อนผมค่อยลง เพราะอยากตากแอร์ คิกๆๆ
เมื่อขบวนรถมาส่งผู้โดยสารถึงปลายทางเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำไปตรวจเช็คระบบเพื่อทำขบวนในวันต่อไปคับ
หลังจากเรามาถึงกรุงเทพเเล้วเเล้ว ก็เริ่มหิวแล้วสิ ไปหาอะไรรองท้องกันก่อนดีกว่า ข้างๆชานชาลาที่ 12 จะเป็นป้ายรถเมล์ ผมก็นั่งรถเมล์สาย 29 ไปลง มาบุญครอง เเล้วเดินมาชั้น 2 ในคืนนี้ผมจะพามาร้านโปรดของผมเองค้าบ นั่นก็คือ ร้านมนต์นมสด สาขา ห้างมาบุญครอง ค้าบ ในคืนนี้ผมสั่ง นมจืด 1 แก้ว ขนมปังเนย - นม 2 ชิ้น และ ขนมปังเนย - น้ำตาล 2 ชิ้น รวมค่าเสียหายก็เกือบๆ 200 บาท คิกๆๆๆ
พ่ามมม นี่คือหน้าตาของ ขนมปังที่เฟิร์สสั่งมาค้าบบ เป็นไงมั่ง น่าทานกันหรือป่าวค้าบ
หลังจากนั้นก็นั่งรถเมล์สายเดิม กลับมาที่สถานีรถไฟค้าบ ก็อดไม่ได้ที่จะกดชัตเตอร์ถ่ายรูปสถานีรถไฟยามค่ำคืนสักหน่อย
ซึ่งขบวนที่จะพาเราเดินทางไปสู่ภาคเหนือของประเทศไทยก็คือ อดีตรถเร็วปรับศักดิ์ขบวนรถด่วนที่ 51 กรุงเทพ - เชียงใหม่ เที่ยวเวลา 22.00 น.
หรือคำพูดติดปากของคนรถไฟเรียกว่า ด่วนชมวิว ด่วนขี้เลท ด่วนสี่ทุ่ม ต่างๆนาๆนั่นแหละค้าบ
ขณะนี้ขบวนรถของเราก็เข้าเทียบชานชาลาเรียบร้อยแล้ว รอพนักงานมาทำความสะอาดรถก่อน เราค่อยขึ้นไปเก็บกระเป๋ากันคับ
นี่คือหน้าตาของรถที่ผมจะใช้บริการในวันนี้ รถนอนชั้น 2 ตัวย่อคือ บนท. คับผม
ในการเดินทางครั้งนี้เราได้รถเบอร์ 1031 ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค้าบ คิกๆๆๆ
เราอยู่คันที่ 11 คับ รองสุดท้ายเลย เวลารถเข้าโค้งนี่ต้องสวยแน่ๆ
ก่อนขึ้นรถ ผมก็ต้องมาขอพร พ่อหลวงร.5 เพื่อเป็นสิริมงคลหน่อย
ถึงเวลาขึ้นรถละ ภายในรถตอนนี้จะเป็นเตียง 2 ชั้น ทั้งหมด 32 เตียง เตียงล่าง 16 เตียงบน 16 ใครขี้ร้อนก็นอนเตียงล่าง เปิดหน้าต่างเลย คิกๆๆๆ
ใครติดพัดลมก็มานอนเตียงบนคับ ในการเดินทางครั้งนี้ผมใช้บริการเตียงล่างคับ
นี่คือที่นอนของเราในคืนนี้ ขอบ่นเรื่องหมอนนิดนึงนะ มันไม่มีความเป็นหมอนเลย คิกๆๆๆ
เวลา 22.00 น. ตามเวลาของขบวนรถ ก็ถึงเวลาออกเดินทางคับ บ๊ายบาย เมืองบางกอก ไว้จะกลับมาใหม่นะ
รถออกปุ๊บก็หิวปั๊บ ขอใช้บริการครัวเสบียงหน่อย ชุดข้าวผัดกระเพราหมู 140 บาท + ไข่ดาว 10 บาท รวมค่าเสียหายไป 150 บาทถ้วนค้าบผม แพงไม่ว่าขอแค่ได้ทาน คิกๆๆ
ทานข้าวกันเพลินๆ รถของเราก็มาถึง สถานีรถไฟดอนเมืองกันแล้ว ใครจะไปสนามบินก็ได้นะค้าบ อยู่ติดกันเลย
ทานข้าวอิ่ม หนังตาก็เริ่มหย่อน รถของเราก็มาถึงสถานีรถไฟลพบุรี มาพร้อมกับสายฝนที่แรงมากๆ สำหรับคืนนี้คงถึงแค่ลพบุรี เพราะดึกแล้ว นอนก่อน อิอิ
ตื่นเช้ามา อากาศมันก็จะหนาวๆหน่อย เราก็มาถึง สถานีรถไฟอุตรดิตถ์ กันแล้วคับผม
ออกจากสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ ก็มาจอดที่สถานีรถไฟศิลาอาสนต์ที่อยู่ใกล้ๆกัน เพื่อมาเติมน้ำมัน เตรียมตัวก่อนจะออกเดินทางขึ้นเขาอันสูงชั้นกันคับ ครั้งนี้เราได้หัวรถจักร Alstom 4134 เครื่องยนต์ MTU ทำขบวนครับผม
ออกจาก สถานีศิลาอาสน์ มาแล้ว เราก็จะขึ้นเขากันคับ มีหมอกจางๆด้วย
วิ่งสักพัก เราก็เจอ 1 ใน 4 อุโมงค์รถไฟลอดในเส้นทางสายเหนือ แห่งแรกคับคือ อุโมงค์ปางตูบขอบ
ขึ้นเขาไปเรื่อยๆ กับหมอกบางๆ แถมกับ อากาศเย็นๆ เราก็มาเจอกับอุโมงค์แห่งที่ 2 นั่นก็คือ.....
นั่นก็คือ อุโมงค์เขาพลึง คับ ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก สำหรับอุโมงค์แห่งที่ 3 ผมไม่ได้ถ่ายไว้ นั่นก็คือ อุโมงค์ห้วยแม่ลาน คับผม
สักพัก รถของเราก็แล่นผ่าน สถานีรถไฟห้วยไร่ บ้านของ ก้อง ห้วยไร่ หรือป่าวนะ คิกๆๆๆ โดยมีขบวนรถน้ำมันใส จอดรอหลีกอยู่คับ
และแล้วเราก็มาถึงสถานีรถไฟที่สามารถต่อรถเข้าไปในตัวจังหวัดแพร่คับ นั่นก็คือ.....
นั่นก็คือ สถานีรถไฟเด่นชัย นั่นเอง ใครจะเข้าเมืองแพร่ มีรถสองแถวให้บริการ ด้วยนะค้าบ
โดยมีเจ้าขบวนรถเร็วที่ 112 เด่นชัย - กรุงเทพ ทำขบวนโดย Alstom 4228 เครื่องเดิมๆ รอเวลาออกอยู่ค้าบ
ออกจากสถานีรถไฟเด่นชัยได้สักพัก เราก็จะพบกับจุดยอดฮิตในเส้นทางสายเหนือกัน นั้นก็คือ แก่งหลวง ทางรถไฟเลียบแม่น้ำยม อีกด้านเป็นหน้าผา ในวันนี้น้ำนิ่งมาก สีเขียวมรกต กับมีหมอกบางๆให้พอเห็นนิดหน่อยค้าบ
แล้วรถก็ตีโค้งก่อนที่จะเข้าสู่สถานีรถไฟแก่งหลวง คับ บริเวณนี้จะมีศาลเพียงตาอยู่ เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์รถไฟตกแม่น้ำยมคับ
อีกมุมยอดฮิตของใครหลายๆคนคับ โค้งแก่งหลวง
ออกจากสถานีบ้านปินไป ก็มีความหิวแล้ว คิกๆๆๆ ขอใช้บริการครัวเสบียงอีกรอบ ในชุดอาหารเช้าในราคา 190 บาท ค้าบ มีอะไรมั่งเนี่ย มี โกโก้ 1 แก้ว น้ำส้ม 1 แก้ว ไส้กรอก 3 ชิ้น ไข่ดาว 2 ฟอง แฮม 1 แผ่น พร้อมซอสมะเขือเทศ 1 ถ้วย ขนมปังปิ้ง 2 ชิ้น พร้อม แยมสัปปะรด เค้กกล้วยหอม 1 ชิ้น และกล้วย 2 ลูก อะไรจะเยอะแบบนี้ คิกๆๆๆ
นั่งทานอาหารไปเรื่อยๆ เราก็ผ่านสถานีรถไฟผาคัน สถานีนี้ต้องหยุดทานอาหารสักครู่เพราะมันจะมีมุมสวยๆอีก 1 จุด เมื่อผ่านสถานีไปนิดหน่อยคับ นั่นก็คือ......
พ่ามม!!! โค้งสถานีผาคันนั้นเอง โค้งสวยๆ กับริ้วขบวนยาวๆ
และแล้ว ขบวนรถของเราก็มาถึง สถานีรถไฟนครลำปางค้าบ เร็วจริงๆ ที่นี่ รถของเราจะตัดรถนั่งชั้น 3 ไว้ที่ 1 คันคับ แล้วจะกลับมารับใหม่ในตอนขากลับ
เมื่อออกจากสถานีรถไฟลำปางไปแล้ว ก็จะเข้าสู่การขึ้นสู่พื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล คับผม
สักพัก เราก็ข้ามสะพานคอมโพสิต สะพานข้ามเหวลึกที่เราพบเป็นแห่งแรกคับ
ตามด้วย สะพาน 3 หอ
และแห่งสุดท้าย สะพาน 2 หอ
สักพัก เราก็ถึง อุโมงค์รถไฟลอดแห่งสุดท้ายในเส้นทางสายเหนือ นั่นก็คือ.....
อุโมงค์ขุนตาน อุโมงค์รถไฟลอดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ค้าบ ที่แห่งนี้ยังเป็นรอยต่อรถหว่างจังหวัดลำปางกับจังหวัดลำพูนด้วยนะ
เมื่อขบวนรถมาถึงสถานีรถไฟขุนตาน ก็จะทำการรอหลีกขบวนรถดีเซลรางท้องถิ่นที่ 408 เชียงใหม่ - นครสวรรค์ ค้าบ
พูดถึง ก็มาพอดีเลย แหะๆๆ รถดีเซลราง 3 คัน สั้นๆ น่ารักๆ ตะมุตะมิ
ออกจากสถานีรถไฟขุนตาน ก็จะเจอ สถานีที่สุดฮิตที่สุดท้ายในเส้นทางสายเหนือนั่นก็คือ สะพานขาวทาชมภู คับผม
ในตอนนี้บริเวณโดยรอบ...กลายเป็นสนามกอล์ฟซะแล้ว
และแล้ว เราก็มาถึง สุดปลายทางรถไฟในเส้นทางสายเหนือ นั่นก็คือ สถานีรถไฟเชียงใหม่นั่นเอง
ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพเรียบร้อย ขบวนรถของเราก็เข้าเทียบในชานชาลาที่ 4 ก่อนที่จะนำไปทำความสะอาด แล้วนำกลับมาเทียบชานชาลาอีกครั้งเพื่อทำขบวนรถด่วนที่ 52 กลับเข้ากรุงเทพต่อคับ [ ติดตามต่อใน PART II ]
LINK PART II : https://ppantip.com/topic/38129684
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้